บทที่ 63 มากมาย (2)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 63 มากมาย (2)
พลิกผันไปหมด
ต้องบอกเลยว่าสำหรับ PD ยุนบยองซอน ความประทับใจแรกที่มีต่อคังวูจินนั้นค่อนข้างจะกลับตาลปัตรไปหมด
'ตอนที่เขาแสดงเป็น 'รองหัวหน้าพัค' แม้ว่าเขาจะดูโหดไปสักหน่อย แต่เขาก็ยังดูพูดเก่งอยู่บ้าง แต่ตัวตนที่แท้จริงของนักแสดงคนนี้กลับเย็นชาเสียอย่างนั้น เขาไม่ใช้คนชอบพูดงั้นเหรอเนี่ย? มันจะล้มเหลวไหมนะ?'
ยุนบยองซอนรู้สึกเริ่มไม่สบายใจ
จนถึงตอนนี้ มีคนที่มีนิสัยมากมายปรากฏตัวในรายการวาไรตี้โชว์ของเขา มีคนดังมากมายเข้ามาและจากไป แต่อุปนิสัยของคนที่น่าดึงดูดน้อยที่สุดคือคนที่ไม่มีความกระตือรือร้นอะไรเลย PD ยุนบยองซอนสัมผัสได้ถึงความเฉื่อยชาไร้ความกระตือรือร้นของคังวูจินในทันที
“ว้าว ช่างเป็นคำตอบที่แสนจะธรรมดามากเลยนะครับ คุณวูจิน นี่คุณวูจินรู้ตัวเองไหมครับเนี่ย? หรือว่าคุณกำลังประหม่าอยู่?”
PD ยุนบยองซอนหัวเราะอย่างสนุกสนาน ทว่าคังวูจินยังคงทำหน้าเฉยเมย รู้ตัวเอง? รู้ตัวเองอะไร? ด้วยเหตุนี้ ความกังวลในใจเขาจึงพุ่งสูงถึงขีดสุด ในสภาพเช่นนี้ วูจินจึงตอบโต้ PD ยุนบยองซอนไปด้วยท่าทีหนักแน่น
"ผมจะพยายามอย่างเต็มที่ครับ"
พยายามอะไร? ยุนบยองซอนถึงกับสับสน สรุปความกระตือรือร้นของนักแสดงคนนี้มันจะระเบิดตู้มหรือไม่มีอยู่เลยกันแน่เนี่ย? เขาเคยเห็นคนดังหลายร้อยหรืออาจจะเป็นพันคน แต่นี้ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยที่เขาไม่อาจประเมินได้
"เอ่อ ขอบคุณครับ ว่าตอนนี้คุณนั่งลงก่อนดีไหมครับ?”
"ครับ"
คังวูจินก้มศีรษะเล็กน้อย เดินช้า ๆ ไปยังบริเวณพื้นที่ถ่ายทำ PD ยุนบยองซอนและนักเขียนจับตาดูเขาเดินออกไป
“เป็นอะไรที่คาดไม่ถึงจริง ๆ คุณวูจินเขาเงียบมากเลยนะ”
“ค่อนข้างเงียบมากเลยว่าไหม? คนแบบนั้นจะมารับบทเป็น 'รองหัวหน้าพัค' ได้ยังไงกัน?”
“นั่นแหละเลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นนักแสดงที่ดี ตัวตนที่แท้จริงของเขาและตัวละครของเขาน่ะตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง แต่จะว่าไป เขาดูมีบรรยากาศประหลาดมากเลยนะ”
เมื่อถึงเวลานี้เอง คังวูจินได้เข้าสู่สถานที่ถ่ายภาพที่มีกล้องหลายสิบตัวเป็นเป้า โต๊ะยาวถูกจัดวางไว้ และด้านหลังมีโปสเตอร์ขนาดใหญ่ของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' มีกล้องขนาดเล็กหลายตัวอยู่บนโต๊ะ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเริ่มต้นด้วยช่วงทอล์คโชว์ก่อน และหลังจากถ่ายทำช่วงแรกแล้ว มันก็จะกลายเป็นช่วงเกมที่อยู่ในช่วงที่สอง
ทว่า
“…”
หลังจากมองดูพื้นที่โดยรอบในช่วงสั้น ๆ คังวูจินก็นั่งลงที่นั่งปลายสุด มีไฟมากมายเต็มไปหมด กล้องหลายตัว เมื่อมองไปข้างหน้า ก็เห็นทีมงานหลายสิบคนกำลังยุ่งกัน ครึ่งหนึ่งของฉากนี้ดูคุ้นเคยมากสำหรับวูจิน และอีกครึ่งหนึ่งก็ดูแปลกถนัดตา
'ว้าว มีกล้องมากมายเลยแฮะ' มีมากกว่าในละครสามเท่าเลยไม่ใช่เหรอเนี่ย? กล้องตัวเล็ก ๆ พวกนี้ก็เป็นกล้องด้วยเหรอ?
มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการถ่ายทำละครและรายการวาไรตี้ ดังนั้นวูจินจึงรักษาสีหน้านิ่งแบบโป๊กเกอร์อย่างหนักแน่นยิ่งขึ้นไปอีก
'ต้องรักษาหลักการเอาไว้ แต่จะต้องตามแบบนิสัยของฉันด้วย ให้ตายเถอะ ตามตรงนะ ฉันแทบไม่มีเวลามาคิดเลยด้วยซ้ำว่าจะต้องตอบอะไรยังไงแบบไหน'
เขาจะแสร้งทำเป็นเย็นชาแล้วกัน แต่เวลาตอบเขาจะตอบในแบบของเขา ความคิดของเขายามนี้ไม่อยู่กับร่องกับรอยแล้ว อัตราการเต้นของหัวใจของเขายิ่งแรงมากขึ้นไปอีก
ซึ่งในขณะนั้นเอง
"สวัสดีค่ะ-"
ฮงฮเยยอนได้เข้ามาในสตูดิโอ บรรยากาศของสตูดิโอดีขึ้นทันทีเพราะเธอ
“สวัสดีครับ คุณฮเยยอน!”
“คุณPD! ฮเยยอนมาแล้วครับ!”
รูปร่างหน้าตาของเธอในวันนี้ก็เป็นเหมือนเธอตามปกติ ผมยาว กางเกงยีนส์ และเสื้อยืดที่ดูเข้ารูปของเธอ หลังจากทักทาย PD ยุนบยองซอนแล้ว ฮงฮเยยอนก็ปรับไมโครโฟนพลางหันไปมองที่พื้นที่ถ่ายทำ
"อุ๊บ! มานั่งทำอะไรคนเดียวตรงนี้กันคะ?”
เมื่อเห็นคังวูจินที่กำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์ ฮงฮเยยอนก็พยายามกลั้นหัวเราะไว้ ในพื้นที่ถ่ายรายการวาไรตี้ที่ดูมีชีวิตชีวา ภาพของวูจินที่นั่งอยู่คนเดียวอย่างเงียบ ๆ ดูไม่เข้าสักนิดเดียว
หลังจากนั้นไม่นาน นักแสดงคนอื่น ๆ ก็เริ่มมาถึงกัน รยูจองมิน ฮงฮเยยอน ลีโดจอง ฯลฯ เมื่อนักแสดงมาถึงทีละคน วูจินก็ทักทายพวกเขาอย่างนิ่งสงบ จากนั้นเองสตูดิโอก็เต็มไปด้วยนักแสดงที่มีค่าตัวเกินหมื่นล้าน
รวมคังวูจินด้วย ก็มีทั้งหมด 7 คน
หลังจากที่นักแสดงทั้งหมดนั่งลงแล้ว PD ยุนบยองซอนที่ด้านหน้าพื้นที่ถ่ายทำก็เริ่มกล่าวเปิดทันที
“ยินดีที่ได้พบกับทุกท่านนะครับ” วันนี้ 'สปอร์ตเดย์' มาพบกับนักแสดงจากละครยอดนิยม 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล'!”
การถ่ายทำ 'สปอร์ตเดย์' อย่างเป็นทางการได้เริ่มขึ้นแล้ว จริง ๆ แล้วกล้องถ่ายตั้งแต่ก่อนที่คังวูจินจะเข้ามาเสียอีก
“ก่อนอื่น แม้ว่าผมแน่ใจว่าคุณทุกคนรู้ แต่ถึงกระนั้น! โปรดแนะนำตัวเองสั้น ๆ ให้แก่สมาชิกและผู้ชมของเราด้วยทีครับ”
ตามคำพูดของ PD ยุนบยองซอน รยูจองมินผู้ดัดผมทรงเบบี้เพิร์มอันโดดเด่นที่นั่งอยู่ใกล้โต๊ะก็ยิ้มให้กล้อง
“สวัสดีครับ ผมชื่อรยูจองมิน รับบทเป็นยูจีฮยองใน 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ครับ”
“ฮ่าฮ่า คุณจุงมิน ทรงเบบี้เพิร์มนั่นเหมาะกับคุณจริง ๆ เลยนะครับ”
"จริงเหรอครับ? แม่ของผมชอบแหย่ผมว่ามันดูเหมือนผักกาดหอมมากเลยนะ”
บรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเองยิ่ง ฮงฮเยยอนและจางแทซันก็แนะนำตัวพวกเขาตามไป จนในที่สุดก็ถึงตาของคังวูจิน ผู้ซึ่งนั่งอยู่ท้ายสุด
“คุณเป็นนักแสดงที่กำลังเป็นประเด็นที่พูดถึงอยู่ใช่ไหมครับ? คุณนักแสดง? ได้โปรดแนะนำตัวเองด้วยครับ!”
กล้อง นักแสดง ทีมงาน และทีมผู้ถ่ายทำทั้งหมดต่างให้ความสนใจไปที่คังวูจิน
ทว่าสีหน้าของวูจินนั้นกับนิ่งสงบ และน้ำเสียงของเขาเยือกเย็นยิ่ง
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่อคังวูจิน ผู้รับบท 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ในเรื่อง 'รองหัวหน้าพัค' ครับ”
เยี่ยม ทำได้ดี แค่นี้คงจะผ่านไปได้สินะ วูจินชมตัวเองด้วยใบหน้าที่นิ่งสงบ ทว่า
“……”
“……”
หลังจากความเงียบไม่กี่วินาที เสียงหัวเราะก็ปะทุขึ้นทั่วทั้งสตูดิโอ ทั้งจากนักแสดงจนถึงทีมงานทุกคน แต่คังวูจินไม่เข้าใจสักนิดเดียว
'ทำไมกันล่ะ? เกิดอะไรขึ้นกัน? ทำไมพวกเขาถึงหัวเราะ? ทำไม?'
ฮงฮเยยอนจึงอธิบายเหตุผล
“เอ่อ คุณวูจิน? ทำไมคุณถึงเปลี่ยนชื่อละครของเราเป็น 'รองหัวหน้าพัค' ล่ะ?”
จางแทซันผู้แสนขี้เล่นก็เข้าร่วมวงด้วย
“งี้ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องแนะนำตัวเองอีกครั้งแล้วสิ เพราะคุณวูจินเพิ่งเปลี่ยนชื่อละครเรื่องของเราไป”
รยูจองมิน ผู้ซึ่งนั่งอยู่ที่นั่งแรกก็แถลงไขให้ฟัง
“คุณวูจิน คุณสลับระหว่าง 'รองหัวหน้าพัค' กับ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ตอนที่คุณพูดออกมาน่ะ”
อ่า บ้าจริง คังวูจินรู้สึกเขินอายมาก เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าคำพูดที่เขาฝึกพูดในใจจะออกมาในทางตรงกันข้าม การฝึกฝนมันได้ทรยศต่อเขาเสียแล้ว ทว่าเขาต้องรักษาความสงบเยือกเย็นเอาไว้ แกล้งทำเป็นไม่เขินอาย แสร้งเป็นเย็นชา
“มันเป็นความตั้งใจครับ”
ทว่านักแสดงโดยรอบต่างไม่คิดจะเชื่อสักนิดเดียว
“ตั้งใจอะไรเหรอ? คุณ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล'”
“ดูเหมือนกระทั่ง 'รองหัวหน้าพัค' ผู้สมบูรณ์แบบก็ยังพูดผิดพลาดได้เลยสินะเนี่ย?”
“เป็นอะไรที่หายากมาก! ทั้งที่เขาไร้อารมณ์ตลอดการถ่ายทำเหมือนหุ่นคนเหล็กเลยนะ!”
คังวูจินกัดฟันและปฏิเสธ
“นี่เป็นการเข้าใจผิด จริง ๆ นะครับ”
ณ จุดนี้เอง
'หือ?'
ในบรรดาทีมงานหลายสิบคนที่อยู่ต่อหน้านักแสดง ดวงตาของPDยุนบยองซอนผู้นั่งตรงกลางเริ่มฉายแววบางอย่าง
'หรือว่าเขากำลังเล่นมุขอยู่?'
จากนั้น PD ยุนบยองซอนก็ถามคำถามของเขาตรงไปที่คังวูจิน
"ใช่แล้วครับ! คุณคังวูจินผู้รับบท 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ในเรื่อง 'รองหัวหน้าพัค'! มีคนบอกว่าคุณไร้อารมณ์ตลอดการถ่ายทำเหมือนหุ่นคนเหล็ก ว่าแต่ช่วงเวลาไหนที่ยากที่สุดสำหรับคุณกันครับ?”
คังวูจินตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาในทันที
"ตอนนี้แหละครับ!"
สตูดิโอได้ระเบิดเสียงหัวเราะอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ณ สถานีวิทยุแห่งหนึ่ง
ในห้องรอของตู้วิทยุที่ออกอากาศ Visual Radio เป็นหลัก มีแขกผู้หญิงนั่งอยู่คนเดียว ไฝที่คุ้นเคยอยู่ใต้ตาของเธอ ฮวาลิน หัวหน้าวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง 'เอลานี่' เธอสวมเสื้อฮู้ดแบบสบาย ๆ นั่งอยู่ตรงที่นั่ง
แม้ว่าเธอจะแต่งตัวเรียบง่าย แต่ความงดงามของเธอก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลย
เธอนั่งกอดอกและตรวจแบบสอบถามง่าย ๆ ที่ผู้ผลิตรายการวิทยุส่งมา สำหรับฮวาลินที่อยู่ในวงการนี้มา 8 ปีแล้ว มันไม่ได้ท้าทายอะไรเป็นพิเศษ
"หึ้ม-"
เธอพึมพำสั้น ๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา อินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ถูกเปิดขึ้น มันได้แสดงสิ่งที่เธอค้นหาก่อนที่เธอจะมาที่นี่
『หลังจากผ่านไปเพียงสองตอน ดาราดาวรุ่งคังวูจิน ผู้ซึ่งรับบทเป็น 'รองหัวหน้าพัค' จะได้ปรากฏตัวในรายการวาไรตี้ครั้งแรกของเขาในรายการ 'สปอร์ตเดย์' ของ PD ยุนบยองซอน』
เธอได้กลายเป็นแฟนคลับของคน ๆ นี้โดยไม่รู้ตัว เรื่องทั้งหมดที่ค้นหาเกี่ยวข้องกับคังวูจิน
“ฉันคิดว่าเขาคงจะได้ไปออกวาไรตี้โชว์เร็ว ๆ นี้ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็น 'สปอร์ตเดย์' จะออกอากาศเมื่อไหร่กันนะ?”
เธอสงสัยเกี่ยวกับการปรากฏตัวครั้งแรกในรายการวาไรตี้ของคังวูจินมาก ถึงมันจะเป็นแค่การมาโปรโมทละคร แต่สิ่งที่สำคัญสำหรับเธอคือ การจะได้เห็นอีกด้านของคังวูจิน ไม่ใช่แค่การแสดงของเขาเท่านั้น
'แต่ทำไมยังไม่มีการสร้างแฟนคลับอีกล่ะ? ตอนฉันแอบเข้าไปดูอินสตาแกรมของเขา เขามีผู้ติดตามมากกว่า 50,000 คนแล้วนะ มากขนาดนี้ฉันคงสร้างขึ้นมาแล้ว หือ? ทำไมฉันถึงคิดถึงเรื่องแฟนคลับเล่า? ถึงฉันจะไม่ได้มีส่วนร่วมอะไร แต่ฉันก็ยังสามารถดูได้อยู่นิ'
หลังจากนั้นเอง
-ปัง!
ประตูหนาของห้องรอในสถานีวิทยุเปิดออก และมีผู้จัดการร่างอ้วนเดินเข้ามา ฮวาลินรีบวางโทรศัพท์ลงแล้วหยิบแบบสอบถามขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ผู้จัดการยื่นขวดน้ำให้เธอ
“ฮวาลิน คุณสามารถไปได้เลยหลัง 15 นาที พวกเขาบอกว่าวันนี้เธอทำเฉพาะส่วนแรกและส่วนที่สองเท่านั้นครับ”
"อืม แต่ฉันยังไม่รับสาย CEO นะคะ นี่เขาแค่โทรมากวนหรือเปล่า?”
“ผมรับสายนั้นให้แล้ว ผมบอกเขาว่าคุณกำลังเตรียมตัวสำหรับถ่าย Visual Radio แต่จะว่าก็ว่าเถอะ อย่างน้อยคุณควรรับสายจาก CEO หน่อยไหม?”
“ก็ถ้าฉันรับ เขาคงจะจู้จี้แล้วใช้ความกังวลเป็นข้อแก้ตัวน่ะสิ เขาเอาแต่จู้จี้ตลอดเลยหลังเล่นงานในวงหลักเสร็จ”
"เฮ้อ-!"
ผู้จัดการส่ายหัวและยื่นชุดบทสองชุดให้เธอ
“ผมมีบทเอามาเพิ่มตามที่คุณถาม แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าผมแค่ให้กระดาษชำระไปแทนเนี่ย? นี่คุณได้อ่านบทพวกนี้บ้างหรือเปล่า?”
"ฉันอ่านอยู่นะ"
“แต่ผมไม่เคยเห็นคุณอ่านเลย คุณได้ขอผ่านมา 10 อันแล้ว แถมยังไม่มีอันไหนตอบรับด้วย”
“ก็มันไม่มีอันไหนน่าสนใจเลยนิ”
ฮวาลินตอบสั้น ๆ และเปิดบทแรกจากทั้งสองบทที่เธอเพิ่งได้รับมา ในเวลาเดียวกัน ผู้จัดการร่างอ้วนที่นั่งข้างเธอก็เริ่มอธิบายโดยมีโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ
“อา นั่นมันบทละครดราม่าสำหรับเพลงใน YouTube น่ะ มีการวางแผนไว้ 10 ตอน และเพราะมันเป็นละครฉายผ่านเว็บ มันจึงมีรูปแบบเป็นละครเพลง แต่ให้ความรู้สึกเด็กไปหน่อย”
“ฟังดูเป็นผลงานชิ้นใหญ่เลยแฮะถ้าพวกเขาส่งมาให้ฉัน”
“ผมก็คิดว่ามันแปลกเหมือนกัน ผมก็เลยลองอ่านดูคร่าว ๆ ดูเหมือนว่าจะมีการลงทุนจากบริษัทผู้ผลิตในจีนด้วยนะ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีเงินทุนอยู่เยอะแยะเลย”
“โอ้ งั้นฉันขอผ่านดีกว่า ดูบรรยากาศไม่ค่อยดี แถมฉันไม่ชอบเป็นข่าวลือด้วยสิ”
"อืม ก็จริงครับ ไม่ใช่ว่าไม่มีแฟน ๆ ของ 'เอลานี่' ในประเทศจีน แต่ตลาดหลักของเราคือเกาหลีและญี่ปุ่น บางทีเราควรมุ่งเน้นไปที่ญี่ปุ่นให้มากขึ้นนะครับ”
ฮวาลินจึงเปลี่ยนทิศทางการไขว้ขาของเธอพร้อมกับเปิดบทที่สองที่เพิ่งได้รับมา
“อันนี้มาจาก Netflix เหรอคะ?”
"หือ? โอ้ ใช่ครับ เป็นโปรเจคของทาง Netflix รวมซีรีส์ละครสั้น ผมได้ยินมาว่ามันเป็นผลงานที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขันครั้งก่อน ผมได้มันมาจากเส้นสายน่ะ หัวหน้าทีมสร้างสรรค์ของ Netflix มีข้อตกลงกับหัวหน้าทีมของเราพอดี”
“ยังไงมันก็ไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อย”
“หัวหน้าทีมของเราบอกว่าไม่ต้องสนใจมากก็ได้ครับ เขาแค่รับมาเป็นพิธี แต่ดูเหมือนว่า Netflix จะสนใจละครซีรีส์เรื่องสั้นนี้ ดังนั้นมันจึงมีเงินทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งโปรเจคนี้ก็พอดูมีค่าและถูกโปรโมทอยู่บ้าง แต่มันไม่ใช่งานที่คุณจะต้องจำเป็นต้องทำหรอกนะครับ”
ฮวาลินถอนหายใจเล็กน้อยและอ่านบรรทัดแรกของบทแล้วหัวเราะเบา ๆ
“พวกเขาใส่ฉากจูบไว้ตอนเริ่มต้นด้วยนะคะ”
“เฮ้อ เอาจริงเหรอเนี่ย! คุณฮวาลิน งั้นช่างบทอันนี้ไปเถอะ ไว้ผมจะตัดบทนี้ออกทีหลังแล้วกัน ไปสนใจงานใหญ่อันอื่นดีกว่า เพราะคุณเอาแต่รับงานสุ่ม ๆ ไปมา พวกเขาจึงส่งทุกอย่างมาหมดเลยเนี่ย”
“จะกังวลอะไรเล่า? ดูฮเยยอนสิ เธอก็ทำหนังสั้นแปลก ๆ และมันก็ฮิตมากเลยใช่ไหมล่ะ? แถมมันยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ของเธอในฐานะนักแสดงตัวจริงอีก บางทีฉันควรจะลองเล่นละครสั้นด้วยดีไหม?”
"คุณบ้าหรือเปล่าเนี่ย? คิดว่า CEO จะปล่อยคุณไปเหรอ?”
“ถ้าเขาไม่แล้วยังไงล่ะ? ถ้าฉันต้องการ ฉันก็จะทำ”
“ใครจะกล้าหยุดคุณกันเล่า…ว่าแต่คุณแค่ล้อเล่นใช่ไหม? ทำเอาผมตกใจมากเลยนะ”
“…”
ผู้จัดการรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก แต่ฮวาลินกลับไม่ตอบอะไรกลับมา เธอแค่อ่านบทละครซีรีส์สั้นต่อ ซึ่งในใจเธอก็กำลังิคดว่า
'งานวงชักหนักมากไปแล้ว ฉันอยากจะทำอะไรสั้น ๆ สบาย ๆ จริงนะ'
เธอหวังเหลือเกินว่างานเดี่ยวของเธอจะเบาลงสักหน่อย อัลบั้มของเธอได้รับความนิยมมาก งานของวงก็เข้มข้น แถมยังมีเรื่องการโปรโมตในเกาหลีและญี่ปุ่นอีก โดยเฉพาะตารางงานในญี่ปุ่นที่กระแสเคป็อปมาแรงนั้นยิ่งทำให้เธอเหนื่อยมากขึ้นไปอีก
ไม่ใช่ว่าเธอเกลียดการแสดง
ฮวาลินชอบแสดงมาก จนกลายเป็นแฟนคลับของคังวูจินโดยที่เธอไม่รู้ตัว ทว่าตัวเธอแค่อยากพักผ่อนบ้างเท่านั้นเอง เธอจึงจำเป็นต้องชาร์จพลัง มันก็แค่นั้น
ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษเลย
-ฟึบ
ฮวาลินมุ่งความสนใจไปที่การอ่านบทละครซีรีส์สั้น
'บางที
ละครซีรีส์ชุดนี้
มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ? ถ้าเป็นโปรเจกต์จาก Netflix ก็น่าจะดีอยู่แล้วสิ'
แน่นอนว่าเธอไม่ได้ตัดสินใจในทันที
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ในช่วงบ่ายที่สตูดิโอ 'สปอร์ตเดย์'
การบันทึกรายการ 'สปอร์ตเดย์' ซึ่งเริ่มในช่วงเช้าใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
"ติ้ง!"
หลังจากจบช่วงพูดคุย พวกเขาก็อยู่ระหว่างเกม 'ทายชื่อคนดัง' โดยต้องพูดชื่อคนดังที่แสดงในภาพถ่ายภายใน 1 วินาที หากนักแสดงทั้ง 7 คนของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ทำได้โดยไม่มีข้อผิดพลาด พวกเขาจะได้รับรางวัล
ทว่า
“กรุณาลบหนึ่งในรางวัลที่ไม่ต้องการออกไปด้วยครับ”
จากเดิม 10 รางวัล ตอนนี้เหลือเพียง 3 รางวัลเท่านั้น แต่ปัญหาที่แท้จริงสำหรับนักแสดงในที่นี่ไม่ใช่รางวัลที่เหลือ
“อ่า แย่จริง ผมต้องขอโทษคุณซอจินเซจริง ๆ เลยนะครับ”
“ฉัน…ฉันดันไม่สามารถพูดชื่อผู้กำกับควอนกีแท็กออกมาได้เนี่ยนะ ฉันจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”
“เอ่อ คุณPD นี่มันโหดร้ายเกินไปหน่อยไหม?”
สาเหตุเพราะ...นักแสดงแทบทุกคนไม่สามารถตอบชื่อคนดังที่รายการเอาออกมาทายได้ แล้วคังวูจินล่ะเป็นยังไง?
'ฉันโชคดีมากเลยแฮะที่พวกเขาผิดกันตั้งแต่เริ่มต้น'
จนถึงตอนนี้ เขาได้เล่นรอบเดียวเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงผ่านมาได้อย่างราบรื่น
'รยูจองมินเกือบตอบคำถามเมื่อกี้ได้แล้วเชียว'
ทว่าทีมผู้ผลิตไม่ยอมให้เรื่องเช่นนี้หลุดลอยไป ทันใดนั้น PD ยุนบยองซอนก็แนะนำให้เปลี่ยนที่นั่ง
“คุณวูจิน คุณดูหมดหวังที่จะได้ตอบมากเลยนะครับ ดูเหมือนคุณยังไม่ได้ตอบสักเท่าไรเลยนิ? เปลี่ยนที่นั่งกันดีไหมครับ?”
ฉันเหรอ? ฉันไปหมดหวังตอนไหนกัน? วูจินรู้สึกตกใจและพยายามปฏิเสธเท่าที่จะทำได้
“ไม่ดีกว่าครับ ตรงนี้ผมสบายดีแล้ว”
"ไม่ได้หรอก! วูจินสลับกับเขาเร็วเข้า! จองมินน่ะไร้ความสามารถมาก รู้ไหมว่าที่นั่งแรกสำคัญที่สุด!”
ด้วยเหตุนี้ เริ่มต้นจากฮงฮเยยอนเป็นคนเห็นด้วย นักแสดงทุกคนก็ตกลงที่จะเปลี่ยนที่นั่ง และรยูจองมินก็ย้ายไปนั่งที่วูจินเหมือนนายพลที่ปราชัยจากศึก
“งั้นเปลี่ยนที่กันแล้วนะครับ คุณวูจิน ผลัดไม้ต่อ...ส่งต่อให้กันแล้วนะครับ”
รยูจองมินรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก แต่วูจินกลับดูจริงจังมากขึ้น
'อ่า เวร ฉันก็ไม่ได้รู้จักคนดังมากขนาดนั้นด้วยสิ!'
เขามีความรู้เกี่ยวกับวงการบันเทิงน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย เขาไม่ได้ดูหนังบ่อยนัก ดังนั้นเขาจึงแทบจำชื่อคนดังไม่ได้ แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคำถามเกี่ยวกับคนดัง แต่ส่วนใหญ่รายการวาไรตี้มักถามอะไรเช่นนี้อยู่แล้ว ถึงมันเป็นเพียงเกมง่าย ๆ แต่คังวูจินก็เป็นคนชอบแข่งขันมาก
ฉันกันมันจะชอบแพ้?
ดังนั้นเมื่อคังวูจินเปลี่ยนที่นั่ง เขาจึงสาบานกับตัวเอง เขาจะพยายามอย่างเต็มที่ที่สุด จนความมุ่งมั่นของเขามันออกนอกหน้า ใบหน้าที่เย็นชาของเขาได้เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า คล้ายดั่งทหารที่พร้อมสละชีพเพื่อชาติ
แน่นอนว่ากล้องจับภาพสีหน้าของคังวูจินไว้ได้
“ทำไมคุณวูจินดูจริงจังขนาดนี้เนี่ย?”
“เขาดูเหมือนจะไปสนามรบเลยนะ จริงจังมาก”
“แต่เขาก็น่ารักมากเลยใช่ไหมล่ะ? ถึงมันจะดูต่างออกไปหน่อย แต่นี้ก็เป็นเสน่ห์ของเขาเชียวนะ”
ในคณะทีมงานเบื้องหลัง เสียงพึมพำของทีมงานต่างพูดถึงคังวูจินกัน เกมได้เริ่มต้นขึ้นทันที
“พร้อมแล้วนะครับ?”
-ฟึบ
PD ยุนบยองซอนโชว์รูปถ่ายให้คังวูจินดูอย่างรวดเร็ว มันเป็นภาพนักแสดงฮอลลีวู้ดที่มีชื่อเสียง วูจินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็พูดชื่อเขาออกมาอย่างปาฏิหาริย์
“โอ้ ไมเคิล ฟาสเบ็นเดอร์”
เขาตอบถูก เพราะอีกฝ่ายเป็นนักแสดงฮอลลีวูดที่โด่งดังมาก ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือ...
“ว้าว การออกเสียงแบบนั้นมัน...”
ทีมงานถึงกับอุทานด้วยความตกตะลึง ทำไมงั้นเหรอ? แม้ว่าเขาจะเพิ่งเอ่ยชื่อไป แต่การออกเสียงภาษาอังกฤษของคังวูจินก็ถูกหลักภาษายิ่ง แน่นอนว่า PD ยุนบยองซอนก็สังเกตเห็น
'หือ? การออกเสียงแบบนั้น…'
แต่เกมยังคงดำเนินต่อไป ฮงฮเยยอนผ่าน ลีโดจองผ่าน ทุกคนผ่าน แม้แต่รยูจองมินก็ผ่าน จนมันวนถึงคราวของวูจินอีกครั้ง
"โอ้!!! ในที่สุด!"
“ครั้งนี้เขาจะทำสำเร็จหรือไม่?”
ผู้จัดและทีมงานที่อยู่เบื้องหลังต่างก็กำลังวุ่นวายกัน ตอนนี้มันถึงคราวของคังวูจินอีกครั้ง วูจินรู้สึกกังวลอย่างมาก
“เอาล่ะ คุณวูจิน นี่เป็นอันสุดท้ายแล้ว มันง่าย ง่ายจริง ๆ !”
-ฟึบ
PD ยุนบยองซอนยกรูปอีกรูปขึ้นมา เป็นนักแสดงสาว รูปถ่ายนิตยสารสุดเก๋ไก๋ เป็นใบหน้าที่คุ้นเคยมาก ทุกคนในสตูดิโอทำนายว่าเขาจะตอบถูก เพราะมันเป็นอะไรที่ง่ายยิ่ง
ทว่า
"เอ่อ"
คังวูจินหยุดชะงักชั่วครู่ขณะที่เขาดูภาพ
'เธอเป็นใครกันเนี่ย? เดี๋ยวก่อนนะ ฉันชักสับสนแล้วสิ ทำไมถึงเป็นรูปนิตยสารล่ะ?'
จากนั้น PD ยุนบยองซอนก็ประกาศขึ้นมาด้วยรอยยิ้มบางเบา
"หมดเวลาครับ!!"
เขากล่าวออกมาอย่างเด็ดขาด
“ว้าว ทั้งที่มันเป็นข้อคำถามแจกฟรีเลยนะครับ แล้วเราจะทำยังไงต่อกันดีล่ะเนี่ย? นี่มันน่าอึดอัดใจมากเลยนะครับ”
คังวูจินยอมรับความพ่ายแพ้ของเขาอย่างสิ้นเชิง
“ผมขอโทษด้วยครับ ว่านั่นใครเหรอ?”
หลังจากนั้นเอง
-ปัง!
มีคนต่อยแขนของคังวูจิน เป็นฮงฮเยยอนที่กำลังโกรธจัด
"หา!? นั่นฉันไงเล่า!! คุณเสียสติไปแล้วหรือไง?”
“…คือว่าภาพถ่ายมันดูแตกต่างออกไปนะ”
“นี่คุณกำลังพูดอะไรอยู่หา!”
"ผมยอมรับความพ่ายแพ้ครับ"
แล้วจากนั้น
“ซีอีโอชเว”
ในขณะที่ฮงฮเยยอนกำลังโกรธจัด PD ยุนบยองซอนก็เดินเข้ามาหาชเวชองกุน ผู้ซึ่งกำลังยิ้มอยู่บริเวณใกล้เคียงสถานที่ถ่ายทำ
“คุณวูจินพูดภาษาอังกฤษได้ไหมครับ?”
ชเวชองกุนก็ตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“ไม่ใช่แค่ 'พูด' หรอกครับ แต่ยังอยู่ในระดับเจ้าของภาษาเลยด้วย รวมถึงภาษาญี่ปุ่นด้วยนะ”
ทันใดนั้น ดวงตาของ PD ยุนบยองซอนถึงกับเบิกกว้าง
*****