ตอนที่ 191 ผลข้างเคียง
ตอนที่ 191 ผลข้างเคียง
ไม่ว่าไอร่าจะพูดตลกไปสักกี่ครั้ง ธยาน์ก็ยังคงไม่แยแส
ในท้ายที่สุด ไอร่าทำให้เพียงยอมแพ้
บางทีความผิดหวังบนใบหน้าของเธออาจชัดเจนเกินไป ธยาน์ทนไม่ไหวและริเริ่มที่จะยอมรับความผิดของเขา “ข้าขอโทษ ทำให้เจ้าเล่าเรื่องตลกโดยเปล่าประโยชน์”
ไอร่าถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และปลอบโยนเขา “ช่างมันเถอะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร หากเจ้าไม่ชอบยิ้มก็ไม่เป็นไร สตรีบางคนก็ชอบหน้าแบบนี้ของเจ้าเช่นกัน”
ธยาน์กอดเธอแน่น ดวงตาสีเข้มของเขาซ่อนอยู่ในความมืด
ผ่านไปอีกวัน ไอร่าได้รับจดหมายจากเชร์ผ่านพื้นที่วงแหวน
พวกเขาพบอาณาเขตปีศาจแล้ว และจะมาช่วยเธอและธยาน์ได้ในไม่ช้า
ไอร่ามีความสุข
เธอพูดกับธยาน์ว่า “เชร์และคนอื่น ๆ จะมาที่นี่เร็ว ๆ นี้ เราจะได้ออกไปจากที่นี่แล้ว”
ธยาน์ช่วยเธอรวบผมและพูดว่า “ข้าจะส่งเจ้าไปที่ทางออก เมื่อเชร์และคนอื่น ๆ ปรากฏตัว ให้ติดตามพวกเขาไป”
ไอร่าตกตะลึง “แล้วเจ้าเล่า เจ้าไม่ไปกับพวกเราหรือ”
“ช้าจะช่วยหันเหความสนใจของทหารปีศาจที่ลาดตระเวนอยู่บริเวณนั้น ไปกับเจ้าไม่ได้”
ไอร่าคว้ามือของเขาทันที “ไม่ เราจะออกไปด้วยกัน หากเจ้าไม่ไป ข้าจะไม่ไปด้วยเช่นกัน”
ธยาน์มองดูเธออย่างช่วยไม่ได้ “อย่าเอาแต่ใจสิ ที่นี่มันอันตราย เจ้าต้องออกไปให้เร็วที่สุด”
“ข้ามาที่นี่เพื่อตามเจ้ากลับบ้าน หากข้าพาเจ้ากลับบ้านไม่ได้ ทุกสิ่งที่ข้าทำก่อนหน้านี้ก็ไร้ประโยชน์สิ”
ไอร่านั่งบนพื้นและทำท่าไร้ยางอาย
ธยาน์กล่าวว่า “ข้าไม่สามารถไปกับเจ้าได้”
“เพราะเหตุใด”
“สัญญาคู่ครองระหว่างเราถูกลบด้วยน้ำลืมเลือนแล้ว”
ไอร่า “...”
เธอเกือบลืมไปว่าธยาน์เพิ่งฟื้นความทรงจำของเขากลับคืนมา แต่สัญญาคู่ครองระหว่างพวกเขายังไม่ได้รับการแก้ไข
ไอร่าพูดอย่างดื้อรั้น “เราจะสมสู่กับอีกครั้ง”
ธยาน์มองเธออย่างลึกซึ้ง “ไม่”
“เหตุใดจะไม่ได้”
“เจ้าควรจะรู้ น้ำลืมเลือนไม่เพียงแต่ลบสัญญาคู่ครองเท่านั้น มันยังมีผลข้างเคียงบางอย่างด้วย”
“การดื่มน้ำลืมเลือนทำให้ข้าสูญเสียการรับรู้ส่วนใหญ่ไป ขณะนี้ข้าไม่รู้ว่าการยิ้ม การร้องไห้เป็นเช่นไร ข้าแยกความแตกต่างระหว่างอาหารรสหวาน รสเปรี้ยว หรือขมไม่ได้ ข้าไม่รู้สึกร้อนหรือเจ็บ นี่คือสาเหตุที่ข้าไม่กลัวความร้อนและยิ้มไม่ได้อีกต่อไป”
ไอร่ามองดูเขาด้วยความงุนงง เธอไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
“เจ้าเล่าเรื่องตลกให้ข้าฟัง แต่ข้ายิ้มไม่ได้ ข้าบกพร่องไปแล้ว ข้าไม่คู่ควรที่จะเป็นคู่ครองของเจ้า”
“เจ้าไม่ได้บกพร่อง” ไอร่าโกรธมาก “ข้าขอห้ามให้เจ้าพูดเกี่ยวกับตนเองเช่นนี้อีก”
ธยาน์มองดูเธออย่างสงบและไม่พูดอะไร
ไอร่ากอดเขา “มันไม่ใช่ความผิดของเจ้า เรื่องตลกของข้ามันงี่เง่าเกินไป ข้าจะไม่เล่าเรื่องตลกงี่เง่าแบบนั้นให้เจ้าฟังอีก กลับไปกับข้านะ ข้าจะพยายามคิดค้นยาเพื่อแก้ไขผลข้างเคียงนี้ให้กับเจ้า”
“ไม่มียาเช่นนั้น...”
“ใครบอกเจ้าว่าไม่มี ข้ายังสามารถปลุกความทรงจำของเจ้าได้เลย เหตุใดแค่รักษาอาการข้างเคียง ข้าจะทำไม่ได้”
เมื่อมองดูท่าทางมั่นใจของเธอ ธยาน์ยังคงดูเย็นชา ดูเหมือนเขาจะไม่ได้อ่อนลงเลย
ไอร่ากอดเอวของเขาและพูดอย่างไร้ยางอาย “ไม่ว่าเจ้าจะมีเหตุผลอะไร เจ้าต้องกลับไปกับข้า หากเจ้าไม่กลับ ข้าจะอยู่ที่นี่กับเจ้า อย่างมากที่สุด ข้าก็คงถูกค้นพบและถูกฆ่า”
“ไร้สาระ ข้าไม่ยอมให้ใครฆ่าเจ้า”
“งั้นก็กลับไปกับข้า”
ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและการรบเร้าของไอร่า ธยาน์ไม่มีทางเลือก
เขาทนไม่ได้ที่จะทำให้เธอกลัว และเขาก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นเธอเศร้าหรือร้องไห้ เขาจึงยอมประนีประนอมอีกครั้ง “ก็ได้”
ทันทีที่เธอได้ยินเขาตอบรับ ไอร่าก็กระโดดขึ้นด้วยความตื่นเต้นและกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของเขา “เยี่ยมเลย”
ไอร่ากินเมล็ดบัวและกลายร่างเป็นดอกนาซีสซัสอีกครั้ง
ธยาน์ซ่อนดอกนาซีสซัสไว้ในเสื้อผ้าของเขา ก่อนจะเดินออกไปจากประภาคาร
เฟยเจวี๋ยตามไปอย่างรวดเร็ว “ท่านธยาน์ ท่านจะไปที่ใดขอรับ”
“ข้าอยากออกไปเดินเล่น”
ธยาน์เดินไปที่ป่า โดยมีเฟยเจวี๋ยที่คอยหยุดเขา “ในป่ามันอันตราย ไม่เข้าไปจะดีที่สุดนะขอรับ”
“เพราะมันอันตรายอย่างไรเล่า ข้าจึงอยากเข้าไป” แสงสีแดงแปลก ๆ แวบขึ้นมาในดวงตาของธยาน์ “หลังจากฝึกฝนมาหลายวัน ข้าอยากจะทดสอบผลของการฝึกของตนเองเสียหน่อย”
เฟยเจวี๋ยยังคงลังเลมาก “แต่ท่านเซอเผิ่นบอกข้าว่าอย่าปล่อยให้ท่านออกไปไกลนักนะขอรับ”
“ป่าออกจะกว้างใหญ่ แค่นี้จะเรียกว่าไกลได้เช่นไร หากเจ้าไม่ไว้ใจก็เข้าไปในป่ากับข้าสิ”
จากนั้น ธยาน์ก็เดินตรงเข้าไปในป่า
เฟยเจวี๋ยตามไปอย่างรวดเร็ว “ช้าหน่อยขอรับ ป่ามันอันตรายจริง ๆ นะขอรับ ท่านต้องระวังให้มาก”
อาจเพราะเป็นเวลากลางวัน แต่หลังจากที่ธยาน์เข้าไปในป่า เขาก็ตระหนักว่าต้นไม้เหล่านี้ไม่ได้ดุร้ายเช่นครั้งที่แล้ว
ตราบใดที่เขาไม่เข้าใกล้ต้นไม้ พวกมันจะไม่โจมตีเขา
อย่างไรก็ตาม มีต้นไม้หนาแน่นมากเกินไป แม้ว่าธยาน์จะหลีกเลี่ยงต้นไม้ส่วนใหญ่ได้อย่างระมัดระวัง แต่เขาก็ยังเข้าไปใกล้ต้นไม้สองต้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
เนื่องจากไม่มีทางหลีกเลี่ยง ธยาน์จะเปิดเผยหางงูของเขาโดยตรง ก่อนที่ดอกไม้กินคนจะบานสะพรั่ง เขาก็ฟาดมันออกเป็นเสี่ยง ๆ
เขาถากถางทุกสิ่งที่ขวางทาง
เมื่อเห็นว่าธยาน์เริ่มเดินห่างออกไปเรื่อย ๆ และกำลังจะออกจากป่า เฟยเจวี๋ยจึงรีบตะโกนว่า “เราไปต่อไม่ได้แล้วนะขอรับ กลับกันเถอะขอรับ”
ธยาน์เพิกเฉยต่อคำพูดของเขาและเร่งความเร็วขึ้น
ในที่สุดเฟยเจวี๋ยก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาไล่ตามธยาน์ทันทีและขวางทางเขา “หากไปไกลกว่านี้ ข้าจะเรียกทหารนะขอรับ”
ธยาน์มองเขาอย่างเย็นชา “แล้วแต่เจ้า”
เฟยเจวี๋ยกำลังจะอ้าปาก ธยาน์ใช้หางงูฟาดเขา
เฟยเจวี๋ยกลิ้งไปบนพื้นและเผยให้เห็นร่างอสูรของเขา เป็นตัวพังพอนสีเทา
เขารู้ดีว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของธยาน์ เขาจึงหันหลังและวิ่งกลับไปพร้อมส่งเสียงแหลมคม
ทหารที่กำลังลาดตระเวนอยู่บริเวณริมทะเลสาบได้ยินเสียง จึงรีบวิ่งไปที่ป่าทันที แมงกะพรุนตัวใหญ่ที่ลอยอยู่ในทะเลสาบก็เคลื่อนไหวเช่นกัน หนวดเรียวจำนวนนับไม่ถ้วนกระโจนเข้าหาธยาน์
ธยาน์เร่งรีบเพื่อออกจากป่า
ดอกนาซีสซันโผล่ออกมาจากปกเสื้อของเขาและชี้ไปที่ถ้ำใต้ดินตรงหน้าเธอ “นั่นแหละที่ที่ข้าเข้ามา นั่นต้องเป็นทางออก”
ธยาน์เหวี่ยงหางงูและเลื้อยอย่างรวดเร็วไปยังถ้ำใต้ดิน
เมื่อพวกเขาเกือบจะถึงที่นั่น หนวดของแมงกะพรุนก็ไล่ตามพวกเขาทัน
ธยาน์เหวี่ยงหางงูเพื่อสลัดหนวดที่พันรอบตัวเขาออก ทว่าหนวดเหล่านั้นมีความยืดหยุ่นอย่างมาก แม้ว่าพวกมันจะถูกโจมตี พวกมันก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บเลย แต่พวกมันกลับพันรอบหางงูของธยาน์เสียแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ
แมงกะพรุนตัวใหญ่ลากเขากลับมา
ไม่ว่าธยาน์จะดิ้นรนเพียงใด เขาก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากหนวดนั้นได้ ทหารลาดตระเวนตามทันอย่างรวดเร็ว
ธยาน์รู้ตัวว่าเขาไม่สามารถวิ่งได้เร็วกว่าพวกเขา เขาคว้าดอกนาซีสซัสแล้วโยนเธอเข้าไปในถ้ำหินด้วยสุดกำลังที่มี
“ไป! อย่ามองย้อนกลับมา”