ตอนที่แล้วตอนที่ 358 เริ่มต้นการล่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 360 ผู้ฝึกฝนลึกลับที่แสนโหดเหี้ยม

ตอนที่ 359 เรื่องแปลกๆ และปฏิกิริยาของเผ่าตาเดียว (ฟรี)


ตอนที่ 359 เรื่องแปลกๆ และปฏิกิริยาของเผ่าตาเดียว

อสูรอมตะทั้งเจ็ดที่ปรากฎตัวภายในขอบเขตการรับรู้ของซูหยางล้วนถูกสังหารโดยดาบเพลิงตัดวิญญาณ!

เมื่อได้รับทรัพยากร ความแข็งแกร่งของซูหยางก็เพิ่มสูงขึ้น

หลังจากขัดเกลาทรัพยากรทั้งหมดแล้ว จักรวาลภายในของเขาก็มีขนาด 231 ปีแสง

ใน 15 ปีแสงนั้นเต็มไปด้วยดาวเคราะห์ชีวิต

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาจะได้รับเจตจำนงทองคำ 15 แต้มทุกวัน

และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของวันวังวนประทุเท่านั้น…

ซูหยางลองตัวอยู่เหนือป่า นับผลการเก็บเกี่ยวในช่วงเวลานี้

นอกเหนือจากการเพิ่มขนาดของจักรวาล และจำนวนดาวเคราะห์ชีวิตแล้ว กฎจักรวาลที่เขาผสานยังเพิ่มขึ้นเป็น 440 ข้ออีกด้วย

การเพิ่มขึ้นค่อนข้างน้อย แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร

นอกจากนี้ โชคของเขายังเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

หลังสังหารอสูรอมตะไปถึงเจ็ดตน เมฆแห่งโชคสีเขียวของซูหยางก็กว้างถึง 18 ฟุต

ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก แต่ถ้าเขายังคงออกล่าต่อไป โชคของเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จากการตรวจจับของตาข่ายสวรรค์ ในขณะนี้ ไม่มีอสูรอมตะแม้แต่ตนเดียวในรัศมีหลายสิบล้านลี้

เขาจึงทำได้แค่ยอมแพ้ และเริ่มรวบรวมทรัพยากรที่พบ

เขาจะไม่ทิ้งสิ่งใดเอาไว้ แม้จะเป็นของเล็กๆ น้อยๆ แค่ไหนก็ตาม

โลกชั้นใน.

ฐานที่มั่นของเผ่าตาเดียว

“ท่านชิงซวน มีสมาชิกเผ่าเรา 7 คนเสียชีวิตลงในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน พวกเขาทุกคนต่างอยู่ใกล้กันมาก สถานการณ์นี้ดูผิดปกติเล็กน้อย”

ชิงซวนนั่งขัดสมาธิบนแท่นดอกบัว และขมวดคิ้ว "ส่งคนออกไปตรวจสอบดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น หากเกิดจากผู้ฝึกฝนโกลาหล เราก็ค่อยมาหารือกันอีกครั้ง"

"ขอรับ"

อสูรอมตะที่รายงานถอยกลับ และไปทำตามคำสั่ง

สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเช่นนี้มักไม่ค่อยเกิดขึ้น แต่เมื่อมันเกิด ชิงซวนก็ไม่คิดจะประมาท เขาจึงส่งคนออกไปตรวจสอบ และเตรียมการรับมือในเวลาเดียวกัน

หากเกิดจากผู้ฝึกฝนโกลาหล แน่นอนว่าเขาจะต้องโต้กลับ

พื้นที่หลักใจกลางป่า

ชิงหลิวเฟิงกลับมาที่นี่อีกครั้ง ก่อนหน้านี้เขาไม่อยากถอย แต่เมื่อไม่สามารถหาวิธีจัดการกับซูหยางได้ เขาก็ต้องเลือกทำเช่นนั้น ตอนนี้เมื่อเขากลับมาอีกครั้ง และพบว่าซูหยางไม่อยู่ เขาก็รู้สึกโล่งใจ

เขาไม่ต้องการสู้กับศัตรูที่ยากจะรับมือเช่นนี้

แค่การต่อสู้เพียงสองครั้ง เขาก็สูญเสียโชคไปมากมาย ถ้ายังต้องสู้กันต่อ เขาอาจจะสูญเสียโชคทั้งหมด

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ นอกเหนือจากการปล้นโชคแล้ว อีกฝ่ายดูเหมือนจะรู้วิธีสาปแช่ง แม้ว่าลงมือเพียงครั้งเดียว เขาก็ยังรับรู้ได้

เพราะเหตุนี้ เขาจึงเลือกที่จะล่าถอย หากซูหยางปล้นโชคของเขา และสาปแช่งเขา เขาจะต้องประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่

แม้ว่าตอนนี้เขาจะถูกจ้าวแห่งเต๋าขั้นกลางคนอื่นเยาะเย้ย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจมันเลย

ไม่ว่าใคร ถ้าได้ลองสู้กับซูหยาง จะไม่หยิ่งเหมือนเดิมอย่างแน่นอน

การต่อสู้เพิ่งจบลง และทรัพยากรระลอกแรกก็ถูกแบ่งปัน อสูรอมตะที่มีสถานะสูงกว่าเขาเล็กน้อยในเผ่าถอนหายใจเบาๆ

“อืม? ท่านชิงซวนขอให้ข้าตรวจสอบเรื่องแปลกๆ ในป่า ดูเหมือนว่าสมาชิกเผ่าเราถึง 7 คนได้ตายไปในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน…”

“นี่ไม่ใช่ข่าวดี ทุกคน ข้าจะออกไปตรวจดูสักพัก”

หลังจากชิงฉือพูดจบ เขาก็จากไปในทันที

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ชิงหลิวเฟิงก็เกิดความคิดบางอย่างในใจ

สมาชิกเผ่า 7 คนตายในเวลาไล่เลี่ยกัน หรือจะเป็นชายคนนั้น?

ก่อนหน้านี้ที่ซูหยางได้แสดงความแข็งแกร่งออกมา ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะสามารถฆ่าจ้าวแห่งเต๋าขั้นต้นได้อย่างง่ายดาย

แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ แต่ชิงหลิวเฟิงก็รู้สึกว่าต้องเป็นซูหยางอย่างแน่นอน

แต่เขาไม่ได้พูดอะไรออกไป แม้ว่าเขาจะพูดอะไรไปมากกว่านี้มันก็คงไร้ประโยชน์ คนอื่นๆ อาจคิดว่าเขากลัว

แทนที่จะถูกเยาะเย้ย ปล่อยให้พวกเขาได้ลิ้มรสความเจ็บปวดก่อนจะดีกว่า

หึ นี่คือราคาสำหรับการเยาะเย้ยเขา...

ชิงหลิวเฟิงคิดกับตัวเองว่าจะไม่สนใจเรื่องนี้อีกต่อไป

ถ้าเป็นซูหยางจริงๆ เขาจะได้รับข่าวใหม่ในระยะเวลาสั้นๆ อย่างแน่นอน วิธีการของชายคนนั้นช่างโหดเหี้ยม และไม่อาจเข้าใจได้...

เขตป่า

ซูหยางยังคงเก็บเกี่ยวทรัพยากรต่อไป จากสถานการณ์ตอนนี้ต้องบอกเลยว่าตาข่ายสวรรค์ช่วยเขาได้มากจริงๆ

ครอบคลุมรัศมีหลายสิบล้านลี้ ทรัพยากรทั้งหมดที่ปรากฎเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว

นั้นทำให้เขาไม่ต้องไปที่พื้นที่หลัก และต่อสู้เสี่ยงชีวิตกับคนมากมายเพื่อทรัพยากรจำนวนหนึ่ง

หลังจากสังหารอสูรอมตะไปเจ็ดตน เขาก็ได้รับผลึกกฎเต๋าระดับต่ำ และผลึกอมตะระดับต่ำอย่างละ 10 ก้อน

นี่เป็นความมั่งคั่งที่ไม่น้อยเลย ด้วยเวลาเพียงหนึ่งก้านธูป มันเทียบได้กับผลการเก็บเกี่ยวในสถานการณ์ปกติถึง 2 วัน

โดยรวมแล้วไม่เลว

ท้ายที่สุดแล้ว สำหรับจ้าวแห่งเต๋า การพัฒนาความแข็งแกร่งนั้นขึ้นอยู่กับการสะสม ต้องสะสมเป็นระยะเวลาหนึ่งก่อนถึงจะมีความก้าวหน้า

เป็นไปไม่ได้ที่จะพัฒนาความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาสั้นๆ เหมือนเมื่อก่อน

เมื่อซูหยางจะเดินทางต่อเพื่อรวบรวมทรัพยากร

จากการตรวจจับของตาข่ายสวรรค์ อสูรอมตะระดับจ้าวแห่งเต๋าขั้นกลางตนหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาหาเขา

“อืม?”

“จ้าวแห่งเต๋าขั้นกลาง? ปกติแล้วผู้เชี่ยวชาญระดับนี้ต้องไปเบียดเสียดกันในพื้นที่หลัก…ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?”

“หรือจะเป็นเพราะอสูรอมตะทั้งเจ็ดที่ข้าเพิ่งสังหารไป?”

ซูหยางรู้สึกบางอย่างในใจและอาจเดาเหตุผลได้ ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งมีชีวิตที่เป็นอมตะในช่วงแรกของอาณาจักรเต๋าอันยิ่งใหญ่ก็ถือได้ว่ามีสถานะอยู่บ้าง

เป็นเรื่องปกติที่เผ่าตาเดียวจะต้องส่งคนมาตรวจสอบเมื่อสมาชิกเผ่าตายไปเป็นจำนวนหนึ่งในเวลาใกล้ๆ กัน

"ฮึ่ม ตอนนี้ข้าขี้เกียจเกินกว่าจะยุ่งเกี่ยวกับเจ้า"

“อีกไม่นาน ข้าจะมุ่งหน้าไปหา และฆ่าเจ้าด้วยตัวเอง”

ซูหยางรู้ว่าหากต้องสู้กัน มันจะเป็นการเสียเวลาเปล่าโดยไม่จำเป็น เมื่อเข้าไปพัวพันอาจมีทรัพยากรมากมายที่จะหลุดรอดจากมือของเขาไป

อย่างมากเขาก็ทำได้เพียงปล้นโชคบางส่วนเท่านั้น แค่นั้นไม่น่าพอใจ

ตอนนี้เขาได้รวบรวมทรัพยากรในพื้นที่แถบนี้จนหมดแล้ว ถึงเวลามุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไป

เดินทางต่อโดยหวังว่าจะได้พบกับอสูรอมตะมากกว่านี้ นั่นคือ ทรัพยากรที่เขาชื่นชอบ...

ผลึกอมตะหนึ่งก้อนที่ได้จากการสังหารอสูรอมตะนั้นเทียบเท่ากับผลึกอมตะที่ตกผลึกจากพลังงานหลายสิบหรือหลายร้อยก้อน มันสามารถเพิ่มจำนวนดาวเคราะห์ชีวิตได้มากมาย

เจตจำนงทองคำของเขาก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องสะสมหินโกลาหลระดับสูงสุดด้วย เพราะถ้าไม่ขยายขนาดของจักรวาล จำนวนดาวเคราะห์ชีวิตก็มีขีดกำจัด

จากนั้น ซูหยางก็ตัดมิติ และหายตัวไปจากจุดเดิมที่เขาเคยอยู่

ชิงฉือซึ่งได้รับคำสั่งให้ออกมาตรวจสอบสถานการณ์ไม่ทราบถึงเรื่องนี้ และยังคงสำรวจบริเวณที่สมาชิกเผ่าหายตัวไป

หนึ่งชั่วโมงต่อมา เขาได้สำรวจพื้นที่โดยรอบจนครบแล้ว หลังจากไม่พบสิ่งใด เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรายงานเรื่องนี้

แต่ในขณะที่เขารายงานกลับไป ชิงซวนก็บอกข่าวร้ายให้เขาฟังว่า

ในอีกพื้นที่หนึ่ง มีสมาชิกเผ่าอีก 8 คนได้ตายลง

มันทำให้พวกเขามั่นใจว่าต้องเกิดเรื่องบางอย่าง

ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้อาวุโสของเผ่าก็ได้ขอให้สมาชิกเผ่าทุกคนในสมรภูมิเอกะเนตรระมัดระวังตัว

ทางด้านซูหยาง เขารู้สึกมีความสุขมากในช่วงเวลานี้

แน่นอนว่านั้นเกิดจาการตามล่าอสูรอมตะ และได้รับสินสงครามมากมาย

อสูรอมตะนั้นเป็นเหมือนสมบัติเคลื่อนที่ จากทั้งผลึกอมตะภายในร่าง และแหวนมิติที่ครอบครองอยู่

ทุกครั้งที่เขาสังหารอสูรอมตะ ทรัพยากรที่เขาได้รับนั้นมากกว่าที่ได้จากการค้นหาอย่างหนัก

หนึ่งชั่วโมงผ่านไปนับตั้งแต่เขาออกจากพื้นที่เดิม ในระหว่างช่วงเวลาสั้นๆ นี้ เขาได้สังหารอสูรอมตะไปถึง 10 ตน

ผลที่ได้คุ้มค่ามากจริงๆ

ดาวเคราะห์ชีวิตตอนนี้มีมาถึงหนึ่งหมื่นหกพันดวง จึงทำให้เขาได้รับเจตจำนงทองคำถึง 16 ดวงต่อวัน

จักรวาลภายในก็ขนาดกว้างถึง 280 ปีแสง

กฎจักรวาลมี 480 ข้อ

เมฆแห่งโชคสีเขียวของเขาก็กว้างถึง 24 ฟุต

หลังจากได้รับผลตอบแทนอันหอมหวาน ซูหยางก็เริ่มเสพติดการล่า

แม้ว่าจะมีทรัพยากรบางอย่างที่อยู่ในขอบเขตการรับรู้ของเขา แต่เขาก็ไม่สนใจพวกมันมากนัก แต่กลับเดินทางต่อเพื่อค้นหาตำแหน่งของอสูรอมตะ

น่าเสียดายที่ความแข็งแกร่งของเขายังไม่มากพอที่จะสังหารอสูรอมตะระดับจ้าวแห่งเต๋นขั้นกลางได้ ไม่เช่นนั้นอสูรอมตะเหล่านั้นที่รวมตัวกันในพื้นที่หลักจะตกเป็นเป้าหมายของเขา

ตอนนี้ เขาจึงทำได้เพียงปล่อยศัตรูเหล่านั้นไปก่อน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด