ตอนที่ 29 สุนัขกลายพันธุ์มาเยือน
ตอนที่ 29 สุนัขกลายพันธุ์มาเยือน
แสงแรกของวันใหม่ปลุกซ่งเจิงที่หลับใหลอยู่ให้ตื่นขึ้น เขายกมือขยี้ตาไปมาก่อนเหลือบไปเห็นพี่ใหญ่กุ้ยที่กำลังตัดฟืนอย่างขะมักเขม้น แต่กลับไม่เห็นวี่แววของลิงผอมเลย บางทีเขาอาจออกไปเก็บผักผลไม้ป่าเพื่อนำมาทำอาหาร
ซ่งเจิงเตะฉู่อี้เบาๆ ฉู่อี้ส่งเสียงอู้อี้ออกมาสองสามคำก่อนจะหันตัวหนีแล้วหลับต่อไป ทำเอาซ่งเจิงมืดแปดด้าน ในสถานการณ์อันตรายแบบนี้จำเป็นต้องสอดส่องและเงี่ยหูฟังรอบด้านทุกนาที เพียงลมพัดเบาๆก็สามารถปลุกพวกเขาให้ตื่นขึ้นได้แล้ว พฤติกรรมแปลกประหลาดของฉู่อี้จึงทำให้เขาไม่สบายใจนัก
ซ่งเจิงเตะฉู่อี้อีกครั้ง แต่คราวนี้ออกแรงเพิ่มขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ฉู่อี้ร้องครางด้วยความเจ็บปวดและลืมตาขึ้นอย่างไม่เต็มใจนัก แววตาเต็มไปด้วยความหงุดหงิดทันทีที่เห็นซ่งเจิง ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้งด้วยความไม่พอใจ
ซ่งเจิงแทบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ‘อาเมน’
“ตู้ม!” ซ่งเจิงกระเด็นลอยขึ้นไปบนฟ้าพร้อมเปลวเพลิงและเสียงดังกึกก้องก่อนจะตกลงมาหน้าทิ่มพื้น
เด็กหนุ่มตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนพร้อมสะบัดหัวไปมา พี่ใหญ่กุ้ยอ้าปากค้างมองซ่งเจิงที่เนื้อตัวดำปี๋ เขายิ้มยิงฟันให้พี่ใหญ่กุ้ยที่ตกใจมาก จนเกือบใช้มีดสปาร์ตาฟันเข้าที่คอของเขาแล้ว
หลังมื้อเช้าง่ายๆผ่านไป ลิงผอมก็เรียกคนทั้งสามมารวมตัวกัน เขากระตุกยิ้มมุมปากพลางส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจเมื่อเห็นซ่งเจิงอยู่ในสภาพเหมือนหลี่ขุย*ในตำนานไม่มีผิด ส่วนฉู่อี้ลูบผมสีแดงของตัวเองอย่างรู้สึกผิด
*หลี่ขุยเป็นหนึ่งในวีรบุรุษเขาเหลียงซานจากนวนิยายเรื่องซ้องกั๋ง มีผิวดำคล้ำมาก
ลิงผอมหยิบแผนที่ขึ้นมากางออก “เมื่อวานเราได้ทำการสำรวจเมืองครั้งแรกและพอรู้สภาพภูมิประเทศแล้ว มาดูกันว่าได้ข้อมูลอะไรมาบ้าง”
“ข้อแรก ในหมู่บ้านมีซอมบี้ค่อนข้างมาก ฉันสงสัยว่าพวกมันอาจถูกสุนัขกลายพันธุ์ระดับสองเรียกมา*”
*สัตว์กลายพันธุ์ระดับสูงสามารถเรียกสัตว์กลายพันธุ์ระดับต่ำมารวมกันได้ ยิ่งระดับสูงมากเท่าไหร่ ยิ่งมีสัตว์กลายพันธุ์มารวมกันมากขึ้นเท่านั้น
“ข้อสอง เมื่อวานพวกเราเห็นแล้วว่าเจ้าไก่กลายพันธุ์ตัวนั้นน่าสงสัยมาก ฉู่อี้ นายพอจะรู้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”
ฉู่อี้หุบยิ้มและพยักหน้าอย่างเคร่งเครียด “ครับ ผมพอรู้อะไรมานิดหน่อย เจ้าไก่กลายพันธุ์ตัวนั้นเป็นพันธมิตรกับฝูงซอมบี้… และมันไม่ได้มีแค่ตัวเดียว”
ซ่งเจิงและคนอื่นๆมองหน้ากัน “พันธมิตรงั้นเหรอ?”
ฉู่อี้อธิบายต่อ “ใช่ พวกมันร่วมมือกัน ไก่กลายพันธุ์ตัวนั้นมีพลังในการต่อสู้ค่อนข้างต่ำจึงร่วมมือกับฝูงซอมบี้พวกนั้น มันจะส่งเสียงขันทันทีที่เห็นเหยื่อ เมื่อเหล่าซอมบี้ได้ยินเสียงร้องของไก่กลายพันธุ์ก็จะมารวมตัวกันที่นั่น พวกมันร่วมมือกันหาอาหารได้ด้วยวิธีนี้”
ซ่งเจิงอ้าปากค้าง ฝูงซอมบี้ที่ไร้สมองสามารถคิดทำเรื่องแบบนี้ได้ ให้ตายเถอะ! นี่ไม่ถือเป็นวิวัฒนาการหรอกหรือ!
ลิงผอมและพี่ใหญ่กุ้ยไม่ได้คิดอะไรมากมาย เพียงแต่ขมวดคิ้วและคิดหาวิธีการรับมือ
ลิงผอมพูดต่อ “จากสถานการณ์ตอนนี้ พวกเราจำเป็นต้องกลับไปในหมู่บ้านอีกครั้งเพื่อเก็บข้อมูลให้มากกว่านี้… ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับสุนัขกลายพันธุ์ก็ตาม!”
ฉู่อี้กระโดดลุกขึ้นด้วยความตื่นตระหนก “พวกนายบ้าไปแล้วหรือไง?! เดี๋ยวก็ตายกันหมดหรอก!”
ซ่งเจิงคว้ากระทะขึ้นมา “พวกเราไม่ได้บ้า เราต่างก็มีเหตุผลที่ต้องทำ”
ลิงผอมมองไปยังซ่งเจิงและพยักหน้า พี่ใหญ่กุ้ยไม่ได้พูดอะไรมากนัก เขาเพียงแค่หยิบมีดสปาร์ตาออกมา
ฉู่อี้กวาดสายตามองท่าทางแน่วแน่ของซ่งเจิงและคนอื่นๆ ก่อนทุบฝ่ามือ “พวกนายเข้าใจไหมเนี่ย ว่าหมู่บ้านเป็นที่ที่มีซอมบี้กระจุกตัวอยู่? ลิงผอมก็เพิ่งพูดไปว่าอาจมีสุนัขกลายพันธุ์ระดับสองอยู่ก็ได้! สุนัขกลายพันธุ์ระดับสองเชียวนะ... พวกนายรู้ใช่ไหมว่าฉันหมายความว่ายังไง?”
ซ่งเจิงยิ้มอย่างมีเลศนัย “แค่สุนัขกลายพันธุ์ระดับสองเอง ฉันจัดการได้น่า!” พูดจบก็ยกมือขึ้นลูบไรหนวดเขียวที่ปลายคางอย่างหลงตัวเอง
ฉู่อี้ตกตะลึงจนพูดไม่ออก “พี่ซ่ง... เพราะฉันทำให้พี่สมองกระทบกระเทือนเมื่อเช้าใช่ไหมถึงได้เพ้อเจ้อแบบนี้?”
สีหน้าของซ่งเจิงมืดหม่นลงไปอีก แม้ว่าใบหน้าของเขาจะดำปี๋อยู่แล้วก็ตาม ทันใดนั้นเส้นใยพลังจิตเข้ารัดรอบตัวฉู่อี้จนเขาตกใจแทบสิ้นสติ!
ฉู่อี้รู้สึกว่าซ่งเจิงเป็นบุคคลอันตรายขึ้นมาทันที เขาพยายามดิ้นรนให้หลุดออก ทว่าสายเกินไปแล้ว เส้นใยพลังจิตของซ่งเจิงแข็งแกร่งกว่าเงื่อนตายที่ผูกด้วยเชือกไนลอนของลิงผอมเสียอีก!
ซ่งเจิงยิ้มแฉ่งอวดฟันขาวสว่างตัดกับใบหน้าดำทะมึนของเขาอย่างมาก เด็กหนุ่มเริ่มใช้เส้นใยพลังจิตซึมซับพลังงานอย่างเชื่องช้า
กระแสอันอบอุ่นส่งผ่านจากเส้นใยเหล่านั้นมายังร่างกายของซ่งเจิง เมื่อเขาได้รับจนพอใจแล้วก็ปล่อยฉู่อี้ไป
ฉู่อี้ที่ถูกมัดอยู่นั้นตกใจกลัวมากทีเดียว เขาแอบรวบรวมพลังงานเพื่อจะออกแรงให้หลุดพ้นจากพันธนาการของซ่งเจิง แต่แล้วกลับเกิดความรู้สึกตึงแน่นที่หน้าอก พลังภายในร่างของเขากำลังถูก ‘เชือก’ ที่มองไม่เห็นดูดซับไปอย่างไม่อาจควบคุม
ฉู่อี้รีบกระโดดหนีไปให้ไกลจากซ่งเจิงทันทีที่เป็นอิสระ ก่อนหันกลับไปมองอีกฝ่ายที่ทำท่าทีไม่รู้ไม่ชี้
เด็กหนุ่มลูบอกเพื่อปลอบขวัญตัวเอง ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “พี่ซ่งเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่งั้นเหรอ?!”
ซ่งเจิงพอใจกับปฏิกิริยาของฉู่อี้มาก เขาเลียนแบบท่าเชิดจมูกของอีกฝ่ายพร้อมพูดขึ้น “ทำไมฉันจะเป็นมนุษย์พันธุ์ใหม่ไม่ได้ล่ะ?”
ฉู่อี้พูดในสิ่งที่คิดออกมาทันที “คนซื่อบื้ออย่างพี่ จะเป็นมนุษย์พันธุ์ใหม่ได้ยังไงกัน?!”
พี่ใหญ่กุ้ยและเจ้าลิงผอมหัวเราะออกมาพร้อมกัน สีหน้าของซ่งเจิงเคร่งขรึมลงทันที รังสีความแค้นที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแผ่กระจายอยู่รอบตัว เขากำกระทะในมือแน่นก่อนพุ่งเข้าใส่ฉู่อี้ “ทำไมฉันจะเป็นมนุษย์พันธุ์ใหม่ไม่ได้! นายดูถูกฉันเรอะ?!”
ฉู่อี้ได้แต่อมยิ้มโดยไม่พูดอะไร เพียงแค่ยกกำปั้นขึ้นสกัดการโจมตีจากอีกฝ่ายเท่านั้น
ซ่งเจิงมองดูฉู่อี้ที่ยกมือขึ้นรับพลังของเขาด้วยมือเปล่าอย่างละอายใจ ที่ตนเองใช้กระทะเหล็กเป็นอาวุธ
เขาโยนกระทะทิ้งไปด้านหลัง ก่อนยกกำปั้นขึ้นและพุ่งไปยังฉู่อี้อีกครั้ง ฉู่อี้ผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นซ่งเจิงทิ้งอาวุธก่อนจะยกยิ้มมุมปาก และดึงกริชออกมาจากข้างหลัง
ซ่งเจิงที่กำลังพุ่งเข้าไปกลับตกใจกลัว เมื่อเห็นกริชและรีบหยุดชะงักทันที รักษาหน้าไว้ตอนที่ยังทำได้คงดีกว่า...
ฉู่อี้ยิ้มเยาะขณะเก็บกริชลงไป ซ่งเจิงหนีไปอย่างว่องไวพอๆกับตอนพุ่งเข้ามา มาเร็วไปเร็วเสียจริง!
ลิงผอมหันหน้าหนีเพราะทนดูท่าทางโง่เง่าของซ่งเจิงไม่ได้ พี่ใหญ่กุ้ยพุ่งเข้าไปจับตัวของซ่งเจิงไว้ เด็กหนุ่มพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมแขนแข็งแรง
“เหอะ… ไอ้คนชั่ว!” ซ่งเจิงโมโหควันแทบออกหู
ฉู่อี้เงยหน้ามองท้องฟ้าพลางผิวปากอย่างอารมณ์ดี เขายกมีดกริชขึ้นมาควงเล่นโดยไม่โต้ตอบซ่งเจิงแม้แต่น้อย
ลิงผอมพุ่งเข้าไปเตะก้นของซ่งเจิงหนึ่งที “คนที่เสียเปรียบคือน้องฉู่อี้นะ ถ้าเจอซอมบี้กลายพันธุ์เข้าอีกครั้ง นายจะมีพลังเทียบเท่ากับมันได้ยังไง ถ้ายังใช้พลังไปกับเรื่องไร้สาระแบบนี้?”
ซ่งเจิงเม้มปากแน่น ในที่สุดเขาก็ยอมฟังคำพูดของลิงผอมแต่โดยดี แต่เมื่อเหลือบไปเห็นท่าทางสบายอารมณ์ของฉู่อี้ก็นึกโมโหขึ้นมาอีกครั้ง
ฉู่อี้มองดูซ่งเจิงในร่าง ‘หลี่ขุย’ ที่กำลังนิ่งเงียบแล้วยิ้มออกมาจนเห็นฟันขาวสะอาด “พี่ซ่งอย่าโมโหไปเลย ชายชาติทหารต้องไม่หยุดฝึกฝนเล่ห์กลไม่ใช่เหรอ…”
ซ่งเจิงคร้านจะเถียงกับฉู่อี้ เขาฉวยกระทะมาจากมือของลิงผอม ก่อนเพ่งมองดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นทางทิศตะวันออก เมื่อฉู่อี้เห็นซ่งเจิงไม่พูดอะไรก็รู้ตัวว่าโดนโกรธเข้าให้เสียแล้ว
เขาเองก็ไม่อยากพูดอะไรให้มากความ เรื่องของผู้ชายมันก็เป็นแบบนี้แหละ...
ฉู่อี้ทอดสายตามองหมู่บ้านไกลๆ ที่ปกคลุมด้วยใบไม้สีเหลืองทองอร่าม เสียงร้องของเหล่าอีกาแว่วมาพร้อมกับเสียงไก่กลายพันธุ์โก่งคอขันอย่างสง่าผ่าเผย
ไม่ว่าไก่ที่ไหนต่างก็ส่งเสียงร้องขันออกมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว น่าเศร้าที่เสียงร้องของมันในตอนนี้กลับกลายเป็นเสียงร้องแห่งความตาย...