กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 32 นี่มัน... ค่ายกลระดับศักดิ์สิทธิ์
กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 32 นี่มัน... ค่ายกลระดับศักดิ์สิทธิ์
“เชิญท่านเจ้าเมืองเข้ามา”
หลี่อวิ๋นยื่นมือเชิญ
สำหรับเจ้าเมืองต้าฮวงผู้นี้ เขานั้นรู้จักมาเนิ่นนาน
แม้ยังไม่ได้พบหน้า
แต่อีกฝ่ายกลับส่งสมบัติเวทระดับเหนือสวรรค์มาให้ ถือว่าใจกว้างยิ่งนัก หากวันนี้เขาสามารถขายข้อมูลอะไรสักอย่างได้ คงทำกำไรได้มากมาย!
“มิกล้าขอรับ มิกล้า”
เจ้าเมืองต้าฮวงส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว โค้งคำนับ กล่าวว่า “ผู้อาวุโสเชิญก่อนเลยขอรับ”
“ฮ่า ฮ่า”
หลี่อวิ๋นหัวเราะเบา ๆ ไม่กล่าวอะไร หันหลังกลับเข้าไปในหอคอยกลไกสวรรค์
เจ้าเมืองต้าฮวงเดินตามหลังอย่างระมัดระวัง
ทั้งสองเข้าไปในโถงหลัก
หลิวเฉิงเสวี่ยรินชาร้อนใส่ถ้วยสองถ้วย เดินเข้ามาหาพวกเขา
เห็นดังนั้น
เจ้าเมืองต้าฮวงก็รู้สึกตกใจ
เห็นได้ชัดว่า
หานเฟิงไม่ได้หลอกลวงเขา ศิษย์แกนหลักของสำนักกระบี่ต้าหลัว กลับมาเป็นสาวใช้ที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครู่ประมุขต้าหลัวก็มาที่นี่
แต่กลับไม่มีท่าทีใด ๆ
นั่นหมายความว่าอย่างไร
หมายความว่า ประมุขต้าหลัวยอมรับเรื่องนี้!
“ผู้อาวุโส เชิญดื่มชาเจ้าค่ะ”
หลิวเฉิงเสวี่ยเดินมาถึงเบื้องหน้าหลี่อวิ๋น กล่าวอย่างนอบน้อม
“ขอบคุณ”
หลี่อวิ๋นรับถ้วยชา เอ่ยขอบคุณ
แม้หลิวเฉิงเสวี่ยจะพักอาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราว แต่เขาไม่เคยมองนางเป็นสาวใช้ ยิ่งไปกว่านั้น หอคอยกลไกสวรรค์ก็ไม่ต้องการสาวใช้
ทุกสิ่งทุกอย่าง เขาเพียงแค่คิดก็สามารถทำได้
ภายในหอคอยกลไกสวรรค์ เขาไม่ต่างอะไรกับผู้สร้าง แม้จะไม่ถึงขั้นเอ่ยสิ่งใดก็เป็นจริงดั่งใจนึก แต่ก็ไม่มีใครสามารถต่อกรกับเขาได้
“ผู้อาวุโสเกรงใจเกินไปแล้วเจ้าค่ะ”
หลิวเฉิงเสวี่ยรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง มีสักกี่คนที่ได้รับคำขอบคุณจากท่านผู้อาวุโส นับตั้งแต่นางรู้จักท่านผู้อาวุโส ดูเหมือนว่านางจะเป็นคนแรก
จากนั้น
หลิวเฉิงเสวี่ยเดินไปหาเจ้าเมืองต้าฮวง
ยังไม่ทันเดินเข้าไปใกล้
เจ้าเมืองต้าฮวงก็รีบลุกขึ้นยืนอย่างลุกลี้ลุกลน กล่าวว่า “คุณหนูไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ข้าน้อยทำเองได้”
หลี่อวิ๋นสามารถเพิกเฉยต่อหลิวเฉิงเสวี่ยได้ แต่เขาไม่กล้า เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงศิษย์แกนหลักของสำนักกระบี่ต้าหลัว ฐานะสูงส่งยิ่งนัก
เบื้องหลังยังมีประมุขต้าหลัวหนุนหลัง ยิ่งใหญ่กว่าเขาที่เป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มากนัก
หลิวเฉิงเสวี่ยยิ้ม ไม่ใส่ใจ วางถ้วยชาลง หันหลังกลับ
หลิวเฉิงเสวี่ยจากไปแล้ว
หลี่อวิ๋นจึงเปิดแผงข้อมูลของเจ้าเมืองต้าฮวงขึ้น สายตาเหลือบมองเพียงแวบเดียว ก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ เขาถอนหายใจเบา ๆ กล่าวว่า
“ความตั้งใจของเจ้าเมือง ข้ารู้ดีอยู่แล้ว หากเจ้าเมืองต้องการให้หอคอยกลไกสวรรค์ปกป้องเมืองต้าฮวง คงต้องทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว”
“นี่?”
เจ้าเมืองต้าฮวงตกใจจนหน้าซีด ร่างกายสั่นเทา มือที่ถือถ้วยชา สั่นอย่างรุนแรงจนน้ำชาหกเลอะเทอะ
เขายังไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา เหตุใดผู้อาวุโสจึงรู้
“เรื่องนี้...”
