บทที่ 250 มุ่งหน้าสู่เมืองจิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์(ฟรี)

บทที่ 250 มุ่งหน้าสู่เมืองจิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์(ฟรี)

"สาม!"

จางเซิงไม่ต้องการเสียเวลา เขาเริ่มนับถอยหลัง

"สอง!"

"ข้า... ข้ายอมสวามิภักดิ์!" มาธอสกล่าวด้วยความหวั่นเกรง

เขาขาดหินจิตวิญญาณเทพเพียงก้อนเดียวก็จะบรรลุขั้นเทพแล้ว เขาไม่อยากตายในตอนนี้!

กว่าจะฝ่าฟันขึ้นมาเป็นกึ่งเทพได้นั้นยากนัก เขาไม่อยากให้ทุกอย่างจบลงเพียงเท่านี้

"แล้วพวกเจ้าเลือกว่าอย่างไร?" จางเซิงหันไปมองคนอื่นๆ ในดวงตาของเขาไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ

"ข้ายอมสวามิภักดิ์"

"ข้าด้วย!"

......

ในท้ายที่สุด ทุกคนต่างเลือกที่จะยอมสวามิภักดิ์

"รวมข้าด้วย ข้ายอมสวามิภักดิ์" คอสโคที่อยู่ด้านข้างพยายามยกมือขึ้นอย่างยากลำบาก ก่อนจะตะโกนด้วยเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้าย

เขาถูกเฮเลน่าซ้อมจนสะบักสะบอม ใบหน้าบิดเบี้ยวจนจำรูปเดิมไม่ได้

เฮเลน่านี่โหดร้ายเกินไปแล้ว!

จางเซิงถอนหายใจอยู่ในใจ เมื่อเห็นว่าทุกคนเลือกที่จะยอมสวามิภักดิ์แล้ว เขาก็พยักหน้าอย่างพอใจ "ดีมาก!"

จากนั้นเขาก็ส่งคำเชิญทำสัญญานรกให้กับทุกคน

เมื่อเห็นเนื้อหาของสัญญา มาธอสก็ถึงกับหน้าซีดเผือด เขาตระหนักได้ว่า หากเขาเลือกเซ็นสัญญานี้ นั่นหมายถึงการสูญเสียอิสรภาพโดยสมบูรณ์ และจะต้องกลายเป็นบริวารของจางเซิงไปตลอดชีวิต

เขาต่อต้านการเซ็นสัญญานี้สุดหัวใจ เขาคิดว่าจะแสร้งยอมสวามิภักดิ์ต่อจางเซิงไปก่อน จากนั้นค่อยหาโอกาสหลบหนี

แต่เขาไม่คิดว่าจางเซิงจะตัดทางหนีของเขาทั้งหมดเสียแล้ว

สีหน้าของคนอื่นๆ ก็ไม่ต่างกัน พวกเขาต่างคิดไม่ถึงว่าจางเซิงจะวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

จางเซิงมองไปที่ใบหน้าซีดเซียวของทุกคนโดยไม่พูดอะไร เพียงแต่ยิ้มและรอการตัดสินใจของพวกเขาอย่างใจเย็น

หากมีใครกล้าขัดขืน หากมีผู้ใดบังอาจปฏิเสธ เขาจะสังหารมันในทันที!

"เฮือก..." มาธอสถอนหายใจหนัก

เขารู้ดีว่าหากไม่เซ็นสัญญา ผลลัพธ์ก็มีเพียงความตายเท่านั้น

เพื่อความอยู่รอด ในไม่ช้าเขาก็เซ็นสัญญานรก กลายเป็นวิญญาณสัญญาตนหนึ่งของจางเซิง

สำหรับผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งเทพและเทพเหล่านี้ จางเซิงรู้สึกว่าการฆ่าพวกเขาทิ้งไปนั้นเป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งนัก

ถ้าเก็บไว้ใช้งานได้ก็ย่อมดีกว่า!

เมื่อเห็นหัวหน้าของพวกเขามาธอสเซ็นสัญญาแล้ว คนอื่นๆ ก็รู้ว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยอมเซ็นสัญญาเช่นกัน

ในที่สุด ทุกคนก็เลือกที่จะเซ็นสัญญานรก

การปราบกึ่งเทพได้หนึ่งคน และเทพอีก 18 คน ทำให้จางเซิงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง กองทัพของเขาแข็งแกร่งขึ้นอีกขั้นแล้ว

เป้าหมายต่อไปคือการยึดครองเมืองจิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์!

