ตอนที่แล้วกำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 14 ข้าต้องไปคารวะผู้อาวุโส
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปกำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 16 เขาไม่ได้หลอกข้า!

กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 15 เพิ่มพูนตบะ


กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 15 เพิ่มพูนตบะ

ภายในหอคอยกลไกสวรรค์

หลี่อวิ๋นมองส่งหยางชิวจากไป

ก่อนจะหันกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ เอ่ยขึ้นว่า

"ออกมาเถิด"

"ขอบพระคุณท่านผู้อาวุโส"

หลิวเฉิงเสวี่ยเดินออกมาจากห้องด้านข้าง ค้อมคำนับอย่างนอบน้อม

ในตอนนี้

สายตาที่นางมองหลี่อวิ๋นก็เปลี่ยนไป

ในตอนแรก

นางคิดว่าท่านผู้อาวุโสผู้นี้ คงมีตบะไม่ต่างจากอาจารย์ของนางมากนัก แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่

หยางชิวผู้นั้น เป็นถึงผู้อาวุโสของสำนักมารเก้าขุมนรก

แม้ตบะจะด้อยกว่าอาจารย์ของนาง แต่ก็ไม่ได้ด้อยกว่ามากนัก

บุคคลเช่นนั้น ที่มีนิสัยโหดเหี้ยม ไม่อยู่ในกฎเกณฑ์ใด ๆ กลับต้องระมัดระวัง ไม่กล้าล่วงเกินท่านผู้อาวุโสผู้นี้ แสดงให้เห็นว่าท่านผู้อาวุโสผู้นี้ มีตบะที่แข็งแกร่งยิ่งนัก

"ไม่ต้องขอบคุณข้า เป็นเพียงการค้าขายเท่านั้น"

หลี่อวิ๋นหันกลับมา มองหลิวเฉิงเสวี่ยพร้อมกับยิ้ม เอ่ยว่า "ท่านอาจารย์ของเจ้าส่งข่าวกลับมาหรือยัง หรือว่ากำลังเดินทางมา"

สำหรับอาจารย์ของหลิวเฉิงเสวี่ย

หลี่อวิ๋นค่อนข้างสนใจ

เพียงแค่ผู้อาวุโสของสำนักมารเก้าขุมนรก ก็มีสมบัติมากมายขนาดนี้

ประมุขสำนักกระบี่ต้าหลัว จะร่ำรวยขนาดไหน

"ส่ง... ส่งข่าวกลับมาแล้วเจ้าค่ะ"

หลิวเฉิงเสวี่ยก้มหน้าลง ใบหน้าแดงก่ำขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อถูกท่านผู้อาวุโสมองเช่นนี้ นางรู้สึกเขินอาย

"สำนักกระบี่ต้าหลัวอยู่ห่างไกลจากเมืองต้าฮวง แม้แต่อาจารย์ของข้า คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองวัน"

"สองวันหรือ"

หลี่อวิ๋นครุ่นคิด ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ไม่ต้องรีบร้อน ปล่อยให้เขามาอย่างช้า ๆ"

"จริงสิ"

หลี่อวิ๋นทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ จึงเอ่ยถามอีกครั้ง "ท่านอาจารย์ของเจ้ามีตบะระดับใด"

"เอ่อ..."

หลิวเฉิงเสวี่ยชะงักไปครู่หนึ่ง มองอย่างเหม่อลอย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ "น่าจะเป็นระดับแก่นสวรรค์กระมังเจ้าค่ะ"

นางรู้เพียงว่าอาจารย์ของนางแข็งแกร่ง แต่ไม่รู้ว่าแข็งแกร่งระดับใด

แม้แต่นางเองก็ไม่แน่ใจ

แต่

ประมุขของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แต่ละแห่ง ล้วนมีตบะระดับแก่นสวรรค์ อาจารย์ของนางก็น่าจะอยู่ในระดับนี้เช่นกัน

"โอ้—!"

หลี่อวิ๋นร้อง "โอ้" อย่างมีเลศนัย

ระดับแก่นสวรรค์หรือ

เช่นนั้นก็ง่ายแล้ว

ผู้อาวุโสของสำนักมารเก้าขุมนรกยังเตรียมก้าวเข้าสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ประมุขของเจ้า กลับยังคงอยู่ที่ระดับแก่นสวรรค์ ต่อไปจะกล้าพบหน้าใครอีกหรือ

เพียงเรื่องนี้ หลี่อวิ๋นมั่นใจว่าประมุขสำนักกระบี่ต้าหลัวคงต้องยอมทำตามอย่างแน่นอน

...

เมืองต้าฮวง

ห่างออกไปนับหมื่นล้านลี้

บนท้องฟ้า

ชายวัยกลางคนรูปร่างสง่างาม สวมชุดคลุมสีม่วง กำลังเดินทางอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้น

เขาก็รู้สึกหนาวสันหลังวาบ

ในดวงตาปรากฏความสงสัย

"แปลกประหลาดยิ่งนัก"

ชายวัยกลางคนพึมพำกับตัวเอง "เสวี่ยเอ๋อร์ส่งข่าวมาบอกว่าปลอดภัยแล้ว เหตุใดข้าจึงรู้สึกไม่ดีเช่นนี้"

เขาสงสัย

คิดเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก

...

"สองวันนั้นย่อมผ่านไปอย่างรวดเร็ว เจ้าพักอยู่ที่นี่ก่อนเถิด"

ภายในหอคอยกลไกสวรรค์ หลี่อวิ๋นกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ "ไม่ต้องเกรงใจ รออย่างสบายใจเถิด"

"เจ้าค่ะ"

หลิวเฉิงเสวี่ยพยักหน้า

แม้หลี่อวิ๋นจะบอกให้นางไม่ต้องเกรงใจ แต่นางก็ไม่เคยคิดเช่นนั้น

เห็นหลี่อวิ๋นหยิบตำราขึ้นมาอ่านอีกครั้ง นางจึงเดินไปหยิบกาน้ำชา รินชาใส่ถ้วยที่ว่างเปล่า

หลี่อวิ๋นมองแวบหนึ่ง ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

ในตอนนี้

จิตใจของหลี่อวิ๋นกำลังจดจ่ออยู่กับระบบ

แต้มกลไกสวรรค์นับหมื่นแต้ม

นับเป็นทรัพย์สมบัติมหาศาล เขาต้องวางแผนการใช้อย่างรอบคอบ

"ระบบ เปิดร้านค้า คัดกรองวิชาเวทที่เหมาะกับข้า"

หลี่อวิ๋นกล่าวในใจ

ตอนนี้เขาอยู่ที่ระดับหลอมกายระยะกลาง เน้นการฝึกฝนร่างกาย มีหรือไม่มีวิชาเวทก็ไม่ต่างกัน แต่ต่อไปคงไม่ใช่ ต้องฝึกฝนพลังแก่นแท้ อย่างน้อยต้องมีวิชาเวทสักเล่มเป็นพื้นฐาน

[ติ๊ง]

[ระบบได้คัดกรองวิชาเวทที่เหมาะกับท่านเจ้าภาพแล้ว]

[วิชานพเก้าผันแปรอันธการ (โลกบุพกาล): มูลค่าหนึ่งพันล้านแต้มกลไกสวรรค์]

[ฤทธาคุกกำราบคชสารเทพ (โลกราชันศักดิ์สิทธิ์): มูลค่าห้าร้อยล้านแต้มกลไกสวรรค์]

[วิชาเร้นนวะอัษฏ (โลกบุพกาล): มูลค่าหนึ่งร้อยล้านแต้มกลไกสวรรค์]

[พระสูตรทารกเร้นคุกมาร (โลกตี้จวิน): มูลค่าแปดสิบล้านแต้มกลไกสวรรค์]

...

[พระสูตรจักรพรรดิสวรรค์ (โลกพิชิตสวรรค์): มูลค่าสองล้านแต้มกลไกสวรรค์ (สามารถฝึกฝนถึงระดับมหาจักรพรรดิ)]

[พระสูตรไร้กำเนิด (โลกพิชิตสวรรค์): มูลค่าสองล้านแต้มกลไกสวรรค์ (สามารถฝึกฝนถึงระดับมหาจักรพรรดิ)]

...

"แพงขนาดนี้เชียวหรือ"

หลี่อวิ๋นขมวดคิ้ว

ในตอนนี้ เกิดสถานการณ์ที่น่าอับอายขึ้น

วิชาเวทที่เขาสนใจ กลับซื้อไม่ไหว ส่วนวิชาเวทที่ซื้อไหว เขากลับไม่สนใจ

วิชาเวทราคาประมาณหนึ่งหมื่นแต้ม ศักยภาพต่ำเกินไป อย่างมากก็ฝึกฝนถึงระดับศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น จะก้าวไปกว่านั้น ยากยิ่งกว่าปีนขึ้นฟ้า นอกจากจะเปลี่ยนวิชาเวท

"ระบบ สามารถซื้อแยกส่วนได้หรือไม่"

หลี่อวิ๋นถามในใจ

[สามารถ]

เมื่อได้รับคำตอบ หลี่อวิ๋นก็รู้สึกโล่งใจ เขาจึงกล่าวว่า "เช่นนั้น ข้าขอซื้อพระสูตรจักรพรรดิสวรรค์บทต้น ด้วยแต้มกลไกสวรรค์หนึ่งหมื่นแต้ม"

[ติ๊ง ท่านเจ้าภาพใช้แต้มกลไกสวรรค์หนึ่งหมื่นแต้ม ซื้อพระสูตรจักรพรรดิสวรรค์บทต้น (สามารถฝึกฝนถึงระดับลับจุตรสูงสุด)]

"แพงชะมัด"

หลี่อวิ๋นบ่นในใจ

หนึ่งหมื่นแต้มกลไกสวรรค์ ได้แค่ระดับลับจุตรสูงสุด

ต่อไปคงแพงกว่านี้แน่

ระดับลับมังกรผันแปรต้องใช้เท่าไหร่

ระดับเซียนเล่า

ส่วนระดับกึ่งจักรพรรดิกับมหาจักรพรรดิ หลี่อวิ๋นไม่กล้าคิดถึง แม้แต่จะนึกภาพ ยังยากลำบาก คาดว่าต้องเชือดแกะอ้วนอีกหลายตัว ถึงจะซื้อวิชาเวทฉบับเต็มได้

รู้เช่นนี้ ซื้อวิชาเวทเล่มอื่นดีกว่า อย่างน้อยก็ฝึกฝนถึงระดับแก่นสวรรค์ได้

[ติ๊ง ท่านเจ้าภาพควรรู้ว่า วิชาเวทนั้นเน้นที่ศักยภาพ ยิ่งวิชาเวทมีมูลค่าต่ำ ยิ่งมีศักยภาพต่ำ เมื่อต่อสู้ในระดับเดียวกัน ย่อมด้อยกว่า ส่วนพระสูตรจักรพรรดิสวรรค์ ศักยภาพไม่ได้หยุดอยู่ที่ระดับมหาจักรพรรดิ พลังที่ปลดปล่อยออกมา ย่อมแข็งแกร่งกว่า]

"ก็ได้"

เมื่อได้ยินคำอธิบายนี้ หลี่อวิ๋นก็รู้สึกพอใจขึ้นมาบ้าง

เขามองแต้มกลไกสวรรค์ที่เหลือ

กล่าวว่า

"ระบบ ใช้แต้มกลไกสวรรค์ทั้งหมดเพิ่มพูนตบะ!"

[ติ๊ง ยืนยันการใช้แต้มกลไกสวรรค์แปดร้อยสี่สิบแต้มเพื่อเพิ่มพูนตบะหรือไม่]

"ยืนยัน!"

ทันทีที่สิ้นเสียง

พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็ปรากฏขึ้นในร่างกายของหลี่อวิ๋น ไหลเวียนไปทั่วร่างกาย

พระสูตรจักรพรรดิสวรรค์เริ่มโคจรโดยไม่ต้องเพ่งพินิจ

"ตู้ม!"

แสงสีทองสว่างไสว

ภายในหอคอยกลไกสวรรค์

ปรากฏดวงอาทิตย์สีทองขึ้น ปล่อยรังสีอันน่าเกรงขามออกมา

ใต้ดวงอาทิตย์ คลื่นพลังซัดสาด ปล่อยแสงสว่างเจิดจ้า ราวกับจะกลืนกินสวรรค์และปฐพี

หลี่อวิ๋นนั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ดวงอาทิตย์ ร่างกายสง่างาม ราวกับราชันเซียน ยืนหยัดอยู่เหนือกาลเวลา เหนือกว่าสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูจืดชืดลงไป

"นี่... เกิดอะไรขึ้น"

หลิวเฉิงเสวี่ยจ้องมองหลี่อวิ๋นอย่างไม่ละสายตา ในดวงตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น พึมพำกับตัวเอง "ท่านผู้อาวุโสกำลังฝึกฝนอยู่หรือ"

"แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่"

เนื่องจากหอคอยกลไกสวรรค์ปิดกั้นรัศมีทั้งหมด ทำให้หลิวเฉิงเสวี่ยเห็นเพียงปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ แต่กลับไม่รู้สึกถึงแรงกดดันใด ๆ ทำให้นางรู้สึกประหลาดใจ

"ตึบ"

หลิวเฉิงเสวี่ยขยับเท้า ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว

เพียงก้าวเดียว

เบื้องหน้านางก็แปรเปลี่ยนเป็นสีทอง ดวงอาทิตย์สีทองแผ่ขยายออกไป ไร้ขอบเขต คลื่นพลังซัดสาด ท่ามกลางดวงอาทิตย์ ปรากฏดอกบัวสีเขียวขึ้น มีสามกลีบ ส่องแสงระยิบระยับ

ดอกบัวสั่นไหว โลกทั้งใบแตกสลาย หมอกแห่งความโกลาหลพวยพุ่งออกมา กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง

"ไม่ดีแล้ว!"

เมื่อเห็นเช่นนี้

หลิวเฉิงเสวี่ยร้องตะโกนออกมา

ใจของนางเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

นางไม่น่าจะอยากรู้อยากเห็นเช่นนี้ เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ช่างลึกลับซับซ้อน ทุกสิ่งทุกอย่างราวกับปกคลุมไปด้วยหมอก นางเพียงแค่ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว

ไม่นึกเลยว่า จะก้าวเข้าสู่สถานการณ์อันตรายเช่นนี้

ในขณะที่นางคิดว่า ตนเองกำลังจะถูกดวงอาทิตย์สีทองกลืนกิน

ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็หายไปในพริบตา

หอคอยกลไกสวรรค์ ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ส่วนนาง ก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นเพียงภาพลวงตา

แต่เหงื่อเย็นที่ไหลออกมา เตือนนางอยู่ตลอดเวลาว่า ทุกสิ่งทุกอย่างนั้น เป็นเรื่องจริง

"นี่คือระดับลับจุตรสูงสุดหรือ"

อีกด้านหนึ่ง

หลี่อวิ๋นลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ

หากเปรียบเทียบกับตบะของโลกใบนี้ ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ที่ระดับเทวฤทธิ์ ในบรรดารุ่นเยาว์ นับว่าเป็นยอดฝีมือ

แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งนัก

แต่เมื่อคิดว่า นี่คือความสำเร็จที่เขาทำได้ภายในหนึ่งวัน เขาก็รู้สึกพอใจแล้ว

"แต้มกลไกสวรรค์หายไปอีกแล้ว"

หลี่อวิ๋นถอนหายใจ

หามาได้เร็ว ใช้ไปยิ่งเร็ว แต้มกลไกสวรรค์นับหมื่นแต้ม ยังไม่ทันได้อุ่นมือ ก็หมดลงไปแล้ว แม้แต่พลังวิเศษสักอย่าง เขายังไม่มี

ตอนนี้

คงได้แต่หวังว่าอาจารย์ของหลิวเฉิงเสวี่ย จะมาถึงโดยเร็ว

---------------------เสริม---------------------

[ระดับตบะ: ระดับหลอมกาย ระดับแก่นปราณ ระดับสั่งสมวิญญาณ ระดับเบิกทวาร ระดับเทวฤทธิ์ ระดับผลัดกาย ระดับเปลี่ยนสวรรค์ ระดับเหนือสวรรค์ ระดับแก่นสวรรค์(จอมศักดิ์สิทธิ์) ระดับศักดิ์สิทธิ์ ระดับราชันศักดิ์สิทธิ์ ระดับอภิศักดิ์สิทธิ์ ระดับกึ่งจักรพรรดิ ระดับมหาจักพรรดิ ราชันเซียน]

[ตบะพระเอกเป็นอีกระบบ ตอนนี้เปิดเผยแค่ ระดับลับจุตรสูงสุด ระดับลับมังกรผันแปร]

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด