บทที่ 28 การเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
บทที่ 28 การเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
หากการผสานรูน คือการฉายภาพซ้อนทับกันของอักษรรูนที่แตกต่างกัน มันก็ควรจะมีวิธีแก้ปัญหามากมายนับไม่ถ้วน โซลกลับไปอ่านบทนำ "การเขียนอักษรรูนพื้นฐาน" อีกครั้ง และได้ค้นพบข้อจำกัดของเงื่อนไขพื้นฐานเหล่านั้น เหตุใดข้าไม่เคยสังเกตเห็นมันมาก่อน
ด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ ในที่สุดแผนผังการผสานอักษรรูปก็เป็นรูปร่างขึ้นมา
ด้วยอักษรรูนทั้ง 2 ที่วางซ้อนทับกันในแนวตั้ง หากมันมีขนาดเท่ากัน ดังนั้นพลังเวทย์ที่ส่งออกมามันก็ควรเท่ากัน
หากเขาส่งพลังเวทย์ออกยังอักษรรูนทั้ง 2 ตัวด้วยขนาดที่มองเห็นด้วยตาเปล่า มันก็จะล้มเหลวอย่างแน่นอน
โซล ยกกระดาษแผงผังที่เขาเพิ่งวาดขึ้นด้วยมือทั้ง 2 ข้าง หลับตาและเริ่มร่างมันขึ้นในหัว
1 ชั่วโมงต่อมา จู่ๆ เขาก็ลืมตาขึ้น สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต็น
"สำเร็จ! ข้าทำสำเร็จแล้ว"
จากนั้นด้วยความเหนื่อยล้าทำให้โซล แทบจะลงล้มกับพื้น
แค่การผสานรูน ก็ต้องใช้พลังเวทย์ของเขาทั้งหมดแล้ว
แล้วเขาจะใช้เวทมนตร์ระดับ 0 นั้นได้อย่างไร?
โซล รู้สึกร้อนใจ มันเป็นไปไม่ได้เลยเพราะว่าพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ของเขานั้นยังไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนเวทมนตร์ที่ระดับต่ำที่สุดได้
"ใจเย็นก่อน นี้เป็นครั้งแรกที่ข้าสามารถผสานอักษรรูน บางทีมันอาจจะไม่ได้ใช้พลังเวทย์มากมายอย่างที่คิด"
น่าเสียดายที่ต้องนี้พลังเวทย์ของเขาหมดลงแล้ว เขาจึงยังไม่สามารถทดลองมันได้อีกครั้งทันที ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงรอให้พลังเวทย์ฟื้นฟูได้เพียงเท่านั้น
"ฟู่ๆ"
แสงเทียนที่สว่างขึ้นปลุก โซล ที่ทำสมาธิให้ตื่นขึ้น
เขามองไปด้านข้างและพูดว่า "มาแล้ว"
มันเจ็บปวดไม่น้อยที่ต้องถูกขัดจังหวะการเรียน แต่เป็นเพราะงานนี้ที่เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้สามารถเปลี่ยนโชคชะตาของเขา
สายพานลำเลียงยังคงส่งเสียง ศพร่างใหม่ปรากฏขึ้นตรงหน้าโซล
เพื่อบรรเทาความกลัวและความกดดัน โซลจึงเลือกที่รับเชิญแขกเป็นศพเหล่านี้ เช่นเดียวกับคนที่กลับบ้านดึกซึ่งมักจะฮัมเพลงอยู่เสมอ
"แขกคนนี้ดูเหมือนจะตายอย่างน่าสังเวชทีเดียว"
แทนที่มันจะเป็นศพ แต่มันกลับเหมือนกองเนื้อสับมากกว่า กระดูกหักละเอียดจนปนกับเนื้อและเครื่องใน
นอกจากนี้ยังมีผ้าหนังขนาดใหญ่รองเอาไว้ข้างใต้ ไม่อย่างนั้นเลือดคงไหลนองออกมา
โซล จึงเลือกคีมจากเครื่องมือมากมายที่อยู่ด้านหลังเขา
เขามองไปรอบๆ และเห็นว่ากองเนื้อสับถูกปกคลุมด้วยแสงเล็กๆ รวมตัวกันหนาแน่น มันเบาบางอย่างมาก เขาสามารถบอกได้ทันทีว่ามันไม่คุ้มค่า ดังนั้นเขาจึงเลือกส่วนที่ไม่สำคัญทิ้งไป
โซล อดทนกับอาการคลื่นไส้ โน้มตัวลงไปข้างหน้าพลิกกองเนื้อเหล่านั้นอย่างระมัดระวัง
อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าชิ้นส่วนศพพิเศษที่ส่องแสงเหล่านั้นไม่ได้มาจากเศษซากศพ แต่เป็นผงเล็กๆ
โซลเปลี่ยนเครื่องมือเป็นแหนบเล็กๆ หยิบผงสีขาวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย 2 3 ชิ้น
มันเป็นเนื้อสีชมพูอ่อน ซึ่งยังคงเอาไว้ด้วยสีเดิมไม่ได้ถูกย้อมด้วยเลือด
เขาหยิบขึ้นมา 1 กำมือ ดึงกระดาษออกมาจากเอวของเขา
โซลเก็บไว้เพียงเล็กน้อย ห่อส่วนที่เหลือด้วยกระดาษสีน้ำตาล ใส่ลงไปในกล่องเล็กๆ บนโต๊ะด้านหลังเขา
โซล นำชิ้นส่วนศพที่เหลือ ใส่ทั้งหมดลงไปในกล่องใหญ่ที่อยู่ด้านล่างและปิดฝา
ดูเหมือนว่ากล่องใบใหญ่นั้นจะมีความสามารถในการเก็บกลิ่น กลิ่นเลือดในห้องลดลงไปถึง 2 3 ส่วน
แสงเทียนหน้าสายพานลำเลียงยังคงส่องสว่างอยู่
ยังมีศพเหลืออีกงั้นหรือ?
โซล ดึงคันโยกแล้วดูสายพานลำเลียงพาแขกคนต่อไปมาหาเขา
แขกคนนี้เป็นหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะมีอายุเพียง 5 หรือ 6 ขวบ เท่านั้น
โซล เอียงคอ รู้สึกเหลือเชื่อ
ทำไมถึงได้มีเด็กสาวที่อายุน้อยเช่นนี้ในหอคอยพ่อมด
เขาไม่เคยได้ยินว่ามีพ่อมดคนไหนที่แต่งงานและมีลูกที่นี่มาก่อน
น่าเสียดายเมื่อพวกเขาตายลงทุกคนจะถูกปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันเสมอ และจะไม่ปล่อยซากศพของพวกเขาเอาไว้เพียงเพราะเขาเป็นเด็ก
โซล สูดหายใจเข้าลึก เริ่มตั้งสติ และตรวจสอบศพโดยใช้การทำสมาธิที่ไม่สมบูรณ์
"ไม่ นางไม่ใช่เด็กสาวตัวเล็กๆ"
หลังจากตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน โซลก็ค้นพบสิ่งอื่นๆ
"ฟันและกระดูกของนางไม่เหมือนเด็ก"
ด้วยความรู้จากหนังสือ "คู่มือกลั่นศพ" โซลจึงมีความสามารถในแยกแยะสิ่งต่างๆ
"นางต้องเป็นแม่มดฝึกหัดอย่างแน่นอน และด้วยอิทธิพลจากเวทมนตร์บางอย่าง ทำให้รูปร่างหน้าตาของนางเด็กลง แต่อวัยวะภายในและกระดูกยังคงเป็นของผู้ใหญ่"
แม้ว่าเขารู้ว่ามันไม่ยุติธรรมดากับหญิงสาวตรงหน้าเขาผู้นี้ก็ตาม แต่หัวใจของโซลก็ยังรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย
เขาจัดการแยกชิ้นส่วนศพอย่างรวดเร็วและเก็บซากที่เหลือลงในกล่องใหญ่ด้านล่าง
แสงเทียนบน สายพานลำเลียงยังคงสว่างอยู่
"โอ้ ยังมีศพเหลืออยู่อีกงั้นหรือ?"
แขกคนที่ 3 คงจะผ่านการต่อสู้มา มีร่องรอยบาดแผลจากการถูกมีดแทงและขวานผ่าหัว จนสามารถมองเห็นสายพานลำเลียงที่อยู่ด้านล่าง
หลังจากทำงานเสร็จ โซลก็เงยหน้าขึ้นมอง
แสงเทียนยังคงสว่างอยู่
ยังมีศพอีกงั้นหรือ?
ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองเวลา มันเป็นเวลากว่า 6 โมงครึ่งแล้ว
เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงนั้นมันไม่เพียงสำหรับเขาที่จะตรวจสอบ ร่างกายศพทั้งหมดอย่างระเอียด
อย่างไรก็ตาม จำนวนชิ้นส่วนศพพิเศษที่เขาได้มาในวันนี้ก็เพียงพอแล้ว แขกคนสุดท้ายเขาสามารถจัดการมันได้อย่างสบายๆ
แขกคนสุดท้ายมาพร้อมกับเสียงของสายพานลำเลียงที่ดังกึกก้อง
นางเป็นหญิงสาวร่างอวบอ้วน
นางอาจตายด้วยคำสาปบางอย่าง ร่างกายของนางเต็มไปด้วยรอยแตกราย
ไม่มีเลือดไหลออกมารอยแตกเหล่านั้น
โซล ทำสมาธิที่ไม่สมบูรณ์เพื่อตรวจสอบและมองเห็นลิ้นโปร่งแสงจำนวนนับไม่ถ้วนยื่นออกมาจากภายในรอยแตก
ลิ้นเหล่านั้นราวกับนกตัวเล็ก ๆ ที่รออาหารจากแม่ของมัน พวกมันส่ายไปมา ทางโซล
โซล หยิบแหนบออกมา ลิ้นเหล่านั้นราวกับรอการป้อนอาหาร
เขารู้สึกขนลุกไปทั่วทั้งตัว
ไม่ว่าลิ้นเหล่านั้นจะเป็นอะไร เขาก็ไม่ต้องการสัมผัสมันด้วยมือของเขา
ยิ่งไปกว่านั้น ศพตรงหน้าเขานี้ยังดูสมบูรณ์อย่างมาก ราวกับว่าพ่อมดฝึกหัดที่รับผิดชอบ 2 ขั้นตอนก่อนหน้าไม่ได้แตะต้องนางมากนัก
โซล หันกลับมาพร้อมกับเปลี่ยนเป็นคีมยาว แต่เขามองเห็นผงสีขาวที่เขาเก็บมาเมื่อกี้
เขา เปลี่ยนใช้แหนบคีบขึ้นมาส่วนหนึ่งขยับเข้าไปใกล้รอยแตกของศพหญิงสาวคนนั้น
คราวนี้ ลิ้นเล็กๆที่เปล่งแสงที่อยู่ใกล้แหนบหดกลับเข้าไปในรอยแตกดูเหมือนว่ามันกลัวผงเหล่านี้
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อลิ้นเหล่านั้นหดกลับเข้าไปใน ชิ้นส่วนเปล่งแสงก็ค่อยๆปรากฏออกมา
"ผงนี้ ... มันมีความสามารถขับไล่คำสาปงั้นหรือ?"
โซล ดึงแหนบออก ลิ้นเหล่านั้นก็โผล่ออกมาอีกครั้ง
โซล หยิบคริสตัลเล็กๆ ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าเมล็ดข้าวสอดเข้าในรอยแตก
"จี้ จี้ จี้!"
พร้อมกับเสียงเผาไหม้อันแผ่วเบา ควันสีเขียวก็ลอยขึ้นออกมาจากรอยแตก
โซล รีบถอยหลังออกไป 2 ก้าวแล้วกลั้นหายใจ
โชคดีที่ควันเหล่านั้นหายไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งสมุดปกแข็งก็ยังไม่ตอบสนอง
เขารออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกลับไปที่ศพ มองไปยังรอยแตกไม่มีลิ้นโผล่ออกมาแล้ว หลังจากควานหาอยู่สักพักหนึ่ง
หินคริสตัลขนาดเล็กกลายเป็นผงหมดแล้ว ราวกับมันกลายเป็นของไร้ประโยชน์
มันถูกป่นเป็นผงในชั่วพริบตา
"ผงนั้นสามารถทำลายคำสาปได้ คิดถูกจริงๆที่เขาเก็บผงนั้นมา!!"
โซล หันกลับไปเปิดกล่องที่เขาเก็บผงเอาไว้อีกครั้ง เมื่อเขาปิดผากลับไปอีกครั้ง เศษผงเล็กเหล่านั้นก็รวมตัวกันเป็นเนื้อเดียว
ในที่สุด แสงเทียนบนสายพานลำเลียงก็สลัวลง
โซลเก็บข้าวของและเงยหน้าขึ้น ตอนนี้เป็นเวลา 1 ทุ่มครึ่งแล้ว
กฏห้ามอยู่ในหอคอยตะวันออกหลัง 2 ทุ่ม ยังคงก้องอยู่ในหัวของเขา
เขารีบหยิบหนังสือและกระดาษบนโต๊ะออกจากห้องเก็บศพไป
"อ่ะ"
มีร่างๆหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าโซล ทั้ง 2 เกือบจะชนกัน
อย่างไรก็ตาม ชายตรงหน้าก็ถอยหลังออกไปก่อนก้าวหนึ่ง ทำให้ โซล ผ่านไป
"ขอโทษ" โซลรีบก้าวขอโทษและเดินออกไปทันที แต่หลังจากก้าวออกไปได้ 2 ก้าว เขาก็หยุดลงและหันไปมอง
"ท่านเป็นรุ่นพี่ที่ดูแลห้องเก็บศพ 1 ใช่ไหม?"
ชายคนที่โซลเกือบชนนั้นมาจากส่วนลึกของทางเดิน
ผมของเขามีสีเทาผิวหนังของเขาไม่มีริ้วรอยแม้แต่น้อย
เปลือกตาของเขาเกือบจะปิดราวกับเขากึ่งหลับกึ่งตื่น
"ใช่" อีกดูเหมือนจะอารมณ์ดี แต่ก็ไม่ได้ต้องการที่จะพูดคุยกับเขา เขาเพียงแค่ฮัมเพลงและเดินผ่านโซลไป
"หือ?"
พ่อมดฝึกหัดระดับ 2 ที่ฮัมเพลงนั้นเหลือบไปเป็นกระดาศแผนผังในมือของโซลเมื่อเขาเดินผ่าน
"นี่..."
เขาชี้นิ้วไปที่มือขวาของโซล
โซลก้มหัวลงมองสิ่งที่เขาถืออยู่ มันเป็นกระดาษแผนผังการผสานรูน!