บทที่ 67 อุปกรณ์ที่ประสบความสำเร็จ?
"ข้ามิกล้าล่าช้าเลยแม้แต่น้อยหลังจากได้รับมอบหมายจากท่านเมื่อสองวันก่อน ข้าทํางานล่วงเวลามาตลอดสองคืน และในที่สุดข้าก็ทําอุปกรณ์เวทมนตร์ได้แล้ว" เหวินหยู่หลงอธิบาย
เขาดูตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ใบหน้าของเขามีสัญญาณของความเหนื่อยล้า เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะเขาไม่ได้นอนเป็นเวลาหลายวัน
หนุ่มคนนี้ดูเรียบร้อยแต่บ้างานดีจริงๆ
ชูเหลียงหัวเราะ “ขอคุณสำหรับการทำงานอย่างหนักขอรับ ดูจากสีหน้าของท่านที่พอจะดูดีอยู่บ้าง มันประสบความสำเร็จหรือขอรับ”
"ใช่แล้วขอรับ!" เหวินหยู่หลงพยักหน้าติดต่อกัน จากนั้นเขาก็ยกใบไม้สีเขียวขนาดเท่าฝ่ามือขึ้นมา "นี่เป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ชิ้นแรกที่ข้าสร้างสําเร็จเลยขอรับ"
ชูเหลียงรับใบไม้ดังกล่าวมาดูอย่างละเอียด
เดิมทีใบไม้ที่เขาให้ไปก็หนาอยู่แล้ว แต่เมื่อผ่านกระบวนการทำอุปกรณ์วิเศษ ตอนนี้มันดูหนาขึ้นไปอีก เส้นใบบนใบไม้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงและตอนนี้บนใบไม้มีคําจารึกที่ซับซ้อนมากมาย จารึกเหล่านี้มีความคลุมเครือและดูดีกว่าอักขระทั่วไป
ชูเหลียงผู้ศึกษาอักขระมาหลายวันก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมกับทักษะของเหวินหยู่หลง
"ท่านชู ลองใช้มันดูสิขอรับ" เหวินหยู่หลงกล่าว
"ได้เลย" ชูเลี่ยงพยักหน้า
เขาค่อยๆ ฉีดพลังชี่ของเขาเข้าไปในใบไม้และใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาเพื่อรับรู้จารึกในใบไม้ จากนั้นเขาก็ใช้พลังเพื่อใช้งานใบไม้
ใบไม้ลอยขึ้นสู่อากาศและบินวนอยู่ในอากาศในแนวนอน และขยายใหญ่แผ่ออกยาวประมาณสิบจางและมีลักษณะคล้ายพรมบิน
เขาใช้งานชุดจารึกชุดแรกที่จารึกไว้บนใบไม้เพื่อบิน
ชูเหลียงลอยขึ้นไปเหยียบบนใบไม้สีเขียวขนาดใหญ่ เขารู้สึกเหมือนเขาเหยียบบางอย่างที่แข็งราวกับกระเบื้อง
ภายใต้สถานการณ์ปกติ เมื่อผู้ฝึกฝนระดับเดียวกับชูเหลียงใช้อุปกรณ์วิเศษในการบิน ความเร็วในการบินของพวกเขาจะอยู่ระหว่างการขี่ลมและกระบี่บิน เครื่องมือเวทมนตร์ในการบินมีความเร็วในการบินช้ากว่ากระบี่บินเล็กน้อย แต่พวกมันจะให้ประสบการณ์การบินที่สะดวกสบายกว่า โดยเฉพาะการบินในระยะไกล โดยทั่วไปการใช้อุปกรณ์เวทมนตร์ในการบินจะทำให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ชูเหลียงคิดว่าใบไม้จะนุ่มสบายเหมือนกองใบไม้ อย่างไรก็ตาม เหวินหยู่หลงกลับทําให้มันแข็งกว่ากระบี่บินหลายเท่า อย่างไรก็ตาม นี่อาจเป็นเพราะเหวินหยู่หลงอายุยังน้อยและขาดประสบการณ์ ดังนั้นชูเหลียงจึงไม่มีความตั้งใจที่จะบ่นเกี่ยวกับปัญหาเล็กน้อยนี้
จากนั้นชูเหลียงก็ยกนิ้วขึ้นและผลักใบไม้ให้เคลื่อนไหวเบา ๆ
ใบไม้ก็ปรากฏแสงสีเขียวรูปพระจันทร์เสี้ยวโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าและพุ่งออกไปข้างหน้าทันที
"เห้ย" ชูเหลี่ยงอุทาน
เขาตีลังกาจากกลิ้งตกจากใบไม้และเดินโซเซเมื่อเขาลงจอด
ชูเหลียงไม่ได้กระโดดลงมา ใบไม้สีเขียวบินเร็วมากจนเขาตั้งตัวไม่ทันและพลัดตกลงมาเอง เขาไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันและรวดเร็วจนชี่ที่เท้าของเขาล้มเหลวในการจับใบไม้ แรงผลักเหวี่ยงเขาหมุนเสียหลักอยู่กลางอากาศและพลิกคว่ำลงมา
ถ้าเขาไม่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาอาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ
"ท่านชู!" เหวินหยู่หลงกรีดร้องด้วยความตกใจ
"มันไปไหนแล้ว" ชูเหลียงตอบ
หลังจากนั้นไม่นานแสงสีเขียวนั้นบินออกจากสายตาของพวกเขาและพุ่งตรงไปอย่างรวดเร็ว มันผ่านตรงกลางของต้นไม้หนาและแข็งแรงหลายต้นบนเนินเขาและตัดพวกมันแต่ต้นขาดจากตออย่างเนียนตา
ชูเหลียงและเหวินหยู่หลงรีบไล่ตามไปไกล พวกเขาไล่ไปจนถึงขอบของยอดเขาหยินเจี้ยนและเห็นเพียงใบไม้สีเขียวขนาดใหญ่ฝังอยู่บนเนินผาซึ่งยังคงส่องแสงอยู่
โชคดีที่ชูเหลียงระมัดระวังและฉีดพลังชี่เข้าไปในใบไม้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าเขาใช่พลังชี่อย่างไม่ระวังใครจะรู้ว่ามันจะบินได้ไกลแค่ไหน มันอาจถึงขั้นพุ่งชนอะไรบางอย่างระหว่างทางจนทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ได้เลย
ปกติชูเลี่ยงสามารถควบคุมอุปกรณ์เวทมนตร์ได้ด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ แต่ใบไม้ยักษ์นี้เร็วเกินไป เมื่อเขาตกลงบนพื้นดิน ใบไม้ก็อยู่นอกเหนือการควบคุมของสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาไปแล้ว
พูดง่ายๆ ก็คือ ใบนี้ทรงพลังมากเกินไป มันเปรียบเสมือนรถสปอร์ตที่มีเครื่องยนต์ทรงพลัง ชูเหลียงเพียงแค่เหยียบคันเร่งเบาๆ จู่ๆ ก็ได้เผชิญกับวิกฤติความเป็นความตายเสียอย่างนั้น
เขาเรียกใบไม้เขียวกลับมาและให้มันลอยอยู่กลางอากาศอีกครั้ง
ในที่สุดชูเหลียงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาหันไปมองเหวินหยูหลง
"ท่านเหวิน นี่มันช่าง.."
"ท่านรู้สึกอย่างไร พอใจหรือไม่" เหวินหยู่หลงถามด้วยความหลงใหล "ข้าเพิ่มศักยภาพของวัสดุและเพิ่มการผสมผสานที่ดีที่สุดของคำจารึก สำหรับส่วนผสมนี้ฉันต้องใช้สมองและจินตนาการอย่างหนัก ส่วนความเร็วของมันท่านก็ได้สัมผัสกับตัวเองแล้วว่ามันน่าอัศจรรย์ใช่หรือไม่ขอรับ"
ชูเหลียงเม้มปาก "..."
ข้าควรจะตอบอย่างไรเล่า..
ชูเหลียงไม่ต้องการที่จะดับความกระตือรือร้นของเหวินหยู่หลง เขาจึงพูดช้าๆ ว่า "ท่านพูดถูก มันน่าอัศจรรย์มาก แต่ข้ากังวลว่า…”
"แม้มันเป็นอุปกรณ์ในการบิน แต่มันไม่สามารถใช้ในการบินได้"
"หือ เพราะเหตุใดเล่า" เหวินหยู่หลงถามอย่างสงสัย
"ท่านก็เพิ่งจะเห็น ข้าควบคุมมันไม่ได้เลย..." ชูเหลียงอธิบายอย่างสุภาพ
เขาคิดว่าไม่มีใครในระดับการตระหนักรู้ทางจิตวิญญาณจะสามารถควบคุมใบไม้นี้ได้ แม้แต่สําหรับผู้ฝึกฝนในระดับแกนกลางทองคํา การควบคุมมันคงจะถือว่าท้าทายอยู่ดี
"แต่.. นั่นก็เป็นปัญหาของท่านแล้วขอรับ" เหวินหยู่หลงพูดอย่างสับสน
เมื่อเห็นเหวินหยู่หลงกล่าวอย่างมั่นใจ ชูเหลียงถึงกับคิดว่า คำพูดของเหวินหยู่หลงมีเหตุผล อย่างไรก็ตาม
ข้าจ้างเขาสำหรับทำอุปกรณ์เวทมนตร์ให้ข้า แต่เขาสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ข้าไม่สามารถควบคุมได้มา ไม่ว่าข้าจะคิดอย่างไร มันก็ฟังดูแปลก
อย่างไรก็ตาม ชูเหลียงต้องยอมรับว่าความสามารถในการสร้างเหวินหยู่หลงนั้นเกินความคาดหมายของเขามาก ของระดับนี้ดูไม่เหมือนผลผลิตจากค่าจ้างเพียง 70 เหรียญกระบี่เลย
เหวินหยู่หลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วค่อยๆ พูดด้วยน้ําเสียงสงบ “จริงๆ แล้วฐานในระดับการบ่มเพาะของท่านไม่น่าจะมีปัญหาใด ปัญหาอาจเป็นการควบคุมสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของท่านที่ไม่ยืดหยุ่นพอ นี่เป็นแง่มุมที่ผู้บ่มเพาะมักมองข้ามเมื่อใช้อุปกรณ์เวทมนตร์ ท่านชู หากท่านฝึกฝนมันให้ดี ข้าเชื่อว่าท่านจะสามารถปรับตัวเข้ากับเครื่องมือวิเศษนี้ได้ในไม่ช้า
ชูเหลียงรู้สึกถูกโน้มน้าวพอสมควร แต่เขาก็ยังอดรู้สึกไม่ได้ มันราวกับว่าเขาอยากซื้อจักรยาน แต่พ่อค้าส่งเฮลิคอปเตอร์มา จากนั้นพ่อค้าบอกว่า ท่านสามารถขับเฮลิคอปเตอร์ได้เพียงแค่ขยันฝึกซ้อมและได้รับใบอนุญาตนักบิน
เห้อ..
หลังจากถอนหายใจในใจ ชูเหลียงก็ตอบได้เพียงแค่การยิ้มอย่างแจ่มใส
จากนั้นเขาก็หันไปหาใบไม้และพูดว่า “มาทดสอบความสามารถในการป้องกันของมันเถอะ”
โชคดีที่ชูเหลียงขอเพิ่มชุดจารึกเป็น 2 ชุด ความสามารถในการบินของใบไม้ไม่สามารถใช้งานได้ แต่ความสามารถในการป้องกันของมันยังคงมีความหวัง
"ได้สิขอรับ" เหวินหยู่หลงพยักหน้าอย่างกระตือรือร้นและเต็มไปด้วยความคาดหวัง "ท่านชู ท่านเปิดใช้งานจารึกก่อน แล้วข้าจะโจมตีท่านเพื่อให้ท่านได้สัมผัสกับการป้องกันของมันนะขอรับ"
หลังจากกลับสู่ความสงบแล้ว ชูเหลียงก็ใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาเติมลงไปในใบไม้เขียวอีกครั้งเพื่อเปิดใช้งานจารึกที่เสริมสร้างการป้องกัน
มีแสงสีเขียวล้อมรอบเขา
ฉากตรงหน้ากลายเป็นสีเขียวที่มีชีวิตชีวา ต่อด้วยข้างหลังเขา ข้างซ้ายและข้างขวา ข้างบนและล่าง สีเขียวสดใสล้อมรอบเขาไปหมด ราวกับว่าใบไม้เขียวยักษ์ได้ห่อชูเหลียงไว้แล้ว
เขาอยากขยับเล็กน้อยแต่กลับพบว่าขยับไม่ได้เลยนอกเสียจากว่าขะใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ปลดแอกตัวเองออกจากม่านพลังนี้ หลังจากเขาถูกห่อไว้แล้ว ใบไม้เขียวก็แข็งแรงมาก มากเสียจนเขาสงสัยว่าเขาจะทําให้มันเคลื่อนไหวได้อย่างไร
ยอดเยี่ยม.. ข้าคิดว่าข้ากลายเป็นก้อนบ๊ะจ่างที่ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ไปเสียแล้ว
เหวินหยูหลงโจมตีนอกใบไม้ แต่ข้างในมีเพียงร่องรอยอ่อนๆ เท่านั้น สิ่งที่ชูเหลียงสัมผัสได้คือแรงกระเพื่อมในชี่ของเขา
สักพักชูเหลียงก็ใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ปลดแอกตัวเองออกมา ใบเขียววูบวาบกะทันหันและกลับสู่สภาพเดิม
เหวินอยู่หลงยิ้มและกล่าวว่า "พี่ชู ข้าเพิ่งโจมตีท่านอย่างเต็มกําลัง แต่ข้าแน่ใจว่าหัวใจของท่านไม่สั่นสะเทือนแม้แต่น้อย ใช่หรือไม่ ควบคู่ไปกับคําจารึกที่ฉันสลักไว้ การโจมตีของผู้บ่มเพาะในระดับที่สี่ธรรมดาไม่สามารถทําลายแนวป้องกันนี้ได้อย่างแน่นอน
ชูเหลียงพยักหน้าเห็นด้วย
ใบไม้สีเขียวดูดซับการโจมตีทั้งหมดของเหวินหยู่หลงในขณะที่ชูเหลียงอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบภายใน
แต่..
ชูเหลียงพูดอย่างลังเลเล็กน้อยว่า ท่านเหวิน เครื่องป้องกันนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ แต่เมื่อข้าถูกห่ออยู่ภายใน ข้าขยับตัวไม่ได้เลย"
เหวินหยูหลงเกาหัวและตอบ "แน่นอนอยู่แล้วขอรับ นี่เป็นการปกป้องอย่างสมบูรณ์ แม้แต่ช่องว่างที่เล็กที่สุดก็จะไม่ถูกเปิดเผย มันจึงจะสามารถบรรลุผลการป้องกันอย่างสูงสุดได้"
"นี่ไม่มากเกินไปหรือ.."
ชูเหลียงมีสีหน้าซับซ้อน
ใบไม้นี้มีการป้องกันที่แข็งแกร่งจริงๆ ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าเขา - ผู้เจ้าของเครื่องมือวิเศษ - ไม่สามารถฝ่าวงล้อมจากภายในได้ ก็ยิ่งมีโอกาสน้อยที่ใครสักคนจะฝ่าการป้องกันจากภายนอกเข้ามาได้
แต่ข้าไม่สามารถห่อตัวเองเหมือนบ๊ะจ่างเมื่อสู้กับคนอื่นได้..
มันไม่ใช่ว่ามันคือการขังตัวเองหรอกหรือ
"นอกจากนี้..." เหวินหยูหลงกล่าวต่อด้วยรอยยิ้มที่ลึกลับ "ศิษย์พี่ชู ท่านอาจไม่สังเกตเห็น แต่จารึกสองชุดของข้าสามารถใช้ร่วมกันได้ หากท่านพบว่าตัวเองอยู่ในอันตรายถึงชีวิต ท่านสามารถใช้จารึกสองชุดนี้ในเวลาเดียวกันและช่วยชีวิตท่านได้อย่างง่ายดาย..."
..ชูเหลียงจินตนาการถึงสถานการณ์นั้น
เมื่อเขาถูกห่อภายในเขาไม่สามารถควบคุมได้ว่าใบไม้จะย้ายไปในทิศทางใด สิ่งที่เขาทำได้คือการปล่อยพลังชี่เข้าไปเท่านั้น
ดังนั้นถ้าเขาพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต... เขาก็จะห่อตัวเองและบินขึ้นฟ้า กล่าวอีกนัยหนึ่งเขาจะกลายเป็นบ๊ะจ่างและพุ่งออกไปในทิศทางที่คาดเดาไม่ได้อย่างบ้าคลั่ง
โดยพื้นฐานแล้วเหมือนกับการยิงตัวเองจากปืนใหญ่
อืมม.. นี่เป็นอุปกรณ์ทรมานชนิดใหม่หรืออย่างไรกัน..