บทที่ 73 ข้อตกลงหลอมโอสถ
เมื่อได้ยินคำเอ่ยถามของโม่หลิน หลัวเฉิงก็ชะงักหยุดแล้วเอียงศีรษะมาครึ่ง “ก็ถ้าหากท่านไม่เชื่อ แล้วเหตุใดจึงต้องตามหาข้า”
เถ้าแก่ซูรีบเปิดปากอธิบายอย่างรวดเร็ว
“ผู้อาวุโสโม่หลิน นี่เป็นเรื่องจริง ข้าเคยเห็นโอสถเกล็ดมังกรที่ถูกหลอมเอาแก่นแท้จนเกือบจะบริสุทธิ์ไร้ที่ติมาแล้วกับตา”
“เจ้าเป็นคนระดับไหน เคยเห็นโอสถมามากเพียงใด แม้นเป็นข้าก็ยังไม่เคยเห็นผู้ใดหลอมโอสถเกล็ดมังกรจนบริสุทธิ์เลยสักครั้ง สมุนไพรของข้านี้ถูกรวบรวมมาอย่างยากลำบาก ไหนเลยข้าจะยอมให้เกิดความผิดพลาดได้”
โม่หลินเหลือบมองเถ้าแก่ซูด้วยแววตาไม่แยแส เห็นได้ชัดว่าเขาหาได้เชื่อวาจาของเถ้าแก่ซูแม้แต่น้อย
“นี่ท่าน……”
แม้นเถ้าแก่ซูจะอยากเอ่ยคัดค้าน แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะกล่าวคำใดอีก
เพราะตัวเขานั้น เป็นเพียงนักปรุงโอสถระดับต่ำสุดของศาลาหลิงอวิ๋น หากมิใช่เพราะลั่วเหยา ไหนเลยเขาจะได้มายืนกล่าวอยู่ตรงนี้ต่อหน้าโม่หลิน
ลั่วเหยากลอกตาแล้วเสนอทางออกของปัญหา “ผู้อาวุโสโม่ ข้าขอเสนอทางเลือกหนึ่ง ไฉนท่านไม่ลองให้เขาหลอมโอสถวิญญาณหนึ่งเม็ดเสียก่อน หากว่ามันเกิดล้มเหลวขึ้นมา ท่านจะได้ไม่ต้องสูญเสียมากนัก คุณชายหลัวเฉิงท่านคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้”
หลัวเฉิงแค่ต้องการค่าตอบแทนที่สูงขึ้นและไม่อยากทำให้เรื่องนี้วุ่นวาย เขาจึงพยักหน้าทันที
“ตกลง อย่างไรก็ตาม อาจารย์ของข้าก็มีกฎไว้ว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนเสียก่อน”
“ช่างเป็นกฎที่เรื่องมากเสียจริง!”
โม่หลินตะคอก จากนั้นเขาเอื้อมมือไปแตะที่แหวน แล้วหยิบหญ้าวิญญาณสูงหนึ่งชุ่นออกมา
หญ้าวิญญาณนั้นมีรูปลักษณ์คล้ายผลึกใส พร้อมกับดวงดารามากมายที่เคลื่อนไหวอยู่ภายใน ซึ่งมันแผ่กลิ่นอายอันน่าดึงดูดออกมา
“นี่คือสมุนไพรระดับสี่ดาวหญ้าพันดารา ข้าใช้เวลามากกว่าหนึ่งปีจึงหามันพบ หลังจากรอนแรมไปยังสถานที่อันตรายมากมายสุดคณานับ มูลค่าของมันมากกว่าหนึ่งล้านห้าแสนตำลึง!”
โม่หลินหยิบหญ้าพันดาราด้วยความระมัดระวัง ก่อนสายตาจะพลันจับจ้องยังหลัวเฉิง
“แน่นอนว่าข้าสามารถให้ค่าตอบแทนเจ้าล้านตำลึงก่อนได้ แต่หากเจ้าทำลายสมุนไพรของข้าเล่าจะว่าอย่างไร”
ในฐานะนักปรุงโอสถระดับเจ็ดดาว โม่หลินสามารถหลอมโอสถระดับสี่ดาวให้บริสุทธิ์ได้มากถึงหกสิบหรือเจ็ดสิบส่วน
ด้วยมุมมองจากประสบการณ์ของเขา การหลอมโอสถระดับสี่ดาวให้บริสุทธิ์ เป็นเพียงเรื่องเพ้อฝันเท่านั้น!
เว้นก็แต่ว่า เบื้องหลังของหลัวเฉิงนั้นจะมีราชาโอสถจริงๆ!
แต่ด้วยเหตุผลหลายประการมันบอกกับโม่หลินว่า ไม่มีทางที่ผู้ยิ่งใหญ่อย่างราชาโอสถจะมาอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ได้!
ยิ่งไปกว่านั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้ยิ่งใหญ่อย่างราชาโอสถจะยอมรับหลัวเฉิงผู้มีวิญญาณยุทธ์ขยะเป็นศิษย์ของตน
อย่างไรก็ตาม เหตุผลเหล่านั้นย่อมไม่สำคัญในยามนี้ เนื่องจากปัญหาการหลอมโอสถให้บริสุทธิ์ของโม่หลิน เขาล้มเหลวในการหลอมโอสถวิญญาณอยู่หลายครั้ง ซึ่งนั่นสูญเสียทั้งความพยายามและทรัพยากรไปเป็นจำนวนมาก
ด้วยเรื่องเช่นนี้ เขาจึงไม่อาจล้มเหลวอีกครั้งได้!
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม เขาจึงได้ออกเดินทางหลายพันลี้เพื่อมายังเมืองฉีซานด้วยตนเอง ทันทีที่ได้รับข่าวเรื่องราชาโอสถจากลั่วเหยา
หลัวเฉิงมั่นใจในสัญลักษณ์เกล็ดเก้าสีบนฝ่ามือมาก จึงตอบออกไปอย่างฉะฉาน
“หากล้มเหลว อาจารย์ของข้าจะจ่ายค่าเสียหายให้ท่านเป็นสองเท่า!”
ด้วยวาจาที่แสดงความเด็ดขาดของหลัวเฉิง ทำให้โม่หลินรู้สึกประหลาดใจใช่น้อย
หรือว่า เบื้องหลังของเจ้าหนุ่มนี่จะมีราชาโอสถอยู่จริงๆ?
“ดี!”
เขาระงับความสงสัยในใจเอาไว้ก่อน จากนั้นจึงมอบกล่องหยกให้กับหลัวเฉิงทันที
ลั่วเหยาได้เตรียมเงินกองหนึ่งไว้ให้หลัวเฉิงแล้ว “คุณชายหลัว นี่คือค่าตอบแทนล้านตำลึงสำหรับท่าน”
หลัวเฉิงส่ายศีรษะพลางกล่าวว่า “ท่านช่วยเปลี่ยนเป็นสมุนไพรให้ข้าได้หรือไม่ หากเป็นสมุนไพรระดับสามดาวจะดีมาก”
“โอ้?”
ดวงตางดงามของลั่วเหยากระพริบขณะครุ่นคิด “สมุนไพรสามดาวมีมูลค่าประมาณสองแสนห้าหมื่นตำลึง ในศาลาของเราตอนนี้มีสมุนไพรสามดาวเพียงสามชิ้นเท่านั้น ส่วนที่เหลือสามารถทดแทนด้วยสมุนไพรสองดาวได้หรือไม่”
“ไม่มีปัญหา”
ไม่นานนักจากนั้น ลั่วเหยาก็ขอให้เถ้าแก่ซูช่วยนำสมุนไพรขึ้นมา
มีสมุนไพรสามดาวทั้งหมดสามชิ้น และสมุนไพรสองดาวสี่ชิ้น
เมื่อมองยังสมุนไพรเหล่านี้ ดวงตาของหลัวเฉิงก็เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นทันที
ด้วยสมุนไพรเหล่านี้ เขาต้องสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ได้อย่างแน่นอน!
ลั่วเหยาแย้มยิ้มหวานกล่าวว่า “คุณชายหลัว อาจารย์ของท่านจะหลอมหญ้าพันดาราสำเร็จตอนไหน”
“ภายในสามวัน!”
หลัวเฉิงแทบรอไม่ไหวที่จะกลับไปฝึกฝน ดังนั้นเขาจึงรีบเก็บสมุนไพรทั้งหมด แล้วยืนขึ้นเพื่อกล่าวคำอำลาทันที
ลั่วเหยากล่าวว่า “เถ้าแก่ซู โปรดส่งคุณชายหลัวกลับด้วย”
“ขอรับคุณหนู คุณชายหลัว เชิญ!”
เถ้าแก่ซูผายมือไปด้านหน้าด้วยท่าทางเคารพ จากนั้นตามไปส่งหลัวเฉิงทันที
“แปลก! ช่างแปลกยิ่งนัก!”
เมื่อเห็นว่าทั้งสองหายลับตาไปแล้ว โม่หลินก็สายศีรษะด้วยความฉงนสงสัยยิ่ง
ลั่วเหยาเห็นอากับกิริยาเช่นนั้น จึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “ผู้อาวุโสโม่ มีสิ่งใดผิดปกติงั้นหรือ?”