ตอนที่ 87 : 1 ใน 7 จักรพรรรดิ เกาะพายุ ! การคาดการณ์ของตระกูลเหลียน !
ตอนที่ 87 : 1 ใน 7 จักรพรรรดิ เกาะพายุ ! การคาดการณ์ของตระกูลเหลียน !
ตอนนั้นในพื้นที่ให้รอ ถังเฉิงพูดขึ้นมาด้วยความกังวล “พี่ลั่ว ฉันไม่เห็นพี่สะใภ้เลย ฉันไปถามเพื่อน ๆ คนอื่นดูแล้วแต่พวกเขาก็ไม่เห็นเธอ”
หลินลั่วเก็บมือถือพร้อมสีหน้าที่บิดเบี้ยวขึ้นมา
หลังจากที่แยกกับเหลียนอี้หนิงเมื่อวานนี้ เธอบอกว่าเธอมาให้กำลังใจเขา ทำไมตอนนี้ยังไม่โผล่มาอีก ?
โทรหาไม่รับ ส่งข้อความก็ไม่ตอบ มีอะไร ?
“พี่ลั่ว รึว่าจะเกิดปัญหาขึ้น ?” ถังเฉิงลังเลขึ้นมา
“จะเป็นอะไรไปได้ ?” หลินลั่วพูดขึ้น “เหลียนอี้หนิงเป็นคนของตระกูลเหลียน พ่อเธอยังเป็นผู้ปลุกพลังระดับอีปิค จะเกิดปัญหากับเธอได้ยังไง ?”
ถังเฉิงเดา “งั้นถ้ามีคนจับตัวเธอไปเพื่อขู่ให้นายออมมือล่ะ...”
“หัวนายไปกระแทกมารึไง ?” หลินลั่วพูดขึ้นด้วยท่าทีหมดหนทาง “ใครจะกล้าลักพาตัวคนตะกูลเหลียน ? คงเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ !”
“เดี๋ยวนะ ฉันจะไปถามคนอื่นดู...” เขาเปิดโทรศัพท์และเจอเบอร์ของเหลียนฉิงเอ๋อ ทั้งสองคนเคยเจอกันมาหลายครั้ง จากนั้นเขาก็เลือกที่จะส่งข้อความไปหาอีกฝ่าย
ก่อนที่เหลียนฉิงเอ๋อจะตอบกลับ มันก็มีเสียงตะโกนและเสียงปรบมือดังขึ้นมา
“พี่ลั่ว ถึงคิวนายแล้ว..”
หลินลั่วเก็บมือถือและพูดขึ้น “ไว้ก่อนเถอะ เรื่องของหนิงเอ๋อค่อยคุยกันหลังจากที่จบการแข่งขันรอบรองแล้ว”
เขาค่อย ๆ เดินไปที่เวทีเวทีประลอง
“ออกมาแล้ว ออกมาแล้ว !”
“ทั้งสี่คนออกมากันครบแล้ว !”
“สี่คนกับมังกรอีกตัว ทำไมฉันรู้สึกว่าตงฟางเหอจะเป็นแชมป์ !”
“ฉันเอง...ก็คิดแบบนั้น !”
ใจกลางเวที ตงฟาเหอที่อยู่บนหลังมังกรได้มองไปที่หลินลั่วและพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในที่สุดก็ออกมาสักที ฉันคิดว่าแกจะหนีไปซะแล้ว ?”
มังกรเองก็มองไปที่หลินลั่วและคำรามออกมาเบา ๆ
มันรู้ว่ามนุษย์ตรงหน้ามันคือคนที่ทำให้มันขี้แตกต่อหน้าผู้คนมากมาย ศักดิ์ศรีมันถูกทำลายป่นปี้ !
มันต้องกินมนุษย์นี่ให้ได้ ! กินไม่ให้เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว !
นี่คือคนที่ทำให้มันขี้แตกต่อหน้าคนเป็นหมื่น ๆ คน !
เรื่องแบบนี้คงถูกถ่ายบันทึกเอาไว้และโพสในอินเตอร์เน็ตรึอาจจะเป็นในหนังสือของมนุษย์เลยก็ว่าได้ บางทีอีกหลายร้อยปีจากนี้ มนุษย์อาจจะพูดถึงมังกรที่ขี้แตกต่อหน้าคนเป็นหมื่นคน
มันไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น !
เมื่อเห็นทั้งคนและมังกรมองเขม่นมาที่เขา โดยเฉพาะมังกรที่มองราวกับจะกินเข้าทั้งเป็น หลินลั่วก็พูดขึ้นด้วยท่าทีสบาย ๆ “อยากโดนอีกเหรอ ? ได้ มาสิ !”
กรร...
มังกรคำรามออกมาอยากจะพุงเข้าใส่หลินลั่ว แต่ก็ถูกตงฟางเหอห้ามเอาไว้
“ยมทูต ! ไม่ต้องรีบร้อน ! ตอนที่ขึ้นไปบนเวทีประลอง ฉันจะให้แกจัดการเขา !”
พิธีกรเห็นความดุเดือดก่อนการต่อสู้และรีบประกาศออกมา “ต่อไปเราจะจับฉลากเพื่อจับคู่สำหรับการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ !”
ทันทีที่พูดจบ ชื่อของทั้งสี่คนก็ปรากฏขึ้นมาบนจอก่อนจะเริ่มสลับที่กัน หลินลั่ว, ตงฟางเหอ, เฉินผิงอัน และมู่หรงเสวี่ยเหินต่างก็มองไปที่จอ
ผู้ชมพากันตะโกนกันออกมา
“ตงฟางเหอ ! อยากดูตงฟางเหอสู้ !”
“มู่หรงเสวี่ยเหิน ! ดูผู้ชายไปทำไมกัน ? ดูเทพธิดาเพลินตากว่าเยอะ !”
“หลินลั่ว ! ฉันอยากเห็นมังกรขี้แตกอีก ! ฮ่าฮ่า !”
“ไอ้โง่ สกิลนั้นโดนแบนไปแล้ว หลินลั่วต้องแพ้แน่ !”
“มาแล้ว หยุด หยุดสิ ! มัน...”
บนจอภาพนั้นสุดท้ายก็ได้ชื่อของคนแรกออกมา
“เฉินผิงอัน !”
เฉินผิงอันตาเป็นประกาย คนแรกที่จะได้สู้กลับเป็นเขา !
ตงฟางเหอคิ้วขมวด “เฉินผิงอัน ? ฉันหวังว่าเขาคงไม่ได้สู้กับหลินลั่วรอบนี้หรอกนะ !” ภายใต้สายตาเป็นหมื่น ๆ คู่ สุดท้ายชื่อที่สองก็ปรากฏขึ้นมา
“มู่หรงเสวี่ยเหิน !”
“ฮ่าฮ่า...” ทันทีที่ชื่อที่สองปรากฏขึ้นมา ตงฟางเหอก็หัวเราะออกมาทันที หอกในมือเขาชี้ไปที่หลินลั่ว “หลินลั่ว ! พระเจ้าเข้าข้างฉัน ! ฮ่าฮ่า....”
เสียงหัวเราะของตงฟางเหอนั้นไม่ได้ทำให้หลินลั่วตอบโต้อะไร การต่อสู้คู่แรกของเฉินผิงอันกับมู่หรงเสวี่ยเหิน เขาไม่มีอะไรต้องทำอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงเดินแยกตัวออกไปทันที
ตงฟางเหอตะโกนไล่หลังตามมา
“เป็นมู่หรงเสวี่ยเหินจริง ๆ... ” เฉินผิงอันแปลกใจนิด ๆ เขาคิดว่าคงเป็นตงฟางเหอ ไม่คิดเลยว่าจะต้องสู้กับผู้หญิง
มู่หรงเสวี่ยเหินยังเยือกเย็นดังเดิม เธอมองไปที่เฉินผิงอันด้วยสายตาแน่วแน่
“ผู้ชมทุกคน รอบรองชนะเลิศของปีนี้กำลังจะเริ่มแล้ว !”
“คู่แรก ผู้ปลุกพลังอาชีพลับระดับ S ! นักดาบไร้เทียมทานเฉินผิงอันจะต่อสู้กับเทวทูตมู่หรงเสวี่ยเหิน !”
“คู่นี้จะเป็นการต่อสู้ที่ดีที่สุดที่เราจะได้รับชม !”
ตูม !
ทันทีที่พิธีกรพูดจบ กรรมการก็เดินขึ้นบนเวทีมา บรรยากาศที่ลานดูคึกขึ้นมาทันตา !
“กำลังจะเริ่มแล้ว ! กำลังจะเริ่มแล้ว ! ฮ่าฮ่า....”
“คู่นี้ นายว่าใครจะชนะ ?”
“ฉันว่าเฉินผิงอัน ! การโจมตีของนักดาบนั้นรุนแรงที่สุดอยู่แล้ว เฉินผิงอันเป็นนักดาบไร้เทียมทาน อาชีพลับระดับ S ! เขาไร้เทียมทานในโลกนี้ !”
“ฉันว่ามู่หรงเสวี่ยเหิน ! ไม่ใช่อะไรนะ เพราะเธอน่ะสวย !”
“เธอคือเทพธิดา !”
“เสวี่ยเหิน ชนะให้ได้ !” ในหมู่ผู้คน ฉือเหล่ยมองไปที่เวทีประลองและพึมพำออกมา เขาพ่ายแพ้ให้กับตงฟางเหอ ในใจเขายังแค้นเคือง เขาไม่คิดจะยอมรับความพ่ายแพ้
มันน่าเสียดายแต่เขาไม่อาจจะทำอะไรได้
ตอนนี้มู่หรงเสวี่ยเหินที่เขาคอยปกป้องนั้นยืนอยู่บนเวทีประลองเพียงลำพัง ในฐานะผู้พิทักษ์แล้ว เขาน่ะทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ !
“หลังจากจบการสอบเข้ามหาลัย ฉันต้องพยายามอย่างหนักเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองให้เพียงพอที่จะปกป้องคุณหนูให้ได้ !”
ริม ๆ เวที คนที่นั่งอยู่ที่นี่ล้วนแต่เป็นคนใหญ่โตของเมืองปิ้นไห่
ผู้บริหารระดับสูงของกิลด์ผู้ปลุกพลัง, ผู้พิทักษ์, ผู้บริหารเมือง, ตระกูลใหญ่, กองกำลังใหญ่ และคนจากกลุ่มที่มีอำนาจ
ใจกลางพื้นที่นี้มีหลายคนพากันมองไปที่เวทีประลอง
“อัตราชนะของผิงอันอยู่ที่เท่าไหร่ ?”
“5 ต่อ 5 มู่หรงเสวี่ยเหินปลุกอาชีพนั่นขึ้นมาได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ มันจึงไม่มีบันทึกข้อมูลอาชีพนี้เลย !”
“อาชีพนักดาบไร้เทียมทานของผิงอันน่ะ มันมีคนของเราเมื่อร้อยปีก่อน เราจึงรู้รายละเอียด แต่เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอาชีพเทวทูตเลย !”
“น่าเสียดายที่ผู้อาวุโสตายไปด้วยฝีมือของพวกสัตว์ประหลาดหลังจากที่ขึ้นไปถึงระดับทองแล้ว ไม่งั้นแล้วตระกูลเฉินจะเก็บตัวอยู่แต่เมืองปิ้นไห่ได้ยังไง ?”
“ตอนนี้เราต้องหวังพึ่งผิงอัน ! ตราบใดที่เขาคว้าแชมป์มาได้ ตระกูลเฉินก็จะได้โลกวิเศษ ถึงมันจะเป็นของที่เสียหาย ทว่ามันก็ยังมีโอกาสช่วยให้บรรพชนยกระดับขึ้นมาได้ !”
ในพื้นที่อีกส่วนซึ่งเป็นพื้นที่ของตระกูลมู่หรง
“เสวี่ยเหิน ตระกูลมู่หรงต้องฝากไว้กับลูก !”
“แชมป์ปีนี้ต้องเป็นของตระกูลเราแน่ !”
“แล้วตงฟางเหอล่ะ ?”
“สบายใจได้ เสวี่ยเหินหาทางควบคุมมังกรนั่นได้แล้ว ตราบใดที่คุมมังกรไว้ได้ มันก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องตงฟางเหอ !”
“เข้าใจแล้ว...”
ด้านในพื้นที่ที่ 3
กั้วโฉวยี่มองไปที่เวทีประลอง
จ้าวฉือเฉิงยืนอยู่ด้านหลัง
“หัวหน้า เหลียนเจิ้งออกจากเมืองปิ้นไห่ไป ที่หมายคือทะเลดวงดาว ไม่รู้ว่าเขาจะไปที่ไหน”
กั้วโฉวยี่พูดขึ้นมาด้วยท่าทีเฉยเมย
“10 ปีก่อน เหลียนเจิ้งมีเรื่องขัดแย้งกับเกาะพายุ 1 ใน 7 จักรพรรดิแห่งทะเลดวงดาว พวกเขาแย่งไอเท็มภารกิจจากเกาะพายุมา มันคือไอเท็มภารกิจเปลี่ยนอาชีพที่ทำให้เขาก้าวขึ้นไประดับอีปิคได้และได้รับฉายาจ้าวแห่งพายุมา”
“น่าตลกดี...”
จ้าวฉือเฉิงพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าแปลกใจ “ตลกอะไร ?”
กั้วโฉวยี่ยิ้มออกมา “เกาะพายุรู้จักกันว่าเป็น 1 ใน 7 จักรพรรดิ ทว่าตำแหน่งจ้าวแห่งพายุถูกชิงไปโดยตระกูลเหลียน นายไม่คิดว่ามันตลกรึไง ?”
“...” จ้าวฉือเฉิงได้ยินข่าวนี้เป็นครั้งแรก เขาถามขึ้นมา “งั้นเราควรทำยังไง ? ไม่ว่าจะพูดยังไง เขาก็เป็นถึงผู้ปลุกพลังระดับอีปิคของเมืองปิ้นไห่ ทว่าเกาะพายุนั้นเป็นกองกำลังที่ทัดเทียมได้กับประเทศ ถ้า...”
กั้วโฉวยี่ส่ายหน้าและพูดขึ้น “เหลียนเจิ้งมีแผนของตัวเอง เขาเตรียมที่จะส่งลูกสาวไปแต่งงานกับเกาะเก้าอสรพิษแล้วไม่ใช่เหรอ ? การที่จักรพรรดิต้องมาสู้กันเอง การต่อสู้อย่างต่อเนื่องนี้จะนำไปสู่...”
“จักรพรรดิของทะเลทั้งสองสู้กันเอง..” จ้าวฉือเฉิงแปลกใจ “หัวหน้า แล้วเราล่ะ ?”
“ไม่ต้องเข้าไปยุ่ง !” กั้วโฉวยี่พูดขึ้น “การเดินทางครั้งนี้ของเหลียนเจิ้งคงไปที่เกาะเก้าอสรพิษเพื่อซื้อใจพวกนั้น”
เกาะเก้าอสรพิษอยู่ห่างจากเกาะพายุอยู่ไกล มันยากที่จะเดินทางไปได้ เบี้ยต่อรองของตระกูลเหลียนน่าจะเป็นเด็กสาวที่ชื่อเหลียนอี้หนิง
อยู่ ๆ สีหน้าของกั้วโฉวยี่ก็เปลี่ยนไป “แล้วคุณหนูตระกูลเหลียนล่ะ เหลียนเจิ้งพาเธอไปด้วยรึเปล่า ?”
จ้าวฉือเฉิงรีบตอบกลับ “ผมจะไปตรวจสอบให้ !”
“ไม่จำเป็น !” กั้วโฉวยี่ส่ายหน้า “เธอคงถูกเหลียนเจิ้งพาตัวไปแล้ว !”
“เหลียนเจิ้งก้าวขึ้นมาระดับอีปิคได้นานกว่า 10 ปีแล้ว ทว่าเขาก็ยังไม่ใกล้เคียงกับระดับตำนาน ฉันได้ยินมาว่าผู้ปกครองเกาะพายุนั้นมีฉายาว่าจ้าวแห่งพายุเหมือนกัน ทั้งสองคนคงต้องสู้กันแน่ !”
“จ้าวแห่งพายุ ถ้าอยากได้ตำแหน่งนี้ งั้นก็ต้องฆ่าคนที่มีตำแหน่งนี้เหมือนกันและกลืนกินวิญญาณอีกฝ่ายเพื่อก้าวขึ้นไประดับตำนาน !”
“การซื้อใจเกาะเก้าอสรพิษนั้น มันเพื่อการปกป้องตัวเองรึเพื่อฆ่าผู้นำของเกาะพายุ เพื่อที่เขาจะได้ก้าวขึ้นไประดับตำนานให้ได้ การจะทำแบบนั้นได้ต้องมีกองกำลังใหญ่คอยหนุนหลัง”
“เกาะเก้าอสรพิษเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด !”
กั้วโฉวยี่ตาเป็นประกายขึ้นมา “เกาะเก้าอสรพิษ ผู้นำของพวกนั้นคือหนึ่งในวีรบุรุษของโลกนี้ มันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้เขายอมรับได้ !”
“แม้แต่การแต่งงานของคุณหนูตระกูลเหลียนกับนายน้อยของเกาะเก้าอสรพิษ ทว่ามันคงเจรจากันไม่ลงตัวง่าย ๆ แน่ !”
“นอกจากนี้จิ่วเฉอยี่ก็ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมมหา’ลัยที่เมืองหลวงแล้ว พวกนั้นคงไม่อยากมีปัญหา !”
จ้าวฉือเฉิงถามขึ้นมา “หัวหน้า นี่คุณทำเพื่อหลินลั่วเหรอ ?”
“...” กั้วโฉวยี่ยิ้มออกมา “คุณหนูตระกูลเหลียนกับหลินลั่วน่ะชอบพอกัน พวกเขารักกันตั้งแต่เด็ก ในฐานะผู้ใหญ่แล้ว เราจะแยกพวกเขาออกจากกันได้ยังไง”
“นอกจากนี้แล้วประเทศเราก็ให้ความสำคัญกับสิทธิ์และอิสระ การคลุมถุงชนน่ะควรเป็นเรื่องที่เราต้องทิ้งไปกับประวัติศาสตร์ได้แล้ว !”
“หัวหน้า ทำไมรอยยิ้มของคุณถึงดูโรคจิตแบบนี้...”
“ช่างเถอะ....ตอนนี้การแข่งกำลังจะเริ่มแล้ว !”