กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 8 รอดตายอย่างหวุดหวิด
กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 8 รอดตายอย่างหวุดหวิด
ยามราตรี หนาวเหน็บดุจน้ำแข็ง
นอกเมืองต้าฮวง
หมอกดำบางเบา คืบคลานเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง
ไม่นานนัก
ทั่วทั้งเมืองต้าฮวง ก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกดำ
บรรยากาศกดข่มจนยากจะเอ่ยคำใดออกมา ตกอยู่บนบ่าของทุกผู้คน ราวกับว่าทุกคนกำลังแบกภูเขาเอาไว้ ทำให้หายใจติดขัด
"เกิดอะไรขึ้น!"
ภายในโถงหลักเจ้าเมืองแห่งเมืองต้าฮวง
ชายวัยกลางคนรูปร่างท้วมคนหนึ่ง กำลังบำเพ็ญเพียรอยู่ เมื่อสัมผัสได้ถึงปราณนี้ เขาก็พลันสะดุ้งตื่น ดวงตาเบิกกว้าง มองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความหวาดหวั่น
"ท่านเจ้าเมือง ไม่ดีแล้ว! ไม่ดีแล้ว!"
ทันใดนั้น
องครักษ์คนหนึ่งก็วิ่งเข้ามา ร้องตะโกนเสียงดัง
"เกิดเรื่องอันใดขึ้น รีบรายงานมาเร็วเข้า!"
เจ้าเมืองต้าฮวงลุกขึ้นยืน เอ่ยถามอย่างรวดเร็ว
"เมื่อครู่ เกิดหมอกดำปกคลุมทั่วทั้งเมืองโดยไม่ทราบสาเหตุ ทุกคนถูกตรึงอยู่กับที่ บรรดาผู้มีตบะต่ำต้อย ไม่อาจขยับเขยื้อนร่างกายได้แม้แต่น้อย!"
องครักษ์รายงานด้วยความตื่นตระหนก
"จบสิ้นแล้ว!"
ได้ยินดังนั้น
หัวใจของเจ้าเมืองต้าฮวงก็พลันเย็นเฉียบ ราวกับตกอยู่ในเหวน้ำแข็ง
ในเวลานี้
เขาไม่รู้เลยว่าตนเองนั้นโชคร้ายเพียงใด ถึงได้มาพบเจอกับยอดฝีมือสายมารเช่นนี้
ในโลกแห่งการบำเพ็ญ
เรื่องราวการสังหารหมู่และกวาดล้างเมืองนั้นเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
มีผู้คนในสายมารจำนวนไม่น้อย ที่ใช้ชีวิตผู้คนทั้งเมือง สำนัก หรือแม้แต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูชายัญเพื่อเพิ่มพูนพลัง
เมืองต้าฮวงของเขานั้น มีประชากรเพียงไม่กี่หมื่นคน ตั้งอยู่ในดินแดนอันห่างไกล ถือเป็นเรื่องปกติที่จะถูกผู้คนในสายมารหมายตา
แม้จะถูกกวาดล้างจนสิ้น คาดว่าคงไม่มีผู้ใดสนใจ
อย่างไรเสีย
พวกเขาไม่ได้มีผู้ใดคอยหนุนหลัง
"ท่านเจ้าเมือง พวกเราควรทำเช่นไรดี"
องครักษ์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เอ่ยถามอย่างหวาดกลัว
"ทำเช่นไร ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร"
เจ้าเมืองต้าฮวงรู้สึกสิ้นหวัง
ในเมื่ออีกฝ่ายกล้าลงมือเช่นนี้ ย่อมต้องมั่นใจว่าสามารถรับมือได้อย่างแน่นอน ตนเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ เมื่อเทียบกับอีกฝ่ายแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกับมดปลวกตัวหนึ่ง คงมีแต่ทางตายเท่านั้น!
"ตึบ!"
ทันใดนั้น
เสียงฝีเท้าที่หนักแน่น ก็ดังขึ้นในใจของทุกคน
ราวกับกำลังเหยียบย่ำอยู่บนหัวใจของพวกเขา ทำให้หัวใจของพวกเขาแทบหยุดเต้น
ใต้แสงจันทร์
ชายชราชุดดำผู้หนึ่ง ปรากฏตัวขึ้น ดวงตาคมกล้า ผมสีเงินสะบัดพลิ้ว เดินออกมาจากมิติทีละก้าว
ตามร่างกายของเขา
มีจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมา
ในชั่วขณะนั้น
บรรดาผู้ฝึกตนต่างรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด ร่างกายแตกระแหง อวัยวะภายในบาดเจ็บสาหัส จิตวิญญาณสั่นสะท้าน กระดูกแทบแหลกสลาย
จิตสังหารไร้รูปร่าง ไร้ขอบเขต!
ทุกคนต่างหวาดกลัวจนถึงขีดสุด ต้องการหลบหนีไปให้ไกล แต่ร่างกายกลับหนักอึ้ง ราวกับถูกตรึงไว้กับที่ ไม่อาจขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย
"ระ ระดับจอมศักดิ์สิทธิ์!"
ศีรษะของเจ้าเมืองต้าฮวงเย็นเฉียบ
น่ากลัวยิ่งนัก!
เมืองต้าฮวงของเขาเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ เหตุใดถึงได้ดึงดูดยอดฝีมือระดับจอมศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ให้มาเยือน
บุคคลระดับนี้
ล้วนเป็นพลังระดับสูงสุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ การจะจัดการกับเมืองต้าฮวง เพียงแค่ชำเลืองมองก็เพียงพอแล้ว
จะมีผู้คนมากมาย ที่ต้องการเอาใจอีกฝ่าย แย่งกันทำลายเมืองต้าฮวง!
"ผู้อาวุโส!"
เจ้าเมืองต้าฮวงฝืนยิ้มออกมา ทั้งน้ำตาก็แทบไหลออกมา เดินออกจากตำหนักเจ้าเมือง ขึ้นไปบนท้องฟ้า เผชิญหน้ากับชายชราชุดดำ ก่อนจะโค้งคำนับอย่างนอบน้อม
ท่าทางเคารพยำเกรง จนแทบจะคุกเข่าเลียเท้า
"ผู้น้อยมิทราบว่าท่านผู้อาวุโสจะเสด็จมา หากมีสิ่งใดผิดพลาด ประสงค์สิ่งใด โปรดสั่งมาได้เลยขอรับ!"
เจ้าเมืองต้าฮวงเอ่ย
ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เผชิญหน้ากับบุคคลอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ แม้แต่ความคิดที่จะหลบหนีก็ยังไม่มี เพราะการหลบหนี มีแต่ทางตาย หากอยู่ต่อ บางทีอาจมีโอกาสรอดชีวิต
"หืม?"
ชายชราชุดดำได้ยินเสียง
จึงหันมามอง
สายตาของเขาราวกับภูเขามาร กดข่มเจ้าเมืองต้าฮวงให้ร่วงหล่นจากท้องฟ้าลงสู่พื้นดิน
ตู้ม!
ร่างของเจ้าเมืองต้าฮวงกระแทกพื้น ก่อให้เกิดฝุ่นตลบอบอวล แต่เขากลับไม่โกรธเคืองแม้แต่น้อย กลับยังคงยิ้มแย้ม
"ไสหัวไป!"
ชายชราชุดดำเอ่ยอย่างเย็นชา
คำพูดเพียงคำเดียว ดังกึกก้องราวกับเสียงฟ้าผ่า ทำให้ผู้คนรอบข้างต่างสำรอกเลือดออกมา
แม้แต่เจ้าเมืองต้าฮวง ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดในอก
ทว่าดวงตาของเขากลับเปล่งประกาย
คำว่า "ไสหัวไป" นั้น ช่างไพเราะเสนาะหูยิ่งนัก
เขารู้ดีว่า
ตนเองรอดตายแล้ว!
ยอดฝีมือระดับจอมศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ คงไม่ได้สนใจเมืองเล็ก ๆ อย่างเมืองต้าฮวง การที่เขามาที่นี่ ย่อมต้องมีเหตุผลอื่น!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น
ความหวาดกลัวในใจของเจ้าเมืองต้าฮวงก็พลันมลายหายไป เหลือเพียงความอยากรู้อยากเห็น
เรื่องราวอันใดกัน ที่ทำให้ยอดฝีมือระดับจอมศักดิ์สิทธิ์ ลงทุนมาที่นี่ด้วยตนเอง
"ตึบ! ตึบ! ตึบ!"
ชายชราชุดดำก้าวเดินไปในอากาศ
แต่ละก้าวของเขานั้น ช้าก็จริง แต่หนักแน่นมั่นคง เป้าหมายชัดเจน
เขาก้าวลงมาจากท้องฟ้า หยุดอยู่บนถนนเบื้องหน้า ปรากฏหอคอยอันเก่าแก่โอ่อ่าตระหง่านอยู่ เบื้องหน้าประตู มีป้ายไม้แขวนอยู่
หอคอยกลไกสวรรค์!
"วิพากษ์หยินหยาง ตัดขาดธาตุทั้งห้า ชำเลืองดวงตะวันจันทราในอุ้งมือ! เลิศอดีตล้ำปัจจุบัน แจ่มแจ้งหยินหยาง ซุกซ่อนฟ้าดินในแขนเสื้อ!"
"กลไกสวรรค์ ล่วงรู้ได้ หรือ"
เมื่อเห็นโคลงคู่บนป้าย ชายชราชุดดำก็ยังคงนิ่งเฉย เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา "โอหังนัก เจ้าคิดว่าเพียงแค่นี้ จะหลอกลวงข้าได้หรือ"
เขานั้นเป็นถึงยอดฝีมือระดับจอมศักดิ์สิทธิ์ ห่างจากระดับศักดิ์สิทธิ์เพียงก้าวเดียว แม้แต่เขายังไม่กล้าเอ่ยว่าสามารถล่วงรู้กลไกสวรรค์ได้
หอคอยกลไกสวรรค์แห่งนี้ มีคุณสมบัติอันใด ถึงกล้าเอ่ยวาจาโอหังเช่นนี้
"ฮึ่ม!"
ชายชราชุดดำ เย้ยหยันอย่างเย็นชา
ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในหอคอยกลไกสวรรค์อย่างไม่ลังเล
เมื่อครู่ เขาสัมผัสได้ว่า ศิษย์ของสำนักกระบี่ต้าหลัวที่สังหารศิษย์ของเขา ได้หายตัวไปบริเวณประตูหอคอยแห่งนี้
คาดว่าอีกฝ่ายต้องซ่อนตัวอยู่ในหอคอยแห่งนี้เป็นแน่!
แม้ภายในหอคอยจะเป็นขุมนรก เขาจะต้องบุกตะลุยเข้าไป!