ตอนที่แล้วตอนที่ 30 ความพึงพอใจที่สมบูรณ์แบบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 32 ตามแผนการเดิม

ตอนที่ 31 แผนของตนเอง


ตอนที่ 31 แผนของตนเอง

ซ่งลุ่ยที่เข้ามาในห้องทำงานแล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน กางเอกสารที่เหลืออยู่ของเขาก่อนหน้านี้ ก่อนจะแสแสร้งทำเป็นจริงจังกับงาน ผ่านไปไม่นาน ซ่งลุ่ยก็ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงย่ำลงบนพื้นจากที่ไกลมาใกล้ ค่อย ๆ เดินเข้ามา ในตอนที่เสียงนั้นมันถึงหน้าประตูห้องของเขา ทันใดนั้นเจ้าของเสียงนั้นก็หยุดลงที่หน้าประตูห้องทำงานของเขา

ซ่งลุ่ยแอบพูดอย่างเบา ๆ แย่จริง ๆ พูดอะไรได้อย่างนั้นจริง ๆ เลย ! ยังไม่ทันให้เวลาซ่งลุ่ยดึงสติกลับมา ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูและเสียงอันทรงเสน่ห์ดังลอดมาจากด้านนอกประตู

"ผู้ช่วยซ่ง ฉันฮงเหมย รบกวนเปิดประตูหน่อย ฉันมีเรื่องเลยมาหาคุณ ! ”

หลังจากที่ซ่งลุ่ยได้ยินเสียงนี้ เขาก็จัดแจงท่าทางของตัวเอง ลูบหน้าตนเองและปรับเปลี่ยนสีหน้าของตนเองให้เป็นสีหน้าของความเต็มใจ ก่อนจะเปิดประตู เขามองฮงเหมยที่ยืนอยู่หน้าประตูและถามด้วยความประหลาดใจ

“ฮงเหมย ! มีเรื่องอะไรถึงมาเหรอ ? เข้ามาก่อน !” พูดจบก็ไม่รอให้ฮงเหมยตอบกลับ เขาก็ดึงฮงเหมยให้เข้ามาในห้อง

ซ่งลุ่ยดึงฮงเหมยเข้ามาในห้องทำงาน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล รอให้ฮงเหมยเข้ามาให้ห้องทำงานอย่างเรียบร้อย ในชั่วพริบตาเดียว ซ่งลุ่ยก็ปิดประตูดัง “ปัง” อย่างรวดเร็ว เขากดฮงเหมยไว้ที่หลังประตู สองมือดันไหล่ฮงเหมยไว้ที่กำแพง !

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซ่งลุ่ยก็กัดฟันของเขาแล้วมองไปที่ฮงเหมยพร้อมพูดกับเธอด้วยความนุ่มนวล “เอ่อ  ฮงเหมย วันนี้เธอมีเรื่องอะไรถึงมาหาฉันเหรอ ? หรือว่ามีความหมายอย่างอื่น ?” พูดจบ เขาก็แสแสร้งจ้องมองไปที่ฮงเหมยอย่างมีความหมายลึกซึ้ง

เมื่อฮงเหมยได้ยินซ่งลุ่ยถามเธอแบบนั้น เธอก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาแล้วใช้ตาคู่นั้นมองไปที่ซ่งลุ่ย เธอพูดกับซ่งลุ่ยว่า

“ประธานจางให้ฉันมาอธิบายบางอย่างให้นายฟัง เรื่องที่จะพูดต่อไปนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่ว่าเรื่องที่จะต้องมาพูดนี่ซิ ฉันดันลืมมันไปซะได้ คิดยังไงก็คิดไม่ออก” มันติดอยู่ที่มุมปากนึกยังไงก็นึกไม่ออก แต่ว่าบนใบหน้ากลับไม่มีความร้อนรนเลย เธอมองดูซ่งลุ่ยด้วยสายตาที่มีเสน่ห์ราวกับว่ากำลังถ่ายทอดข่าวสารบางอย่าง

หลังจากที่เคยพูดคุยที่คลุมเครือกับฮงเหมยมาก่อน ซึ่งซ่งลุ่ยเคยได้เห็นสัญญาแบบนี้แล้วและคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติของฮงเหมย  ซ่งลุ่ยไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าพูดอะไรในตอนนี้มันก็ไม่ช่วยอะไร แค่แสดงให้เห็นก็ดีแล้ว เขาจึงใช้มือทั้งสองข้างดึงใบหน้าของฮงเหมยเข้ามาแล้วจูบลงไป เป็นการจูบแบบดูดดื่มที่ยาวนานเลยทีเดียว !

ทั้งสองคนจูบอย่างนี้เป็นเวลานานจนริมฝีปากของพวกเขาแดงระเรื่อและบวมเจ่อเล็กน้อย ! ซ่งลุ่ยขยับปากออกแล้วจูบฮงเหมยอีกครั้ง ริมฝีปากของทั้งสองคนตอดรัดกันด้วยความเร่าร้อนจนส่งเสียง “จ๊วบ” ออกมา เห็นได้ว่าจูบของพวกเขาทั้งสองคนดุเดือดมากแค่ไหน !

จูบของฮงเหมยล้วนมีแต่ความหลงใหล สายตาของเธอพร่ามัวจนไม่ได้สนใจที่จะมองซ่งลุ่ยเลย ซ่งลุ่ยมองท่าทางของฮงเหมยในตอนนี้ก็รู้สึกว่าใช้ได้เลยทีเดียว บรรลุถึงเป้าหมายที่ตนเองอยากจะทำแล้ว เขาพูดกับฮงเหมยด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย

“เป็นไงบ้าง ? เธอพอจะนึกออกบ้างหรือยัง ฉันยังช่วยเธอนึกได้อยู่นะ !” พูดจบ ซ่งลุ่ยก็ยื่นมือไปดึงใบหน้าของฮงเหมยเข้ามาแล้วทำท่าทางอยากจะบรรจงจูบลงไปอีกครั้ง

ในเวลานี้ฮงเหมยสังเกตเห็นการกระทำของซ่งลุ่ย เธอก็รีมเอื้อมมือออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดการกระทำของซ่งลุ่ย มันไม่ใช่ว่าฮงเหมยไม่ต้องการ แต่เธอกลัวว่าเธอจะทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ และในไม่ช้าเธอก็จะไม่สามารถหยุดยั้งตัวเธอได้จนลืมทุกอย่าง รวมไปถึงสิ่งที่ประธานจางให้มาบอกซ่งลุ่ยด้วย

“เอาล่ะ พอแล้ว ๆ ฉันนึกออกแล้ว ตอนนี้ฉันยังไม่ต้องการมันแค่ชั่วคราว เดี๋ยวค่อยมาต่อ ต้องบอกเรื่องที่ประธานจางฝากมาบอกนายก่อน !” พูดจบ เธอก็เอามือปิดปาก เกิดอาการกลัวว่าซ่งลุ่ยจะจูบเธออีก

ซ่งลุ่ยได้ยินฮงเหมยพูดแบบนั้นด้วยท่าทางที่ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย เขาหยุดปิดปากฮงเหมยและปล่อยเธอจากการจับเธอไว้กับกำแพง ซ่งลุ่ยหมุนตัวแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างโต๊ะทำงาน เขานั่งลงไปแล้วเอนกายพิงพนักเก้าอี้ พยุงศีรษะด้วยมือข้างเดียวมองไปที่ฮงเหมย รอฟังสิ่งที่ฮงเหมยคิดจะบอก

ฮงเหมยมองไปที่ใบหน้าของซ่งลุ่ยแล้วมองไปที่การกระทำของซ่งลุ่ยต่อ ในใจอดไม่ได้ที่จะคิดว่าซ่งลุ่ยไม่ควรจะโกรธ ! เมื่อมองไปที่สีหน้าของเขาที่ดูเคร่งขรึมและเย็นชา กับเขาคนเมื่อกี้แตกต่างกันราวเป็นคนละคนกันเลย ! นี่ทำให้เธอมั่นใจความคิดภายในใจของเธอมากยิ่งขึ้น

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮงเหมยก็เดินไปที่ด้านข้างของซ่งลุ่ย แล้วนั่งไปบนตักของซ่งลุ่ย ก่อนจะเอื้อมมือออกไปกอดซ่งลุ่ยและบังคับให้ร่างกายท่อนบนของเธอเบียดเสียดอยู่ในอ้อมแขนของซ่งลุ่ย เมื่ออยู่ในอ้อมแขนของซ่งลุ่ยแล้ว เธอก็เงยหน้าขึ้นมามองซ่งลุ่ยด้วยตาโต ๆ ของเธอ เธอพูดกับซ่งลุ่ยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเขินอาย

"นายโกรธเหรอ ? อย่าทำอย่างนี้สิ ! ฉันไม่ได้ตั้งใจขัดขืนนาย  นายดูประธานจางสิ เขาฝากฉันมาบอกเรื่องสำคัญกับนายนี่นา พวกเราค่อยมาทำต่อหลังจากฉันบอกธุระกับนายก็ได้นี่ ดูนายสิ อย่าทำหน้าบูดแบบนั้น ยิ้มหน่อย ! ยิ้มหน่อยน้า  เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ! ”

ซ่งลุ่ยได้ยินฮงเหมยพูดแบบนั้น ดอกไม้ในใจก็ผลิบานแล้ว แต่ใบหน้าของเขายังคงเสแสร้งทำเป็นเสียใจและโกรธอยู่ เขามองไปที่ดวงตาของฮงเหมย หลังจากนั้นก็เบนสายตามองไปทางอื่นแทน

เมื่อเห็นท่าทางที่แสดงออกของซ่งลุ่ย ฮงเหมยก็กัดฟันของเธอ หากไม่ใช่เพื่ออนาคตที่สดใสของฉันแล้ว นายได้ตายเพราะน้ำมือฉันแน่ ๆ ฮงเหมยถอนหายใจยาว ๆ ออกมา เฮ้อ ฉันต้องอดกลั้นต่อไป ! ในใจของฮงเหมยเต็มไปด้วยความรู้สึกและแผนการต่าง ๆ นานา เธอที่อยู่ในอ้อมกอดของซ่งลุ่ยและพูดกับเขาว่า

“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะขัดจังหวะนาย เพราะว่าประธานจางฝากเรื่องที่จะต้องบอกนาย งั้นพวกเราเข้าเรื่องเลยเถอะ ฉันกลัวว่าจะลืมมันอีก ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องสำคัญของประธานจาง พวกเราทั้งสองคนจะทำเรื่องอะไรก็ต้องคำนึงถึงผลที่ตามมา เรื่องอื่นค่อยว่ากันเถอะ นายอยากจะทำตอนไหนก็ทำตอนนั้นแหละ ดีไหม ? ”

เมื่อซ่งลุ่ยเห็นฮงเหมยพูดประโยคนั้นออกมา ก็พอดีกับที่ซ่งลุ่ยเลิกแสแสร้งพอดี เขาจะเสแสร้งทำเป็นไม่ยกโทษให้ต่อไปได้ยังไงล่ะ ซ่งลุ่ยเรียบเรียงคำพูดอยู่ภายในใจและแสดงทีหน้าท่าทางออกมาทันที ใบหน้าแสดงความรู้สึกผิดและเสียใจออกมาอย่างชัดเจน ถือโอกาสพูดกับฮงเหมยว่า

“ยังคงเป็นฮงเหมยที่ยังคงหลักแหลมเหมือนเดิม ไม่เหมือนฉันที่ใช้ความต้องการของตนเองมาบังคับเธอ ขอโทษนะ ! ดู ๆ แล้วฉันคงต้องหาเวลามาชดใช้ให้เธอแล้วล่ะ ได้มั้ย ? หรือไม่นอกจากนี้ เธอมีวิธีที่ชดใช้แบบอื่นมั้ยหล่ะ หึหึหึ” พูดจบซ่งลุ่ยก็ยิ้มแบบชั่วร้ายให้ฮงเหมย

ฮงเหมยที่เห็นการแสดงออกของซ่งลุ่ยและเธอไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เธอมีความรู้สึกที่น่ารังเกียจเกิดขึ้นในใจของเธอ ไม่มีความกระตือรือร้นแบบเมื่อก่อนเลย หรือบางทีซ่งลุ่ยอาจจะน่ารังเกียจจริง ๆ ! ฮงเหมยถูกอารมณ์ของซ่งลุ่ยที่ปะทุขึ้นขึ้นมาแบบนี้ ทำให้เธอหมดอารมณ์ที่จะสานต่อกับเขาทันที ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่มีอารมณ์แล้ว แต่ตอนนี้ก็ต้องรีบพูดเรื่องที่ประธานจางฝากมา หลังจากนั้นก็รีบออกไปจากที่นี่ซะ !

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด