ตอนที่แล้วบทที่ 27 ผสานอักษรรูน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 29 อืม ฮิฮิฮิ

บทที่ 28 การเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด


บทที่ 28 การเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด

หากการผสานรูน คือการฉายภาพซ้อนทับกันของอักษรรูนที่แตกต่างกัน มันก็ควรจะมีวิธีแก้ปัญหามากมายนับไม่ถ้วน โซลกลับไปอ่านบทนำ "การเขียนอักษรรูนพื้นฐาน" อีกครั้ง และได้ค้นพบข้อจำกัดของเงื่อนไขพื้นฐานเหล่านั้น เหตุใดข้าไม่เคยสังเกตเห็นมันมาก่อน

ด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ ในที่สุดแผนผังการผสานอักษรรูปก็เป็นรูปร่างขึ้นมา

ด้วยอักษรรูนทั้ง 2 ที่วางซ้อนทับกันในแนวตั้ง หากมันมีขนาดเท่ากัน ดังนั้นพลังเวทย์ที่ส่งออกมามันก็ควรเท่ากัน

หากเขาส่งพลังเวทย์ออกยังอักษรรูนทั้ง 2 ตัวด้วยขนาดที่มองเห็นด้วยตาเปล่า มันก็จะล้มเหลวอย่างแน่นอน

โซล ยกกระดาษแผงผังที่เขาเพิ่งวาดขึ้นด้วยมือทั้ง 2 ข้าง หลับตาและเริ่มร่างมันขึ้นในหัว

1 ชั่วโมงต่อมา จู่ๆ เขาก็ลืมตาขึ้น สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต็น

"สำเร็จ! ข้าทำสำเร็จแล้ว"

จากนั้นด้วยความเหนื่อยล้าทำให้โซล แทบจะลงล้มกับพื้น

แค่การผสานรูน ก็ต้องใช้พลังเวทย์ของเขาทั้งหมดแล้ว

แล้วเขาจะใช้เวทมนตร์ระดับ 0 นั้นได้อย่างไร?

โซล รู้สึกร้อนใจ มันเป็นไปไม่ได้เลยเพราะว่าพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ของเขานั้นยังไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนเวทมนตร์ที่ระดับต่ำที่สุดได้

"ใจเย็นก่อน นี้เป็นครั้งแรกที่ข้าสามารถผสานอักษรรูน บางทีมันอาจจะไม่ได้ใช้พลังเวทย์มากมายอย่างที่คิด"

น่าเสียดายที่ต้องนี้พลังเวทย์ของเขาหมดลงแล้ว เขาจึงยังไม่สามารถทดลองมันได้อีกครั้งทันที ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงรอให้พลังเวทย์ฟื้นฟูได้เพียงเท่านั้น

"ฟู่ๆ"

แสงเทียนที่สว่างขึ้นปลุก โซล ที่ทำสมาธิให้ตื่นขึ้น

เขามองไปด้านข้างและพูดว่า "มาแล้ว"

มันเจ็บปวดไม่น้อยที่ต้องถูกขัดจังหวะการเรียน แต่เป็นเพราะงานนี้ที่เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้สามารถเปลี่ยนโชคชะตาของเขา

สายพานลำเลียงยังคงส่งเสียง ศพร่างใหม่ปรากฏขึ้นตรงหน้าโซล

เพื่อบรรเทาความกลัวและความกดดัน โซลจึงเลือกที่รับเชิญแขกเป็นศพเหล่านี้ เช่นเดียวกับคนที่กลับบ้านดึกซึ่งมักจะฮัมเพลงอยู่เสมอ

"แขกคนนี้ดูเหมือนจะตายอย่างน่าสังเวชทีเดียว"

แทนที่มันจะเป็นศพ แต่มันกลับเหมือนกองเนื้อสับมากกว่า กระดูกหักละเอียดจนปนกับเนื้อและเครื่องใน

นอกจากนี้ยังมีผ้าหนังขนาดใหญ่รองเอาไว้ข้างใต้ ไม่อย่างนั้นเลือดคงไหลนองออกมา

โซล จึงเลือกคีมจากเครื่องมือมากมายที่อยู่ด้านหลังเขา

เขามองไปรอบๆ และเห็นว่ากองเนื้อสับถูกปกคลุมด้วยแสงเล็กๆ รวมตัวกันหนาแน่น มันเบาบางอย่างมาก เขาสามารถบอกได้ทันทีว่ามันไม่คุ้มค่า ดังนั้นเขาจึงเลือกส่วนที่ไม่สำคัญทิ้งไป

โซล อดทนกับอาการคลื่นไส้ โน้มตัวลงไปข้างหน้าพลิกกองเนื้อเหล่านั้นอย่างระมัดระวัง

อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าชิ้นส่วนศพพิเศษที่ส่องแสงเหล่านั้นไม่ได้มาจากเศษซากศพ แต่เป็นผงเล็กๆ

โซลเปลี่ยนเครื่องมือเป็นแหนบเล็กๆ หยิบผงสีขาวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย 2 3 ชิ้น

มันเป็นเนื้อสีชมพูอ่อน ซึ่งยังคงเอาไว้ด้วยสีเดิมไม่ได้ถูกย้อมด้วยเลือด

เขาหยิบขึ้นมา 1 กำมือ ดึงกระดาษออกมาจากเอวของเขา

โซลเก็บไว้เพียงเล็กน้อย ห่อส่วนที่เหลือด้วยกระดาษสีน้ำตาล ใส่ลงไปในกล่องเล็กๆ บนโต๊ะด้านหลังเขา

โซล นำชิ้นส่วนศพที่เหลือ ใส่ทั้งหมดลงไปในกล่องใหญ่ที่อยู่ด้านล่างและปิดฝา

ดูเหมือนว่ากล่องใบใหญ่นั้นจะมีความสามารถในการเก็บกลิ่น กลิ่นเลือดในห้องลดลงไปถึง 2 3 ส่วน

แสงเทียนหน้าสายพานลำเลียงยังคงส่องสว่างอยู่

ยังมีศพเหลืออีกงั้นหรือ?

โซล ดึงคันโยกแล้วดูสายพานลำเลียงพาแขกคนต่อไปมาหาเขา

แขกคนนี้เป็นหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะมีอายุเพียง 5 หรือ 6 ขวบ เท่านั้น

โซล เอียงคอ รู้สึกเหลือเชื่อ

ทำไมถึงได้มีเด็กสาวที่อายุน้อยเช่นนี้ในหอคอยพ่อมด

เขาไม่เคยได้ยินว่ามีพ่อมดคนไหนที่แต่งงานและมีลูกที่นี่มาก่อน

น่าเสียดายเมื่อพวกเขาตายลงทุกคนจะถูกปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันเสมอ และจะไม่ปล่อยซากศพของพวกเขาเอาไว้เพียงเพราะเขาเป็นเด็ก

โซล สูดหายใจเข้าลึก เริ่มตั้งสติ และตรวจสอบศพโดยใช้การทำสมาธิที่ไม่สมบูรณ์

"ไม่ นางไม่ใช่เด็กสาวตัวเล็กๆ"

หลังจากตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน โซลก็ค้นพบสิ่งอื่นๆ

"ฟันและกระดูกของนางไม่เหมือนเด็ก"

ด้วยความรู้จากหนังสือ "คู่มือกลั่นศพ" โซลจึงมีความสามารถในแยกแยะสิ่งต่างๆ

"นางต้องเป็นแม่มดฝึกหัดอย่างแน่นอน และด้วยอิทธิพลจากเวทมนตร์บางอย่าง ทำให้รูปร่างหน้าตาของนางเด็กลง แต่อวัยวะภายในและกระดูกยังคงเป็นของผู้ใหญ่"

แม้ว่าเขารู้ว่ามันไม่ยุติธรรมดากับหญิงสาวตรงหน้าเขาผู้นี้ก็ตาม แต่หัวใจของโซลก็ยังรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย

เขาจัดการแยกชิ้นส่วนศพอย่างรวดเร็วและเก็บซากที่เหลือลงในกล่องใหญ่ด้านล่าง

แสงเทียนบน สายพานลำเลียงยังคงสว่างอยู่

"โอ้ ยังมีศพเหลืออยู่อีกงั้นหรือ?"

แขกคนที่ 3 คงจะผ่านการต่อสู้มา มีร่องรอยบาดแผลจากการถูกมีดแทงและขวานผ่าหัว จนสามารถมองเห็นสายพานลำเลียงที่อยู่ด้านล่าง

หลังจากทำงานเสร็จ โซลก็เงยหน้าขึ้นมอง

แสงเทียนยังคงสว่างอยู่

ยังมีศพอีกงั้นหรือ?

ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองเวลา มันเป็นเวลากว่า 6 โมงครึ่งแล้ว

เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงนั้นมันไม่เพียงสำหรับเขาที่จะตรวจสอบ ร่างกายศพทั้งหมดอย่างระเอียด

อย่างไรก็ตาม จำนวนชิ้นส่วนศพพิเศษที่เขาได้มาในวันนี้ก็เพียงพอแล้ว แขกคนสุดท้ายเขาสามารถจัดการมันได้อย่างสบายๆ

แขกคนสุดท้ายมาพร้อมกับเสียงของสายพานลำเลียงที่ดังกึกก้อง

นางเป็นหญิงสาวร่างอวบอ้วน

นางอาจตายด้วยคำสาปบางอย่าง ร่างกายของนางเต็มไปด้วยรอยแตกราย

ไม่มีเลือดไหลออกมารอยแตกเหล่านั้น

โซล ทำสมาธิที่ไม่สมบูรณ์เพื่อตรวจสอบและมองเห็นลิ้นโปร่งแสงจำนวนนับไม่ถ้วนยื่นออกมาจากภายในรอยแตก

ลิ้นเหล่านั้นราวกับนกตัวเล็ก ๆ ที่รออาหารจากแม่ของมัน พวกมันส่ายไปมา ทางโซล

โซล หยิบแหนบออกมา ลิ้นเหล่านั้นราวกับรอการป้อนอาหาร

เขารู้สึกขนลุกไปทั่วทั้งตัว

ไม่ว่าลิ้นเหล่านั้นจะเป็นอะไร เขาก็ไม่ต้องการสัมผัสมันด้วยมือของเขา

ยิ่งไปกว่านั้น ศพตรงหน้าเขานี้ยังดูสมบูรณ์อย่างมาก ราวกับว่าพ่อมดฝึกหัดที่รับผิดชอบ 2 ขั้นตอนก่อนหน้าไม่ได้แตะต้องนางมากนัก

โซล หันกลับมาพร้อมกับเปลี่ยนเป็นคีมยาว แต่เขามองเห็นผงสีขาวที่เขาเก็บมาเมื่อกี้

เขา เปลี่ยนใช้แหนบคีบขึ้นมาส่วนหนึ่งขยับเข้าไปใกล้รอยแตกของศพหญิงสาวคนนั้น

คราวนี้ ลิ้นเล็กๆที่เปล่งแสงที่อยู่ใกล้แหนบหดกลับเข้าไปในรอยแตกดูเหมือนว่ามันกลัวผงเหล่านี้

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อลิ้นเหล่านั้นหดกลับเข้าไปใน ชิ้นส่วนเปล่งแสงก็ค่อยๆปรากฏออกมา

"ผงนี้ ... มันมีความสามารถขับไล่คำสาปงั้นหรือ?"

โซล ดึงแหนบออก ลิ้นเหล่านั้นก็โผล่ออกมาอีกครั้ง

โซล หยิบคริสตัลเล็กๆ ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าเมล็ดข้าวสอดเข้าในรอยแตก

"จี้ จี้ จี้!"

พร้อมกับเสียงเผาไหม้อันแผ่วเบา ควันสีเขียวก็ลอยขึ้นออกมาจากรอยแตก

โซล รีบถอยหลังออกไป 2 ก้าวแล้วกลั้นหายใจ

โชคดีที่ควันเหล่านั้นหายไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งสมุดปกแข็งก็ยังไม่ตอบสนอง

เขารออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกลับไปที่ศพ มองไปยังรอยแตกไม่มีลิ้นโผล่ออกมาแล้ว หลังจากควานหาอยู่สักพักหนึ่ง

หินคริสตัลขนาดเล็กกลายเป็นผงหมดแล้ว ราวกับมันกลายเป็นของไร้ประโยชน์

มันถูกป่นเป็นผงในชั่วพริบตา

"ผงนั้นสามารถทำลายคำสาปได้ คิดถูกจริงๆที่เขาเก็บผงนั้นมา!!"

โซล หันกลับไปเปิดกล่องที่เขาเก็บผงเอาไว้อีกครั้ง เมื่อเขาปิดผากลับไปอีกครั้ง เศษผงเล็กเหล่านั้นก็รวมตัวกันเป็นเนื้อเดียว

ในที่สุด แสงเทียนบนสายพานลำเลียงก็สลัวลง

โซลเก็บข้าวของและเงยหน้าขึ้น ตอนนี้เป็นเวลา 1 ทุ่มครึ่งแล้ว

กฏห้ามอยู่ในหอคอยตะวันออกหลัง 2 ทุ่ม ยังคงก้องอยู่ในหัวของเขา

เขารีบหยิบหนังสือและกระดาษบนโต๊ะออกจากห้องเก็บศพไป

"อ่ะ"

มีร่างๆหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าโซล ทั้ง 2 เกือบจะชนกัน

อย่างไรก็ตาม ชายตรงหน้าก็ถอยหลังออกไปก่อนก้าวหนึ่ง ทำให้ โซล ผ่านไป

"ขอโทษ" โซลรีบก้าวขอโทษและเดินออกไปทันที แต่หลังจากก้าวออกไปได้ 2 ก้าว เขาก็หยุดลงและหันไปมอง

"ท่านเป็นรุ่นพี่ที่ดูแลห้องเก็บศพ 1 ใช่ไหม?"

ชายคนที่โซลเกือบชนนั้นมาจากส่วนลึกของทางเดิน

ผมของเขามีสีเทาผิวหนังของเขาไม่มีริ้วรอยแม้แต่น้อย

เปลือกตาของเขาเกือบจะปิดราวกับเขากึ่งหลับกึ่งตื่น

"ใช่" อีกดูเหมือนจะอารมณ์ดี แต่ก็ไม่ได้ต้องการที่จะพูดคุยกับเขา เขาเพียงแค่ฮัมเพลงและเดินผ่านโซลไป

"หือ?"

พ่อมดฝึกหัดระดับ 2 ที่ฮัมเพลงนั้นเหลือบไปเป็นกระดาศแผนผังในมือของโซลเมื่อเขาเดินผ่าน

"นี่..."

เขาชี้นิ้วไปที่มือขวาของโซล

โซลก้มหัวลงมองสิ่งที่เขาถืออยู่ มันเป็นกระดาษแผนผังการผสานรูน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด