กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 11 เจ้าปรารถนาจะก้าวสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์หรือไม่
กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 11 เจ้าปรารถนาจะก้าวสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์หรือไม่
"สหายเต๋าช่างเกรงใจข้ายิ่งนัก"
"ผู้มาเยือนย่อมเป็นแขก สหายเต๋านอนราบอยู่บนพื้นเช่นนี้ได้อย่างไร เชิญลุกขึ้นมาจิบชาร้อน ๆ บรรเทาความหนาวก่อน เรื่องธุรกิจค่อยว่ากันทีหลัง ไม่ต้องรีบร้อน"
หลี่อวิ๋นเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว กล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ช่วยพยุงหยางชิวขึ้นจากพื้น พาไปนั่งที่เก้าอี้ข้าง ๆ
พร้อมกันนั้น ก็รินชาร้อนส่งให้อีกฝ่าย
"ผู้อาวุโสทำเช่นนี้มิได้ ผู้น้อยทำเองได้"
หยางชิวตกตะลึง
เมื่อครู่ยังมีภัยถึงชีวิต ในพริบตาเดียว กลับกลายเป็นแขกผู้ทรงเกียรติ
การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่น ไม่กล้าทำสิ่งใดเกินเลย เพราะรู้ดีว่า หากทำผิดพลาด อาจมีแต่ทางตาย!
"ไม่ต้องเกรงใจ นี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำ"
หลี่อวิ๋นกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
เมื่อเห็นหยางชิว ยกถ้วยชาขึ้นจิบ เขาจึงเอ่ยถามต่อ "ไม่ทราบว่า สหายเต๋าหยางต้องการซื้อข้อมูลใด จากหอคอยกลไกสวรรค์นี้หรือไม่"
"หืม?"
หยางชิวรู้สึกใจหาย
เรื่องนี้มาถึงขั้นนี้แล้วหรือ
เขาวางถ้วยชาลง มองหลี่อวิ๋นอย่างระมัดระวัง เอ่ยถามอย่างลองเชิง "ผู้อาวุโสเห็นว่าข้อมูลใดที่ผู้น้อยควรซื้อ"
ในใจของหยางชิว เกือบจะหมดหวังกับข้อมูลจากหอคอยกลไกสวรรค์แล้ว
สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้ คือการรักษาชีวิตของตนเองเอาไว้
จากนั้นรีบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ไปโดยเร็ว
หลังจากนี้ไป
เขาจะไม่มีวันกลับมายังสถานที่อันตรายเช่นนี้อีก
ส่วนเรื่องการตายของตู้เชียนซาง เขาได้ลืมเลือนไปจนหมดสิ้น เมื่อเทียบกับศิษย์แล้ว ความปลอดภัยของตนเอง ย่อมสำคัญกว่า
"เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร"
หลี่อวิ๋นขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
คำพูดของหยางชิว ทำให้หอคอยกลไกสวรรค์ ดูเหมือนเป็นสถานที่ข่มขู่ รีดไถ
หากข่าวนี้แพร่ออกไป
หอคอยกลไกสวรรค์ คงไม่ต้องทำการค้าขายอีกต่อไป
"ผู้อาวุโสโปรดให้อภัย"
หยางชิวก้มหน้ารับผิด ราวกับศิษย์ผู้เคารพครูบาอาจารย์ เอ่ยว่า "ผู้น้อยมิทราบว่า ควรซื้อข้อมูลใด"
"เอาเถิด"
หลี่อวิ๋นถอนหายใจอย่างจนใจ กล่าวว่า "เช่นนั้น ข้าจะชี้แนะเจ้าเอง"
กล่าวจบ
หลี่อวิ๋นก็เปิดแผงข้อมูลส่วนตัวของหยางชิวขึ้นมา
คลิกที่ตัวเลือก "ดูข้อมูลเพิ่มเติม"
ข้อมูลส่วนตัวของหยางชิว จำนวนมากก็ปรากฏขึ้นมา
[ชื่อ: หยางชิว]
[ความฝันชั่วชีวิต: ก้าวสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์]
[มารจิตใจ: ศิษย์พี่หวังอวี่เฟิง (หมายเหตุ: เมื่อแปดร้อยปีก่อน หยางชิวและศิษย์พี่หวังอวี่เฟิง ได้ออกสำรวจถ้ำเทวาของปราชญ์ด้วยกัน หยางชิวได้ลอบสังหารหวังอวี่เฟิง เพื่อครอบครองสมบัติแต่เพียงผู้เดียว ก่อนจะทำลายศพจนไม่เหลือร่องรอย)]
[คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม...]
"อืม..."
หลี่อวิ๋นมุ่นคิ้ว มองไปยังหยางชิว
ไม่นึกเลยว่า
หยางชิวผู้นี้ จะทำเรื่องเช่นนี้ได้ ไม่เสียแรงที่เป็นคนสายมาร แม้แต่ศิษย์พี่ของตนเองก็ยังกล้าสังหาร เพียงแต่โชคไม่ดีที่ ศิษย์พี่ผู้นั้น กลับกลายเป็นมารจิตใจของเขา
ในโลกพิศวง มารจิตใจคือสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง
หากไม่ระวัง
อาจทำให้เสียสติจนควบคุมตัวเองไม่ได้
ร้ายแรงกว่านั้น อาจถึงขั้นตายได้
หากไม่ขจัดมารจิตใจ ความหวังที่จะบรรลุระดับที่สูงกว่า ย่อมเป็นไปไม่ได้
แต่ความฝันสูงสุดของหยางชิว คือการก้าวสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์!
"ผู้อาวุโส..."
หยางชิวเอ่ยขึ้นอย่างกังวล
เมื่อครู่เขาถูกหลี่อวิ๋นมองเพียงแวบเดียว ก็รู้สึกเหมือนถูกมองทะลุไปถึงจิตวิญญาณ ไร้ซึ่งความลับใด ๆ ความรู้สึกเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง
"อืม"
หลี่อวิ๋นตอบรับเบา ๆ
"ผู้อาวุโส..."
หยางชิวหัวเราะแห้ง ๆ ลูบมืออย่างประหม่า เอ่ยถามอย่างสุภาพ "ที่ท่านกล่าวว่าจะชี้แนะ... หมายถึงเรื่องใดหรือ"
"เจ้าปรารถนาจะก้าวสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์หรือไม่"
หลี่อวิ๋นถามอย่างตรงไปตรงมา
"อะ... อะไรนะ"
หยางชิวตกตะลึง รู้สึกปากคอแห้งผาก รีบตอบทันที "ปรารถนา... ข้าฝันเป็นตุเป็นตะเลยขอรับ"
กล่าวจบ
เขาก็รู้สึกเหมือนถุงหนังที่ถูกปล่อยลมล้มพับลงบนเก้าอี้
ไม่มีใครรู้จักตัวเองได้ดีเท่ากับตัวเขาเอง
มารจิตใจของเขานั้นแข็งแกร่งเกินไป จนส่งผลกระทบต่อการฝึกฝน ทุกครั้งที่ฝึกฝนอย่างหนัก ภาพของศิษย์พี่ก่อนตายก็จะปรากฏขึ้นในหัว ทำให้เขาเกือบเสียสติ
หากฝืนฝึกฝนต่อไป อย่าว่าแต่ระดับศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่การรักษาสติเอาไว้ ก็เป็นเรื่องยากแล้ว
"ผู้อาวุโส... มีวิธีหรือไม่"
ทันใดนั้น
หยางชิวก็ลุกขึ้นนั่งเอ่ยถาม
เขาปรารถนาจะก้าวสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์อย่างแรงกล้า มิเช่นนั้น คงไม่ลงมือสังหารศิษย์พี่ เพียงเพื่อแย่งชิงสมบัติในถ้ำเทวาของปราชญ์
"วิธีนั้นย่อมมีอยู่แล้ว"
หลี่อวิ๋นยกถ้วยชาขึ้นจิบ กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ "หากเป็นผู้อื่น การจะก้าวสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์นั้น ง่ายดายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ แต่กับเจ้า... คงไม่ง่ายเช่นนั้น"
"เพราะเหตุใด"
หยางชิวถามอย่างร้อนรน
เพราะเหตุใด ผู้อื่นถึงสามารถก้าวสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่เขากลับทำไม่ได้
หากแม้แต่ผู้อาวุโสผู้นี้ ที่มีพลังเทียบเท่าจักรพรรดิ ยังไม่สามารถช่วยเขาได้ เขาก็ไม่รู้ว่า ในโลกนี้จะมีผู้ใดอีก ที่สามารถช่วยเขาได้
"เจ้าลืมเลือนหวังอวี่เฟิงไปแล้วหรือ"
หลี่อวิ๋นเอ่ยถามพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัย
"หวัง... หวังอวี่เฟิง...!"
ร่างกายของหยางชิวสั่นสะท้าน ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง เขาผุดลุกขึ้นยืนอย่างไม่อยากเชื่อ "ท่... ท่านรู้ได้อย่างไร!"
ในอดีต
ภายในถ้ำเทวาของปราชญ์
มีเพียงเขากับศิษย์พี่เท่านั้นที่อยู่ในนั้น การที่เขาลงมือสังหารศิษย์พี่ จึงไม่มีผู้ใดล่วงรู้ หากเขาไม่ปริปากเล่า ในโลกนี้ก็จะไม่มีผู้ใดล่วงรู้ความลับนี้
เป็นความลับสุดยอด!
แม้แต่ประมุขสำนักมารเก้าขุมนรกยังไม่สามารถสืบหาความจริงได้
เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ที่อาศัยอยู่ในเมืองต้าฮวงอันแสนห่างไกลเช่นนี้ จะรู้เรื่องของหวังอวี่เฟิงได้อย่างไร
ที่สำคัญกว่านั้น
พลังของเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นี้ ชัดเจนว่าเหนือกว่าระดับศักดิ์สิทธิ์ คงไม่ใช่เรื่องที่จะมาสนใจเรื่องราวการแย่งชิงสมบัติระหว่างเขากับศิษย์พี่ภายในถ้ำเทวาของปราชญ์เป็นแน่
"หอคอยกลไกสวรรค์ ควบคุมชะตาลิขิตสวรรค์ ล่วงรู้ความลับแห่งสวรรค์ เรื่องราวบนโลกนี้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นแล้วหรือยังไม่เกิด ล้วนไม่อาจรอดพ้นสายตาของข้าไปได้"
หลี่อวิ๋นกล่าวพร้อมรอยยิ้ม