กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 16 เขาไม่ได้หลอกข้า!
กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 16 เขาไม่ได้หลอกข้า!
"ผู้อาวุโส..."
หลิวเฉิงเสวี่ยเห็นหลี่อวิ๋นลืมตาขึ้น จึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "เมื่อครู่... เกิดอะไรขึ้นหรือ"
"เอ่อ..."
สีหน้าของหลี่อวิ๋นเปลี่ยนไปเล็กน้อย เอ่ยถามอย่างตะกุกตะกัก "เจ้าเห็นทั้งหมดแล้วหรือ"
หลิวเฉิงเสวี่ยพยักหน้า
"จบสิ้นแล้ว"
เบื้องหน้าของหลี่อวิ๋นมืดมิดลง
รู้เช่นนี้
เขาน่าจะไล่หลิวเฉิงเสวี่ยออกไปก่อน
เขาเพิ่งจะแลกเปลี่ยนวิชาเวทมา ด้วยความดีใจ จึงแลกเปลี่ยนแต้มกลไกสวรรค์ทั้งหมดเป็นพลังตบะ แต่กลับลืมไปว่าหลิวเฉิงเสวี่ยยังอยู่ที่นี่
ตบะระดับเทวฤทธิ์ แม้จะไม่นับว่าอ่อนแอ
แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากมายอะไร
รังสีอำนาจเมื่อครู่ จะปิดบังหลิวเฉิงเสวี่ยได้อย่างไร
หากเขาเดาไม่ผิด
สถานะยอดฝีมือ คงพังทลายลงแล้ว
หลิวเฉิงเสวี่ยไม่ใช่คนโง่เขลา นางเห็นรังสีอำนาจเมื่อครู่ ย่อมต้องเกิดความสงสัยในใจ
แต่ไม่คาดคิดว่า
สีหน้าของหลิวเฉิงเสวี่ย กลับยิ่งเคารพนบนอบ นางเอ่ยถามอย่างลองเชิง
"ผู้อาวุโสคงเป็นถึงมหาจักรพรรดิกระมัง"
"หืม?"
ดวงตาของหลี่อวิ๋นเป็นประกาย
ยังพอมีหวังหรือ
"แค่ก"
หลี่อวิ๋นกระแอมไอเบา ๆ กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ "ข้ามิใช่มหาจักรพรรดิ เป็นเพียงเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น"
"ธรรมดา ๆ รึ..."
หลิวเฉิงเสวี่ยพูดไม่ออก
คนธรรมดาจะปล่อยรังสีอำนาจเช่นนั้นได้หรือ
คนธรรมดาจะทำให้ยอดฝีมือระดับจอมศักดิ์สิทธิ์ เคารพยำเกรงราวกับเทพเจ้าได้หรือ
จนถึงตอนนี้ นางยังคงหวาดกลัว เมื่อนึกถึงภาพเมื่อครู่ ราวกับว่านางกำลังเผชิญหน้ากับมหาจักรพรรดิที่อยู่เหนืออดีต ปัจจุบัน และอนาคต มองข้ามภพภูมิทั้งหมื่น
ไม่อาจเกิดความคิดต่อต้านขึ้นมาได้แม้แต่น้อย
อีกฝ่ายเพียงแค่ชำเลืองมอง ก็สามารถทำให้นางสลายกลายเป็นผุยผง
เห็นหลี่อวิ๋นหยิบตำราขึ้นมาอ่าน ไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา หลิวเฉิงเสวี่ยจึงไม่กล้าถามต่อ นางเข้าใจดีว่า การรู้มากเกินไป ไม่เป็นผลดีต่อนาง
ในเวลาเดียวกัน
หลี่อวิ๋นเห็นหลิวเฉิงเสวี่ยหยุดถาม ก็รู้สึกโล่งใจ
ดูเหมือนว่าสถานะของเขา ยังไม่ถูกเปิดเผย
สิ่งที่หลิวเฉิงเสวี่ยเห็น ก็ไม่เหมือนกับที่เขาคิด
แล้วคำถามคือ
หลิวเฉิงเสวี่ยเห็นอะไรกันแน่เล่า
...
ห่างจากเมืองต้าฮวงไปหลายล้านลี้
แสงวาบหนึ่งพุ่งผ่านท้องฟ้า รวดเร็วยิ่งนัก
ไม่นานนัก
แสงวาบนั้นก็หยุดลง กลางอากาศ แสงสว่างจางหายไป ปรากฏร่างของชายชราชุดดำผู้หนึ่งขึ้นมา ท่าทางสง่างาม ดวงตาเป็นประกาย
"ในที่สุดก็มาถึง"
หยางชิวสองมือไพล่หลัง เอ่ยในใจ
ระยะทางหลายล้านลี้ เขาใช้เวลาเกือบสองชั่วยาม จึงเดินทางมาถึง หากไม่ได้มอบรองเท้าเมฆามารให้เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ ความเร็วของเขาย่อมต้องรวดเร็วยิ่งกว่านี้
"ที่นี่คือเทือกเขาร้อยสายหรือ"
หยางชิวมองลงไปเบื้องล่าง
ไม่มองไม่เป็นไร
เมื่อมองลงไป ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นทันที หลังจากเห็นภาพเบื้องล่างอย่างชัดเจน เขาก็แทบสำรอกเลือดออกมา
เห็นเพียงว่าเบื้องล่างนั้น เป็นดินแดนอันแห้งแล้ง ทรายสีเหลืองปลิวว่อน เต็มไปด้วยความอ้างว้าง ปราณน้อยนิดจนแทบไม่หลงเหลือ ภายในรัศมีหลายหมื่นลี้ อย่าว่าแต่เงาคน
แม้แต่เงาผีก็ยังไม่มี
เนินดินน้อยใหญ่ ทอดตัวยาวไปจนสุดขอบฟ้า
เรียกได้ว่าเป็นดินแดนอันแสนห่างไกล
"นี่... นี่... ข้า... ข้า... เจ็บใจยิ่งนัก!"
หยางชิวถอยหลังไปสามก้าว มือข้างหนึ่งกุมหน้าอก ร้องครวญออกมา
หน้าอกของเขา พองยุบ ยุบพอง ราวกับกำลังสูบลม หายใจหอบถี่ ปราณมารอันน่าสะพรึงกลัว กวาดล้างออกไป บดขยี้ภูเขาน้อยใหญ่จนแหลกสลาย
ถูกหลอกแล้ว!
ถูกหลอกอย่างแน่นอน!
สมบัติทั้งหมดที่สั่งสมมา ถูกแลกเปลี่ยนเป็นข่าวสารปลอม
เขายังโง่เขลา เดินทางมาที่นี่ด้วยตนเอง
ดินแดนเช่นนี้
ปราณน้อยนิดเช่นนี้
แม้แต่การบำเพ็ญเพียรยังทำได้ยาก จะมีวาสนาอันใดอยู่ได้
แม้จะคิดด้วยนิ้วเท้าก็รู้
ดินแดนเช่นนี้ แม้แต่ต้นหญ้าวิญญาณ ยังไม่อาจเติบโต!
"สมบัติทั้งหมดของข้า!"
เบื้องหน้าของหยางชิวมืดมิดลง
เกือบร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
ยิ่งคิด ยิ่งโมโห ยิ่งถอย ยิ่งรู้สึกเสียใจ เขาหันหลังกลับทันที เตรียมบินกลับไปยังหอคอยกลไกสวรรค์ แต่ยังไม่ทันได้ขยับ
เขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมา
เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์น่ากลัวยิ่งนัก
อย่าว่าแต่เขา แม้แต่สำนักมารเก้าขุมนรก ก็มิอาจต่อกรได้
หากเขาไปที่นั่น ไม่ต้องพูดถึงการทวงคืนสมบัติ แม้แต่ชีวิตของเขาและสำนักมารเก้าขุมนรก ก็อาจต้องจบสิ้น
"เจ็บใจยิ่งนัก!"
หยางชิวตะโกนลั่น กำหมัดข้างหนึ่ง ต่อยออกไปกลางอากาศ หมัดนี้ทรงพลัง ราวกับดาวตกพุ่งผ่านท้องฟ้า เกิดเสียงดัง "ตู้ม!" จนอากาศสั่นสะเทือน
ภาพที่เขาจินตนาการไว้ ภูเขาพังทลาย พื้นดินแตกระแหง กลับไม่ปรากฏขึ้น
แต่กลับกลายเป็น
อากาศเบื้องหน้า บิดเบี้ยวไป
"เกิดอะไรขึ้น"
สีหน้าของหยางชิวเปลี่ยนไป เขามองไปยังอากาศเบื้องหน้าอย่างไม่กะพริบตา
เห็นเพียง
กลางอากาศ
ปรากฏสัญลักษณ์ขึ้นมาทีละดวง ราวกับดวงดาวน้อยใหญ่ ส่องประกายระยิบระยับ เต็มท้องฟ้า
"หรือว่า..."
ดวงตาของหยางชิวเป็นประกาย เอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อ
"เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ เขาไม่ได้หลอกข้าหรือ"
ยังไม่ทันที่เขาจะได้สติ
ภาพเบื้องหน้าก็เปลี่ยนไป ดวงดาวน้อยใหญ่กลายเป็นสีแดงเลือด ปราณอันน่าสะพรึงกลัวกดทับลงมาจากท้องฟ้า
แรงกดดันนี้ ยิ่งใหญ่มหาศาล
แม้แต่หยางชิว ก็ยังไม่อาจต้านทาน ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
"เปรี้ยง!"
พื้นดินแตกเป็นเสี่ยง ๆ
หยางชิวมองลงไปเบื้องล่าง ดวงตาหดเล็กลงทันที
เห็นเพียงโดยรอบตัวเขา ในรัศมีหลายพันลี้ เต็มไปด้วยกองกระดูกขาวโพลน ไม่อาจคาดเดาได้ว่ามีกี่ร่าง บางร่างผุพังไปตามกาลเวลา ไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นของคนยุคใด
ส่วนบางร่าง
ยังคงสมบูรณ์ราวกับยังมีชีวิต
มองจากสภาพของกระดูกเหล่านั้น ก็พอจะรู้ได้ว่า ก่อนตาย พวกเขามีพลังไม่ด้อยไปกว่าเขา อย่างน้อยก็ต้องเป็นระดับจอมศักดิ์สิทธิ์!
ที่นี่คือแดนมรณะ!
ผู้ใดก้าวเข้ามา ต้องตาย!
ด้วยเหตุนี้ ข่าวสารของสถานที่แห่งนี้ จึงไม่เคยแพร่ออกไป ไม่มีผู้ใดรู้ว่า ที่นี่มีสถานที่อันตรายเช่นนี้ซ่อนอยู่!
หากเป็นคนธรรมดา เห็นภาพเช่นนี้ ย่อมต้องหวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูก
แต่หยางชิวแตกต่างออกไป
เขามิได้หวาดกลัว กลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง
"ไม่ผิดแน่!"
ร่างกายของหยางชิวสั่นเทา ในมือปรากฏแผ่นหยกขึ้นมาหนึ่งแผ่น เขามองดูข้อความภายในแผ่นหยก ก่อนจะมองไปยังค่ายกลเบื้องหน้า เอ่ยอย่างตกตะลึง "ไม่ผิดแน่!"
"ผู้อาวุโส ท่านคือผู้อาวุโสอย่างแท้จริง!"
"เขาไม่ได้หลอกข้า!"
"ทุกอย่างเป็นความจริง ที่นี่มีวิธีการบรรลุถึงระดับศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ!"