บทที่ 64 มากมาย (3)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 64 มากมาย (3)
คำถามคือคังวูจินพูดภาษาอังกฤษได้ไหม? PD ยุนบยองซอนเพียงถามแบบไม่ได้คิดอะไร เพราะทุกวันนี้นักแสดงเริ่มเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ยังเป็นเด็กฝึกกันแล้ว
ทว่า
“ไม่ใช่แค่ 'พูด' หรอกครับ แต่ยังอยู่ในระดับเจ้าของภาษาเลยด้วย ภาษาญี่ปุ่นก็เหมือนกัน”
คำตอบจากชเวชองกุนทำให้เขาต้องประหลาดใจ พูดในระดับเจ้าของภาษาเหรอ? PD ยุนบยองซอนมุ่งความสนใจไปที่คำว่า 'ระดับเจ้าของภาษา'
'ระดับเจ้าของภาษา? แต่ว่าจากการออกเสียงของวูจินดีก่อนหน้านี้… CEO ชเวพูดเกินจริงไปหน่อยไหม?'
ปัจจุบัน PD ยุนบยองซอนกำลังวางแผนรายการวาไรตี้ใหม่ให้ HTBS ที่เป็นถึงสถานีชั้นแนวหน้า แม้ว่าพวกเขาจะตัดสินใจเลือกนักแสดงสำหรับแผนที่จะทำเป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่มันก็ยังไม่ได้รับการยืนยัน อีกทั้งพวกเขายังจะต้องไปถ่ายทำในต่างประเทศหลายแห่งอีก
ดังนั้นแล้ว พวกเขาจึงต้องการใครสักคนที่พูดภาษาต่างประเทศได้คล่อง
ตามหลักการแล้ว หากได้ใครก็ตามที่เชี่ยวชาญทั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นคงจะดีมาก แต่ยุนบยองซอนรู้ว่าผู้มีพรสวรรค์เช่นนั้นหาได้ยาก แต่คังวูจินถูกบอกว่าสามารถพูดได้ทั้งสองภาษาในระดับเจ้าของภาษาเนี่ยนะ
'งั้นมาทดสอบกันสักหน่อยแล้วกัน'
PD ยุนบยองซอนดึงชเวชองกุนไปที่มุมเงียบ ๆ ของสตูดิโอ
“CEO ชเวครับ ที่คุณบอกว่าภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นของวูจินอยู่ในระดับเจ้าของภาษา คือเชี่ยวชาญระดับไหนครับ? ในระดับภาษาแม่เลยไหมครับ?”
"หึ้ม? อ๋อ เรื่องนั้น…”
มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล ชเวชองกุนสัมผัสได้ถึงความเร่งรีบในสายตาของ PD
'ตอนแรกดูเหมือนเขาแค่จะถามเฉย ๆ แต่ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปเลยตอนที่ฉันพูดถึงทักษะภาษาของวูจิน อาจมีเหตุผลอะไรบางอย่างเขาถามแบบนี้งั้นเหรอ?
เขาจึงเริ่มเชื่อมต่อคำใบ้ต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว เมื่อรู้ถึงสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว เขาจึงนึกขึ้นมาได้ว่าคุณ PD ที่กำลังมีโปรเจกต์ใหม่อยู่
'ช่วงนี้ PD ยุนคงกำลังวางแผนรายการใหม่ใช่ไหม? ทำไมเขาถึงสนใจภาษาต่างประเทศล่ะ? ถึงขั้นถามระหว่างถ่ายทำด้วย เป็นไปได้ไหมว่า...รายการใหม่มีแผนจะถ่ายในต่างประเทศ?'
ไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรม แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง
'มันอาจจะไม่ใช่แค่ต่างประเทศประเทศเดียวด้วย บางทีพวกเขาจะทัวร์หลายประเทศเลยเหรอ? หรือจะผลิตในรูปแบบซีรีส์'
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการคาดเดาของชเวชองกุน ทว่ามันก็คุ้มค่าที่จะหย่อนเหยื่อ เขากระซิบกับยุนบยองซอนด้วยรอยยิ้มบางเบา
“เขาเก่งในระดับภาษาแม่เลยครับ วูจินไม่เพียงแต่เป็นนักแสดงที่น่าทึ่งเท่านั้น แต่เขายังเก่งภาษามากเลยนะครับ ไม่ใช่แค่ภาษาเกาหลี แต่มีภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น และกระทั่งภาษามือ”
“…ภาษามือเหรอครับ? เขารู้ภาษามือด้วยเหรอ?”
"ใช่ ใช่ครับ ผมเพิ่งรู้เรื่องภาษามือเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่ว่าภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นของเขาอยู่ในระดับภาษาแม่ทั้งคู่เลย ภาษามือก็คงแบบเดียวกัน สมแล้วที่วูจินอาศัยอยู่ต่างประเทศ”
ชเวชองกุนต้องการโปรโมตตัววูจินให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถึงมันอาจจะดูเหมือนการพูดเกินจริงไปหน่อย แต่ว่าต่อจากนี้มันเป็นหน้าที่ของ PD ต่างหากที่จะไปค้นหาเอาเอง
“เพราะงั้นเขาเลยมีประสบการณ์ในต่างประเทศอยู่มากมายครับ”
"จริงเหรอ? คุณวูจินอาศัยอยู่ต่างประเทศเหรอ? นานแค่ไหนครับ?"
“ก็เป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ถ้าคุณได้ยินภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุ่นของวูจิน คุณจะต้องประหลาดใจแน่ครับ อีกอย่างนะครับ เขาคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในต่างประเทศ บรรยากาศและวัฒนธรรมของที่นั่นเป็นอย่างดีเลย”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ PD ยุนบยองซอนก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ เขาต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ก็ไม่สามารถสืบหาเพิ่มเติมได้อีก อย่าลืมสิว่าเขาไม่สามารถพูดคุยเกี่ยวกับรายการใหม่ได้อย่างเปิดเผยได้ อีกทั้งพวกเขายังคงกำลังถ่ายทำ 'สปอร์ตเดย์' อยู่นะ
หลังจากนั้นเอง
“แต่คุณ PD ทำไมคุณถึงถามเกี่ยวกับทักษะภาษาต่างประเทศของวูจินล่ะครับ?”
เมื่อต้องเผชิญกับคำถามของชเวชองกุน PD ยุนบยองซอนที่ดูจริงจังเมื่อครู่ก็ยิ้มออกมา
"หือ? โอ้ ฮ่าฮ่า ไม่มีเหตุผลอะไรหรอกครับ ผมแค่คิดว่าการออกเสียงภาษาอังกฤษของเขาดีมาก ผมก็เลยอยากรู้”
"แบบนัน้เองสินะครับ ถ้าคุณมีเวลาหลังการถ่ายทำ บางทีคุณอาจได้ยินวูจินพูดเป็นภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นบางครั้งนะครับ”
“ถ้ามีเวลาผมคงต้องไปดูหน่อยแล้วสิ ฮ่าฮ่า”
ขณะที่ยุนบยองซอนกลับมาที่จุดถ่ายทำ ชเวชองกุนก็เฝ้าดูร่างของเขาเดินไปอย่างเงียบ ๆ จากนั้นเขาก็จ้องมองไปยังคังวูจิน ผู้ซึ่งกำลังถูกรังสีกดดันจากฮงฮเยยอน
'ถ้านายสร้างความประทับใจให้กับ PD ยุนได้ นายก็จะถูกเป็นที่จับตามองแล้วล่ะ นี่นายเกี่ยวข้องกับคนใหญ่คนโตกี่คนในวงการนับตั้งแต่เดบิวต์กันเนี่ย?
ตั้งแต่ละคร ภาพยนตร์ รายการวาไรตี้ หรือแม้แต่ในญี่ปุ่น คังวูจินดูเหมือนจะรู้จักกับคนดังทุกคนเลยตั้งแต่เดบิวต์ แม้ว่าจังหวะและโชคจะเข้ามามีส่วนด้วย แต่ความสามารถและเสน่ห์ของวูจินก็ไม่อาจเป็นสิ่งที่ปฏิเสธได้เลย
ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา
“พักสัก 10 นาทีกันก่อนเถอะ! แล้วเดี๋ยวเราจะมีพูดปิดท้ายกันครับ!”
เสียงตะโกนของนักเขียนส่งสัญญาณบอกให้หยุดพัก ไม่นาน นักแสดงก็เริ่มเคลื่อนไหวกัน แต่คังวูจินยังคงนั่งนิ่งด้วยสีหน้าเฉยชา
ทำไมงั้นเหรอ?
เพราะฮงฮเยยอนเอาแต่จ้องมองเขาอย่างเย็นชาไงเล่า
“······”
อืม แต่เธอก็มีเหตุผลที่จะต้องอารมณ์เสีย เพราะคังวูจินจำฮงฮเยยอนที่นั่งข้างเขาไม่ได้ ทั้งที่พวกเขาเคยร่วมงานกันในสองโปรเจ็กต์ภายใต้ต้นสังกัดเดียวกัน
วูจินได้แต่ด่าตัวเองอยู่ในใจ
"ไอ้โง่เอ้ย! การที่จำฮงฮเยยอนไม่ได้มันค่อนข้าง…เฮ้อ แต่ว่าภาพที่ถ่ายมันดูแตกต่างออกไปจริง ๆ นะ'
โชคดีที่ในเวลานั้นเอง
“คุณวูจิน”
PD ยุนบยองซอนผู้สวมแว่นตาอยู่ได้ช่วยวูจินจากสายตาแสนเยือกเย็น
“ผมขอคุยกับคุณสักครู่ได้ไหม?”
แทนที่จะตอบ วูจินก็ลุกขึ้นยืนทันที
"ได้อยู่แล้วครับ"
ขณะที่เขาเดินผ่านฮงฮเยยอน เธอก็พูดบางอย่างกับเขา
“ฮึ่ม เดี๋ยวได้เจอกัน”
วูจินลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบเบา ๆ
“คือว่าคุณดูดีกว่าในรูปมากนะครับ”
"คุณพูดว่าอะไรนะ?"
"จริงนะครับ นั่นแหละเป็นสาเหตุที่ผมจำคุณไม่ได้เลย”
“โกหก”
“ก็ตอนนี้คุณดูดีขึ้นมากเลยนะครับ”
เขารู้สึกเหมือนกำลังเดินบนน้ำแข็งบาง ๆ ได้แต่หวังในใจว่าฮงฮเยยอนจะใจเย็นลงสักหน่อย ซึ่งหลังจากนั้น คังวูจินก็ติดตามPDยุนบยองซอน ทางฮงฮเยยอนที่เห็นวูจินเดินออกไป ก็กระซิบกับตัวเองขณะที่เธอหวีผมยาวของเธอ
“ซึนเดเระอะไรขนาดนี้”
ประมาณ 22.00 น.
ในที่สุด ตอนที่ 3 ของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ที่ทุกคนรอคอยก็ออกอากาศ มันได้สร้างความฮือฮาไปทั่วประเทศ คะแนนเรตติ้งของมัน 23% ก็บอกแล้วถึงความสุดยอด ทีวีในบ้าน บาร์ และร้านอาหารนับไม่ถ้วนต่างเปิดช่องจากสถานี SBC
ดังนั้นกระดานสนทนาอย่างเป็นทางการและชุมชนของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' จึงคึกคักยิ่ง
-“ว๊ากก!! ในที่สุดตอนที่ 3 ก็มา!!!”
– ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องตื่นเต้นขนาดนี้กับละครถ่ายทอดสด
– ยังไม่ได้ดูเลย แต่แค่นี้ก็ตื่นเต้นแล้ว 555
– ทำไมทุกคนดูเกินจริงไปหน่อยไหม? เรื่องนี้น่าเบื่อจะตายชัก
– ฉันพนันได้เลยว่าวันนี้รยูจองมินก็น่ารักมากเหมือนเคย!
– มาที่นี่เพราะใคร ๆ ก็บอกว่าการแสดงของรองหัวหน้าพัคน่าทึ่งมาก (แต่ฉันดูแค่ฮงฮเยยอนเท่านั้นนะ)
– คังวูจิน! คังวูจิน! คังวูจิน!
– คังวูจินคือใครเหรอ?
– เขาเป็นนักแสดงที่รับบทเป็นรองหัวหน้าพัค เขาเป็นดาวรุ่งที่พุ่งแรงที่สุดในตอนนี้เลย การแสดงของเขามันบ้าไปแล้ว
ตอนที่ 3 ของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' เริ่มต้นด้วยคำสารภาพของรองหัวหน้าพัคและการเปิดเผยคนร้ายอีกคน
ยังมีคนร้ายอีกคนเหรอ?
[“วู้ว เรื่องมันชักเริ่มใหญ่ขึ้นแล้ว ทำไมฉันถึงรับทำคดีนี้กันนะ?”]
แม้ว่าเขาจะบ่น แต่นักสืบยูจีฮยองก็ทบทวนทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตของรองหัวหน้าพัค ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงปัจจุบัน
ตอนที่ 3 ไหลลื่นเต็มไปด้วยความสงสัยอันเข้มข้น
ตัวละครแต่ละตัวเคลื่อนไหวเข้าและออกจากฉากอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทำให้ผู้ชมได้พักหายใจเลย ตรงกลางห้อง ยูจีฮยองและรองหัวหน้าพัคเผชิญหน้ากันในห้องสอบสวนอีกครั้ง
ฉากนี้ดูเข้มข้นมาก
การต่อสู้ทางจิตใจระหว่างรองหัวหน้าพัคและยูจีฮยองนั้นปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน แต่สายตาและท่าทางของพวกเขาดุเดือดยิ่ง ในขณะนี้เอง ยูจีฮยองกำลังเผชิญหน้ากับรองหัวหน้าพัค
[“คุณมีน้องสาวใช่ไหม? เธอฆ่าตัวตายสินะ”]
ใบหน้าของรองหัวหน้าพัคที่ยิ้มแย้มก่อนหน้านี้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น มุมกล้องขยับไปที่ใบหน้าของเขาอย่างเต็มที่ ดวงตาสีดำของเขายังคงคล้ายมีรอยยิ้มจาง ๆ ลึกล้ำ
พวกมันเต็มไปด้วยอารมณ์ที่อธิบายไม่ได้
[“ใช่ ผมมีน้องสาว”]
มันดูนิ่งสงบ แต่กลับไม่ได้ดูเป็นเช่นนั้น แต่ยูจีฮยองเอาแต่จี้จุดอ่อนของรองหัวหน้าพัค โดยพูดถึงการฆ่าตัวตายของน้องสาวของเขา แม่ของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว และ...
[“ความสุขของการฆ่าต่อเนื่องมันถูกปลุกขึ้นมาโดยพ่อของคุณใช่ไหม? มันไม่ใช่การฆาตกรรมห้าครั้ง แต่เป็นหกครั้ง”]
รวมไปถึงเรื่องการฆาตกรรมที่ปิดงำไว้ รวมทั้งหมดเป็นหก รองหัวหน้าพัคถูกยูจีฮยองสอบปากคำอีกหลายครั้ง
ส่วนคนที่จบวงจรนี้คือ...
[“หลักฐานแก้ต่างของเขามันแน่นหนามาก”]
จองยอนฮี เธอตรวจสอบแล้วว่าหลักฐานแก้ต่างของรองหัวหน้าพัคไม่ได้ถูกดัดแปลง ทุกอย่างถูกต้องหมด แสดงว่าัมนจะต้องมีคนร้ายอีกคนแน่นอน และขณะเปิดเผยตัวคนร้ายที่แท้จริง…
[“มาเริ่มด้วยการแยกแยะคดีฆาตกรรมต่อเนื่องกันก่อนแล้วกัน”]
ดังนั้นพวกเขาจึงต้องตรวจสอบคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ซึ่งรองหัวหน้าพัคได้เรียกว่า 'ผลงานชิ้นเอก' ของเขา ส่วนที่น่าสนใจก็คือ รองหัวหน้าพัคดูเชื่อฟังและทำตามทุกอย่างที่ร้องขอ
จากที่นี่ ฉากเปลี่ยนไปเป็นรองหัวหน้าพัคที่แสดงเหตุการณ์ฆาตกรรมของเขาอีกครั้ง
รองหัวหน้าพัคสาธิตวิธีการฆาตกรรมโดยใช้ตุ๊กตาอย่างใจเย็น จากนั้นมันก็เปลี่ยนหน้าจอไป กลายเป็นฉากฆาตกรรมที่เกิดขึ้นจริงโดยฝีมือรองหัวหน้าพัค ภาพนี้ถูกแสดงให้ผู้ชมเห็น เขาลากผู้หญิงวัยกลางคนเหมือนสัตว์เลี้ยง
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความปิติยินดี
[“กรี๊ดด! แค่ก! ฉันหายใจไม่ออก! ช่วยด้วย!”]
ใบหน้าของรองหัวหน้าพัคได้เต็มหน้าจออีกครั้ง
[“ฉันอยากให้เสียงกรีดร้องของเธอดังกว่านี้อีกหน่อย พวกเขายังไม่ค่อยน่าพอใจพอนะรู้ไหม?”]
ผู้ชมต่างแสดงความคิดเห็นมากมายหลังจากที่ได้เห็นรองหัวหน้าพัค
- ให้ตายเถอะ ไอ้สารเลวนั่นมันโคตรน่ารังเกียจเลย แต่ฉันก็ยังสนุกไปกับเรื่องนี้
-ว้าว การแสดงของเขาเดือดมาก เมื่อรองหัวหน้าพัคปรากฏตัว ความตึงเครียดก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
-ได้โปรดอย่าด่านักแสดงด้วย เขาแค่แสดงเก่งมากเท่านั้นเอง
-คัง วูจิน: “ผมหวังว่าจะแสดงได้ดีกว่านี้ คือว่าที่แสดงไปมันยังดูรู้สึกไม่น่าพอใจขนาดนั้นเลยนะครับรู้ไหม?
- ฉันรู้สึกว่านักแสดงสมทบคนนั้นคงจะรู้สึกบอบช้ำจากการแสดงครั้งนี้แหง
-ในความคิดของฉันนะ คังวูจินแสดงได้ดีที่สุดแล้วในละครเรื่องนี้
-???: ผมหวังว่าจะมีท็อปปิ้งบนพิซซ่ามากกว่านี้นะ มันยังดูรู้สึกไม่น่าพอใจขนาดนั้นเลยนะรู้ไหม?
- โคตรบ้าไปแล้ว พูดจริงนะ มองดูดวงตาเขาสิ พวกเขาบอกว่านักแสดงคนนี้เป็นหน้าใหม่ไม่ใช่เหรอ?
-555 มีมใหม่เกิดขึ้นแล้ว
-'ยังดูรู้สึกไม่น่าพอใจ' สมควรเป็นมีมเลยนะ
จากนั้น 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ก็เปลี่ยนฉากต่อ
หลังจากทำรูปคดีในสถานที่จริงแล้ว รองหัวหน้าพัคก็มองไปยังสถานที่ซึ่ง 'ผลงานชิ้นเอก' ของเขาถือกำเนิดขึ้นและพูดคุยกับยูจีฮยอง
[“แต่คนร้ายที่แท้จริงลอกเลียนวิธีการฆ่าของผมอย่างแน่นอน บางทีมันอาจะแค่บรรยากาศหรือวิธีที่ค่อนข้างคล้ายกัน แต่เมื่อพิจารณาว่าเขารู้ทุกรายละเอียดเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าคนร้ายที่แท้จริงก็ทำงานเป็นนิติจิตวิทยาหรอกเหรอ?”]
มีบางอย่างเข้ามาในใจของยูจีฮยอง อันที่จริงแม้ว่าจะมีใครก็ตามเลียนแบบ แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเลียนแบบวิธีการของรองหัวหน้าพัคได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งอย่าลืมว่าการฆาตกรรมของรองหัวหน้าพัคส่วนใหญ่เกิดขึ้นก่อนปี 2010 ข้อมูลเกี่ยวกับคดีพวกนี้จึงมีจำกัดมาก
แต่วิธีการฆาตกรรม นิสัย และรายละเอียดทุกอย่างกลับเหมือนกันทุกประการ ในขณะนั้นเอง รองหัวหน้าพัคที่ยักไหล่ก็พูดอีกครั้ง
[“แม้แต่ตำรวจก็สามารถฆ่าคนได้นะรู้ไหม เขาอาจจะเป็นประเภทเดียวกับผม”]
ภาพซูมเข้าระยะใกล้บนใบหน้าของยูจีฮยอง
ตอนที่ 3 จบลงตรงนั้น ในเวลาเดียวกัน ผู้คนทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตและผู้ชมทางโทรทัศน์ต่างก็ส่งเสียงร้องออกมา
พวกเขาเรียกร้องตอนต่อไปทันที
วันรุ่งขึ้น เช้าวันเสาร์ เรตติ้งผู้ชมตอนที่ 3 ถูกเผยแพร่ออกมาแล้ว
『[ข่าวทางการ] 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ไปต่อไม่หยุดยั้ง ตอนที่ 3 เรตติ้ง 24.1%』
เรตติ้งพุ่งสูงขึ้น และความนิยมของคังวูจินที่รับบทเป็นรองหัวหน้าพัคก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน การแสดงของเขาในตอนที่ 3 มีผลกระทบอย่างรุนแรงมาก
พาดหัวข่าว:
『'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ตอนที่ 3 ดาวรุ่งที่เฉิดฉายที่สุด 'รองหัวหน้าพัค' ผู้ชม: 'การแสดงของคังวูจินมันบ้าไปแล้ว!'』
『[ภาพถ่าย] 'การแสดงที่ไร้ที่ติ' ของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล สุดยอดคนขโมยซีน รองหัวหน้าพัค/รูปภาพ』
ความคิดเห็นของสาธารณชนทำให้คังวูจินรู้สึกทึ่งอย่างมาก
เรื่องมันชุลมุนตลอดทั้งวันเสาร์ จนกระทั่งถึงตอนที่ 4 ของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล'
ด้วยความคิดเห็นที่โหมกระหน่ำเช่นนั้น ตอนที่ 4 ก็เริ่มต้นขึ้น
ยูจีฮยอนและจองยอนฮีได้ใช้เบาะแสของรองหัวหน้าพัคในการสอบสวนตำรวจ ซึ่งเป็นทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมต่อเนื่องในอดีตของรองหัวหน้าพัค แน่นอนว่ามันไม่ง่ายเลย แต่เมื่อเบาะแสใหม่ปรากฏ รายชื่อผู้ต้องสงสัยก็แคบลง
จากตรงนี้ สิ่งต่าง ๆ ก็เริ่มปะติดปะต่อกันเข้า
ยูจีฮยองรู้สึกว่ามันแปลก
[“มันคงไม่ง่ายขนาดนี้หรอก”]
ในที่สุดพวกเขาก็จำกัดรายชื่อผู้ต้องสงสัยให้เหลือห้าคน พวกเขาทั้งหมดมีอาชีพเป็นตำรวจ บ้างทำงานหรือบ้างก็เกษียณแล้ว ยูจีฮยองและจองยอนฮีสอบปากคำพวกเขาอย่างมีระบบ
ทีละน้อยทีละน้อย ตัวตนที่แท้จริงของผู้กระทำผิดที่แท้จริงก็ถูกเปิดเผยทีละน้อย
จนในท้ายที่สุด
[“สี่คนมีข้อแก้ต่าง แต่หนึ่งคนไม่มี”]
ผู้ต้องสงสัยเพียงคนเดียวที่ไม่มีข้อแก้ต่างได้ถูกบุกค้นโดยยูจีฮยอง จองยอนฮีและตำรวจ
ปัญหาก็คือ...
["เฮ้! ตื่นได้แล้ว!!"]
[“เขาตายงั้นเหรอ?!”]
คนร้ายเสียชีวิตที่บ้านเสียแล้ว ไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอก แต่มีฟองที่ปากของเขา บ่งบอกว่ามีการใช้ยาเกินขนาด
มันเป็นการตาย...
[“เราตรวจพบร่องรอยของอะโคนิทีนที่เป็นสารพิษ”]
จากยาเสพติดจริง ๆ ในตอนแรกตำรวจสงสัยว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่การสอบสวนเพิ่มเติมพบว่าเป็นการฆาตกรรม สิ่งนี้ทำให้ยูจีฮยองรู้สึกสงสัยมากกว่าเดิม
[“อาจจะมี…ผู้สมรู้ร่วมคิดงั้นเหรอ?”]
คิดว่าอาจมีผู้สมรู้ร่วมคิดซ่อนอยู่ แม้จะพบผู้กระทำผิดแล้ว แต่คดีก็ยังไม่ปิดตัวลง ยูจีฮยองรู้สึกเหมือนเขากำลังเดินผ่านม่านหมอก แม้ว่าเขาจะไม่ทราบรายละเอียด แต่เขารู้สึกว่ามีความลับอันยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคดีนี้
ต่อมายูจีฮยองกลับมาเยี่ยมรองหัวหน้าพัคอีกครั้ง ซึ่งอีกฝ่ายก็ทักทายเขาอย่างอบอุ่น
["คุณมาแล้วเหรอ? ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ คุณบอกว่าคุณจับคนร้ายได้ แต่เขาตายใช่ไหม? ช่างน่าเสียใจเหลือเกิน”]
[“ทำไมคุณถึงสารภาพ? ในเมื่อคุณยอมรับข้อหาทั้งหมด ขั้นต่ำที่คุณจะได้รับก็คือโทษประหารชีวิตนะ คุณจะไม่เหลืออะไรเลย คงจะไม่มีใครรู้อยู่แล้วถ้าคุณเงียบไว้ ทำไมคุณถึงสารภาพออกมา?”]
["อืม ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้แล้ว"]
[“ตอนนี้คุณกำลังพยายามชดใช้ความผิดงั้นเหรอ?”]
[“ชดใช้?”]
ริมฝีปากของรองหัวหน้าพัคสั่นไหว เขาเกือบจะแค่นเสียงออกมา ได้แต่กลั้นหัวเราะเอาไว้
[“นั่นเป็นคำที่ไพเราะมากเลยนะ ชดใช้ แต่ว่าท้ายที่สุดแล้ว ความรู้สึกผิดมันก็เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดขึ้นโดยมนุษย์ใช่ไหมล่ะ? สำหรับผม ผมคือผู้พิพากษา”]
[“หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว ผมจะไม่มาเจอคุณอีกแล้ว เราอยู่ด้วยกันแค่สองคน บอกผมมาเถอะ”]
[“…”]
สักครู่หนึ่ง มีความเหงาปรากฏในดวงตาของรองหัวหน้าพัคขณะที่เขามองไปที่ยูจีฮยอง มันไม่เกี่ยวกับยูจีฮยอง มันเกี่ยวกับเรื่องของตัวเขาเอง
[“คุณนิติจิตวิทยา แฮมเบอร์เกอร์ที่ผมกินในห้องสอบสวนนั้นอร่อยมากเลยนะ แรงจูงใจหรือเป้าหมายเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนั้นมีส่วนสำคัญในการใช้ชีวิต รู้ใช่ไหม? ผมมีเวลาไม่มาก ผมก็เลยต้องการความสุขบ้าง”]
[“มีเวลาไม่มากงั้นเหรอ?”]
[“ถ้าไม่ใช่เพราะจินบอมคนนั้น ผลงานของผมก็คงยังคงเป็นตำนานตลอดไป นั่นแหละเป็นสิ่งเดียวที่ผมเสียใจ”]
[“…”]
[“ไม่สิ มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกเสียใจ มันไม่ยุติธรรมเลย มันแทบจะทำให้ผมเป็นบ้าไปแล้ว”]
ฉากได้เปลี่ยนไป ตอนนี้โลกรู้แล้วเกี่ยวกับการก่อเหตุของจินบอมและความคืบหน้าของคดี เมื่อมาถึงจุดนี้ ยูจีฮยองก็ได้ยินข่าวเกี่ยวกับรองหัวหน้าพัค
[“เขาเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย”]
เขาเพิ่งจะได้รับข่าวอาการป่วยของรองหัวหน้าพัคอย่างล่าช้า ยูจีฮยองสัมผัสได้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติ จึงรีบขับรถไปหาอีกฝ่าย
ทว่า
[“ตรงนี้! โน่นไง!!! แย่แล้ว!”]
เขาพบรองหัวหน้าพัคที่แขวนคออยู่ในห้องขังของเขา ยูจีฮยองพยายามช่วยอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว แต่รองหัวหน้าพัคก็ตายไปแล้ว บนพื้นข้างใต้รองหัวหน้าพัคมีข้อความ ซึ่งเป็นจดหมายฉบับสุดท้ายถึงยูจีฮยอง
– ด้วยสิ่งนี้ ผลงานชิ้นเอกของผมจึงไม่ใช่หก แต่เป็นเจ็ด มันสนุกมากเลยนะ
นี่เป็นฉากสุดท้ายของรองหัวหน้าพัค และตอนที่สี่ก็จบลง
คืนวันเสาร์ เวลาประมาณ 23.10 น.
รถตู้สีดำจอดอยู่ด้านนอกห้องสตูดิโอของคังวูจิน ตามที่คาดไว้ วูจินกำลังนั่งอยู่ในรถตู้ ประตูหลังเปิดออก และคังวูจินผู้สวมหมวกแก๊ปก็เดินออกไป
“เหนื่อยหน่อยนะครับ”
“เรตติ้งคงจะพุ่งสูงขึ้นอีกแน่ในวันพรุ่งนี้ คนคงคลั่งไปหมด พี่รีบเข้าไปเลย!!”
มีเพียงจางซูฮวานเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้จากนอกในรถตู้ หลังจากทักทายสั้น ๆ รถก็ขับออกไป วันนี้คังวูจินยุ่งอยู่กับการโปรโมตกับทีม 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' หลังงาน 'สปอร์ตเดย์' ก็เหลือบทสัมภาษณ์อีกบางส่วน
ผ่านไปสักพัก
“เฮ้อ เหนื่อยชะมัด”
คังวูจินถอดหมวกที่เขาสวมตั้งแต่ต้นยันท้ายตารางงานสิ้นสุด จากนั้นเขาก็ดูเวลา
“ชักหิวแล้วสิ”
เขาอยากกินราเม็ง แต่เขาจำได้ว่าเขาไม่ได้เก็บไว้ในตู้เย็น อันที่จริง ชเวชองกุนแนะนำว่าเขาควรเริ่มเพาะกายบ้าง เพราะหากมันเป็นรูปเป็นร่างแล้ว มันก็จะมีประโยชน์ได้ทุกเวลา
“อืม วันนี้ฉันจะกินแค่นี้แล้วกัน”
เขาสวมหมวกแล้วเดินไปยังร้านสะดวกซื้อใกล้ ๆ เขาดูเหมือนพลเมืองทั่วไป ชวนให้นึกถึงตอนที่เขาทำงานที่บริษัทออกแบบแห่งหนึ่งไม่มีผิด
-ฟึบ...
คังวูจินมาถึงร้านสะดวกซื้อที่ค่อนข้างใหญ่แห่งหนึ่ง เนื่องจากสภาพอากาศอบอุ่น ผู้คนทุกวัยจำนวนมากจึงกำลังเพลิดเพลินกับเบียร์ที่โต๊ะด้านนอกร้าน มากจนแทบไม่มีโต๊ะว่าง
“…”
ซึ่งทางคังวูจินก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา
'ที่บ้านฉันจะมีกิมจิไหมนะ? ซื้อกิมจิไปกินด้วยดีไหม?'
หลังจากนั้นเอง
“นี่! นั่นรองหัวหน้าพัคไม่ใช่เหรอ? ไม่สิ!”
จากโต๊ะตัวหนึ่งที่มีแต่ผู้หญิงนั่งเท่านั้น กลับมีเสียงอุทานดังขึ้น
“เขา…เขาคือคังวูจิน!”
*****