ตอนที่แล้วตอนที่ 23 ตรวจพบความผิดปกติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 25 การซื้อขายเค้กเหลือง

ตอนที่ 24 ฐานทัพถูกทำลาย


ทำเนียบขาว

บรรยากาศในตอนนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย

หลังจากส่งคำสั่งระดมทหาร คณะรัฐมนตรีก็เริ่มต้นด้วยการข่มขู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอิตาลี เตือนไม่ให้เปิดเผยความลับและเข้ามายุ่งเกี่ยว

จากนั้น กองเรือบรรทุกเครื่องบินอีกสองกองเรือก็ถูกส่งไปประจำการยังน่านน้ำใกล้เคียงกับซีเรียโดยด่วน

พร้อมกันนั้น ยังสั่งการไปยังฐานทัพอากาศที่ประจำการอยู่ในซีเรีย ให้ส่งเครื่องบินขับไล่ F-22 ขึ้นบินในทันที เพื่อสกัดกั้นกองทัพหมีขาว ไม่ให้เข้ามาแย่งชิงซากอสูร

ประเทศมหาอำนาจที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์มากที่สุดในโลกสองประเทศ กำลังเผชิญหน้ากันอย่างดุเดือดในตะวันออกกลาง

ในช่วงแรก ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นสำหรับสหรัฐฯ

กองกำลังภาคพื้นดินของหมีขาวถูกสกัดกั้นโดยกลุ่มก่อการร้าย ส่วนเครื่องบินรบก็ถูกปิดล้อมอย่างสมบูรณ์ ไม่อาจหลุดรอดไปได้

ทุกคนต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ไม่ต้องกังวลไปหรอก เรื่องแค่นี้เอง ลาก่อนครับ ท่านโซโคลอฟ” ประธานาธิบดีโคลินวางสาย ยุติการเจรจาอย่างสุภาพกับประธานาธิบดีหมีขาว

ประธานาธิบดีโคลินหันไปมองคณะรัฐมนตรี “เป็นยังไงบ้าง ของถึงฐานทัพในซีเรียแล้วหรือยัง”

“เรียบร้อยแล้วครับ ท่านประธานาธิบดี ได้รับรายงานเมื่อยี่สิบนาทีก่อน เหล่าวีรบุรุษของเรานำซากสัตว์ประหลาดทั้งหมดขึ้นเครื่อง และเดินทางกลับฐานทัพอย่างปลอดภัย พร้อมส่งมอบให้นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบแล้วครับ” มีคนรายงาน

โคลินพยักหน้าด้วยสีหน้ายินดี พร้อมกล่าวชมเชย “ทำงานกันได้รวดเร็วมาก!”

ทันใดนั้น โทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้น

ทุกคนปรากฏรอยยิ้มจางๆ คาดว่าน่าจะเป็นรายงานว่าทหารมาถึงฐานทัพแล้ว ปฏิบัติการครั้งนี้ก็เสร็จสิ้นสมบูรณ์

โคลินเองก็คิดเช่นนั้น เขายกหูโทรศัพท์ขึ้นอย่างสบายๆ

ทว่า สีหน้าของเขากลับค่อยๆ ตึงเครียด

หลังจากวางสาย เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นกล่าว “กองบัญชาการทหารสูงสุดรายงานว่า เมื่อสามนาทีที่แล้ว ฐานทัพที่เก็บซากสัตว์ประหลาด ขาดการติดต่อไปโดยสิ้นเชิง”

บรรยากาศในห้องประชุมอึดอัดขึ้นมาทันที

ฐานทัพแห่งนี้ แม้จะเป็นฐานทัพสำหรับห้องปฏิบัติการวิจัยไวรัส มีกำลังพลเพียงร้อยนาย แต่ล้วนเป็นทหารระดับหัวกะทิ อุปกรณ์ต่างๆ ก็ครบครัน

การโจมตีธรรมดา ไม่อาจทำให้ฐานทัพขาดการติดต่อไปโดยสิ้นเชิงในเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้

เว้นเสียแต่จะถูกโจมตีด้วยจรวด หรือขีปนาวุธแบบแม่นยำเท่านั้น ถึงจะเป็นไปได้

แต่หากประเทศใดกล้าลงมือเช่นนั้น พวกเขาต้องรู้ล่วงหน้าอย่างแน่นอน

แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

“ฐานทัพที่ใกล้ที่สุดได้ส่งทีมออกไปสืบหาสถานการณ์แล้ว และกำลังเตรียมเชื่อมต่อสัญญาณดาวเทียมเพื่อถ่ายทอดสดสถานการณ์ให้เรารับชม” โคลินกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

ไม่นานนัก เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวก็เคลื่อนย้ายจอภาพขนาดใหญ่เข้ามา พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ หลังจากทดสอบจนแน่ใจ ก็เชื่อมต่อสัญญาณ ภาพปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

มีสองมุมมอง มุมมองหนึ่งน่าจะเป็นภาพจากกล้องที่ติดตั้งบนเฮลิคอปเตอร์ ส่วนอีกมุมมองหนึ่งน่าจะเป็นภาพที่ถ่ายโดยอุปกรณ์บันทึกภาพที่ทหารพกติดตัวไปด้วย

ไกลออกไปเบื้องหลังเนินทราย มองเห็นฐานทัพทหารที่กำลังมีควันดำโขมงลอยคละคลุ้งอยู่

แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า หัวใจของทุกคนในทำเนียบขาวก็พลันหนาวเหน็บ

แน่นอนว่า พวกเขาไม่ได้สงสารทหารเหล่านั้น แต่เป็นห่วงซากอสูรต่างโลกที่เรียกได้ว่าเป็นการค้นพบอันยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษต่างหาก

ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากในวิดีโอ น่าจะเป็นเสียงของหัวหน้าทีมลาดตระเวน “ไม่พบร่องรอยการทิ้งระเบิดขนาดใหญ่ สอดคล้องกับบันทึกของเรดาร์ แต่หากเป็นการโจมตีแบบธรรมดา ทำไมพวกเขาถึงไม่ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือออกมาเลย? ระวังตัวด้วย หลังจากลงไปแล้ว”

เมื่อเฮลิคอปเตอร์บินมาถึงฐานทัพ กลุ่มคนก็ไต่เชือกลงไป

รถหุ้มเกราะพลิกคว่ำอยู่บนพื้น ด้านข้างมีรอยบุบขนาดใหญ่ พื้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด แต่กลับไม่พบร่างของมนุษย์แม้แต่คนเดียว

“รอยนี้มัน...”

เสียงอุทานอย่างตกตะลึงถูกกลืนหายไปในลำคอ แต่ทุกคนต่างก็เข้าใจความหมายของมันเป็นอย่างดี

ทีมลาดตระเวนเดินตรงไปยังห้องปฏิบัติการที่เป็นเป้าหมายหลัก ตลอดทางไม่พบผู้คนแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นคนเป็นหรือคนตาย ราวกับว่าทุกคนระเหยหายไปจากโลกนี้

ณ มุมหนึ่ง โทรศัพท์ดาวเทียมตกอยู่บนพื้น ดึงดูดความสนใจของทหารนายหนึ่ง

กำแพงที่พังทลายอยู่ข้างๆ รอยเลือดและเศษเนื้อที่กระจายไปทั่ว ยิ่งทำให้ภาพตรงหน้าดูน่าขนลุก

ทหารนายนั้นก้มลงหยิบโทรศัพท์ดาวเทียมขึ้นมา กดเล่นดูประวัติการใช้งาน ก่อนจะเงยหน้ามองหัวหน้าทีม แล้วรายงานว่า “ในช่วงที่ขาดการติดต่อ โทรศัพท์เครื่องนี้มีการโทรออกมากกว่าสิบครั้ง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง กลับไม่มีการเชื่อมต่อแม้แต่ครั้งเดียว”

ทุกคนในห้องประชุมไม่ใช่คนโง่ คำอธิบายของทหาร ประกอบกับภาพสยองขวัญตรงหน้า ทำให้ภาพเหตุการณ์ปรากฏขึ้นในใจ

ฐานทัพถูกโจมตี สถานการณ์คับขัน มีคนพยายามโทรขอความช่วยเหลืออย่างบ้าคลั่งผ่านโทรศัพท์ดาวเทียม ทว่าทันใดนั้น บางอย่างก็พุ่งเข้าชน ทำให้เขาแหลกเป็นชิ้นๆ ในพริบตา

หัวหน้าทีมลาดตระเวนสำรวจสถานที่เกิดเหตุ เอ่ยอย่างสงสัย “กระสุนปืนกลหนักสามารถฉีกกระชากร่างมนุษย์ให้แหลกสลายได้ในพริบตา แต่ไม่สามารถทำให้กำแพงพังทลายได้ถึงเพียงนี้ นี่เป็นการโจมตีด้วยพลังงานจลน์ที่รุนแรงกว่านั้น”

โคลินหยิบไมโครโฟนขึ้นมา สั่งการโดยตรง “ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุด คือการตามหาซากสัตว์ประหลาด”

“รับทราบ!”

ทีมลาดตระเวนมาถึงประตูห้องปฏิบัติการ ทุกคนต่างตะลึงงันกับภาพเบื้องหน้า

บานประตูที่ทำจากโลหะผสม บิดเบี้ยวและเปิดออกด้านนอก เห็นได้ชัดว่าถูกพลังมหาศาลจากภายในพังประตูออกมา

ดวงตาของประธานาธิบดีโคลินเบิกกว้าง เขาลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ลางสังหรณ์เลวร้ายผุดขึ้นในใจ

บนหน้าจอ ทหารค่อยๆ เดินเข้าไปในห้องปฏิบัติการอย่างระมัดระวัง

ซากสัตว์ประหลาดขนาดมหึมาที่อยู่บนโต๊ะกลางห้อง มีรอยแตกเป็นรูโหว่หลายแห่ง เผยให้เห็นช่องว่างภายใน และบางสิ่งกำลังพยายามเจาะออกมาจากข้างใน...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด