บทที่ 47 ข้าควรทำยังไงดี
“เจ้าคนโกหก” เย่วเฟ่ยพูดด้วยสีหน้าโกรธแบบน่ารัก ซึ่งทำให้นางดูน่ารักมากยิ่งขึ้น
“ข้าบอกท่านแล้วไม่ใช่หรือองค์หญิง ว่าข้าเป็นคนซื่อสัตย์? ข้าไม่ได้พูดโกหก” หลงเฉินพูดพร้อมยิ้ม
“หืม? เมื่อคืนเจ้าพูดกับพี่ชายของข้าด้วยความซื่อสัตย์อย่างนั้นเหรอ? ข้าจำไม่เห็นได้เลยว่าเรื่องราวและความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมที่ข้าเล่าให้เจ้าฟังเกี่ยวกับเขาคืออะไร” นางพูดพร้อมกับยิ้มไปด้วย
“เอ่อ... ตอนนั้นข้าแค่หยอกล้อเขาเล่น ยังไงก็ตามที่ข้าบอกว่าข้าเป็นคนซื่อสัตย์ ข้าหมายถึงตอนที่ข้ากำลังชมใครสักคน” หลงเฉินพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ทำไมทุกครั้งที่ข้าออกมา พวกเจ้าสองคนชอบพูดลับๆล่อๆ? โอ้ว น้องชาย เจ้าเก็บข้าวของทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว?” เย่วหลวนพูดขณะออกจากกระโจม
“ไม่มีอะไรฝ่าบาท ข้าแค่บอกลาองค์หญิงเฟ่ย และใช่แล้ว ข้าคิดว่าถึงเวลาที่ข้าต้องไปแล้ว ข้าแค่กำลังรอท่านตื่นเท่านั้น” หลงเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“หืม? เจ้าจะไปแล้ว? อย่างน้อย ครั้งนี้เจ้าก็ไม่ได้แอบหนีไปเหมือนครั้งก่อน” เย่วหลวนกล่าว
“ใช่แล้ว วันนี้เขาคงไม่พยายามแอบหนีไปเหมือนครั้งก่อน” เย่วเฟ่ยกล่าวขณะที่นางมองไปที่หลงเฉิน
“อ่า... ใช่ แน่นอน ทำไมข้าจะต้องแอบหนีไปด้วย?” หลงเฉินถามด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวบนใบหน้า เมื่อเขาสังเกตเห็นการแสดงออกของเย่วเฟ่ย
“ในเมื่อพี่ใหญ่ของข้าตื่นแล้ว ข้าคงต้องขอตัวลา ข้าหวังว่าพวกท่านทั้งสองคนจะเดินทางปลอดภัย และข้ามั่นใจว่าพวกเราจะได้พบกันอีก ข้าจะรอช่วงเวลานั้นมาถึง” หลงเฉินกล่าวคำอำลา ขณะที่เขาเริ่มเดินจากไป แต่เย่วเฟ่ยสังเกตเห็นว่าเขากำลังแอบมองมาที่นางอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะพูดประโยคสุดท้าย
“แน่นอน มันจะเป็นเช่นนั้น” เย่วหลวนพูดด้วยรอยยิ้ม
“พี่ชาย เมื่อกี้นี้ทำไมเขาถึงเรียกท่านว่าพี่ใหญ่?” ขณะที่หลงเฉินเดินจากไป เขายังคงได้ยินเสียงของเย่วเฟ่ยพูดคุยกับเย่วหลวน
------------------------------
“เจ้าคิดว่านายน้อยจะอยู่ข้างในนานแค่ไหน? นี่มันก็ผ่านไปสองวันแล้ว?” เหม่ยหันหน้าไปถามเสวี่ยนที่นั่งอยู่ใกล้นาง
พวกนางเป็นผู้หญิงคนเดียวกับที่หลงเฉินช่วยไว้ในป่า หลงเฉินบอกพวกนางว่าเขาจะรับพวกนางเป็นคนรับใช้ของตระกูลหลงเมื่อพวกนางร้องขอ และเขาขอให้พวกนางรออยู่ใกล้รถม้าของเขา ซึ่งตอนนี้พวกนางก็รอเขาอยู่ที่นี่ตั้งแต่นั้นมา
“เจ้าถามข้าแบบนี้มากกว่าสิบครั้งแล้ว และข้าก็ตอบเหมือนเดิมตลอด ข้าจะไปรู้ได้ยังไง บางทีอาจจะเป็นพรุ่งนี้หรือสัปดาห์หน้า พวกเราทำได้แค่รอไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม” เสวี่ยนพูดด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“นายน้อยกำลังเดินเข้าไปในป่าลึกเมื่อพวกเราแยกจากกัน เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีสัตว์อสูรระดับจิตวิญญาณขั้นสูงสุดอยู่ในส่วนลึกของป่านี้ แล้วนายน้อยจะปลอดภัยใช่ไหม?” เหม่ยถามต่อไปโดยไม่สนใจสีหน้าที่หงุดหงิดของเสวี่ยน
เสวี่ยนตบหน้าตัวเองและหยุดพูด แต่เหม่ยก็ยังคงถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากนั้นไม่นานเสวี่ยนก็ลุกขึ้นยืน และยื่นหน้าเข้าใกล้เหม่ย จากนั้นนางก็พูดกระซิบอยู่ข้างหูของเหม่ย
“เจ้ารู้ไหมว่านายน้อยของพวกเราสามารถฆ่าคนพวกนั้นต่อหน้าพวกเราได้ง่ายดายขนาดไหน ไม่มีทางที่เขาจะพ่ายแพ้ให้กับสัตว์อสูร จงเชื่อมั่นในตัวเขา!” เสวี่ยนกระซิบข้างหูของนาง
ในขณะนั้นเอง หลงเฉินก็เดินออกจากป่าและเริ่มเดินไปที่รถม้าของเขา
“นายน้อยหลง!” หลงเฉินได้ยินเสียงของชายคนหนึ่งเรียกและหยุดชะงัก
"ใช่ข้าเอง" หลงเฉินตอบกลับ และสังเกตเห็นว่าคนที่เรียกเขาคือชายที่ขับรถม้าของราชวงศ์
เสวี่ยนและเหม่ยเองก็ได้ยินเสียงของชายคนนั้นเช่นนั้น พวกนางรีบหันไปมองทิศทางนั้นทันที และเมื่อสังเกตเห็นหลงเฉินพวกนางก็รีบลุกขึ้นยืนเดินไปหาเขาอย่างรวดเร็ว
“นายน้อยหลง ท่านพบนายท่านและคุณหนูของข้าในป่าไหม?” คนขับรถม้าราชวงศ์ถาม
“ใช่ ข้าเจอพวกเขา พวกเขายังคงมุ่งหน้าต่อแต่ข้าเดินออกมา พวกเขาอาจจะใช้เวลาอยู่ในนั้นนานอีกหน่อยถึงจะออกมา” หลงเฉินกล่าวขณะที่เขาเดินต่อไปยังรถม้าของตัวเอง
'แน่นอนว่าพวกเขาจะออกมาทีหลัง นายท่านและคุณหนูของข้าเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก การที่เขาออกมาจากป่าเร็วขนาดนี้ นั่นหมายความว่าเขาไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งขนาดนั้น’ คนขับรถม้าคิดในใจเมื่อได้ยินคำตอบของหลงเฉิน
"นายน้อย!" เสวี่ยนและเหม่ยต่างทักทายหลงเฉิน
“พวกเราเข้าไปในรถม้ากันเถอะ ถึงเวลาที่พวกเราต้องไปแล้ว” หลงเฉินพูดขณะที่เขายังคงเดินต่อ
หลงเฉินบอกให้คนขับรถม้าพาพวกเขากลับตระกูลหลง หลังจากที่ทุกคนเข้าไปในรถม้าของเขาแล้ว
เสวี่ยนนั่งทางขวาของหลงเฉิน ขณะที่เหม่ยนั่งทางซ้าย แต่หลงเฉินก็ไม่ได้พูดอะไร เขาแค่หยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาและเริ่มอ่านมัน จนในที่สุดเขาก็เผลอหลับไป และเข้าสู่ห้วงแห่งความฝัน
ทั้งสามคนนั่งติดกันอยู่ในรถม้า ในขณะที่รถเคลื่อนตัวไหล่ของเสวี่ยนและเหม่ยก็ได้กระทบกับไหล่ของหลงเฉิน ซึ่งเขาแกล้งทำเป็นไม่สนใจ และยังคงจับตาอ่านหนังสือของเขา
“เอ่อ… หลงเฉิน?” หลังจากที่พวกเขาเดินทางมาได้ครึ่งทางแล้ว เสวี่ยนก็พูดด้วยเสียงแผ่วเบา
"เจ้ามีเรื่องอะไร?" หลงเฉินพูดโดยไม่ละสายตาจากหนังสือ
“ข้าอยากจะขอบคุณท่านอีกครั้งที่ช่วยชีวิตพวกเรา” เสวี่ยนกล่าวต่อ
“เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องนั้นหรอก… หืม?” ทันทีที่หลงเฉินตอบกลับ เขาก็สังเกตเห็นว่าศีรษะของเหม่ยซบอยู่บนไหล่ของเขาขณะที่นางกลับ ซึ่งเสวี่ยนเองก็สังเกตเห็นเช่นกัน
“ไม่เป็นไร ให้นางนอนต่อเถอะ” ขณะที่เสวี่ยนกำลังจะปลุกนาง หลงเฉินก็หยุดนางเอาไว้
“ข้าขอโทษสำหรับเรื่องนี้ด้วย มันเป็นเพราะพวกเราทั้งคู่นอนไม่หลับในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา นางเลยเผลอหลับไป” เสวี่ยนกล่าวด้วยสีหน้าเขินอาย
"ไม่เป็นไร เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล" หลงเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลงเฉินรู้สึกได้ว่าหน้าอกที่ใหญ่โตของเหม่ยกำลังแนบชิดกับแขนของเขา ขณะที่นางซบอยู่บนไหล่ของเขา แต่หลงเฉินก็ไม่ได้ขยับแขนหนีและอ่านหนังสือต่อ
หลังจากผ่านไปได้สักพัก ทันใดนั้นเองหลงเฉินก็เสียสมาธิที่จะอ่านหนังสือ ตอนนี้เขาพบว่าเหม่ยยังคงซบไหล่ของเขาอยู่ ทว่ามือของนางกลับวางอยู่บนต้นขาของเขา ซึ่งห่างจากน้องชายของเขาเพียง 1 นิ้วเท่านั้น
ในขณะนั้นเสวี่ยนกำลังมองดูทิวทัศน์ด้านนอกผ่านหน้าต่าง ดังนั้นนางเลยไม่เห็นฉากดังกล่าว
'เกิดอะไรขึ้น! ข้าควรทำยังไงดี...? ส่วนหนึ่งของข้าคิดว่าข้าควรเป็นสุภาพบุรุษและปัดมือของนางออกไป แต่อีกส่วนหนึ่งของข้าก็อยากให้ไหลไปตามน้ำ และไม่ทำอะไรเลย' หลงเฉินคิดในใจว่าเขาควรทำยังไงดี