ตอนที่แล้วกำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 39 เป็นอย่างที่ข้าคาดการณ์ไว้!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปกำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 41 บุคคลผู้แสนอาภัพ

กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 40 ลูกค้าเก่าแนะนำลูกค้าใหม่


กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 40 ลูกค้าเก่าแนะนำลูกค้าใหม่

หอคอยกลไกสวรรค์

หลี่อวิ๋นนอนเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้ยาว ในมือถือตำราโบราณเล่มหนึ่ง

ชื่อว่า... ชีวประวัติมหาจักรพรรดิเทียนอวี่

บันทึกเรื่องราวการเติบโตของมหาจักรพรรดิท่านหนึ่ง ใช้แต้มกลไกสวรรค์เพียงหนึ่งแต้มก็สามารถแลกเปลี่ยนได้มากมาย นับว่าไม่มีมูลค่า ภายนอกมีการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง บรรดาผู้บำเพ็ญต่างเคยได้ยินเรื่องราวของมหาจักรพรรดิท่านนี้

ยามว่าง เขาจึงหยิบขึ้นมาอ่าน

ต้องยอมรับว่า บรรดาผู้ที่เขียนประวัติเหล่านี้ มีฝีไม้ลายมือในการเขียนไม่น้อย บรรยายฉากต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดราวกับได้ไปเห็นด้วยตาตนเอง

หากอยู่ในโลกเดิมของเขา คงเป็นนิยายขายดีอย่างแน่นอน

เพราะว่า

ผู้ที่สามารถเป็นมหาจักรพรรดิได้ ล้วนเป็นผู้ที่ไร้เทียมทาน แม้แต่คนที่แข็งแกร่งกว่าหนึ่งหรือสองระดับ ก็มิอาจเทียบได้

อืม...

ยกเว้นมหาจักรพรรดิหลวนกู่[1]

มหาจักรพรรดิท่านอื่น ล้วนมีเพียงข้าเท่านั้นที่ไร้เทียมทาน ต้องการทำลายแดนต้องห้าม

แต่ดูเหมือนว่ามีเพียงเขาคนเดียว หลังจากเป็นมหาจักรพรรดิแล้ว กลับหลอมสร้างยันต์ป้องกันตัวมากมาย

ไม่ต้องพูดถึงพลังต่อสู้ การเอาตัวรอดนั้นแข็งแกร่งอย่างแท้จริง

"เฮ้อ"

เมื่อมองดูตำรา ขณะที่กำลังพลิกหน้า หลี่อวิ๋นเหลือบมองออกไปนอกประตู ผ่านไปสามวันแล้ว ยังไม่มีลูกค้ามาเยือน ทำให้เขารอจนดอกไม้แทบเหี่ยวเฉา

มีเพียงคนธรรมดาไม่กี่คนเดินเข้ามา ชัดเจนว่าพวกเขามองเขาเป็นหมอดู ต้องการให้ดูดวงเนื้อคู่ ถูกเขาไล่ไปอย่างไม่ใส่ใจ

เมื่อได้ลิ้มรสความร่ำรวยของผู้บำเพ็ญแล้ว สำหรับคนธรรมดา หลี่อวิ๋นก็ไม่สนใจอีกต่อไป

เงินเพียงเล็กน้อย แลกเปลี่ยนเป็นแต้มกลไกสวรรค์ไม่ได้แม้แต่แต้มเดียว นับว่าไร้ค่า

"ท่านผู้อาวุโส เชิญดื่มชาเจ้าค่ะ"

หลิวเฉิงเสวี่ยถือถ้วยชา เดินเข้ามา เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

"อืม...?"

หลี่อวิ๋นพยักหน้า มองหลิวเฉิงเสวี่ยแวบหนึ่ง สายตาเป็นประกาย เอ่ยอย่างประหลาดใจ

"เจ้าทะลวงระดับแล้วหรือ"

ตอนที่พบกันครั้งแรก หลิวเฉิงเสวี่ยยังอยู่ในระดับผสานทวารระยะกลาง ผ่านไปไม่กี่วัน กลับทะลวงไปถึงระดับผสานทวารระยะปลาย ความเร็วเช่นนี้ช่างน่าทึ่ง

ก่อนหน้านี้

หลี่อวิ๋นมักจะกดข่มพลังของหลิวเฉิงเสวี่ยเอาไว้ ต่อมาเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย จึงไม่สนใจอีกต่อไป ไม่นึกเลยว่า หลังจากปลดปล่อยพลัง อีกฝ่ายก็ทะลวงระดับในทันที

พลังเพิ่มขึ้นราวกับติดจรวด

"ทั้งหมดนี้ล้วนต้องขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ชี้แนะ"

หลิวเฉิงเสวี่ยหน้าแดงก่ำ เอ่ยด้วยความเขินอาย

ภายในหอคอยกลไกสวรรค์ เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งมรรคา เพียงแค่อยู่ที่นี่ ก็เหมือนกับกำลังตระหนักมรรค ทุกวันล้วนมีความเข้าใจใหม่ ๆ เกี่ยวกับมรรค

นานวันเข้า พลังก็ทะลวงระดับ

วิธีการอันน่าเหลือเชื่อนี้ ในสายตาของหลิวเฉิงเสวี่ย ย่อมต้องเป็นท่านผู้อาวุโสที่ชี้แนะ เพียงแต่อีกฝ่ายไม่อยากยอมรับ

"นี่เป็นวาสนาของเจ้าเอง เมื่อกลับไปถึงสำนัก อย่าลืมบอกท่านอาจารย์ของเจ้า ให้จ่ายค่าที่พักด้วย อืม... หนึ่งแสนหยวน... เอ่อ... หินวิญญาณระดับสูงสุด!"

หลี่อวิ๋นกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ

"ท่านผู้อาวุโสช่างมีอารมณ์ขันยิ่งนัก"

หลิวเฉิงเสวี่ยกล่าวอย่างสุภาพ

ด้วยตบะระดับท่านผู้อาวุโส หลายสิ่งหลายอย่าง คงไม่จำเป็นต้องใช้ ตัวอย่างเช่นยุทธภัณฑ์ระดับจอมศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขามองว่าล้ำค่า

ในสายตาของท่านผู้อาวุโส คงไม่นับว่าเป็นอะไร

แต่ท่านผู้อาวุโส ทุกครั้งที่มอบข้อมูลให้ผู้อื่น ย่อมต้องได้รับค่าตอบแทน การกระทำเช่นนี้ ในสายตาของหลิวเฉิงเสวี่ย คือการไม่ต้องการให้ใครเป็นหนี้บุญคุณ

ท่านผู้อาวุโสก็คือท่านผู้อาวุโส มีคุณธรรมสูงส่ง ช่างน่าเลื่อมใส

หลิวเฉิงเสวี่ยคิดในใจว่า ตัวนางเองคงทำเช่นนี้ไม่ได้

"อารมณ์ขัน..."

หลี่อวิ๋นพูดไม่ออก

ดูเหมือนว่านางจะสามารถจินตนาการเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมาได้อีกแล้ว

"จริงสิ"

หลี่อวิ๋นปิดตำรา นั่งขึ้น เอ่ยถาม "คุณหนูหลิวเป็นถึงอัจฉริยะรุ่นเยาว์ คงจะรู้จักอัจฉริยะรุ่นเดียวกันเป็นอย่างดี เจ้าคิดว่าในบรรดารุ่นเยาว์ ใครคู่ควรกับตำแหน่งลำดับที่หนึ่ง"

"เอ่อ..."

หลิวเฉิงเสวี่ยชะงักไปครู่หนึ่ง

นี่เป็นการทดสอบนางหรือ

ท่านผู้อาวุโสรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง เหตุใดจึงถามเรื่องนี้

นางครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน เอ่ยถามอย่างลองเชิง

"ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของข้ากระมัง"

หลี่อวิ๋นมุมปากกระตุก ถามต่อ "แล้วเจ้าคิดว่าใครคู่ควรกับตำแหน่งลำดับที่สอง"

"ศิษย์พี่รองของข้ากระมัง"

"..."

หลี่อวิ๋นพูดไม่ออก

เขาเข้าใจแล้ว หลิวเฉิงเสวี่ยเป็นคนที่ชื่นชมสำนักกระบี่ต้าหลัว นอกจากคนในสำนักแล้ว คนอื่นล้วนเป็นเพียงไก่ป่า หมาวัด ลำดับที่หนึ่งคือศิษย์พี่หญิงใหญ่ของนาง

ลำดับที่สองคือศิษย์พี่รองของนาง

ส่วนลำดับที่สาม ไม่ต้องถาม

ย่อมต้องเป็นนาง

ราวกับว่า วีรบุรุษใต้หล้านี้ล้วนด้อยกว่านาง

"แต่..."

บนใบหน้าของหลี่อวิ๋นปรากฏความครุ่นคิด เขามองหลิวเฉิงเสวี่ยแวบหนึ่ง คิดในใจ "นี่ช่างเป็นโอกาสอันดี!"

ในโลกแห่งการบำเพ็ญนี้ คนที่คิดเช่นเดียวกับหลิวเฉิงเสวี่ยคงมีไม่น้อย หญิงสาวที่ไร้เดียงสา คิดว่าศิษย์พี่ของตนแข็งแกร่งที่สุดในโลก

หากเขาทำเช่นเดียวกับแป๊ะเอี๊ยะในโลกบู๊ลิ้ม สร้างรายนามอัจฉริยะรุ่นเยาว์ขึ้นมา มิใช่ว่าจะได้ประโยชน์สองต่อเลยหรือ

ด้านหนึ่ง ทำลายความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ของพวกนาง

อีกด้านหนึ่ง สร้างชื่อเสียงให้กับหอคอยกลไกสวรรค์

สมบูรณ์แบบ!

แม้ว่าวิธีการนี้จะดูโหดร้าย แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นวิธีการที่ดี

ขณะที่หลี่อวิ๋นกำลังครุ่นคิดว่าจะทำเช่นไร

ภายนอกหอคอยกลไกสวรรค์ เงาร่างสองร่างค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ เมื่อมาถึงประตู ทั้งสองหยุดก้าว เจ้าเมืองต้าฮวงก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เอ่ยด้วยความเคารพ

"ท่านผู้อาวุโส ข้าน้อยขอเข้าพบ!"

"โอ้"

เมื่อได้ยินเสียง หลี่อวิ๋นก็หันไปมอง เมื่อเห็นผู้มาเยือน ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม "ท่านเจ้าเมืองไม่ต้องเกรงใจ เชิญเข้ามาได้เลย"

"ขอบพระคุณท่านผู้อาวุโส"

ได้ยินเสียงของหลี่อวิ๋น เจ้าเมืองต้าฮวงก็รู้สึกโล่งใจ

ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสผู้นี้จะจดจำเขาได้ มิได้ปฏิเสธที่จะพบเขา

เจ้าเมืองต้าฮวงและเป่ยเฉินเหิงเดินเข้ามาในหอคอยกลไกสวรรค์

หลี่อวิ๋นมองทั้งสองแวบหนึ่ง ดวงตาเป็นประกาย

นี่มันลูกค้าเก่ามาแนะนำลูกค้าใหม่หรือ

ไม่นึกเลยว่าเขาจะมองข้ามคนผู้นี้ไป

เหรินชิงถูกับหยางชิว สองยอดฝีมือระดับจอมศักดิ์สิทธิ์ กลับไม่น่าเชื่อถือเท่ากับเจ้าเมืองต้าฮวงผู้นี้ รู้เช่นนี้คงไม่มอบวาสนาให้พวกเขา

[1] มหาจักรพรรดิหลวนกู่ มาจากนิยายจีนเรื่อง 遮天 ขณะเติบโต เขาพ่ายแพ้มาตลอดทาง ต่างจากมหาจักรพรรดิคนอื่นที่ไร้เทียมทาน แพ้จนเกือบหัวใจเต๋าแตกสลาย ไม่เคยได้วาสนา พอได้วาสนาหนึ่งครา ก็บรรลุมหาจักรพรรดิ หวาดระแวงสุดขีด

5 1 โหวต
Article Rating
11 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด