บทที่188 ความสับสนของคิมิมาโร่ ฟรี
"ผู้นำตระกูล พวกเราปล่อยไปเฉย ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ! ไม่งั้นตระกูลคางุยะจะกลายเป็นอาวุธในมือของมิซึคาเงะ รุ่นที่ 4 แน่นอน!" สมาชิกตระกูล คางุยะตะโกน
ด้วยการควบคุมของริวอุน การกดขี่ตระกูลคางุยะของยากุระเลวร้ายลงทุกวัน
ไม่ต้องพูดถึงตระกูลคางุยะ แม้แต่ชาวบ้านธรรมดาของหมู่บ้านคิริกาคุเระก็ยังโจมตีตระกูลคางุยะซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"ใช่... พวกเราต้องต่อสู้ ยากุระหลอกลวงพวกเรามากขนาดนี้ พวกเราตระกูลคางุยะ พวกเราต้องตอบโต้กลับไปบ้าง"
"ฆ่ายากุระ ตำแหน่งมิซึคาเงะ ควรจะเป็นของพวกเรา" สมาชิกตระกูล คางุยะ ตะโกนเสียงดัง
"ดี! สั่งรวมพลนินจาทั้งหมดของตระกูลคางุยะภายในสามวัน แม้ว่าตระกูลจะล่มสลาย แต่ฉันก็จะทำให้มิซึคาเงะ รุ่นที่ 4 ต้องชดใช้!" ดวงตาของ คางุยะ ชูทารุ หัวหน้าตระกูลคางุยะลุกโชนด้วยความโกรธ จากนั้นก็ตะโกนเสียงดัง
"ครับ!" เหล่าสมาชิกตระกูล คางุยะ ตอบรับด้วยความตื่นเต้น
การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของคางุยะ ย่อมหนีสายตาของหมู่บ้านคิริกาคุเระไปไม่ได้
มิซึคาเงะ รุ่นที่ 4 หัวเราะเมื่อได้รับข่าว เขาแค่ขาดเหตุผลที่จะลงมือ ตอนนี้คางุยะฆ่าตัวตายเอง อย่าโทษเขาที่โหดเหี้ยมเลย
ดังนั้นคำสั่งจึงถูกส่งออกไป และนินจาอันบุก็มารวมตัวกันอีกครั้ง
สามวันต่อมา
หลังจากการเตรียมการหลายวัน ในที่สุดตระกูลคางุยะก็ตัดสินใจที่จะต่อต้านความโหดร้ายของ มิซึคาเงะ รุ่นที่ 4
เช้าตรู่วันนี้ คางุยะ ชูทารุ เรียกสมาชิกตระกูลทั้งหมดมา เพื่อเตรียมบุกหมู่บ้านคิริกาคุเระหลังค่ำและฆ่า มิซึคาเงะ รุ่นที่ 4
"เฮ้ย... คิมิมาโร่! ถึงเวลาที่แกจะอุทิศพลังของแกให้กับตระกูลแล้ว" ในคุกขนาดใหญ่ของตระกูลคางุยะ ประตูคุกเหล็กถูกผลักเปิดออก และสมาชิกตระกูล คางุยะ ผู้ตัวสูงใหญ่ มองไปที่มุมของห้องขังอย่างเย็นชา
ที่มุมของห้องขัง มีเด็กตัวเล็กสวมเสื้อผ้าสีเทา นั่งคุดคู้อยู่
หลังจากได้ยินเสียงนั้น เขาก็เงยหน้าช้าๆ มองสมาชิกตระกูลคางุยะด้วยสายตาว่างเปล่า เด็กชายคนนั้นไม่ได้พูดอะไรสักคำ
"ออกมา แกเป็นอิสระแล้ว!" หลังจากสมาชิกตระกูล คางุยะ พูดบางอย่าง พวกเขาก็หันกลับและจากไป
เขาไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะช่วยเหลือครอบครัวได้เลย แม้ว่าเด็กคนนี้จะปลุกพลังขีดจำกัดสายเลือดกระดูกแล้วก็ตาม
"อิสระเหรอ?" เด็กน้อยมองไปที่ประตูห้องขังที่เปิดอยู่
ดวงตาที่ว่างเปล่าเดิม ก็ส่องประกายมากขึ้น เขาลุกขึ้นช้าๆ ร่างกายสั่นเล็กน้อย พร้อมกับสาวเท้าเดินออกไปด้านนอก
เมื่อตระกูลคางุยะเริ่มเคลื่อนไหว มิซึคาเงะ รุ่นที่ 4 ยากุระ ก็ได้ออกคำสั่งเตรียมล้างบางทันที
"ตระกูล คางุยะ ต้องการกบฏ! เผยแพร่คำสั่ง กำจัดตระกูลคางุยะที่กบฏทั้งหมด!"
"ครับ!" นินจาอันบุ ที่คุกเข่าครึ่งหนึ่งตอบรับเสียงดัง
ปากของสัตว์ร้ายขนาดยักษ์ของหมู่บ้านคิริกาคุเระได้อ้าออก ใครจะหันหลังกลับก็ไม่ทันแล้ว
ท้องฟ้ามืดลงอย่างรวดเร็ว
หมู่บ้านคิริกาคุเระเคลื่อนไหว ตระกูลคางุยะก็เช่นกัน
ในป่าโล่งแห่งหนึ่ง คางุยะ ชูทารุ กำลังมองทุกคนด้วยใบหน้าอันจริงจัง เตรียมรับสงครามในเวลาอีกไม่นานนี้
"ฟังฉัน... วันนี้เราจะให้พวกนั้นรู้จักความน่ากลัวของตระกูล คางุยะของเรากัน!"
"เฮ้!!!!!" นินจาของตระกูลคางุยะตะโกน เลือดในร่างกายเริ่มเดือดพล่าน และในที่สุดก็เคลื่อนทัพ มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านคิริกาคุเระ
ทว่ามีเด็กอีกคนหนึ่งอยู่นิ่งเฉย ไม่ขยับเขยื้อน ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลก ๆ
"คิมิมาโร่ แกยังอยู่ที่นี่ทำไมอีก?" คางุยะ ชูทารุเรียกคิมิมาโร่
"ผมควรทำอะไร?" คิมิมาโร่มองหัวหน้าตระกูล คางุยะ สีหน้าเหมือนหุ่นเชิด ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ
"อย่าคิดมาก แกแค่ต้องฆ่านินจาคิริงาคุเระทุกคนที่ปรากฏตัวต่อหน้าแก" คางุยะ พูดเสียงเย็นชา
หลังจากพูดจบ เขาก็หันกลับและจากไป หายไปในม่านหมอกอย่างรวดเร็ว
"ฆ่าทุกคน... ฆ่าพวกเขาทั้งหมด?" แววสับสนปรากฏในดวงตาของคิมิมาโร่ แต่ด้วยความเป็นเด็ก คิมิมาโร่จึงได้ทำตามผู้นำตระกูลโดยไม่รู้ตัว
ท่ามกลางหมอกควันหนาของหมู่บ้านคิริงาคุเระ มีสายตากำลังจ้องมองหลังคิมิมาโร่จากในที่ลับโดยไม่มีใครรู้
"ตระกูลคางุยะบ้าไปแล้วจริงๆ ไม่เพียงแค่นั้น ยังส่งเด็กเข้าสนามรบอีกด้วย" ริวอุน ส่ายหัวหลังจากเห็นคิมิมาโร่
เมื่อเทียบกับตระกูลยูกิแล้ว ตระกูลคางุยะเหมือนบ้าไปแล้ว เมื่อเผชิญกับดาบของ มิซึคาเงะ รุ่นที่ 4 พวกเขาไม่ได้หนี แต่กลับเรียกสมาชิกทุกคนในตระกูลมาเตรียมโจมตีหมู่บ้านคิริกาคุเระและก่อกบฏ
ริวอุนใช้อาภรณ์สายฟ้าเคลื่อนไหวไปดักหน้าคิมิมาโร่ ความเร็วของเขาเอาไปเทียบกับคิมิมาโร่ไม่ได้ เพราะมันคนละระดับกันอย่างแท้จริง
"คุณเป็นมิซึคาเงะใช่ไหม?" คิมิมาโร่ เริ่มระมัดระวัง และเรียกมีดกระดูกอยู่ในฝ่ามือ
อยู่ ๆชายตรงหน้าก็ได้มาปรากฏตัว ทำให้คิมิมาโร่ตื่นตัวขึ้น
"ใช่! ฉันไม่เพียงแต่นินจาหมอก ฉันยังได้รับคำสั่งจาก มิซึคาเงะ รุ่นที่ 4 ให้กำจัดพวกนายตระกูลคางุยะ ทั้งหมด" ริวอุนยิ้มให้กับคิมิมาโร่
พฤติกรรมของตระกูลคางุยะแตกต่างจากตระกูลยูกิอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่าตระกูลยูกิจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำ ทว่าตระกูลคางุยะต้องการโจมตีหมู่บ้านคิริกาคุเระกลับเสียนี่
การกระทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการกบฏอย่างโจ่งแจ้ง
ดังนั้น นินจาในหมู่บ้านเลยไม่มีใครออกมาพูดแทนตระกูลคางุยะ และพวกเขาก็เชื่อฟังคำสั่งของ ยากุระ ในการมุ่งสังหารตระกูลคางุยะ
"นินจาคิริงาคุเระเหรอ?" สีหน้าของคิมิมาโร่เปลี่ยนไป เขาหวนนึกถึงสิ่งที่ชูทารุพูดกับตัวเอง
ทันใดนั้น เขาก็วิ่งเข้าหาริวอุนโดยไม่ลังเล ในขณะเดียวกันก็ยกมีดกระดูกในมือขึ้น ฟันลงมาหมายสังหารในครั้งเดียว
"เป็นเด็กเป็นเล็ก อย่าหงุดหงิดง่ายนักเลย" ริวอุน หลบหนีการโจมตีได้อย่างง่ายดาย
สายตาจ้องมองไปที่คิมิมาโร่ที่ล้มลงกับพื้นเนื่องจากใช้แรงมากเกินไป สายตาริวอุนฉายแววสนใจเด็กตรงหน้าพอตัว
แต่ทันใดนั้น ริวอุนก็หันมองไปทางอื่น ปลายเท้าเหยียบพื้นเล็กน้อยและทะยานร่างหายไปอย่างรวดเร็ว
คิมิมาโร่เฝ้ามองดูริวอุนจากไปด้วยความสับสน สักพักเขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป เขาลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจเดินหน้าต่อไป
การต่อสู้ระหว่างหมู่บ้านคิริกาคุเระและตระกูลคางุยะ เริ่มต้นอย่างรวดเร็วแล้วค่อย ๆทวีความรุนแรงขึ้นแต่ตระกูลไหนจะสู้หมู่บ้านซึ่งร่วมแรงร่วมใจกันต่อสู้ได้... ยิ่งมันเป็นการกบฏด้วยแล้ว คงจะดีกว่าถ้าจะเรียกว่ามันเป็นการสังหารหมู่ฝ่ายเดียว
ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง มีสมาชิกตระกูลคางุยะเหลือเพียงโหลเดียว
"ทำไมต้องสู้ ฉันเป็นใคร?"
"ฉันไม่มีทางรู้ แค่สู้ต่อไป"
ดวงตาของคิมิมาโร่เต็มไปด้วยความสับสน เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมาที่นี่และไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงสู้ อาจเป็นเพราะประโยคเดียวตระกูลคางุยะที่ว่าต้องการพลังของเขา เขาจึงมาที่นี่เพื่อต่อสู้กเดิมพันด้วยชีวิตของเขาเอง
"ฉันอยู่ที่นี่เพราะความต้องการของตัวเองเท่านั้น" คิมิมาโร่พึมพำ จากนั้นเขาก็ใช้มีดกระดูกในมือ แทงเข้าที่หน้าอกของ นินจาคิริงาคุเระ
เด็กชายวิ่งไปที่สนามรบด้วยความมึนงง เดินเตร็ดเตร่ในป่าเพียงลำพัง
อีกด้านหนึ่ง ริวอุนก็มาถึงป่าแห่งเดียวกัน เพียงแค่เป็นคนละที่ เมื่อสักครู่นี้เขารับรู้ได้ถึงจักระอันคุ้นเคย ชายหนุ่มเลยเร่งเดินทางมา
"ในฐานะหนึ่งในสามนินจา โอโรจิมารุ คุณไม่กล้าแม้แต่จะแสดงตัวออกมาเมื่อมาที่หมู่บ้านคนอื่นเหรอ?"
*********************