ตอนที่แล้วบทที่ 23 แทนที่ภาพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 25 ทำธุรกิจในห้องเก็บศพ

บทที่ 24 ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่จะฟ้องอาจาร์ย


บทที่ 24 ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่จะฟ้องอาจาร์ย

ปรากฏว่าภาพทำสมาธินี้ ชื่อ ภาพการกัดกร่อนของปิศาจ

โซล รู้สึกอย่างชัดเจนว่าชื่อของมันเหมาะสมแล้ว

"ท่านอาจาร์ย ข้าถามคนอื่นแล้ว ในหนังสือทำสมาธิของคนอื่นไม่มีภาพนี้เลย มีแต่ของข้าเท่านั้น ...มีคนแอบแทนที่หนังสือของข้า เขาต้องการสังหารข้า"

สีหน้าของโซล สลับไปมาระหว่างความโกรธและความกลัว

"แล้วอย่างไร?" อาจาร์ยแคซยังคงสงบและเฉยชา

"ได้โปรด ท่านอาจาร์ยช่วยข้าด้วย"

คิ้วของอาจาร์ยแคซขมวดขึ้น เขามองไปที่โซล

"เจ้าหนู โลกของพ่อมดก็เป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้นเจ้าต้องออกสำรวจไปยังห้วงดำมืดที่ลึกยิ่งขึ้น และทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ สิ่งที่เจ้าต้องทำคือปรับตัวให้เข้ากับโลกใบนี้ แทนที่จะคิดหาวิธีหลีกหนี"

"ท่านอาจาร์ย ตัวข้าเข้าใจถึงการคัดสรรตามธรรมชาติ แต่ข้าเพิ่งเป็นพ่อมดฝึกหัดได้เพียง 2 วัน แต่กับมีคนล่อลวงสาวใช้ หรือแม้แต่ พ่อมดฝึกหัดคนอื่นๆให้มาจัดการข้า มันมีเหตุผลอื่นหลบซ่อนอยู่ในเรื่องนี้หรือไม่?..." โซล ห่อไหล่และจับท้อง ก่อนจะพูดออกมาด้วยความน่าสงสาร "ข้าไม่กล้าแม้แต่จะกินอาหารที่สาวใช้นำมาให้"

"การคัดสรรตามธรรมชาติงั้นเหรอ?" อาจาร์ยแคซตกใจไม่น้อย "เจ้ายังไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย แต่คำพูดเจ้ากับมากมายนัก"

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นในที่สุดเขาก็ยอม "ไม่ว่าใครที่ต้องการทำร้ายเจ้า ข้ารับใช้หรือพ่อมดฝึกหัดภายใต้หอคอยพ่อมดพวกเขาจะไม่ก้าวล้ำเส้นอย่างแน่นอน เมื่อรู้เช่นนี้แล้วก็จะไม่มีใครกล้าแตะต้องอาหารของเจ้าอีกในอนาคต"

เขาวางมือไปบนหัวของโซล "ส่วนภาพการกัดกร่อนของปิศาจนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าเอง สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เรียนรู้ให้หนักเพื่อที่เจ้าจะได้แข็งแกร่งขึ้น แล้วเจ้าจะพบว่าเส้นทางสู่พ่อมดอันยิ่งใหญ่นั้นอันตรายกว่าที่เจ้าคิดไว้ สิ่งเหล่านี้น่าสะพรึงกลัวกว่าที่เจ้าคิดมากนัก"

โซล อาศัยโอกาสนี้เพื่อถามคำถามต่างๆ หลังจากที่อาจาร์ยแคซพูดจบ เขาก็ออกห้องเก็บศพโดยเอามือไพล่หลังไว้

โซล รู้สึกโล่งใจไม่น้อย แต่เขาก็รู้สึกผิดหวังเช่นกัน

แม้ว่าอาจาร์ยแคซจะบอกว่าโซลไม่ต้องกังวลว่าจะถูกทำร้าย แต่เขาก็ไม่ได้บอกว่าเขาจะช่วยโซลตามหาผู้อยู่เบื้องหลัง

กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ เขายังคงกังวลว่าซิดจะสร้างปัญหาให้เขาอีก หรือแม้แต่ .... สังหารเขาด้วยตัวเอง

โชคดีที่หอคอยพ่อมดน่าจะมีกฏเฉพาะสำหรับพ่อมดฝึกหัดระดับ 2 ไม่อย่างนั้นซิดคงไม่คิดแผนชั่วร้ายมาจัดการเขาเช่นนี้

เพราะพ่อมดฝึกหัดระดับ 2 สามารถสังหารพ่อมดฝึกหัดหน้าใหม่ได้ด้วยนิ้วเพียงไม่กี่นิ้ว

เขายังคงต้องหาทางเพิ่มความแข็งแกร่งให้เร็วที่สุด

ในเวลาเดียวกัน เขาก็ยังคงต้องคอยระวังแผนการของซิด ก่อนที่เขามีพลังพอที่จะต้านทานได้

โซลเริ่มคัดลอกหนังสืออีกครั้ง

ด้วยสีหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์เขาเริ่มเขียนอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะเป็นภาษาโนอาร์ที่ซับซ้อน แต่ความเร็วในการคัดลอกของเขาก็ยังไม่ได้ลดลงมากนัก

เมื่อเป็น เวลา 7 โมงเช้าเขาก็ออกมาจากห้องเก็บศพ

ขณะที่เขากำลังจะออกไป ทันใดนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นประตูสีแดงที่เปิดอยู่ มีชายหนุ่มอายุ 20 ต้นๆ เดินออกมา ตราบนเสื้อคลุมของเขาแสดงให้เห็นว่าเขาก็เป็นพ่อมดฝึกหัดระดับ 1 เช่นกัน

โซลสามารถบอกได้จากอายุของเขาว่าเขาต้องเป็นพ่อมดฝึกหัดระดับ 1 ที่อยู่มานานอย่างแน่นอน

เมื่ออีกฝ่ายเห็นโซล ดวงตาของเขาก็มองข้ามไปราวกับโซลเป็นอากาศธาตุ

โซล เดินตามไปอย่างเงียบๆ ปล่อยอีกฝ่ายเดินไปก่อน

วันนี้ไม่มีงาน ทุกคนจึงสามารถเลิกงานได้ตรงตามเวลาา

โซล หยุดยืนอยู่ใกล้ประตูเงียบๆ เพื่อมองเขาไปข้างในประตูไม้สีแดง

นั้นคงจะเป็นห้องเก็บศพขั้นแรก

แต่โซล รออยู่ประมาณ 10 นาที มันไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ในประตู

เมื่อเขาคิดว่าตัวเขาอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้ว โซลจึงรีบจากไปพร้อมกับหนังสือในอ้อมอกเขา

......

วันนี้แคซ อารมณ์ไม่ค่อยดี

ไม่มีพ่อมดฝึกหัดคนไหนที่ทำให้เขาพอใจเลย

ดยุคนั้นมีสัมผัสธาตุมืดที่สูงและมีความสามารถด้านเวทมนตร์ที่ยอดเยี่ยม แต่สติปัญญาและพลังจิตของเขาไม่ค่อยดีนัก

ทำให้ยากที่จะเรียนรู้วิชาอักษรรูน แล้วเขาจะใช้เวทมนตร์ในอนาคตได้อย่างไร?

ส่วนแองเจล่านั้น ค่อนข้างมีความสามารถและฉลาดกว่าดยุค แต่พลังจิตของนางนั้นอ่อนแอเกินไป

ดวงตากลมโตที่น่ารักคู่ นั้นมักจะมองมาที่เขาเสมอ

แม้แต่การเรียนรู้วิชาพื้นฐานที่ต้องใช้ความพยายาม นางก็สามารถทำได้ดี

แต่นางใสซื่อเกินไป

แคซเองก็ไม่ใช่คนดี ดังนั้นเขาจึงไม่ชอบพ่อมดฝึกหัดประเภทนี้เช่นกัน

ในความเห็นของเขา คนที่จะเป็นพ่อมดฝึกหัดระดับสูง ต้องผ่านความยากลำบากก่อนที่จะกลายเป็นพ่อมดที่แท้จริงได้ในที่สุด

และแองเจล่าทำให้แคซ นึกถึงหญิงสาวอีกคน

ทำให้เขาได้ลิ้มรสกับผลที่ตามมา จากความชะล่าใจของเขาตั้งแต่แรก

ส่วนโซลนั้น....

บอกตรงๆ แคซไม่ได้สนใจเขาเลยในตอนแรก

ในความเห็นของเขา การฝึกพ่อมดฝึกหัดที่ไม่มีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ถือเป็นเรื่องสิ้นเปลืองทรัพยากรของหอคอยพ่อมด

เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ โซลคงต้องใช้เล่ห์กลบางอย่างเพื่อให้ได้กลายเป็นพ่อมดฝึกหัด

เดิมที แคซ อยากจะทำให้เขาล้มเหลวในการทดสอบครั้งแรก แต่เขากับค้นพบว่าพรสวรรค์ด้านพลังจิตของโซลอย่างไม่คาคดิด

ไม่ จะบอกว่าเป็นการค้นพบโดยบังเอิญก็ไม่ถูก

ต้องบอกว่ามีคนบอกเขา...

แคซ เดินช้าๆ ไปบนทางลาดระหว่างชั้น 16 และ ชั้น 17 ของหอคอยตะวันออก

ชั้นที่ 16 และ ชั้นที่ 17 เป็นที่พักอาศัยของเหล่าอาจาร์ย

ทันใดนั้น เงารอบๆ ตัวเขาก็เคลื่อนไหว

แน่นอนว่าแสงจากเชิงเทียนยังคงสงบนิ่ง แต่เงาใต้ฝ่าเท้าของเขากับเคลื่อนไหวไม่หยุด กลายเป็นจุดสีดำเล็กๆ เข้าปะทะกัน จนเกิดเป็นรอยแยกบนหิน

แคซหยุด ลง สีหน้าของเขากลายเป็นซีดขาวลหายใจเริ่มสับสน

ใครบอกว่าเป็นพ่อมดที่แท้จริงแล้ว จะไม่สามารถกลัวได้

เขาเงยหน้าขึ้น มองเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินมาตามทางลาด

ขณะเดินลงมา แขนของเขาชิดข้างลำตัวโดยไม่แกว่งไปมา เท้าของเขายกขึ้นสูงโดยมีเพียงปลายเท้าเท่านั้นที่แตะพื้น

ราวกับพื้นนั้นเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกและเขาพยายามหลีกเลี่ยงที่จะสัมผัสมัน

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชายคนนั้น ถูกพันด้วยผ้าพันแผลสีชมพู โดยมีดวงตาสีเงินที่เผยออกมาให้เห็นด้านนอก

แคซ โค้งคำนับด้วยความเคารพ

"ท่านเจ้าหอคอย"

"อืม"

ชายในชุดผ้าพันแผลสีชมพูเดินผ่านแคซไป

แคซ ถอนหายใจออกมา หัวใจของเขาตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม

แต่ก่อนที่เขาจะทันได้โล่งอก เขาก็พบว่า ท่านเจ้าหอคอย หยุดลงหลังจากเดินออกไปได้ 2 ก้าว

เขาหันกลับมาอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าที่จะหันหลังให้กับ ท่านเจ้าหอคอย

"เจ้าหนูนั้นเหมาะกับการงานกำจัดศพหรือไม่?"

เจ้าหอคอย เป็นบุคคลที่แม้แต่พ่อมดที่แท้จริงอย่างแคซยังต้องหวาดกลัว พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

"เหมาะสมมากขอรับ พรสวรรค์ด้านพลังจิตของเขานั้นยอดเยี่ยมจริงๆ ครั้งแรกที่เขาจัดการกับศพ เขาได้พบชิ้นส่วนที่มีประโยชน์มากกว่าข้าถึง 1 ชิ้น"

"ฮ่าๆ เจ้าไม่ต้องจริงจังมากก็ได้" เจ้าหอคอยหัวเราะออกมา

แคซตัวสั่น

"นำสิ่งนี้ไปให้เขา เพื่อที่เขาจะได้เชี่ยวชาญมันได้อย่างรวดเร็ว"

ผ้าพันแผลบริเวณหน้าท้องของเขาเปิดออก ทำให้เกิดเป็นห้วงมิติลึกลับ เขาสอดมือเขาไปหยิบหนังสือที่ทำจากผ้าไหมบางๆ ออกมา

"ขอรับ" แคซ รับมันมาด้วย 2 มือ

"อย่างไรก็ตาม ท่านเจ้าหอคอย" จู่ๆ แคซก็นึกถึงสิ่งที่เจ้าหนูนั้นขอความช่วยเหลือเขาในวันนี้ "มีคนแอบสับเปลี่ยนหนังสือทำสมาธิของเจ้าเด็กนั้น แทนที่หน้าหนึ่งในนั้นด้วยภาพการกัดกร่อนของปิศาจ"

เจ้าหอคอย หันกลับมาดูเหมือนเขาจะค่อนข้างสนใจ

"เขาทำสมาธิด้วยภาพการกัดกร่อนของปิศาจงั้นหรือ?"

"เอ่อ อาจจะไม่ พ่อมดฝึกหัดหน้าใหม่จะต้านทานภาพการกัดกร่อนของปิศาจได้อย่างไร เขาคงจะโชคดีค้นพบสิ่งผิดปกติจึงได้บอกข้าในวันนี้"

สายลมหนาวพัดผ่านทางเดิน

ร่างกายเจ้าหอคอยลอยไปมาโดยมีปลายเท้าแตะที่พื้น

"ไม่เป็นไร พ่อมดฝึกหัดทุกคนล้วนเป็นของข้า หนังสือทำสมาธิก็เป็นของข้า สาวใช้เหล่านั้นก็เป็นของข้า" ดวงตาของเจ้าหอคอย "อย่างไรก็ตาม แม้แต่ห้องทดลอง ก็ยังเป็นของข้า"

แคซ รู้สึกได้ว่าเหงื่อที่เย็นเยียบไหลไปตามเส้นผมของเขา เขาหวาดกลัวเกินกว่าจะปล่อยให้มันไหลไปที่แก้ม

"ไปหาตัวการมาแล้วให้มันชดใช้"

หลังจากพูดจบ เจ้าหอคอยก็หันหลังและเดินต่อไป

หลังจากที่ร่างของเขาหายลับไปในทางโค้ง จุดสีดำที่เป็นจุดบนพื้นนับไม่ถ้วนก็กระจายตัวออกมาจากรอยแยกบนหิน กลายมาเป็นเงาปกติ

แคซมองไปยังหนังสือในมือของเขาด้วยความสับสน

เหตุใดเจ้าหอคอย ถึงให้ความสำคัญกับโซล ขนาดนั้น?

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด