บทที่ 62 มากมาย (1)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 62 มากมาย (1)
จริง ๆ แล้ววูจินไม่รู้เกี่ยวกับบทบาทของ 'ชายลึกลับข้างบ้าน' ในละครเรื่องนี้เลย ยังไงเสีย เขาก็ไม่ต้องคิดอะไรมากอยู่แล้ว มันคงจะเหมือนกับตอนที่เขาเรียนรู้ภาษาอังกฤษและญี่ปุ่นนั้นแหละ
[“ตรวจพบภาษาใหม่นอกเหนือจากภาษาพื้นฐาน ต้องได้รับ 'ภาษามือ' ก่อน”]
เสียงหุ่นยนต์ผู้หญิงระบุว่าจะต้องได้รับภาษามือก่อน เนื่องจากเรื่องพลิกผันที่ไม่คาดคิดนี้ รอยยิ้มจึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคังวูจิน
“ภาษามือเหรอ? งั้นบทบาทของ 'ชายลึกลับข้างบ้าน' นี้ก็ต้องใช้ภาษามือสินะ? เยี่ยมไปเลย ยิ่งมีภาษามากเท่าไร มันก็ยิ่งดีเท่านั้นแหละ”
ภาษาคือพลัง ซึ่งคังวูจินได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นมาแล้ว ภาษามือไม่ใช่สิ่งที่วูจินคุ้นเคยเลย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาไม่อยากได้ ไม่สิ มันค่อนข้างน่าสนใจออก
เพราะไม่คุ้นเคยนี้แหละ มันเลยดูมีเอกลักษณ์
การเรียนรู้ภาษาต่าง ๆ เช่น ภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุ่นอาจง่ายกว่ามาก เพราะมีคนพบเห็นกันได้ทั่วไป แต่ภาษามือนั้นไม่ธรรมดาสักนิดเดียว ขณะนั้นเอง คังวูจินก็ได้ยินเสียงหุ่นยนต์ผู้หญิงอีกครั้ง
[“กำลังเตรียมการอ่าน ‘ภาษามือ’……”]
[“……การเตรียมการเสร็จสมบูรณ์ เริ่มอ่าน 'ภาษามือ'”]
เขาพึมพำกับตัวเอง “ถึงจะยากไปหน่อย แต่คงได้มีโอกาสใช้มันทีหลังแน่ ถึงยังไงก็เถอะ ไอ้นี้มันสุดยอดชะมัด”
ในเวลาเดียวกัน สีเทาอันกว้างใหญ่ได้ปกคลุมคังวูจินไว้ ในไม่ช้า เขาก็รู้สึกเสียวซ่าในช่องท้องส่วนล่างของเขา ทว่าเขาไม่รู้สึกหวาดกลัวมากนัก เนื่องจากเขาเคยประสบเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนแล้ว
สภาพแวดล้อมของเขาเป็นสีเทาทั้งหมด วูจินกำลังลอยอยู่บนอากาศว่างเปล่า
วูจินยิ้มเล็กน้อยและมองตรงไปข้างหน้า เพราะรู้ว่ามีบางอย่างกำลังมา
ตามที่คาดไว้เป๊ะ
"มาแล้วสินะ!"
จากระยะไกล มีบางอย่างเริ่มเข้ามาใกล้ มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วใกล้เคียงกับภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น ในไม่ช้า คังวูจินก็มองเห็นมัน
“มันคือ...มือ”
เป็นรูปร่างของมือ ไม่มีร่างกาย มีแต่มือที่มองเห็นได้จนถึงไหล่ มันบินตรงไปหาคังวูจินและซึมเข้าไปในตัวเขา
จากหนึ่งไปอีกหนึ่ง รูปทรงมือมากมายลอยตามกันเข้ามา
ผ่านไปพักใหญ่
[“สิ้นสุดการอ่าน ’ภาษามือ'”]
สิ้นเสียงของหุ่นยนต์ผู้หญิง โลกของวูจินก็ได้เปลี่ยนจากพื้นที่ว่างเปล่ามาเป็นห้องประชุม ท่าทางของคังวูจินยังคงเหมือนเดิมเหมือนตอนเขาได้รับบท 'รักน้ำค้างแข็ง' ตอนที่ 1 มา จากนั้นเขาก็ตรวจดูอาการของตนเอง
'อืม ฉันไม่ได้เป็นอะไร ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยแฮะ'
เขาค่อย ๆ เริ่มคุ้นเคยกับมันแล้ว เขาเหนื่อยมากตอนที่เรียนภาษาอังกฤษ ดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเรียนภาษาญี่ปุ่น แต่พอเป็นภาษามือ เขากลับรู้สึกปกติ
ความคุ้นชินงั้นเหรอ?
เหมือนว่าร่างกายของเขาปรับตัวให้เข้ากับความเหนื่อยล้าจากการรับภาษาได้แล้ว พอเรียนรู้ภาษาที่สามเขาจึงไม่ค่อยเหนื่อยนัก มันคงเป็นระบบของมิติว่างเปล่าสินะ
'ฉันรู้สึกได้เลยว่าฉันสามารถใช้ภาษามือได้แล้ว'
ภาษามือจากมิติว่างเปล่าได้กระจ่างชัดอยู่ในหัวของเขา เช่นเดียวกับภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น ตอนนี้มันได้ประทับอยู่ในตัวเขาแล้ว เขารู้สึกได้เลยว่าเขาสามารถขยับมือและส่งข้อความผ่านภาษามือได้ทันที
คังวูจินรู้สึกประหลาดใจพอสมควร
'เอาจริงนะ มิติว่างเปล่ามันสุดยอดเกินไปแล้ว'
แม้ว่าเขาจะคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นมาก่อน แต่ภาษามือน่ะแตกต่างออกไป เขาเคยเห็นมันเพียงสั้น ๆ ในข่าวสองสามครั้ง สำหรับวูจิน มันเป็นภาษาที่ไม่คุ้นเคยเลย เรียกว่าอยู่กันคนละขอบเขตเลยด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้ วูจินกลับได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในภาษามือเสียแล้ว
คังวูจินยิ้มในใจ มองลงไปที่บทละครในมือของเขา
'ได้ภาษามือมาเรียบร้อยแล้ว'
ในตอนนั้น นักเขียนลีวอลซอนเพิ่งจะส่งบทจากมือไปให้ ในความเป็นจริง มันผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นตั้งแต่เธอส่งบทให้เขา
“ตารางการถ่ายทำอาจจะแค่วันหรือสองวัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าบทบาทของ 'ชายลึกลับข้างบ้าน' จะน้อยนะคะ มันมีบทบาทสำคัญพอสมควรในตอนที่ 1 และ 2 ที่สำคัญกว่านั้น มีหลายอย่างในตัวละครนี้ที่คุณจะต้องเรียนรู้ด้วย”
จากคำอธิบายของเธอ ชเวชองกุนก็เอียงศีรษะและมองไปทางวูจิน ซึ่งรู้อยู่แล้วว่า 'สิ่งที่ต้องเรียนรู้' ที่ว่านั้นคืออะไร วูจินจึงกล่าวว่า
“เอ่อ-ครับ”
คังวูจินแกล้งทำเป็นหมกมุ่นอยู่กับบทสักครู่ จากนั้นจึงหันกลับมามองนักเขียนลีวอลซอนด้วยท่าทีสบาย ๆ
“คุณกำลังพูดถึงภาษามือใช่ไหมครับ?”
ชเวชองกุนประหลาดใจจนถึงขั้นอุทานว่า
“ภ-ภาษามืองั้นเหรอ?”
ทางด้านลีวอนซอนก็ยิ้มตอบ
"ใช่แล้วค่ะ นอกเหนือจากเรื่องที่ต้องแสดงให้สื่อตัวตนออกมาแล้ว บทบาทของ 'ชายลึกลับข้างบ้าน' ส่วนใหญ่จะสื่อสารผ่านภาษามือ แม้ว่าจะมีบทพูดไม่มากนัก แต่การเรียนรู้ภาษามือก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ”
ชเวชองกุนขมวดคิ้วเล็กน้อย
'ปีศาจดันซ่อนอยู่ในบทเสียได้... แต่ว่าเราตกลงไปแล้ว จะให้ปฏิเสธก็ไม่ได้ ถึงฉันจะขอบทรองให้วูจิน แต่...เฮ้อ ถึงมันจะมีบทพูดไม่กี่คำ ทว่าการเรียนภาษามือคงจะกินเวลานานมากเกินไปแน่ ถึงมันจะเป็นเรื่องที่ท้าทาย มันก็ไม่คุ้มอยู่ดี'
พวกเขาพยายามจะฆ่านกสองตัวด้วยหินนัดเดียว แต่ทว่าจู่ ๆ นกตัวหนึ่งดันบินหนีไปเสียอย่างนั้น ซึ่งทั้งหมดก็เป็นฝีมือของลีวอลซอน สิ่งที่ต้องลงทุนลงแรงเลยคือการเรียนรู้ภาษามือ ซึ่งถือได้ว่ายากยิ่ง
“เราจำเป็นต้องปรับบทบาทตรงส่วนนี้นิดหน่อยนะครับ”
ชเวชองกุนพึมพำกับตัวเอง ส่งยิ้มธุรกิจให้กับนักเขียนลีวอลซอนที่อยู่ตรงข้ามเขา
“คุณนักเขียน ดูเผิน ๆ มันดูเป็นบทบาทที่โดดเด่นดีนะครับ แต่มันก็หนักไปหน่อยว่าไหมครับ?”
“คุณคิดว่ามันยากเกินไปเหรอคะ?”
"ไม่เลยครับ"
ในขณะนั้น เสียงทุ้มต่ำก็ขัดจังหวะการสนทนาของพวกเขา เป็นเสียงของคังวูจินที่กำลังอ่านบทอยู่
“โชคดีที่ผมพอจะทำได้พอดี”
ทั้งชเวชองกุนและนักเขียนลีวอลซอนต่างจ้องมองไปที่วูจินพร้อมกัน แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตก็เช่นกัน ดวงตาของทุกคนเบิกกว้างเล็กน้อย ทว่าคังวูจินยังคงนิ่งสงบเยือกเย็นต่อไป
“ผมไม่จำเป็นต้องเรียนภาษามือหรอกครับ”
ชเวชองกุนจึงถามกลับอย่างรวดเร็ว
“หมายความว่ายังไงที่นายไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ภาษามือ? วูจิน นายพูดอะไรของนายอยู่?”
หลังจากนั้น นักเขียนลีวอลซอนก็เอียงหัวของเธอเล็กน้อยด้วยความสับสนและถามออกมา
“คุณไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เหรอคะ…หมายความว่ายังไง? คุณกำลังบอกว่าคุณรู้ภาษามืองั้นเหรอ?”
"ใช่ครับ แค่นิดหน่อย"
นักเขียนลีวอนซอนถึงกับเลิกคิ้ว
"จริงเหรอ? คุณรู้ภาษามือเหรอคะ?”
คังวูจินยังคงตอบกลับไปอย่างนิ่ง ๆ
"ใช่ครับ"
“…ถ้าอย่างนั้นช่วยแสดงให้พวกเราดูหน่อยได้ไหมคะ?”
"ได้อยู่แล้วครับ งั้นเอาตรงบทส่วนีน้แล้วกันนะครับ”
คังวูจินชี้ไปยังจุดภาษามือของ 'ชายลึกลับข้างบ้าน' ในบทและเริ่มทำท่าทาง ทักษะภาษามือของเขาที่เพิ่งได้มานั้นคล่องแคล่วจนน่าทึ่ง
-ฟึบ...
เขาทำมันอย่างไร้ความรู้สึก แต่กลับเชี่ยวชาญ มันดูเป็นธรรมชาติและเนียนตายิ่ง เน้นย้ำผ่านท่าทาง แสดงออกทางอารมณ์ พาดผ่านดวงตาของเขา
ไม่มีใครเทียบได้เลย
ห้องประชุมเงียบกริบ แต่ความประหลาดใจในหมู่ผู้เข้าร่วมประชุมกลับเพิ่มมากขึ้น คังวูจินโดดเด่น แต่กลับดูไม่โอ้อวดสักนิดเดียว แม้แต่เสียงเสื้อผ้าที่กระทบกันก็ทำให้ตัวตนของเขาดูลึกลับยิ่งขึ้นไปอีก
นักเขียนลีวอลซอนได้พบกับคังวูจินเป็นครั้งแรก จ้องมองเขม็งอย่างตั้งใจโดยไม่กระพริบตา
'การเคลื่อนไหวของเขามันดูน้อยอย่างพอเหมาะ แต่ดวงตาของเขากลับฉายแววบางอย่างแตกต่างออกมา ทำไมมันถึงเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกมากมายขนาดนี้ได้กันล่ะ?'
หลังจากการสาธิตของคังวูจินสิ้นสุดลง เขาก็พูดขึ้นมาว่า
“เท่านี้น่าจะพอนะครับ คุณนักเขียน”
ทุกคนที่ดูถึงกับพูดไม่ออกกันเลยทีเดียว นักเขียนลีวอลซอนผู้หลงใหลในภาษามือของวูจิน ในที่สุดก็ได้พูดออกมา
“…คุณบอกว่าคุณรู้เพียงเล็กน้อยงั้นเหรอคะ?”
ขณะเดียวกัน ที่สถานีเคเบิลทีวี HTBS
แผนกวาไรตี้ของ HTBS นั้นคึกคักเหมือนตลาด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติสำหรับแผนกนี้ โต๊ะทำงานรกรุงรังไปด้วยอุปกรณ์ประกอบฉากมากมายจากการถ่ายทำ PD นักเขียนและพนักงานคนอื่น ๆ ก็ยุ่งอยู่กับการโทรศัพท์ พูดคุยกันจนไม่มีเวลาหยุดพัก
ในโลกแห่งวงการบันเทิง ช่วงนี้เป็นช่วงที่คึกคักที่สุดเลยทีเดียว
ด้วยการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ในไม่ช้าก็ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นช่วงร้อนหลังความหนาวเย็นมาเยือน แม้ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ แต่กลับรู้สึกเหมือนเป็นฤดูร้อน ข้างนอกมีลมอุ่นพัดมา แต่ในช่วงเวลานี้ โลกแห่งความบันเทิงมักตกอยู่ในพายุอันโกลาหล
มีการวางแผนรายการบันเทิงใหม่หรือรายการที่มีอยู่แล้วต้องผ่านการปรับปรุงใหม่
ด้วยเหตุนี้ รายการต่าง ๆ จึงถูกยกเลิกหายไปจากความทรงจำ ทำให้เกิดรายการบันเทิงใหม่ ๆ ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับสถานีถ่ายทอดสดทั้งหมด รวมถึงสถานี HTBS ด้วย
แต่ HTBS มียักษ์ใหญ่แห่งวงการอยู่
『PD สัตว์ประหลาดแห่งวงการบันเทิง ยุนบยองซอน กำลังวางแผนรายการใหม่เหรอ? ตามคำบอกเล่าของคนวงในได้กล่าวว่า 'เราวางแผนที่จะทำมันโดยไม่มีแรงกดดัน'』
นั่นคือ PD ยุนบยองซอน หลังจากได้รับค่าตัวจำนวนมากจากสถานีรายใหญ่ เขาก็ได้ย้ายไปประจำอยู่ที่ HTBS ทันทีที่ย้ายมา เขาได้ผลิตรายการบันเทิงที่มีเรตติ้งพุ่งแรงทะยานฟ้า ตอนนี้เขากำลังวางแผนรายการทีวีใหม่ ไม่ใช่สำหรับ YouTube
สถานที่ประชุมเป็นห้องประชุมขนาดกลาง
มีคนอยู่ประมาณสิบคน ในหมู่พวกเขา PD ยุนบยองซอนที่มีคางอันแสนโดดเด่นกำลังมองดูไวท์บอร์ดหน้าห้องประชุม
"ฮึ่มม-"
นักเขียนคนอื่นก็มองไปทางเดียวกัน บนไวท์บอร์ด มีรูปถ่ายของคนดังหลายคน ทาง PD ยุนบยองซอนถอดแว่นตา ขยี้ตาซ้ำแล้วซ้ำเล่าพลางถอนหายใจ
“ตัวเต็งที่เลือกมาก็ค่อนข้างดี แต่กลับรู้สึกขาดอะไรไปบางอย่าง มันดูไม่มีอะไรน่าหลงใหลเลยจริง ๆ”
นักเขียนคนหนึ่งกล่าว
“แสดงว่าคุณจะเอาแค่ 3 คนแรกแน่ ๆ แต่ต่อจากนั้นปัดตกใช่ไหม?”
"พวกนี้เหรอ? โอ้ย ไม่รู้แล้ว ฉันประชุมมาทั้งวัน สมองแทบจะไหม้หมด”
“งั้นตอนนี้เอาไว้เท่านี้แล้วกัน พรุ่งนี้มีถ่าย 'สปอร์ตเดย์' กับ'ทีมผู้เชี่ยวชาญนิติจิตวิทยา' ใช่ไหม? คุณไม่ต้องเตรียมตัวแล้วเหรอ?”
“อืม ผมเตรียมตัวแล้วล่ะ พอตั้งกล้องเสร็จแล้ว ไว้ผมจะไปตรวจสอบอีกที”
PD ยุนบยองซอน ซึ่งอยู่ข้างหน้าพวกเขาได้ยืดตัวบิดไปมา ก่อนจะพูดต่อและหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งจากหลาย ๆ แผ่นที่วางไว้
“เรากำลังวางแผนที่จะเข้าสู่ซีรีส์ภาคต่อกัน พวกคุณคิดว่า-”
เขาหยุดอีกครั้ง เท้าคางไว้ในมือแล้วพูดกับนักเขียนโดยรอบ
“จะดีกว่าไหมถ้ามีสมาชิกในรายการอย่างน้อยหนึ่งคนที่พูดภาษาต่างประเทศได้? ถ้าเราเอาแต่ทำแบบเดิม มันคงจะน่าเบื่อออก”
"นั่นก็จริง ประเด็นหลักของเราคือการโปรโมตอาหารเกาหลี งั้นผมจะมองหานักแสดงที่สามารถพูดภาษาต่างประเทศได้แล้วกัน”
“อืม ไม่จำเป็นต้องเอาคนที่พูดคล่องนะ แต่ขอภาษาอังกฤษพอไปวัดไปวาก็ได้มั้ง? คงจะดีไม่น้อยถ้าสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้เหมือนกัน แต่การหาคนที่สามารถพูดได้ทั้งสองภาษาคงยากมากแน่”
“เราอาจหาได้อยู่แหละ แต่ในหมู่นักแสดงตัวเป้ง มันจะมีใครที่เชี่ยวชาญจนพูดหลายภาษาได้กัน...”
“ในหมู่นักแสดงตัวเป้งคงมีอยู่แค่นิดหน่อยเท่านั้นแหละ”
ขณะที่พูดคำนี้ออกไป PD ยุนบยองซอนก็หันกลับมามองที่ไวท์บอร์ดตรงหน้าเขา
“สำหรับตอนนี้ เรามาหาคนที่เก่งภาษาอังกฤษภายในสัปดาห์หน้าเถอะ”
เช้าวันรุ่งขึ้น วันศุกร์ที่ 22
วันนี้คังวูจินต้องเผชิญกับปัญหาสำคัญสองประการ ปัญหาแรกคือการออกอากาศตอนที่สามของ ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’ และอีกหนึ่งคือการไปออกช่อง Youtube ‘สปอร์ตเดย์’
ด้วยเหตุนี้สื่อจึงแทบระเบิด
『【คุยประเด็นเด่น】'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ที่ได้ทะลุเรตติ้ง 20% จะออกอากาศตอนที่ 3 วันนี้!』
『'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ที่สร้างกระแสฮือฮาตลอดทั้งสัปดาห์ สามารถทะลุเรตติ้งผู้ชมได้ถึง 23% ในตอนที่ 3 ได้หรือไม่?』
ในขณะที่บทความต่าง ๆ ได้หลั่งไหลออกมาเกี่ยวกับเรื่องตอนที่ 3 ของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' แต่ข่าวที่เกี่ยวข้องกับ 'สปอร์ตเดย์' ก็ถูกรายงานมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน
『【ข่าวพิเศษ】นักแสดงนำของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' จะปรากฏตัวในรายการ 'สปอร์ตเดย์' ของ PD ยุนบยองซอน』
แน่นอนว่ามีการรายงานเรื่องที่คังวูจินจะปรากฏตัวด้วย
『หลังจากผ่านไปเพียงสองตอน ดาราดาวรุ่งคังวูจิน ผู้ซึ่งรับบทเป็น 'รองหัวหน้าพัค' จะได้ปรากฏตัวในรายการวาไรตี้ครั้งแรกของเขาในรายการ 'สปอร์ตเดย์' ของ PD ยุนบยองซอน』
มันเป็นการโปรโมตละครตามที่วางแผนกันไว้ ความโด่งดังของรองหัวหน้าพัคไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย
การที่ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ครองประเทศเป็นเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ ทำให้ทั้งสื่อและคนดูต่างแทบคลั่งกันแล้ว ความคาดหวังในรายการ 'สปอร์ตเดย์' จึงพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก
-ว้าว…สมกับเป็น PD ยุน! ขอบคุณมากเลย!!! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยที่นักแสดงพวกนั้นจะปรากฏตัวในรายการวาไรตี้โชว์แบบนี้ได้…ㅠㅠ�
-คังวูจินเหรอ? ถามจริง คังวูจินไปออกวาไรตี้โชว์เหรอ? ㅠㅠㅠㅠ ฉันรอไม่ไหวแล้ว…ฉันสงสัยเหลือเกินว่าเขาจะมีนิสัยเป็นยังไง…
-PD ยุนนี้มีสัมผัสพิเศษแหง ฮ่าๆ ถึงกับเอานักแสดงสุดร้อนแรงมาออกรายการได้เลย!!!! แต่ว่าเรื่องของคังวูจิน...ฉันชักสงสัยแล้วสิแฮะ?
-รยูจองมินและฮงฮเยยอน…กับนักแสดงที่น่าทึ่ง (รองหัวหน้าพัค) คังวูจิน…ฉันล่ะอยากรู้จักเขาจริง ๆ ขอบคุณมากเลย
-ตอนฉันเห็นอินสตาแกรมของคังวูจิน เขาดูเหมือนเป็นคนดังจริง ๆ นะ 555 ได้โปรดถ่ายรอมคอมทีเถอะนะ พี่…..จริงจังนะเนี่ย
-ในบรรดานักแสดงชั้นนำก็มีคังวูจินไปออกด้วยสินะ ฮ่า ๆ วางแผนกันไว้แล้วแหง ฮ่า ๆ อืม แต่เขาก็เด่นดังนะช่วงนี้ 555 สงสัยเลยแฮะว่าเขาจะจะมีบุคลิกแบบไหนกันแน่…
•
•
•
•
ขณะเดียวกัน คังวูจินได้มาถึงสตูดิโอแห่งหนึ่งในกรุงโซล เขาดูมีชีวิตชีวาตามปกติ วันนี้วูจินสวมเสื้อโค้ทสีดำคลุมยาว แต่งหน้าและทำผมอย่างดี
ทว่า
'ในที่สุดก็จะได้ถ่ายรายการวาไรตี้แล้วเหรอเนี่ย?'
เมื่อลงจากรถตู้ คังวูจินก็แสร้งทำเป็นเฉยเมย แต่ภายในใจเขากลับรู้สึกกังวลมากขึ้น เขาคิดว่าเขาได้ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคยแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังไปไม่ถึงจุดนั้นเสียทีเดียว
นอกจากนี้
'วันนี้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นคนดังเลย ไม่ชินเลยแฮะ'
กระทั่งรูปลักษณ์ในปัจจุบันของตัวเขาเอง มันก็ยังเพิ่มความวิตกกังวลในใจเขาเพิ่มไปอีก ตั้งแต่เสื้อกันฝนราคาแพงที่เขาแทบไม่ได้ใส่ ไปจนถึงกลิ่นน้ำหอมที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเขา การแสดงทำให้เขาต้องเริ่มแต่งตัวตามอุปนิสัยของเขาที่แสร้งทำ ดังนั้นแล้วการถ่ายทำรายการวาไรตี้นี้จึงทำให้เขารู้สึกกดดันในการเป็นคนดังมาก
'ไม่ ไม่ ตอนนี้ฉันเป็นคนดังแล้วนะ ต้องใจเย็นเข้าไว้ หายใจเข้าลึก ๆ และอย่าลืมหลักการของตัวเองสิ'
พอคิดเช่นนี้ คังวูจินจึงปิดตาลง ประสบการณ์ครั้งแรกมันย่อมน่ากลัวเสมอแหละ ในขณะนั้นเอง ชเวชองกุน ผู้ซึ่งลุกออกจากที่นั่งผู้โดยสารก็แตะไหล่ของคังวูจิน
“อืม นี่นายคงไม่กังวลเลยสินะเนี่ย? จะว่าไปฉันได้ดูรายการ 'สปอร์ตเดย์' ก่อนหน้านี้แล้วด้วยนะ”
ไม่กังวลก็บ้าแล้ว เขารู้สึกเหมือนว่าอาจจะอ้วกออกมาได้เลย วูจินคิดในใจ พยายามหลบหน้าชเวชองกุนที่กำลังยิ้มมาให้ แต่ปากของเขากลับพึมพำออกมาอย่างนิ่งสงบ
“คงจะสนุกน่าดูนะครับ”
"ฮ่า ๆ ใช่แล้วล่ะ นักแสดงรุ่นพี่ก็อยู่เยอะ บรรยากาศคงน่าเป็นใจมาก อย่างที่ฉันบอกไป แค่เป็นตัวของตัวเองก็พอ นายไม่จำเป็นต้องพยายามมากเกินไปหรอก”
“แค่เป็นตัวของตัวเอง เข้าใจแล้วครับ”
ในขณะนั้น คังวูจินก็ได้มีปณิธานในใจ ด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งเน้นไปที่หลักการของเขามากกว่าที่เคยเป็นมา ไม่มีบทหรือสิ่งใดให้คอยควบคุมอีกต่อไป ดังนั้นหากผิดพลาดครั้งหนึ่ง มันอาจเป็นหายนะตามมา
'ฮึบ! ต้องตั้งสมาธิ ควรคิดว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสนามรบ'
ในไม่ช้า จางซูฮวานและฮันเยจุงก็ยืนเคียงข้างวูจิน ผู้ซึ่งพยายามสงบสติอารมณ์ในใจ ชเวชองกุนเช็คเวลา เดินนำทีมร่วมกับวูจิน สตูดิโออยู่บนชั้นสาม พวกเขาสามารถแวะที่ห้องรอได้ แต่ก็ไม่จำเป็น
เหตุผลมันชัดเจน เพราะตั้งแต่คังวูจิมาถึงสตูดิโอ เขาก็ได้เห็นว่ามันเตรียมพร้อมหมดแล้ว
'ว้าว นี่มันบ้าไปแล้ว มีกล้องกี่ตัวกันเนี่ย? แถมคนยังเยอะแยะเต็มไปหมด พวกเขากำลังถ่ายทำไปแล้วใช่ไหม?
รายการวาไรตี้ 'สปอร์ตเดย์' ได้เริ่มถ่ายทำแล้ว 'สปอร์ตเดย์'; รวบรวมทุกอย่างมาในรายการ ตั้งแต่พูดคุยอย่างเป็นทางการกับศิลปินจนไปถึงพูดคุยกันแบบสบาย ๆ ดังนั้นกล้องหลายสิบตัวที่ติดตั้งไว้ในสตูดิโอจึงทำงานอย่างไม่หยุดหย่อน
ไฟสตูดิโอที่ส่องสว่างบริเวณที่ถ่ายทำก็ไม่มีข้อยกเว้น
จากนั้นเอง
“คังวูจินมาแล้ว!”
เสียงตะโกนจากทีมงานใกล้ทางเข้าดังก้องไปทั่วสตูดิโอ PD ยุนบยองซอนที่กำลังคุยกับนักเขียนเดินเข้ามาหาวูจินพร้อมด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีคุณวูจิน ยินดีที่ได้รู้จัก ผมสนุกกับละครของคุณมากเลยนะ”
ยุนบยองซอนที่สวมแว่นตายื่นมือให้วูจิน ทีมงานหลายสิบคนรวมตัวกันอยู่รอบ ๆ พวกเขาต่างก็อยากรู้เกี่ยวกับคังวูจิน หน้าใหม่มาแรงคนนี้
ผลที่ตามมาคือ
“…”
อัตราการเต้นของหัวใจของคังวูจินพุ่งสูงขึ้น จิตใจของเขาเริ่มไม่มั่นคง แต่หลักการที่ตั้งมั่นในใจยังคงไม่หวั่นไหว
“สวัสดีครับคุณ PD”
คำทักทายสั้น ๆ ง่าย ๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ PD ยุนบยองซอนและนักเขียนโดยรอบสบตากันทันที ทุกคนเข้าใจกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาจำเป็นต้องเข้าใจบุคลิกของเขาก่อน จึงจะสามารถหาวิธีถ่ายทอดเขาบนหน้าจอได้ ในไม่ช้า PD ยุนบยองซอนก็ถามคำถามวูจินด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
“คุณแสดงเป็นรองหัวหน้าพัคได้อย่างสมจริงมากเลยว่าไหมครับ? นักเขียนของเราตื่นเต้นมากที่ได้ดูละครของคุณ มันยากไหมครับที่ต้องเล่นเป็นรองหัวหน้าพัค?”
มาดูกันซิว่าเขาจะตอบสนองยังไง? ทว่าคังวูจินกลับเพียงแค่พยักหน้าสั้น ๆ มันคือการตอบแบบเกือบจะกึ่งอัตโนมัติ เพราะความตึงเครียดในใจของเขามันสูงจนแทบไม่ได้คิดอะไรแล้ว คำตอบของเขาสั้นมาก
"ครับ"
“…”
ชั่วขณะหนึ่ง ความคิดหนึ่งได้แล่นเข้ามาในจิตใจของ PD ยุนบยองซอน
'ว้าว นี่มันคงจะไม่ง่ายเลยสินะ?'
*****