เจ้าเมืองต้าฮวงฝืนยิ้มออกมา ราวกับจะร้องไห้ เอ่ยถามอย่างแผ่วเบา “ผู้อาวุโสคงรังเกียจเมืองเล็ก ๆ อย่างเมืองต้าฮวงใช่หรือไม่”
“ย่อมมิใช่”
หลี่อวิ๋นส่ายหน้า
เมืองต้าฮวงเป็นสถานที่ที่เขาอยู่อาศัย
อันที่จริง
การที่เจ้าเมืองต้าฮวงต้องการขอให้เขาปกป้องเมืองต้าฮวง
เขาก็อยากตอบตกลงเช่นกัน
เพราะว่าเขาก็ไม่อยากเห็นเมืองต้าฮวงถูกทำลาย
แต่ว่าตบะของเขายังอ่อนแอเกินไป หอคอยกลไกสวรรค์ปกป้องได้เพียงตัวเขา ไม่อาจปกป้องเมืองต้าฮวงได้
แทนที่จะรอให้เจ้าเมืองต้าฮวงเอ่ยขอ เขาจึงตัดสินใจปฏิเสธไปก่อน
มิเช่นนั้น
หากวันใดวันหนึ่ง เมืองต้าฮวงถูกทำลายจริง ๆ เขาคงทำอะไรไม่ได้
“เช่นนั้นเพราะเหตุใดเล่า”
เจ้าเมืองต้าฮวงลุกขึ้นยืน กล่าวอย่างตื่นเต้น “ผู้อาวุโสโปรดทราบ ข้าน้อยเดินทางมาวันนี้ ได้เตรียมของกำนัลล้ำค่าไว้แล้ว เป็นสมบัติคุ้มครองตระกูล ขอนำมามอบให้ผู้อาวุโส...”
“ตราบใดที่ผู้อาวุโส...”
“ไม้อมตะหมื่นปีหรือ”
หลี่อวิ๋นเอ่ยขึ้น
“หา...?”
เจ้าเมืองต้าฮวงที่กำลังพูดอย่างกระตือรือร้น ก็เหมือนถูกบีบคอ ใบหน้าแดงก่ำ พูดไม่ออก
สิ่งที่เขาต้องการจะพูด สิ่งที่เขาต้องการจะทำ
ผู้อาวุโสเบื้องหน้า รู้ล่วงหน้าไปหมดแล้ว
เกิดอะไรขึ้น
เขาใช้ชีวิตมานานหลายร้อยปี
อันที่จริง
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบเจอเรื่องเช่นนี้
“ผู้อาวุโส ไม้อมตะหมื่นปีนั้น...”
“ข้ารู้ดี เป็นวัสดุที่ใช้หลอมสร้างอาวุธศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่”
หลี่อวิ๋นกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
เมื่อครู่เขาตรวจสอบข้อมูลในระบบ
ไม้อมตะหมื่นปี มีค่าไม่น้อย สามารถแลกเปลี่ยนเป็นแต้มกลไกสวรรค์ได้เก้าพันแปดร้อยแต้ม แพงกว่ายุทธภัณฑ์ระดับจอมศักดิ์สิทธิ์เสียอีก
“เรื่องนี้...”
“ดูเหมือน... ข้าน้อยจะคิดมากไปเองฝ่ายเดียว”
เจ้าเมืองต้าฮวงรู้สึกสิ้นหวัง
วัสดุระดับศักดิ์สิทธิ์นั้นหายากยิ่งนัก แม้แต่ปราชญ์ระดับศักดิ์สิทธิ์หลายคนยังต้องหมายตา แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่อาจทำให้เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์สนใจ
เขาประเมินค่าของวัสดุระดับศักดิ์สิทธิ์สูงเกินไป และประเมินค่าของเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ต่ำเกินไป
เจ้าเมืองต้าฮวงฝืนยิ้มออกมา กำลังจะขอตัวลา
แต่หลี่อวิ๋นกลับเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“เจ้าเมืองอาจจะเข้าใจผิด ข้าเพียงแต่บอกว่าไม่อาจปกป้องเมืองต้าฮวงได้ แต่ไม่ได้บอกว่าจะไม่ค้าขาย ตอนนี้ข้ามีบางอย่างต้องการขาย ไม่รู้ว่าเจ้าเมืองสนใจหรือไม่”
“อืม?”
เจ้าเมืองต้าฮวงที่กำลังจะก้าวออกไป ก็หยุดฝีเท้าทันที ในดวงตาปรากฏความยินดี
“ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสต้องการขายสิ่งใด”
“เพียงค่ายกลหนึ่งชุดเท่านั้น”
หลี่อวิ๋นหัวเราะเบา ๆ ยกมือขึ้น แสงสว่างวาบผ่าน ในมือของเขาปรากฏผ้าแพรผืนหนึ่งขึ้นมา บนนั้นเต็มไปด้วยสัญลักษณ์มากมาย และเส้นสายที่ซับซ้อน
ปรากฏขึ้นเพียงชั่วครู่
หลี่อวิ๋นก็โยนผ้าแพรผืนนั้นให้เจ้าเมืองต้าฮวง
เจ้าเมืองต้าฮวงรับผ้าแพรมา มองดูอย่างละเอียด เหงื่อเย็นพลันผุดขึ้นบนหน้าผาก เขาเงยหน้าขึ้นอย่างยากลำบาก เอ่ยถาม
“ผู้อาวุโส นี่มัน... ค่ายกลระดับศักดิ์สิทธิ์หรือ”