กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 21 หยางชิวใกล้บรรลุระดับศักดิ์สิทธิ์
กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 21 หยางชิวใกล้บรรลุระดับศักดิ์สิทธิ์
"เชิญเข้ามา!"
สุรเสียงอ่อนโยน ดังมาจากภายในหอคอยกลไกสวรรค์
เหรินชิงถูได้ยินเสียง จึงก้าวเท้าเข้าไปด้านใน
ทันทีที่เข้ามาภายใน
สายตาของเหรินชิงถูก็กวาดมองไปทั่วทั้งโถงใหญ่ สิ่งแรกที่เขาเห็นคือหลิวเฉิงเสวี่ย เมื่อเห็นศิษย์ของตนปลอดภัย เขาก็รู้สึกโล่งใจ
จากนั้น
สายตาของเขาก็มองไปยังชายชุดคลุมสีเขียวผู้นึง
คนผู้นี้ไม่มีปราณใด ๆ ไหลเวียนอยู่ มองแวบแรกราวกับคนธรรมดาสามัญ
"ดูเหมือนว่าเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นี้ จะมีตบะเหนือกว่าข้า!"
เหรินชิงถูนึกคิดในใจ
"ท่านประมุขเหริน เดินทางมาถึงเมืองต้าฮวงได้หนึ่งวันแล้ว คงเหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก เชิญนั่งก่อนเถิด"
หลี่อวิ๋นกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
"หืม???"
ร่างกายของเหรินชิงถูสั่นสะท้าน มองไปยังหลี่อวิ๋นอย่างกะทันหัน ในใจรู้สึกปั่นป่วนอย่างยิ่ง
อันที่จริง
เขาเดินทางมาถึงเมืองต้าฮวงตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว
แต่ไม่ได้เลือกที่จะเข้ามาในหอคอยกลไกสวรรค์ในทันที
เหตุผลก็คือ ระหว่างทางเขารู้สึกไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกเช่นนี้ ย่อมต้องมีสาเหตุ
แต่ระหว่างทาง กลับไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้น
เขาจึงคิดว่า สาเหตุของความรู้สึกนั้น ย่อมต้องมาจากหอคอยกลไกสวรรค์อย่างแน่นอน
แต่เขาได้เดินสำรวจทั่วเมืองต้าฮวง สังเกตการณ์หอคอยกลไกสวรรค์อยู่หนึ่งวันเต็ม ๆ กลับไม่พบสิ่งใดผิดปกติ จนกระทั่งรุ่งเช้าวันนี้ เขาก็ตัดสินใจ
เดินทางมายังหอคอยกลไกสวรรค์ เพื่อพาศิษย์ของตนกลับไป
แต่ไม่คาดคิดเลยว่า เพียงแค่พบหน้ากัน ความคิดของเขา ก็ถูกเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นี้มองทะลุ
"ผู้อาวุโสรู้ได้อย่างไร"
เหรินชิงถูเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
สามารถรับรู้การเคลื่อนไหวของเขา แสดงว่าเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นี้ คงไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เขาคิด
"ผู้อาวุโสคือผู้ใด เหตุใดจึงต้องเก็บตัวอยู่ในเมืองต้าฮวง"
เหรินชิงถูเอ่ยถาม
สามารถรับรู้การเคลื่อนไหวของเขา เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นี้ คงไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เขาคิด
"เพียงเพราะความสนใจส่วนตัวเท่านั้น"
หลี่อวิ๋นกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
อันที่จริง เขาก็ไม่ได้อยากอยู่ที่นี่เช่นกัน
แต่หอคอยกลไกสวรรค์อยู่ที่นี่ เขาจะทำอย่างไรได้
"สถานที่แห่งนี้ รกร้างห่างไกล ปราณวิญญาณน้อยนิด การบำเพ็ญเพียรเป็นไปอย่างเชื่องช้า เหมาะสมกับผู้อาวุโสเช่นท่านหรือ หากผู้อาวุโสไม่รังเกียจ สำนักกระบี่ต้าหลัวของข้า ยินดีมอบตำแหน่งผู้อาวุโสรับเชิญ ให้ผู้อาวุโสไปพำนักที่สำนักกระบี่ต้าหลัว"
เหรินชิงถูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยลองเชิง
ก่อนจะมาที่นี่
เขาได้พูดคุยกับศิษย์ของตนแล้ว ผู้อาวุโสผู้นี้มีพลังอันน่าสะพรึงกลัว แม้แต่หยางชิวยังไม่สามารถทำอะไรได้ แสดงว่าต้องมีตบะระดับจอมศักดิ์สิทธิ์ระยะสูงสุด
หรืออาจจะเป็นถึงระดับศักดิ์สิทธิ์
หากสามารถชักชวนให้ไปอยู่ที่สำนักกระบี่ต้าหลัวได้ พลังของสำนักย่อมเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ส่วนที่ศิษย์ของเขาสงสัยว่าจะเป็นถึงระดับจักรพรรดิ เขามิได้ใส่ใจ
จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ควบคุมสวรรค์ทั้งเก้า ใต้หล้าทั้งหมด ย่อมต้องมีผู้ติดตามมากมาย เหตุใดจึงต้องมาเก็บตัวอยู่ในสถานที่แห่งนี้
"ขอบคุณในความหวังดีของท่านประมุข แต่สำนักกระบี่ต้าหลัว ข้าคงไม่ไป เพราะสถานการณ์ของสำนักกระบี่ต้าหลัวในตอนนี้ ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนักกระมัง..."
หลี่อวิ๋นกล่าวพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย
เบื้องหน้าเขา
ปรากฏแผงข้อมูลของเหรินชิงถูขึ้น
[ชื่อ: เหรินชิงถู!]
[ตบะ: ระดับแก่นสวรรค์ระยะสูงสุด (ระดับจอมศักดิ์สิทธิ์ระยะสูงสุด)!]
[ขุมอำนาจ: สำนักกระบี่ต้าหลัว!]
[วิชาเวท: คัมภีร์กระบี่ต้าหลัว วิชากระบี่ดาวตก]
[พลังวิเศษ: สะบั้นมวลดารา รุ้งเหินพันมายา พิฆาตฟ้าพันมายา กระบี่วิญญาณเก้าขั้น กระบี่พลิกฟ้า หัตถ์คว้าเดือน ดาวเหนือฉ้อมรรค หมื่นกระบี่หวนเอกะ... และอื่น ๆ]
[ยุทธภัณฑ์: เงามังกรอินทนิล (ระดับจอมศักดิ์สิทธิ์) เรือนทีสวรรค์ (ระดับจอมศักดิ์สิทธิ์) คันฉ่องนิรันดร์หมื่นอัคคี (ระดับจอมศักดิ์สิทธิ์) ... และอื่น ๆ]
[สถานะปัจจุบัน: บรรพบุรุษของสำนักเพิ่งจะละสังขาร จิตใจกังวล หวาดกลัวว่าสำนักมารหรือสำนักอื่น ๆ จะล่วงรู้ความจริง...]
[คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม...]
หลังจากอ่านข้อมูลของเหรินชิงถูจบ
หลี่อวิ๋นก็รู้สึกชื่นชมอีกฝ่ายอยู่บ้าง ในช่วงเวลาที่บรรพบุรุษของสำนักเพิ่งจะละสังขาร ยังคงเดินทางมาเมืองต้าฮวงด้วยตนเอง
แสดงให้เห็นว่า เขารักและห่วงใยศิษย์ของตน ไม่เหมือนคนในสายมาร ที่เห็นศิษย์เป็นเพียงเครื่องมือ
"ผู้อาวุโสหมายความว่าอย่างไร"
เหรินชิงถูขมวดคิ้ว เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ข้าน้อยฟังไม่เข้าใจ"
"ศิษย์ของเจ้ามิได้บอกเจ้าหรือ ใต้หล้านี้ มิมีเรื่องใดที่ข้าไม่รู้!"
หลี่อวิ๋นกล่าวพร้อมกับยิ้ม
"หืม?"
เหรินชิงถูหันไปมองศิษย์ของตน
ทันใดนั้น
หลิวเฉิงเสวี่ยก็ยกถ้วยชามาวางไว้ข้างกายเหรินชิงถู เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"ท่านอาจารย์ เชิญดื่มชาเจ้าค่ะ"
"อืม"
เหรินชิงถูพยักหน้า มองหลิวเฉิงเสวี่ยแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองหลี่อวิ๋น ในใจรู้สึกสงสัย
หรือว่า เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นี้ รู้เรื่องที่บรรพบุรุษของสำนักละสังขาร
เป็นไปไม่ได้
ภายในสำนักกระบี่ต้าหลัว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ แม้แต่ผู้อาวุโสบางคนก็ยังไม่รู้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงศิษย์รุ่นเยาว์อย่างหลิวเฉิงเสวี่ย
บางทีเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นี้ อาจจะหมายถึงเรื่องอื่น
แต่ไม่ว่าอย่างไร เรื่องนี้ก็ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างถูกอีกฝ่ายมองทะลุ
เมืออยู่ที่นี่เขารู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
อยากจะรีบจากไปโดยเร็ว
ส่วนข้างกาย
หลิวเฉิงเสวี่ยพยายามส่งสัญญาณให้ท่านอาจารย์ของตน
เมื่อวานนี้นางได้บอกท่านอาจารย์แล้วว่า วันนี้ให้ถามเรื่องวาสนาในการบรรลุถึงระดับศักดิ์สิทธิ์ แต่นางไม่นึกเลยว่า ท่านอาจารย์ของนางกลับไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้แม้แต่คำเดียว
ทำให้นางรู้สึกกระวนกระวาย
"ผู้อาวุโสช่างเก่งกาจยิ่งนัก ข้าน้อยรู้สึกเลื่อมใส"
เหรินชิงถูกล่าวชมเชย ก่อนจะลุกขึ้นยืน เอ่ยว่า "ศิษย์ของข้ายังอ่อนหัด ทำให้ผู้อาวุโสต้องลำบากใจ ผลไม้วิญญาณเซียนผลนี้ ถือเป็นการไถ่โทษเล็ก ๆ น้อย ๆ หวังว่าผู้อาวุโสจะไม่รังเกียจ"
"ไม่เป็นไร"
หลี่อวิ๋นรับผลไม้วิญญาณเซียนมาด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้กล่าวสิ่งใด
หลิวเฉิงเสวี่ยมองดูการกระทำของคนทั้งสองด้วยความไม่เข้าใจ
เมื่อครู่ท่านเจ้าหอเพิ่งจะบอกเป็นนัย ๆ แล้ว เหตุใดท่านอาจารย์ของนางจึงไม่ถาม
"ศิษย์เอ๋ย ยังไม่รีบไปขอบคุณผู้อาวุโสอีกหรือ เจ้าออกจากสำนักมานานเช่นนี้ ก็ถึงเวลาที่เจ้าจะกลับไปแล้ว"
เหรินชิงถูกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
"หา?"
หลิวเฉิงเสวี่ยรู้สึกงุนงง
เมื่อครู่ท่านเจ้าหอเพิ่งจะบอกว่า ใต้หล้านี้ไม่มีเรื่องใดที่เขาไม่รู้ เหตุใดท่านอาจารย์ของนางจึงไม่ถามสักคำ
ไม่เหมือนกับนิสัยของท่านอาจารย์เลย
"ทำไมรึ"
เหรินชิงถูขมวดคิ้ว เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เจ้ายังคิดจะอยู่ที่นี่ รบกวนผู้อาวุโสอีกหรือ"
"มิ... มิใช่เจ้าค่ะ"
หลิวเฉิงเสวี่ยรีบแก้ตัว
"มิใช่อันใด"
เหรินชิงถูรู้สึกไม่พอใจ
ศิษย์ของเขามีนิสัยเรียบร้อย เหตุใดวันนี้จึงกล้าพูดขัดเขา
"หยางชิวแห่งสำนักมารเก้าขุมนรก ใกล้จะบรรลุถึงระดับศักดิ์สิทธิ์แล้วเจ้าค่ะ!"
หลิวเฉิงเสวี่ยตัดสินใจ เอ่ยออกมาเสียงดัง