ตอนที่ 154 ไม่สามารถใช้เหตุผลกับน้องสาวได้(ฟรี)
ไม่มีเสียงในห้องเป็นเวลานาน
ดวงตาอำพันของเพ่ยเหลียนเสวี่ยเต็มไปด้วยความคาดหวัง กะพริบตาเป็นครั้งคราว และเย่อันผิงก็ทำอะไรไม่ถูก
เขาเปิดและปิดปากอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็ดึงน้องสาวไปนั่งขอบเตียง จับมือน้อยๆของนาง บีบแน่นและยืนยันว่าเขาไม่ได้หูฝาด“น้องพี่ เจ้าอยากได้อาถิง?”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยเอาหัววางบนไหล่ของเย่อันผิง กดตัวเข้ากับเขาและพยักหน้า“อืม..”
เย่อันผิงกลืนน้ำลาย หลบสายตาน้องเขา แม้ใบหน้าเขาจะผิดธรรมชาติ เขาก็ตอบ“อาถิงชอบเรียกเจ้าว่าอาหญิงไม่ใช่เหรอ?นาง..”
“ไม่..”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยขมวดคิ้วและรีบขัด นางก้มหัว แตะท้องนาง ด้วยข้อสงสัยในใจ นางกับพี่ชายนอนด้วยกันมาหลายเดือนแล้ว ทำไมนางถึงยังไม่มีเด็ก?
เวลานี้ นางคิดถึงเรื่องนี้มานาน
หรือวิธีอาจจะผิด?
หรือเพราะจูบไม่พอ?
หรือเพราะไม่ได้ทำพิธีทางศาสนา?
แต่หลังคิดถึงเหตุผลต่างๆ นางก็ยังไม่เจอปัญหา
สุดท้าย นางอยากถามเย่อันผิง
พี่ชายรู้ทุกอย่าง มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้ว่าทำไมนางถึงไม่ท้อง
เพ่ยเหลียนเสวี่ยเงยหน้า เจอกับสายตาของเย่อันผิงและพูด“ข้าอยากได้อาถิง…คือ ของพี่กับของข้า..”
“..”
พอเห็นเพ่ยเหลียนเสวี่ยแตะท้องนาง เย่อันผิงก็ตระหนักว่ายัยน้องโง่ของเขาคงคิดว่านางจะท้องถ้าได้นอนเตียงเดียวกับเขา
เขาไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของนางที่มีต่อเขา
แต่หลังหลายคืนก่อน ไม่ว่าเขาจะโง่แค่ไหน เขาก็เข้าใจว่าความรักที่นางมีให้พี่ชายนั้นไม่ปกติ
ความรักของนางที่มีต่อเขาไม่ธรรมดามานานแล้ว
เย่อันผิงนำผมนางทัดหลังหู มองดวงตานางและพลันอยากหัวเราะ“เจ้าอยากมีลูก?”
“อืม..”
เย่อันผิงเคาะจมูกนางและอธิบ่าย“น้องพี่ เจ้ายังเด็กเกินกว่าจะมีลูก”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยพองแก้ม“ข้าไม่เด็กแล้ว ข้าโตแล้ว”
“นั่นสำหรับคนธรรมดา ตอนคนธรรมดาอายุเท่าเจ้า มันถึงเวลาต้องแต่งงานมีลูกแล้วก็จริง แต่ผู้บ่มเพาะนั้นแตกต่าง”เย่อันผิงยกนิ้วชี้“ผู้บ่มเพาะมักให้กำเนิดลูกคนแรกหลังผ่านไปหลายสิบหรือร้อยปี เหมือนพ่อแม่ข้า ที่ให้กำเนิดข้าตอนอายุมากกว่าสามร้อยปี”
เพ่ยเหลียเสวี่ยไม่มีทางเถียงได้เลย นางก้มหัว
จากนั้นเย่อันผิงก็ถามอีก”นอกจากนี้ เจ้าเคยคิดไหม?หลังเจ้ามีลูก เจ้าจะเลี้ยงยังไง?เจ้าเป็นแค่ผู้บ่มเพาะก่อตั้งรากฐาน เจ้ามีพลังกับหินปราณพอจะเลี้ยงเด็กไหม?เจ้าจะหาสภาพแวดล้อมที่มั่นคงเพื่อให้เด็กเติบโตได้ไหม?’
เพ่ยเหลียนเสวี่ยส่ายหัว“ไม่…”
“ใช่ งั้นก็อย่าคิดถึงมันในตอนนี้”เย่อันผิงถอนหายใจโล่งอกและลูบหัวนาง“ยังไงซะ ตอนนี้ข้าก็ไม่อยากมีลูก การเลี้ยงเจ้าก็ยากพอแล้ว ถ้าเพิ่มลูกมาอีก ข้าจะหมดแรงตาย”
“..”
ดวงตาของเพ่ยเหลียนเสวี่ยเต็มไปด้วยความผิดหวัง นางคว้ามือเย่อันผิง วางบนต้นขานาง จกนั้นก็ก้มหัว
นางรู้ว่านางโง่ มันเป็นเรื่องเพ้อฝันที่จะเอาชนะพี่ชายนางในด้านเหตุผลได้
แต่..
นางแค่อยากมีลูกของเขา
ข้าอยาก!!แค่อยาก!
เพ่ยเหลียนเสวี่ยรู้สึกหงุดหงิด นางคว้านิ้วชี้พี่ชายนางและบิดมันขึ้นเหมือนที่เขาทำกับนางตอนนางเด็ก
เฮือก
พอสัมผัสถึงสิ่งผิดปกติได้ เย่อันผิงก็สูดหายใจลึกและคว้ามือนาง“น้องพี่ รอก่อน!”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยหรี่ตามองเขาเคืองๆ แก้มพอง
“ข้าไม่ได้บอกว่าไม่ตกลงนะ”เย่อันผิงรีบปลอบนาง“แค่ว่ายังไม่ใช่เรื่องที่จะคิดตอนนี้ ไหนเจ้าบอกว่าเจ้าโตแล้ว?เรียนรู้จากการเล่นหมากเหมือนข้า คิดล่วงหน้าสามก้าว วางแผนให้ดี”
พี่ชายคือสมองของข้า!
ความคิดของข้าไม่ละเอียดเท่าท่านอยู่แล้ว
เพ่ยเหลียนเสวี่ยเงียบๆและเพิ่มแรง
เปราะ
ดูเหมือนนางจะไม่พอใจกับคำตอบเขา เย่อันผิงมองนิ้วที่งอของเขาและรู้สึกว่าน้องเขาชักแกร่งขึ้น เขาดึงมือกลับและดัดนิ้วกลับ
“น้องพี่ พี่รับปากว่าในอนาคต เราจะมีลูกด้วยกัน”
ดวงตาของเพ่ยเหลียนเสวี่ยเป็นประกาย
“อืม..”
“แต่ต้องมีข้อกำหนด อย่างแรกคือเจ้าต้องบ่มเพาะให้ดีเพื่อให้สามารถปกป้องเด็กได้”
“อะไรอีก?”
“สอง เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะดูแลเด็ก เจ้าไม่สามารถตามใจเกินได้ เจ้าไม่รุ้อะไรเลยตอนนี้ แล้วจะสอนคนอื่นได้ไง?”
“อืม…”เพ่ยเหลียนเสวี่ยลดสายตาและคิด“ข้าจะสอนลูกข้าแบบที่พี่สอนข้า”
“..”
เย่อันผิงสะดุ้ง และนึกภาพ
เพ่ยเหลียนเสวี่ยกับเสี่ยวเหลียนเสวี่ยยืนบนลานฝึกยุทธ์ของสำนักร้อยดอกบัวท่ามกลางหิมะ “แยกขา เหยียดมือตรง!ตามคำสั่งแม่ ฮุคขวา!”
…
เขาไม่รู้ว่านี่ผิดหรือถำกกันแน่
ในอดีต เขากับเพ่ยเหลียนเสวี่ยไม่มีทางเลือก
แต่มันควรดีมาก ตามการฝึก ควรจะสามารถเลี้ยงเด็กที่โดดเด่นได้
แต่ พอคิด เย่อันผิงพลันตระหนักว่าการเลี้ยงเด็กคือจุดบอดสำหรับเขาเช่นกัน
ไม่มีระบบสำหรับการเลี้ยงลูกในเกม เขาไม่เคยดูแลเด็กมาก่อน
แต่ถ้าน้องสาวเขาอยากมีเด็ก งั้นเขาจะพยายามดู แต่ไม่ใช่ตอนนี้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่จนกว่าจะถึงอาณาจักรวิญญาณแรกก่อตั้ง
“อืม..”
เย่อันผิงลูบคาง
ตอนเจ้าเจอปัญหา เจ้าต้องหาทางออก
และทางออกเดียว นั่นคือทดลองเรื่อยๆ จากนั้นก็วิเคราะห์จนกว่าจะได้คำตอบที่ดีสุด
ทดลอง…เนื้อหาทดลอง
และมันดันว่ามีเด็กอยู่ข้างตัวพวกเขาพอดี…
“อืม น้องพี่ ข้าจะบอกอะไรให้..”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยเอียงหัว“หือ?”
“เริ่มจากการปฏิบัติต่อเหลียงอาถิงเป็นลูกในอนาคตของเรา ลองสะท้อนวิธีดีสุดที่จะเลี้ยงเด็ก จากนั้น พอเจ้ามีลูกในอนาคต เจ้าจะได้รู้ว่าต้องทำยังไง?”
“..”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยคิดว่ามันเข้าท่า”ได้’
“ฟู่”
เย่อันผิงพ่นลม ยืนขึ้น เดินไปตู้เสื้อผ้า นำชุดสำนักดาวดำออกมา จากนั้นก็เตรียมไปน้ำพุบนภูเขาหลัง
พอเห็นแบบนี้ เพ่ยเหลียนเสวี่ยก็ถาม“พี่จะไปไหน?”
“ข้าจะไปภูเขาเพื่อแช่น้ำพุวิญญาณ”
“แล้วข้าละ?”
“เจ้าไปไม่ได้ พลังงานในน้ำพุนั้นไม่ตรงกับรากปราณเจ้า ถ้าเจ้าแช่มัน พลังงานนั้นจะก่อเกิดในเส้นปราณเจ้า ซึ่งไม่ดี”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยผงะ”โอ้..’
เย่อันผิงนำชุดสำนักเข้าถุงมิติและโน้มตัวไปจูบนาง“บ้านนี้อยู่ในการดูแลของเจ้าแล้ว ข้าไปละ”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยเม้มปากและพยักหน้าอย่างมีความสุข“อื้มม”