ตอนที่ 84 : แค่สกิลกลายพันธุ์ !
ตอนที่ 84 : แค่สกิลกลายพันธุ์ !
หลินลั่วแฝงตัวไปในฝูงอสูรหมาและรับรู้ถึงความแปลกของพวกมัน
พวกมันดูคล้ายกับมอนสเตอร์ที่เกิดขึ้นมาจากหมอกดำ พวกมันคล้ายกับหมาใน ทว่าหลังจากที่เข้ามาใกล้ชิดพวกมันแล้ว มันกลับผิดจากที่เขาคาดเอาไว้
พวกมันคล้ายกับก้อนหมอกดำที่บิดเบี้ยวซึ่งถูกควบคุมโดยพลังงานบางอย่าง เขาถึงกับเดินทางผ่านพวกมันมุ่งหน้าไปหาตู้เฉิงได้
ภายใต้หมอกดำ ตู้เฉิงยังคงหัวเราะออกมา
ร่างกายส่วนล่างของเขาเป็นหมอก มีหมาดำพุ่งออกมาจากหมอกนี้พุ่งออกไปหาหลินลั่วและคนอื่น ๆ
หลังจากที่เข้ามาใกล้ หลินลั่วก็ได้ใช้ [ จิตสับสน ] เข้าใส่ตู้เฉิง
“กรร...” ตู้เฉิงคำรามออกมาและใช้กรงเล็บตะปบเข้าใส่อสูรหมากว่าสิบตัว หมอกดำพวกนั้นสลายไปในทันที
“หือ ?” ตู้เฉิงได้สติกลับมา เขารีบมองไปที่พื้นทันที
ที่นั่น หลินลั่วได้เปลี่ยนร่างกลับมาเป็นคนเหมือนเดิมยืนอยู่ตรงหน้าตู้เฉิง
“ไอ้เด็กนี่ !” ตู้เฉิงตะโกนออกมาและใช้กรงเล็บตะปบออกไปอีกครั้ง
“...” ร่างของหลินลั่วหายตัวไป วินาทีต่อมาเขาก็โผล่มาด้านหลังตู้เฉิงพร้อมหินที่สลับตำแหน่งกับเขา
[ กระตุ้นการสืบพันธุ์ ] !
[ กระตุ้นการสืบพันธุ์ ] เลเวล 7 ทำงานทันที ตู้เฉิงนอนลงกับพื้น ร่างส่วนบนของเขาถูกฝูงหมาเข้าบดขยี้ ครั้งนี้ใช้เวลากว่า 10 วินาทีก่อนที่ตู้เฉิงจะได้สติกลับมา เขาอ้าปากออกคำรามออกมา
ตูม !
เปลวไฟกระจายออกมายังจุดที่หลินลั่วอยู่
หลินลั่วโผล่มาในอีกทางและเหวี่ยงคทาในมืออีกรอบ
[ ระเบิดผิวหนัง ] !
ปัง....
มีรอยแตกปรากฏขึ้นที่ตัว หมอกดำปะทุออกมาจากบาดแผลแล้วหายไปในทันที
[ หูด ]
ตู้เฉิงชะงักไปชั่วครู่แต่ไม่มีอาการใด ๆ อีก
[ หนองในระบาด ] !
[ ไข้หวัดระบาด ] !
[ เพิ่มความเจ็บปวด ] !
สกิลกลายพันธุ์ถูกใช้ใส่ตู้เฉิงอย่างต่อเนื่อง ตู้เฉิงได้แต่คำรามออกมา ทว่าไม่ว่าเขาจะทำอะไร เขาก็ไม่อาจจะแตะต้องหลินลั่วได้เลย
“...” ไกลออกไป จ้าวฉือเฉิงรู้สึกว่าการโจมตีของอสูรหมาพวกนี้เหมือนจะเชื่องช้าลงไปมาก เขามองไปอีกทางด้วยสีหน้าแปลก ๆ
ตู้เฉิงยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทว่าหลินลั่วก็เอาแต่สลับตำแหน่งไปมา หลบการโจมตีได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
“เฮ้ย ! น้องลั่วเหมือนเล่นกับหมาเลย !” จ้าวฉือเฉิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“หัวหน้า ! เร็วเข้า หยางจือทนไม่ไหวแล้ว !”
“ว่าไงนะ ?” สีหน้าของจ้าวฉือเฉิงเปลี่ยนไป
หยางจือนั้นล้มลงไปกองกับพื้น ตามตัวมีแต่แผลที่โดนกัด แขนขวาและขาขวาโดนกัดขาดไป ตามตัวมีรอยแผลไฟไหม้
“...”
“บัดซบ !” จ้าวฉือเฉิงตะโกนออกมาและพุ่งออกไปเพื่อจัดการกับตู้เฉิง
“ตู้เฉิง ฉันจะฆ่าแก !”
“กรร !” ตู้เฉิงคำรามออกมาและยกกรงเล็บตะปบใส่หลินลั่วอีกรอบ
“ไอ้หนู ! ฉันไม่เชื่อว่าแกจะเหลือพลังจิตมากพอ !”
เขาตัดสินใจแล้วว่าหลังจากที่พลังจิตของหลินลั่วหมดไป เขาจะเผาวิญญาณและพลังชีวิตของตัวเอง !
[ เพิ่มความเจ็บปวด ] !
ตู้เฉิงตะโกนออกมาและมองไปที่หลินลั่วอีกรอบ หลินลั่วถอนหายใจออกมา สกิลกลายพันธุ์แทบทั้งหมดถูกใช้ออกมาแล้ว แต่มีไม่กี่สกิลที่ใช้ได้ผล
ยังไงซะอีกฝ่ายก็เป็นถึงผู้ปลุกพลังระดับทองห่างจากระดับอีปิคแค่ก้าวเดียว “ถ้าอย่างนั้นคงต้องลอง....มิติตัดต่อ” เขายกมือขึ้นและใช้สกิลไปอีกอัน
[ เผาเลือด ]
ตูม !
มีเสียงกรีดร้องอันน่ากลัวดังออกมาจากปากตู้เฉิง หลินลั่วถึงกับต้องตกใจกับเสียงคำรามนี้ “เกิดอะไรขึ้น ?” แต่อยู่ ๆ บนร่างอสูรตัวใหญ่นี้กลับมีไฟลุกไหม้ขึ้นมา ไฟได้ลุกรามไปทั่วตัวตู้เฉิงด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
[ เผาเลือด ] นั้นเป็นสกิลกลายพันธุ์ที่ใช้กับเลือด มันสามารถทำให้เลือดของเป้าหมายลุกเป็นไฟได้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นอสูรล่องหน ทว่ามันก็ยังมีร่างจริง ร่างที่ว่าคือหมอกดำ
หมอกดำพวกนี้คือองค์ประกอบหลักของร่างพวกมันซึ่งแทนถึงเลือดในตัวพวกมัน เมื่อไม่มีร่างกายคอยบดบัง มันก็เท่ากับก้อนเลือดที่โผล่มาตรงหน้าหลินลั่ว
แค่ใช้สกิลออกมาเพียงครั้งเดียว มันก็เพียงพอที่จะทำให้เลือดในตัวพวกนี้ลุกไหม้ขึ้นมาได้ !
ตูม !
เปลวไฟปะทุออกมาพร้อมร่างของตู้เฉิงที่เกือบถูกเปลวไฟกลืนกิน !
ร่างกายของเขาเริ่มบิดไปมาด้วยความเจ็บปวด พวกอสูรหมาที่อยู่ที่พื้นก็โดนไฟลุกไหม้ตามไปด้วย ในเวลาแค่ 10 วินาที ทั้งโลกที่ถูกควบคุมโดยหมอกดำก็มีทะเลเพลิงปรากฏขึ้นมา !
“เกิดอะไรขึ้น ?” จ้าวฉือเฉิงที่เพิ่งจะฝ่าเข้ามาในฝูงอสูรหมาได้กำลังจะลงมือฆ่าอสูรพวกนี้ แต่ก็ต้องตกใจกับทะเลเพลิงจนหยุดมือ
ไกลออกไป ร่างของตู้เฉิงเริ่มพังลงภายใต้เปลวไฟที่ลุกไหม้
“บัดซบ !” ตู้เฉิงสบถออกมา ร่างขนาดใหญ่ของเขาเริ่มพังลง หมอกดำได้เข้ามาปกคลุมตัวเขา “เปลี่ยนกลับไปร่างเดิม”
ถึงรูปลักษณ์จะต่างกันแต่เขาก็ยังโดนไฟเผาอยู่ดี
“ฝากไว้ก่อนเถอะ !” เขารีบเว้นระยะห่างเพื่อที่จะหลบหนี
“คิดจะไปไหน ? คิดว่าจะหนีได้ง่าย ๆ รึไง ?” หลินลั่วฮึดฮัดออกมา เขาใช้มือฟันไปทางตู้เฉิง
“ตัด !”
ฉัวะ ...
ในพริบตา หัวและแขนขาของตู้เฉิงก็ถูกแยกออกมาจากตัว !
“รวม !” หลินลั่วตะโกนออกมาอีกครั้ง สีหน้าแปลกใจของตู้เฉิงยังไม่ทันได้หายไป ทว่าหัวกับแขนและขาก็กลับมาต่อที่ร่างกายดังเดิม ตอนนี้เขาเปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างแปลก ๆ
“เหี้ย ! สกิลบ้าอะไรของแกวะ !” ตู้เฉิงสบถออกมาพร้อมพึมพำออกมาด้วยเสียงแปลก ๆ
มือกับขาเริ่มละลายเปลี่ยนเป็นหมอกดำ
แต่ตอนนั้นหลินลั่วใช้อีกสกิลออกมา
[ อัลไซเมอร์ ] !
[ อัลไซเมอร์ ] นั้นเลเวล 7 แล้ว มันจึงใช้ผลกับตู้เฉิงในทันที
ปัง !
หัวของตู้เฉิงระเบิดออกภายใต้พลังสะท้อนจากการที่สกิลล้มเหลว ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพบาดเจ็บหนัก
[ เผาเลือด ] !
ตูม !
เลือดโดยรอบพร้อมเลือดที่เปื้อนตามตัวตู้เฉิงได้ลุกไหม้ขึ้นมาทันที
“อ๊าก....”
“กรร...”
ที่พื้นดิน พวกอสูรหมาพากันคำรามออกมา ร่างของพวกมันค่อย ๆ หดตัวลงและหายตัวไปราวกับไม่เคยมีอยู่มาก่อน
ร่างของตู้เฉิงก็โดนเผากลายเป็นควันสีเขียว
“ฮึ่ม ! กลุ่มผู้พิทักษ์รัตติกาลไม่ปล่อยแกไปแน่ !”
“อ๊าก....”
ร่างของเขาถูกเผาอย่างต่อเนื่อง เขาไม่อาจจะทนพลังที่สะท้อนกลับได้ ตอนที่ตู้เฉิงกำลังจะตาย หลินลั่วก็รีบวิ่งเข้ามาถอดแหวนจากมืออีกฝ่าย
แหวนมิติ !
แหวนมิติของผู้ปลุกพลังระดับทอง หนึ่งในหัวหน้าขององค์กรผู้พิทักษ์รัตติกาล มันต้องมีของที่เป็นประโยชน์ต่อหลินลั่วอยู่เยอะแน่ ๆ !
ด้วยการตายของตู้เฉิง มันก็มีลูกปัดสีดำที่ร่วงลงมาอยู่ในกำมือหลินลั่ว
“นี่มันอะไรกัน ?”
ลูกปัดในมือมีขนาดพอ ๆ กับไข่ไก่ ด้านนอกโปร่งใส ทว่าด้านในมีหมอกดำไหลวนอยู่อย่างต่อเนื่อง
“มันคือไข่มุกอสูร !” จ้าวฉือเฉิงเดินเข้ามาและตอบกลับ
“มันคือไอเทมที่ดรอปตอนที่มอนสเตอร์ตาย มันคล้ายกับผลึกมังกร ทว่ามันมีความพิเศษอย่างอื่น สำหรับคนทั่วไปแล้ว มันไม่ได้มีประโยชน์อะไร”
หลินลั่วเก็บลูกปัดและพูดขึ้น “ขอบคุณที่ตอบคำถามของผม”
จ้าวฉือเฉิงอึ้งและส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”
ตอนแรกเขาคิดว่าจะต่อรองเอาลูกปัดนี่มายังไง คนทั่วไปใช้ประโยชน์จากลูกปัดไม่ได้ ทว่าสำหรับกลุ่มผู้พิทักษ์แล้ว มันมีหลายคนที่ใช้ลูกปัดนี้ได้
มันคือเพชรในตมก็ว่าได้ !
“หลินลั่ว ขอบคุณนายด้วย ไม่งั้นเราคงตายกันที่นี่แน่ !”
“แล้วพวกคุณมาที่นี่กันทำไม ?” หลินลั่วถามขึ้นมา
จ้าวฉือเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และพูดขึ้น “ฉันมาที่นี่ก็เพื่อจะเชิญนาย หัวหน้าของเราต้องการเชิญนายไปพบ”
“หัวหน้า ? ใครกัน ?”
“กั้วโฉวยี่ รองนายกกั้ว...”
“รองนายกกั้วโฉวยี่ ?” มีหน้าของคนคุ้นตาโผล่มาในหัวหลินลั่ว “เขาเป็นรองนายกไม่ใช่รึไง ?”
“รองนายกแค่ตำแหน่งบังหน้า” จ้าวฉือเฉิงพูดขึ้น “นักเรียนหลินลั่ว หัวหน้าชื่นชมนายมากและอยากจะเชิญนายเข้าร่วมกลุ่มของเรา !”
“ถ้านายเข้าร่วมกลุ่มผู้พิทักษ์ นายจะได้รับตำแหน่งทางการ ทางกลุ่มจะจ่ายค่าเทอมสำหรับการเรียนมหา’ลัยให้นาย นายจะได้เป็นตัวแทนของประเทศ นายมีสิทธิ์ที่จะจัดการกับคดีต่าง ๆ ในประเทศ แม้แต่แม่ของนายก็จะ...”
“พวกเราจะหาที่อยู่ให้ เงินเดือนต่ำสุดของกลุ่มเราอยู่ที่ 10,000 ทองต่อเดือน”
“หลังจากทำภารกิจเสร็จ นายจะได้รับโบนัสด้วย...”
จ้าวฉือเฉิงบอกรายละเอียดทั้งหมดออกมา
“ดีขนาดนั้นเลยเหรอ ?” หลินลั่วถามขึ้น
จ้าวฉือเฉิงรีบพยักหน้า “แน่นอน นักเรียนหลินลั่ว เราไปหาหัวหน้ากันดีกว่า หัวหน้าประเมินนายไว้สูง เขาต้องให้ตำแหน่งผู้ตรวจสอบระดับ 2 กับนายแน่ ๆ !”
หลินลั่วยิ้มออกมา “ผมขอปฏิเสธ !”
“นาย...ว่าไงนะ ? นายปฏิเสธ ?” จ้าวฉือเฉิงแปลกใจ “ทำไมล่ะ ?”
หลินลั่วพูดขึ้น “ผมชอบความเป็นอิสระ ผมไม่ชินกับการทำตามกฎของใคร”
“คุณจ้าว ผมขอรบกวนให้คุณกลับไปบอกรองนายกกั้วด้วยว่าผมขอรับไว้แต่น้ำใจ”
“หลินลั่ว นาย...” จ้าวฉือเฉิงอยากจะพูดบางอย่าง ทว่าหลินลั่วกลับหายตัวไปจากหน้าเขาแล้ว
ข้าง ๆ เขากลับมีขยะมาแทนที่จุดที่หลินลั่วเคยอยู่
เมื่อเห็นหลินลั่วปรากฏตัวในจุดที่ห่างออกไป จ้าวฉือเฉิงก็ได้แต่ส่ายหน้าและพูดขึ้น “ปฏิเสธคำเชิญชวนของกลุ่มผู้พิทักษ์ง่าย ๆ แบบนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะต่างจากที่หัวหน้าคิดเอาไว้ !”
ด้วยการตายของตู้เฉิง หมอกดำโดยรอบก็สลายไป ทุกคนได้กลับมายังถนนเส้นเดิมอีกครั้ง
ถังเฉิงถามขึ้นมาด้วยสีหน้าแปลก ๆ “พี่ลั่ว เขามาหานายทำไม ?”
“เขาอยากให้ฉันเข้าร่วมกลุ่มผู้พิทักษ์”
“ผู้พิทักษ์ ?” ถังเฉิงพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “กลุ่มผู้พิทักษ์ กองกำลังระดับชาติ พี่ลั่ว นายตกลงรึเปล่า ?”
หลินลั่วส่ายหน้า “ไม่”
“ทำไมล่ะ ?”
“ฉันขี้เกียจทำตามคนอื่นสั่ง ฉันชอบอิสระ”
“เฮ้อ ฉันได้ยินมาว่ากลุ่มผู้พิทักษ์น่ะมีอำนาจ เจ้าหน้าที่หลายคนยังไม่กล้ามีเรื่องกับพวก....ผู้พิทักษ์เลย” ถังเฉิงยังคงบ่นออกมา
แต่หลินลั่วกลับล้วงเอาแหวนมิติที้ได้ออกมาจากตู้เฉิงออกมาตรวจสอบดู
“แหวนมิติ ไม่รู้ว่ามีของดีอะไรอยู่ด้านในบ้าง...”