จากข้อมูลที่ได้รับจากเฮเลน่า คอสโค และคนอื่นๆ ในตอนนี้ เมืองจิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์มีกึ่งเทพอยู่ทั้งหมด 99 คน รวมทั้งซาบรีน่าเจ้าเมืองด้วย

เดิมทีมีอยู่ 102 คน

แต่มี 2 คนที่เข้าร่วมกองทัพปราบปรามมาก่อนหน้านี้ และได้กลายเป็นวิญญาณสัญญาของเขาไปแล้ว

ส่วนอีกคนก็คือมาธอส ที่เพิ่งจะกลายเป็นวิญญาณสัญญาของเขา

ส่วนจำนวนเทพเทียมในเมืองจิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์นั้นมีอยู่ทั้งหมด 2,344 คน

จางเซิงไม่ได้สนใจทหารศักดิ์สิทธิ์และกึ่งเทพเหล่านี้มากนัก สิ่งที่เขาสนใจที่สุดก็คือ เงาเทพที่ทรงพลังเทียบเท่าเทพขั้น 1 ในเมืองจิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์มีอยู่กี่ตน

นั่นคือข้อมูลที่เขาต้องการทราบมากที่สุด

เขาคิดว่าถ้ากองทัพปราบปรามสามารถนำเงาเทพมาได้ถึง 10 ตน แสดงว่าในแต่ละเมืองหลักจะต้องมีเงาเทพที่แข็งแกร่งอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

แม้ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นความลับที่ทั้งเฮเลน่าและมาธอสต่างไม่ล่วงรู้ แต่จางเซิงหาได้ใส่ใจไม่ เพราะก่อนที่เขาจะมาถึงที่นี่ เขาได้สร้างเงาเทพของตนเองไว้ถึง 20 ตน

เขาเชื่อมั่นว่า ด้วยพลังของเงาเทพทั้ง 20 ตนนี้ จะสามารถกวาดล้างทุกสิ่งได้อย่างแน่นอน

เงาเทพทั้ง 20 ล้วนแล้วแต่มีพลังเทียบเท่าเทพขั้น 1 อันแข็งแกร่ง

ตามแผนที่วางไว้ จางเซิงจะนำเฮเลน่า มาธอส และคนอื่นๆ ล่วงหน้าเข้าไปในเมือง เพื่อควบคุมตัวซาบรีน่าเจ้าเมืองเสียก่อน

จากนั้นจึงให้ซาบรีน่าสั่งปิดระบบป้องกันทั้งหมดของเมือง ก่อนที่จะนำกองทัพบุกเข้ายึดครองอย่างเต็มรูปแบบ

ไม่นานนัก พวกเขาก็เดินทางมาถึงยังจุดที่ไม่ไกลจากตัวเมือง

จางเซิงหยิบหน้ากากออกมาสวมใส่ ปกปิดใบหน้าของตนอย่างมิดชิด ก่อนจะเดินตามมาธอสและคนอื่นๆ เข้าไปในเมือง

ทหารยามที่ประตูเมืองเห็นมาธอสและคนอื่นๆ ต่างก็โค้งคำนับด้วยความเคารพ พวกเขาไม่กล้าขัดขวางผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งเทพเช่นนี้

ด้วยเหตุนี้ จางเซิงจึงสามารถเข้าไปในเมืองจิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างง่ายดาย

ภายในเมืองจิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์มีถนนหนทางกว้างขวางและเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน

ระหว่างทาง จางเซิงพบว่าเมืองแห่งนี้ช่างรุ่งเรืองยิ่งนัก บนท้องถนนคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย แล้วยังมีร้านค้าขายอาหารคาวหวานส่งกลิ่นหอมเย้ายวนชวนรับประทาน

พ่อค้าแม่ขายต่างก็ป่าวประกาศขายสินค้าอยู่ริมถนน ร้านค้าต่างๆ ก็เต็มไปด้วยลูกค้า

ส่วนบริเวณหัวมุมถนน ก็มีสัตว์อสูรหน้าตาแปลกประหลาดมากมายจอดพักอยู่ สัตว์อสูรเหล่านี้มีรูปร่างใหญ่โตน่าเกรงขาม

เมื่อเห็นสัตว์อสูรแยกเขี้ยวคำราม จางเซิงก็นึกขึ้นได้ว่า เขายังมีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งอีก 2 ตัว ถูกทิ้งไว้ในเขตเลเวล 60

เขาไม่มีเวลาไปรับพวกมันกลับมาเลย ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกมันจะวิวัฒนาการไปถึงขั้นไหนแล้ว? ดูเหมือนว่าเขาต้องหาเวลาไปรับพวกมันกลับมาเสียแล้ว!

จากนั้น พวกเขาก็ไม่ได้แวะพักที่ใด รีบตรงไปยังพระราชวังของเจ้าเมืองทันที

พระราชวังเจ้าเมืองคืออาคารที่ใหญ่โตโอ่อ่า หรูหรา และสง่างามที่สุดในเมือง ในตอนนี้ ซาบรีน่ากำลังประทับอยู่ภายในพระราชวัง

การป้องกันของพระราชวังนั้นเข้มงวดเป็นอย่างมาก ทุกๆ ระยะไม่กี่เมตรจะมีทหารยามประจำการอยู่ แล้วยังมีกึ่งเทพแอบซุ่มคอยเฝ้าระวังอยู่โดยรอบ

อย่างไรก็ตาม ด้วยความช่วยเหลือของมาธอส จางเซิงจึงสามารถผ่านแนวป้องกันที่แน่นหนาออกไปได้อย่างง่ายดาย

พวกเขามาถึงห้องของซาบรีน่าโดยไม่ต้องลงมือต่อสู้แม้แต่น้อย

เมื่อจางเซิงผลักประตูเข้าไป ซาบรีน่าก็ถึงกับตะลึงจนตาค้าง สีหน้าของเธอบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ

"จางเซิง! เป็นแก!" เธอจ้องมองจางเซิงด้วยความโกรธ ก่อนจะตวาดขึ้นด้วยความเกรี้ยวกราด "พวกแกกล้าดียังไงถึงได้ทรยศข้า!"

รอบๆ พระราชวังของเธอมีทหารยามคุ้มกันอย่างแน่นหนา แถมยังมีกึ่งเทพคอยจับตาดูอยู่ลับๆ การที่จางเซิงสามารถบุกฝ่าเข้ามาถึงที่นี่ได้โดยที่ไม่มีใครรู้ตัว แสดงว่าต้องมีหนอนบ่อนไส้อย่างแน่นอน

"ท่านเจ้าเมือง ยอมแพ้เสียเถิด องค์จักรพรรดิจะทรงปกครองโลกเบื้องบนทั้งหมด!" มาธอสกล่าวกับซาบรีน่าที่กำลังโกรธจัด

"เหอะ! อย่าคิดว่าพวกแกจะชนะเพียงเพราะมาถึงที่นี่ได้!" ซาบรีน่าตวาดลั่น เตรียมพร้อมที่จะลงมือ

"ซาบรีน่า ข้ารู้เรื่องที่เจ้าสมคบคิดกับพวกปีศาจแล้ว!" จางเซิงกล่าวด้วยรอยยิ้มโดยไม่รีบร้อนลงมือ

"เจ้าพูดว่าอะไรนะ!" ซาบรีน่าเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง

เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่า ความลับที่ตนปกปิดไว้เป็นอย่างดีจะถูกเปิดโปงโดยจางเซิง

ความจริงแล้ว จางเซิงแค่เดาสุ่มไปเท่านั้น

เขารู้เพียงว่า เย่เฟิงถัง เจ้าเมืองแห่งป้อมปราการตระกูลเย่ สมคบคิดกับพวกปีศาจ เขาจึงลองพูดออกไปดู

แต่เมื่อเห็นสีหน้าของซาบรีน่า เขาก็รู้ทันทีว่าตัวเองคิดถูก!

"อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ว่าทุกๆ เดือน เจ้าต้องส่งมอบกึ่งเทพให้กับเทพปีศาจ 1 ตน!" จางเซิงแฉความลับออกมาอีก เพื่อกระตุ้นให้เธอโกรธมากยิ่งขึ้น

แน่นอนว่า เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของซาบรีน่าก็ซีดเผือดลงในทันที

"ยอมสวามิภักดิ์ต่อข้าซะ ข้าจะช่วยเจ้าให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกปีศาจเอง!" จางเซิงพยายามเกลี้ยกล่อม

เขาวางแผนที่จะยึดครองเมืองจิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อแม้แต่หยดเดียว

ทว่า ซาบรีน่ากลับตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว เธอไม่รอช้า สะบัดมือออกไปทันที

เงาเทพขนาดมหึมาก็ปรากฏขึ้นจากร่างของเธอในพริบตา

จางเซิงสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งของเงาเทพตนนี้ พลังของมันเหนือกว่าเทพขั้น 1 ทั่วๆ ไปอย่างเห็นได้ชัด!