ตอนที่แล้วก่อนหน้านี้ทำยังไง ก็ทำต่อไปอย่างนั้นแหละครับ (อ่านฟรี 27/09/2567)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปประวัติวัยเด็กที่สาบสูญ (100%)(อ่านฟรี 05/10/2567)

หนี้นอกระบบกับในระบบ ยี่สิบล้านหยวน! (อ่านฟรี 01/10/2567)


“คุณเย่เซวียนมีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ” โหวฉีที่เห็นว่าเย่เซวียนเดินมาหาก็กล่าวออกมาด้วยความกระตือรือร้น

“มาแลกเบอร์กันเถอะครับ ถ้าคุณมีเรื่องอะไรที่จำเป็นต้องติดต่อผม ก็สามารถติดต่อมาได้เลย รวมถึงถ้าผมมีเรื่องอะไรก็จะติดต่อไปนะครับ” เย่เซวียนครุ่นคิดอยู่เล็กน้อยก่อนจะกล่าวออกมา

ในตอนแรกเขากะจะปรึกษาอีกฝ่ายเรื่องการทำธุรกิจ แต่คิดไปคิดมาก็เลือกที่จะเงียบเอาไว้ก่อน เพราะยังไงนี่ก็เป็นเพียงการเจอหน้ากันครั้งแรก เขาย่อมไม่ไว้ใจคนอื่นให้มาเป็นที่ปรึกษาธุรกิจโดยง่ายขนาดนั้น

“ได้เลยครับ” โหวฉีตอบรับด้วยน้ำเสียงจริงจัง

หลังจากที่พูดคุยกันอีกเล็กน้อยชายหนุ่มก็เดินไปหาเปาหยุนที่ในตอนนี้กลายเป็นผู้จัดการร้านเหม่ยฟาสสาขานี้ไปแล้ว อีกฝ่ายพร้อมด้วยพนักงานชุดเดิมที่อยู่ฝ่ายเห็นใจเย่เซวียนเมื่อก่อนหน้านี้ล้วนได้รับการเลื่อนตำแหน่งหรือเพิ่มเงินเดือนทั้งหมด พวกเขาพากันมาขอบคุณเย่เซวียนกันยกใหญ่

ถึงแม้ก่อนหน้านี้พวกเขาจะไม่ได้สนิทกันมากนัก แต่ก็ไม่ได้ห่างเหินอะไร ความสัมพันธ์ของพนักงานกลุ่มนี้กับเย่เซวียนเลยยิ่งดีขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

“ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยก็บอกได้นะครับ ไม่ต้องเกรงใจไป” ชายหนุ่มกล่าวทิ้งท้ายไว้ก่อนที่เขาจะปั่นจักรยานกลับบ้านในทันที

เขายังต้องไปเอาเอกสารต่าง ๆ เพื่อไปทำเรื่องชำระหนี้ให้เรียบร้อย ดังนั้นจึงต้องกลับบ้านเสียก่อน ชายหนุ่มปั่นจักรยานไปเรื่อย ๆ ในที่สุดก็กลับมาถึงซอยที่มีร้านของขายเก่าตั้งอยู่

แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดรถจักรยานทองคำของตนเพราะที่หน้าบ้านของเขาเต็มไปด้วยกลุ่มคนจำนวนมาก พวกนั้นส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้ชายทั้งหมด น่าจะมีประมาณเกือบร้อยคน แต่ละคนถือไม้กับท่อนเหล็กเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง

“พวกคุณเป็นใครกัน ? มาซื้อของที่ร้านเหรอ ?” เย่เซวียนกล่าวออกมาน้ำเสียงปกติ ทำให้ชายฉกรรจ์คนหนึ่งต้องหันมามองด้วยความสนใจ

พวกเขามายืนรอเจ้าของร้านแห่งนี้ได้เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ไม่ว่าจะตะโกนยังไงก็ไม่มีใครตอบกลับมาจนเกือบจะพังเข้าไปให้รู้แล้วรู้รอด

“แล้วแกเป็นใคร ? ก่อนจะถามคนอื่นควรแนะนำตัวเองก่อนไม่ใช่รึไง รู้จักมารยาทบ้างไหม ?” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งกล่าวสวนกลับมาด้วยน้ำเสียงยียวน

มันมองหน้าของเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยความรู้สึกไม่สบอารมณ์

ทำไมไอ้เด็กนี่มันถึงหล่อแบบนี้วะ ? พระเจ้าไม่เห็นจะยุติธรรมสักนิด!!

“เอ่อ..แค่คนผ่านทางมาครับ” เย่เซวียนที่เพิ่งจะนึกอะไรขึ้นมาได้เลยกล่าวออกมาด้วยท่าทางเหมือนคนอ่อนแอไปก่อน เขาตัดสินใจว่าจะรอดูท่าทีของอีกฝ่ายก่อนค่อยว่ากัน

“งั้นก็อย่ามาแส่ไม่เข้าเรื่อง!” ชายฉกรรจ์คนเดิมตะคอกใส่ด้วยความดุดันไม่เกรงใจใคร

“ครับ ๆ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายหนุ่มตอบกลับพลางเดินหันหลังจากไป

“เดี๋ยวก่อน! ทิ้งจักรยานนั่นไว้แล้วไสหัวไปซะ!” ชายฉกรรจ์ที่สังเกตเห็นจักรยานสีแทงแยงตาจึงกล่าวออกมาด้วยความสนใจ เขาไม่ได้คิดหรอกว่ามันจะเป็นทองแท้ เพียงแค่จักรยานมันดูเท่ดี

ใครมันจะบ้าเอาทองคำมาทำจักรยานแล้วขี่ไปมาวะ จริงไหม ?

“ไม่ได้หรอก จักรยานนี่ผมซื้อมาแพงน่ะ” เย่เซวียนปฏิเสธไปพร้อมรอยยิ้ม

ทางฝั่งชายฉกรรจ์ที่เห็นเช่นนั้นก็นึกว่าอีกฝ่ายยั่วโมโหตนเอง จึงทำท่าเหมือนจะพุ่งเข้าไปต่อยไอ้หน้าหล่อตรงหน้าแต่ชายฉกรรจ์อีกคนก็เข้ามาห้ามไว้เสียก่อน

“อย่าก่อเรื่อง! ถ้าลูกพี่รู้เข้าเดี๋ยวก็ได้เจ็บตัวหรอก”

“เออ ๆ รู้แล้ว! แกโชคดีไปนะไอ้หนู!” หลังกล่าวจบชายฉกรรจ์ทั้งสองก็ทำท่าจะเดินจากไป

ครึ่งหลัง

“เดี๋ยวก่อนสิพี่ชาย! ตกลงมาทำอะไรที่ร้านนี้เหรอครับ ?” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะจากไปและตนเองก็ขี้เกียจจะรอลุ้นแล้วด้วย ชายหนุ่มจึงกล่าวถามออกมา

“พวกเรามาทวงเงินจากเจ้าของร้านนี้น่ะ แต่รออยู่นานก็ไม่เห็นมีใครตอบกลับสักที” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งที่มีท่าทางเป็นมิตรตอบกลับมา

“อ๋อ แล้วเขาติดหนี้อยู่เท่าไรเหรอครับ ?” เย่เซวียนแกล้งถามออกมาเพราะอยากรู้ว่ากลุ่มคนตรงหน้าจะบอกว่ายังไง เพราะจากที่เขาคาดเดามันก็น่าจะแค่ไม่กี่แสนหยวนเท่านั้น

“ถ้าจำไม่ผิดน่าจะยี่สิบล้านหยวนนะ” ชายฉกรรจ์คนเดิมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงปกติ

“ยี่สิบล้าน! พวกแกล้อเล่นกันรึไง!” เย่เซวียนอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา

ทำไมยอดเงินมันกลายเป็นยี่สิบล้านไปได้กัน!!

“เฮ้ย! พูดจาให้มันดี ๆ หน่อย คิดว่าพวกเราเป็นเพื่อนเล่นของแกรึไง ?” ด้วยเสียงตะโกนของเย่เซวียน มันจึงทำให้ชายฉกรรจ์หลายคนเริ่มหันมาให้ความสนใจทางนี้แทนแล้ว

“แล้วจะทำไมวะ! หนี้ขนาดนั้นมันเวอร์เกินไปแล้ว!!” เย่เซวียนตวาดออกมาด้วยความหงุดหงิด

ถึงแม้ในตอนนี้เขาจะมีเงินมากพอที่จะจ่ายได้ แต่เขาก็ไม่ได้โง่ขนาดจะจ่ายโดยไม่คิดอะไรขนาดนั้น แถมหนี้ก้อนนี้มันก็นับเป็นหนี้ส่วนตัวไม่สามารถนำเงินของระบบมาจ่ายได้ด้วย

นั่นหมายความว่าเขาต้องเอาเงินที่ได้มาจากหญิงชราตระกูลฮวาจ่ายแทน และมันก็จะทำให้เงินทุนของเขาที่จะเปิดกิจการเหลือน้อยลงไปอีก

“แล้วแกมีปัญหาอะไรด้วยรึไง ?” ชายฉกรรจ์บางคนเริ่มไม่พอใจท่าทีของชายหนุ่มตรงหน้า พวกเขาอุตส่าห์ใจดีไม่ทำร้ายร่างกายให้แล้ว มันยังมาพล่ามไม่หยุดเหมือนอยากโดนสักทีอีก

สงสัยต้องโดนสั่งสอนเสียบ้างถึงจะคิดได้ล่ะมั้ง ?

“ก็ฉันนี่แหละเจ้าของร้านนั้น! ไปเรียกหัวหน้าพวกแกมาคุยหน่อยดิ! พวกลูกกระจ๊อกคุยไปก็ไม่รู้เรื่องหรอก” เย่เซวียนตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิด อารมณ์ดี ๆ ที่สร้างมาตลอดวันปลิวหายไปกับสายลม

เหล่าชายฉกรรจ์ที่ได้ยินคำกล่าวของชายหนุ่มตรงหน้าก็ทำสีหน้าแปลกใจออกมาเล็กน้อย พวกเขาจ้องมองไปยังชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ

ทำไมไอ้เด็กเมื่อวานซืนตรงหน้าถึงกล้าต่อปากต่อคำกับพวกเขามากมายขนาดนี้นะ ? หรือมันจะไม่กลัวตาย ? หรือคือว่าพวกเขาจะไม่กล้าทำอะไรมันจริง ๆ ?

“ปากดีเหลือเกินนะไอ้เวร!” ชายฉกรรจ์หลายคนที่ทนไม่ไหวก็เริ่มทำท่าจะพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มตรงหน้า แต่มีเสียงตะโกนของใครบางคนดังขึ้นมาเสียก่อน

“หยุด!!”

“แกเป็นเจ้าของร้านนี้สินะ ? เป็นอะไรกับเหอเป่ย ?” ชายอายุประมาณสี่สิบปี ใส่สูทไม่ติดกระดุมเม็ดบทมีลอยสักเต็มตัวกล่าวออกมาด้วยความดุดัน ใบหน้าของเขาตอนนี้บ่งบอกว่ากำลังไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก

ต้องมารออยู่เกือบชั่วโมง แถมยังมีไอ้เด็กเมื่อวานซืนกล้ามาแหกปากท้าทายพวกเขาอีก ถ้าไม่ติดว่าหัวหน้าใหญ่ให้คุยอย่างสันติก่อน เขาคงลงมือเก็บไอ้เด็กนี่ไปแล้ว

“ใช่ เขาเป็นปู่ของฉันเอง” เย่เซวียนพยายามจะสงบสติอารมณ์ลง เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“งั้นก็ดี ขอเข้าประเด็นเลยนะ จ่ายหนี้มาซะ!” หัวหน้าของเหล่าชายฉกรรจ์กล่าวขึ้นมาในทันที เขาอยากรีบทำงานให้เสร็จแล้วรีบกลับแล้ว

“ขอดูเอกสารสัญญาหน่อยได้ไหม ? ฉันไม่คิดว่าหนี้มันจะกลายเป็นยี่สิบล้านไปได้นะ” เย่เซวียนกล่าวขึ้นมาตรงประเด็นเช่นกัน

ความจริงแล้วตัวเขาก็ไม่เคยเห็นเอกสารเงินกู้ทั้งหมดที่ปู่เคยไปกู้ไว้เช่นกัน ดังนั้นตัวเขาจึงคิดเองเออเองมาโดยตลอดว่ายอดเงินมันคงไม่กี่แสนหยวน ซึ่งก็นับว่าเป็นจำนวนที่มากมายมหาศาลสำหรับตัวเขาที่เรียนจนแค่ระดับชั้นมัธยมแล้ว แต่ความจริงมันอาจเป็นหลายล้านหยวนก็ได้ ?

ยุคนี้ข้าวของก็แพง แต่ค่าแรงไม่ขยับ ต่อให้เรียนจบป.ตรีมาหางานทำก็ได้ค่าแรงอยู่ประมาณเดือนละ 3,000-4,000 หยวนเท่านั้น

ถ้าชีวิตของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงเพราะระบบเสียก่อนก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันใดจะชำระหนี้ให้ปู่ของตนเองได้...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด