ตอนที่แล้วกำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 18 เส้นทางในอนาคต ล้วนถูกกำหนดไว้แล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปกำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 20 ขอเข้าพบเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์

กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 19 เบาเกินไป


กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 19 เบาเกินไป

หลี่อวิ๋นใจสั่นไหว มองไปยังกล่องหยกในมือของหานเฟิง

[แดนแสงสนธยา (สมบัติเวทระดับเหนือสวรรค์) สามารถแลกเปลี่ยนเป็นแต้มกลไกสวรรค์ได้หนึ่งพันสามร้อยแต้ม]

"เจ้าเมืองต้าฮวง ช่างเกรงใจข้ายิ่งนัก"

หลี่อวิ๋นยิ้มน้อย ๆ ยื่นมือออกไปรับกล่องหยก

ของให้เปล่า ใครจะไม่รับ

ทำการลงมือมอบสมบัติเวทระดับเหนือสวรรค์ให้ทันที

หลี่อวิ๋นรู้สึกพึงพอใจเจ้าเมืองต้าฮวงผู้นี้ยิ่งนัก แม้ยังไม่ได้พบหน้า

"นี่เป็นสิ่งที่พวกเราควรทำ หากไม่มีท่านผู้อาวุโส เมื่อวานนี้เมืองต้าฮวงคงถูกทำลายไปแล้ว"

หานเฟิงกล่าวด้วยความเคารพ

เบื้องหน้าเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นี้น่ากลัวยิ่งนัก เขาไม่กล้าแสดงความโอหัง

วางตัวต่ำที่สุด

"เมื่อวานนี้หรือ"

หลี่อวิ๋นไม่เข้าใจ

เมื่อวานนี้เขาทำอะไรไป

เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วน ดูเหมือนว่าหยางชิวจะมาที่นี่ หรือว่าหยางชิวต้องการทำลายเมืองต้าฮวง

เรื่องนี้...

ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

เพราะว่า

ศิษย์ของหยางชิวตายใกล้ ๆ เมืองต้าฮวง การที่ยอดฝีมือระดับจอมศักดิ์สิทธิ์โกรธแค้นเมืองต้าฮวงที่อยู่ไม่ไกล ก็เป็นเรื่องปกติ

ยิ่งไปกว่านั้น หลิวเฉิงเสวี่ยยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองต้าฮวง

หากเขาไม่อยู่ที่นี่ เมืองต้าฮวงจะอยู่รอดหรือไม่ ก็ยังไม่แน่นอน

เมื่อคิดได้ดังนั้น

หลี่อวิ๋นก็ยังคงยิ้มแย้ม ยกนิ้วชี้ไปที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง เอ่ยว่า

"สหายเต๋าหาน เชิญนั่ง"

"ต่อหน้าท่านผู้อาวุโส ผู้น้อยไม่กล้ารับคำว่าสหายเต๋า เรียกข้าว่าหานเฟิงก็พอแล้วขอรับ"

สหายเต๋า เป็นคำที่ใช้เรียกผู้ที่มีระดับเดียวกัน หากยอดฝีมือสายมารเมื่อวานนี้รู้ว่าเขากับท่านผู้อาวุโสผู้นี้เรียกขานกันว่าสหายเต๋า

เขาคงไม่รู้ว่าตนจะตายอย่างไร

"เช่นนั้น ข้าจะเรียกเจ้าว่าผู้บัญชาการหานก็แล้วกัน"

หลี่อวิ๋นกล่าว

เมื่อครู่ เขามองข้อมูลของหานเฟิงแวบหนึ่ง

เป็นถึงผู้บัญชาการองครักษ์ของเมืองต้าฮวง

หน้าที่คือการปกป้องเมืองต้าฮวง ตบะเพียงระดับเบิกทวารระยะต้น ต่ำกว่าหลิวเฉิงเสวี่ยมาก ตบะระดับนี้ ในเมืองต้าฮวงอาจจะพอใช้ได้

แต่ในโลกแห่งการบำเพ็ญแล้ว นับว่าอ่อนแอ

"ท่านผู้อาวุโสช่างเกรงใจยิ่งนัก"

หานเฟิงกล่าว

เขาไม่นึกเลยว่า ท่านผู้อาวุโสผู้นี้จะสุภาพอ่อนโยนยิ่งกว่าที่เขาคิด ไม่อวดอ้างพลัง หากไม่ใช่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เขาคงคิดว่าท่านผู้อาวุโสผู้นี้เป็นเพียงคนธรรมดา

หลี่อวิ๋นหัวเราะเบา ๆ ยกถ้วยชาขึ้น ทำท่าเชิญ

ข้างกาย

หลิวเฉิงเสวี่ยยกถ้วยชามาอีกหนึ่งถ้วยวางไว้ข้าง ๆ หานเฟิงอย่างเหมาะเจาะ

หานเฟิงมองหลิวเฉิงเสวี่ยแวบหนึ่ง รู้สึกทึ่งในใจ ท่านผู้อาวุโสก็คือท่านผู้อาวุโส แม้แต่สาวใช้ ตบะก็ยังสูงส่งเช่นนี้ ดูจากท่าทางแล้ว น่าจะมีตบะสูงกว่าเขา

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นหญิงงามล่มเมืองอีกด้วย!

มองแวบหนึ่ง หานเฟิงไม่กล้ามองต่อ

กำลังจะยื่นมือไปหยิบถ้วยชา เขาก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ จึงหันไปมองหลิวเฉิงเสวี่ยอีกครั้ง

ครั้งนี้

เขาทนไม่ไหว ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ทันที

หญิงสาวผู้นี้ เป็นสาวใช้ได้ที่ไหนกัน

ชัดเจนว่าเป็นศิษย์ของสำนักกระบี่ต้าหลัว!

บนแขนเสื้อของนาง ปักรูปกระบี่ยาวสีทอง ชัดเจนว่าเป็นศิษย์แกนหลัก!

ด้วยฐานะเช่นนี้ อย่างน้อยอาจารย์ของนางก็ต้องเป็นถึงผู้อาวุโสของสำนักกระบี่ต้าหลัว หรืออาจจะเป็นศิษย์สายตรงของประมุขด้วยซ้ำ!

คนเช่นนี้ มาเป็นสาวใช้ให้ท่านผู้อาวุโส

มือที่กำลังจะหยิบถ้วยชาของหานเฟิงก็ชะงักค้างกลางอากาศ ชาของคนอื่นไม่เป็นไร แต่ชาที่ศิษย์แกนหลักของสำนักกระบี่ต้าหลัวรินให้ เขาไม่กล้าดื่มจริง ๆ

คนเช่นนี้ ปกติหากมาที่เมืองต้าฮวง พวกเขาต้องกราบไหว้ราวกับบรรพบุรุษ

ผู้ใดจะกล้าดื่มชาที่บรรพบุรุษรินให้

"เกิดอะไรขึ้น"

หลี่อวิ๋นเงยหน้าขึ้น เอ่ยถามอย่างประหลาดใจ

หานเฟิงผู้นี้ก็ดูดีทุกอย่าง เพียงแต่จิตใจไม่มั่นคง

"ไม่... ไม่มีอะไร"

หานเฟิงยิ้มอย่างฝืน ๆ เขาก้มศีรษะเล็กน้อย เอ่ยว่า "ผู้น้อยนึกขึ้นได้ว่า ยังมีธุระด่วน ต้องรีบกลับไปจัดการ คงอยู่ต่อไม่ได้แล้ว"

"นี่..."

หลี่อวิ๋นอึ้งไป

เกิดอะไรขึ้น

เขายังไม่ได้เริ่มคุยเรื่องธุรกิจเลย ทำไมถึงจะไปแล้ว

"จริงสิ"

หานเฟิงเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ จึงถามต่อ "ไม่ทราบว่าท่านผู้อาวุโสจะมีเวลาว่างเมื่อใด เจ้าเมืองของข้าต้องการมาคารวะท่านผู้อาวุโส"

"เพราะเกรงว่าจะรบกวนท่านผู้อาวุโส จึงให้ข้ามาสอบถามก่อน"

"มีเวลาตลอด"

หลี่อวิ๋นกล่าว

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว

ที่แท้หานเฟิงไม่ใช่ลูกค้า เจ้าเมืองที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างหาก

"ดีจริง ๆ"

หานเฟิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

อย่างไรเสีย

เรื่องนี้ก็ถือว่าสำเร็จ ส่วนต่อไป จะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าเมืองแล้ว

เขาเช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผาก ไม่กล้าอยู่ต่อ จึงก้มศีรษะกล่าวว่า

"ผู้น้อยขอตัวลา"

"อืม"

หลี่อวิ๋นพยักหน้า

...

หลังจากหานเฟิงออกจากหอคอยกลไกสวรรค์

เขาก็ไม่รอช้า

พาลูกน้อง มุ่งหน้าไปยังจวนเจ้าเมืองทันที

ยังไม่ทันถึงจวนเจ้าเมือง ห่างออกไปไกล เขาก็เห็นเจ้าเมืองต้าฮวงยืนรออยู่ที่หน้าประตู

"เป็นอย่างไร ท่านผู้อาวุโสยอมพบข้าหรือไม่"

เจ้าเมืองต้าฮวงเดินเข้ามาถามอย่างร้อนรน

"ผู้น้อยทำสำเร็จแล้ว ท่านผู้อาวุโสผู้นั้นสุภาพอ่อนโยน ใจดี ท่านกล่าวว่าเจ้าเมืองสามารถไปพบเขาได้ตลอดเวลา"

หานเฟิงก้มศีรษะกล่าว

"ดีจริง ๆ!"

เจ้าเมืองต้าฮวงลูบมืออย่างตื่นเต้น พึมพำกับตัวเอง "ของขวัญที่ข้าเตรียมไว้ คงต้องใช้เวลาอีกสองวัน เช่นนั้นอีกสองวันค่อยไปที่หอคอยกลไกสวรรค์"

"ท่านเจ้าเมือง..."

หานเฟิงทำท่าจะพูด แต่ก็หยุด

"มีอะไรหรือ"

เจ้าเมืองต้าฮวงมองหาเฟิง เอ่ยว่า "ที่นี่ไม่มีคนนอก พูดตรง ๆ ได้เลย"

"เมื่อครู่... ผู้น้อยเห็นศิษย์ของสำนักกระบี่ต้าหลัวอยู่ในหอคอยกลไกสวรรค์"

"โอ้"

"มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ"

เจ้าเมืองต้าฮวงรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที

เมื่อวานนี้เห็นยอดฝีมือสายมาร วันนี้กลับเห็นคนของสำนักกระบี่ต้าหลัว

หรือว่า ท่านผู้อาวุโสผู้นี้จะเป็นคนของทั้งสองฝ่าย

ปกติ คนที่ทำเช่นนี้ได้ ต้องเป็นคนที่ทั้งสองฝ่ายต่างเอาใจ หรือไม่ก็เป็นคนที่แข็งแกร่งจนทั้งสองฝ่ายต้องเอาใจ

ส่วนเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นั้น ชัดเจนว่าเป็นอย่างหลัง

"เจ้าเห็นชัดหรือไม่ว่าเป็นคนของสำนักกระบี่ต้าหลัวระดับใด"

เจ้าเมืองต้าฮวงถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

"เรื่องนี้ ผู้น้อยไม่แน่ใจ แต่จากที่ผู้น้อยเห็น ดูเหมือนจะเป็นศิษย์แกนหลักของสำนักกระบี่ต้าหลัว กำลัง... "

หานเฟิงเว้นวรรคครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อ "เป็นสาวใช้ให้ท่านผู้อาวุโส"

"อืม???"

เจ้าเมืองต้าฮวงอึ้งไป

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยอย่างช้า ๆ "ฐานะของท่านผู้อาวุโสในหอคอยกลไกสวรรค์ คงเหนือกว่าที่ข้าคาดการณ์ไว้ ของขวัญที่ข้าเตรียมไว้ คงเบาเกินไป"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด