ฉายานักโซโล่บอสหน้าใหม่ และ ผู้ไม่หวาดเกรงความตาย (อ่านฟรี 26/08/2567)
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก” ร่างของชายหนุ่มผมสีขาวใบหน้าเย็นชาที่ในตอนนี้ยับเยินและเต็มไปด้วยบาดแผลกำลังยืนหอบหายใจอยู่ ทั่วร่างของเขาเต็มไปด้วยร่องรอยของบาดแผลจากการถูกของมีคมบาด และบาดแผลเน่าเปื่อยจากพิษร้ายแรง
แต่โชคยังดีที่ไม่มีส่วนไหนของร่างกายที่ขาดหายไป ไม่เช่นนั้นก็ตอบได้ยากว่าทักษะของเขาจะสามารถงอกอวัยวะที่ขาดหายไปกลับมาได้หรือไม่
บริเวณด้านข้างที่อยู่ไม่ไกลนัก มีร่างขนาดยักษ์ของบอสมอนสเตอร์นอนจมกองเลือดอยู่ บริเวณส่วนหัว และลำตัวของมันมีอาวุธนับสิบชนิดปักคาเอาไว้ ที่หนักที่สุดก็คงเป็นตรงหน้าผากที่ถูกหอกเล่มหนึ่งเจาะทะลวงจนมิด ทั่วร่างของมันคล้ายถูกบางสิ่งเผาไหม้อย่างรุนแรง
“คราวนี้คงตายจริง ๆ แล้วสินะ” ชายหนุ่มกล่าวออกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย
[ดันเจี้ยนถูกเคลียร์ ขอแสดงความยินดีกับผู้ปลุกพลังทุกคน]
[ขอแสดงความยินดีคุณ ได้รับฉายานักโซโล่บอสหน้าใหม่]
[เพิ่มความเสียหายที่ทำได้เมื่อต่อสู้กับบอสมอนสเตอร์ด้วยตัวคนเดียว 5%]
[ขอแสดงความยินดีคุณ ได้รับฉายาผู้ไม่หวาดเกรงความตาย]
[มีโอกาส 5% ที่จะหลีกเลี่ยงการโจมตีถึงตายได้หนึ่งครั้งต่อวัน]
[เลเวล +8]
[ได้รับทักษะ ต้านทานพิษ[D]]
[ได้รับทักษะ เชี่ยวชาญหอก [C]]
[ได้รับทักษะ เชี่ยวชาญดาบ [C]]
[ได้รับทักษะ หลบหลีกฉับพลัน [E]]
“ได้รับทักษะมาเยอะเหมือนกัน ที่เหลือก็คือดูดกลืนร่างของมันสินะ” คริสกล่าวออกมาพลางเดินเข้าหาร่างของบอสมอนสเตอร์ตรงหน้า ชายหนุ่มทำการดูดกลืนร่างของมันในทันที
[ทำการดูดกลืนร่างบอสมอนสเตอร์ระดับสาม แมลงช้างหลากพิษ ร่างสมบูรณ์]
[พลังทำลาย (โจมตี) +20]
[พลังป้องกัน +10]
[พลังเวทย์ +10]
[ความว่องไว+15]
[ได้รับทักษะ ควบคุมพิษเบื้องต้น[D]]
[สามารถเรียกใช้งานพิษ และต้านทานพิษได้ในบางชนิด]
“ข้าได้รับประโยชน์มาไม่น้อย แต่ก่อนอื่นคงต้องรีบออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด” คริสมองหน้าต่างสเตตัชของตนเองพลางกล่าวออกมา
เขาสัมผัสได้ว่าตัวเขาในตอนนี้ถ้าได้ต่อสู้กับบอสมอนสเตอร์แมลงช้างหลากพิษ ร่างสมบูรณ์อีกรอบ เขาสามารถกำจัดมันลงได้อย่างไม่ยากเย็นภายในเวลาไม่เกินหนึ่งนาที
ถึงแม้ตัวเขาจะเชี่ยวชาญดาบและหอกอยู่แล้ว แต่เมื่อได้ทักษะมาเพิ่มมันก็ทำให้ความเข้าใจที่ตัวเขาคิดว่าเขาได้มาถึงทางตันในด้านดาบและหอกแล้วพังทลายลง ในตอนนี้เขาได้รับรู้แล้วว่าตัวเขามันเป็นเพียงกบในกะลาก็เท่านั้น
ฝีมือดาบและหอกของเขาในตอนนี้เหนือล้ำยิ่งกว่าเก่าอย่างเทียบไม่ติด!
ครึ่งหลัง
“จำได้ว่าเป็นทางนั้นรึเปล่านะ” ชายหนุ่มมองไปยังทิศทางหนึ่งด้วยความไม่แน่ใจ ถึงยังไงนี่ก็เป็นการเข้าสู่ดันเจี้ยนครั้งแรกของเขา แถมยังเป็นการเข้ามาแบบไม่ได้เตรียมการล่วงหน้าเสียด้วยทำให้เขาค่อนข้างจะสับสนเรื่องที่ว่าต้องทำอะไรบ้าง
นอกจากนั้นรอบบริเวณก็ไม่มีนักผจญภัยเหลืออยู่เลยด้วยสิ ถามใครก็ไม่ได้
“ตามรอยเท้าไปก็แล้วกัน” คริสตัดสินใจตามรอยเท้าจำนวนมากที่มุ่งหน้าไปยังทิศทางหนึ่งแทน เพราะยังไงรอยเท้าเหล่านี้ก็เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน พวกมันจึงยังไม่ถูกทรายพัดกลบไปจนหมด
ชายหนุ่มเดินทางอยู่ราวสามชั่วโมงก็พบเข้ากับกลุ่มคนจำนวนมากที่รวมกลุ่มกันอยู่หน้ารอยแยกทางเข้าออกดันเจี้ยนแห่งนี้ ดูเหมือนกลุ่มคนเหล่านี้จะมีจุดประสงค์ในการเคลียร์ดันเจี้ยนแห่งนี้
‘พวกนั้นกำลังรออะไรกันนะ ?’ คริสแอบซุ่มอยู่บนเนินทรายแห่งหนึ่งเพื่อรอดูลาดเลาเสียก่อน
เขาค่อย ๆ อ้อมเนินทรายแล้วแอบเนียนเข้าไปในกลุ่มคนเหล่านั้นอย่างช้า ๆ เนื่องจากมีคนอยู่จำนวนมากและพวกเขากระจายตัวกันอยู่ทั่วบริเวณ ทำให้คริสที่แอบเข้าไปรวมกลุ่มไม่กลายเป็นจุดสังเกตแม้แต่น้อย
“มีใครรู้บ้างไหมว่าทำไมพวกเราถึงถูกเรียกมารวมตัวกันแบบนี้ ?” นักผจญภัยคนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยความสงสัย เนื่องจากเขาได้รับสัญญาณเรียกรวมพลฉุกเฉินสำหรับนักผจญภัยที่มีระดับ E-D
ซึ่งก็นับว่าแปลกมากสำหรับดันเจี้ยนระดับ E เช่นนี้ที่มีการเรียกรวมพลฉุกเฉินขึ้นมา แถมยังต้องการกำลังของนักผจญภัยระดับ D มาร่วมด้วย
“ได้ยินมาว่ามีบอสมอนสเตอร์ระดับสามที่โหดผิดปกติอยู่ข้างในน่ะ” ชายที่มีผมสีน้ำเงินตอบกลับข้อสงสัยของนักผจญภัยที่ถามเมื่อสักครู่
“มันจะโหดแค่ไหนก็เป็นแค่บอสมอนสเตอร์ระดับสามไม่ใช่เหรอ ? พวกเราจำเป็นต้องมาด้วยรึไง ?” หญิงสาวที่มีผมสีชมพูกล่าวออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย เธอกำลังนั่งกอดตุ๊กตาหมีที่มีรอยเย็บเต็มไปหมด ดูจากภายนอกไม่อาจบอกได้เลยว่าเธอมีอาชีพอะไร
“น่าจะไม่ธรรมดาน่ะสิ เพราะก่อนหน้านี้นักผจญภัยแรงค์ E ที่เข้ามาเกือบห้าสิบคน ตายไปเกินครึ่งเห็นจะได้ เธอยังคิดว่าเป็นแค่บอสมอนสเตอร์ระดับสามทั่วไปไหมล่ะ” ชายผมสีน้ำเงินกล่าวออกมาก่อนจะถามหญิงสาวผมสีชมพูกลับไป
“ถ้าแบบนั้นก็คงจะเก่งกว่าปกตินิดหน่อยนั่นล่ะ แต่ยังไงก็สู้น้องหมีทิมเบิ้ลของฉันไม่ได้หรอก!” หญิงสาวกล่าวพลางกอดตุ๊กตาหมีอย่างมีความสุข
“ก่อนอื่นก็เช็คจำนวนคนก่อนเถอะ แล้วก็ต้องตรวจสอบเงื่อนไขดันเจี้ยนอีก” ชายผมสีน้ำเงินกล่าวออกมา ก่อนที่เขาจะเปิดหน้าต่างดันเจี้ยนขึ้นมาดูซึ่งนักผจญภัยคนอื่น ๆ ก็พากันทำตาม
เป็นเพราะพวกเขาเพิ่งจะเข้ามาในดันเจี้ยนได้ไม่นานทำให้เสียเวลากับการจัดเตรียมสิ่งของจนลืมตรวจเช็คหน้าต่างดันเจี้ยนเสียก่อน ถึงยังไงก็รู้รายละเอียดจากนักผจญภัยก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ดังนั้นการตรวจเช็คซ้ำในทันทีมันก็ไม่ค่อยสำคัญเท่าไร
“เฮ้ย! อะไรวะ! ไหนบอกว่าบอสมอนสเตอร์ที่ว่ามันเก่งจนทีมก่อนหน้าต้องหนีตายไง” มีเสียงของใครบางคนโวยวายขึ้นมา
นั่นก็เพราะหน้าต่างดันเจี้ยนที่แสดงออกมามันบ่งบอกว่าดันเจี้ยนแห่งนี้ถูกเคลียร์สำเร็จแล้ว! นั่นไม่เท่ากับว่าพวกเขามาเสียเที่ยวหรอกเรอะ!
แล้วแบบนี้จะไปเบิกค่าจ้าง ค่าเดินทาง ค่าของ ค่าเสียโอกาสในการไปดันเจี้ยนอื่นจากใครกัน! สงสัยต้องไปบีบกับทางสมาคมกลางเสียแล้ว!!
ก็เล่นออกคำสั่งฉุกเฉินโดยไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนแบบนี้ พวกเขาก็เสียหายสิ!!
“ไม่ตลกเลยนะ! ทำไมดันเจี้ยนเคลียร์แล้วสมาคมกลางยังจะส่งสัญญาณรวมพลฉุกเฉินอีก” หญิงสาวผมสีชมพูโวยวายออกมาด้วยความไม่พอใจ ถึงเธอจะเป็นนักผจญภัยแรงค์ D แต่ก็ใช่ว่าจะมีเวลาว่างมาเที่ยวเล่นในดันเจี้ยนแบบนี้
ถ้ามันทำเงินไม่ได้ก็ไม่มีใครอยากจะเข้ามาหรอก! นอกจากพวกนักผจญภัยหน้าใหม่หรือโรงเรียนเตรียมความพร้อมของนักผจญภัยเท่านั้นแหละ
“พวกเรากลับ!” ชายผมสีน้ำเงินสั่งการออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
ก่อนที่ทุกคนจะพากันเดินออกจากรอยแยกทางเข้าดันเจี้ยนด้วยอารมณ์ขุ่นมัว พวกเขาวางแผนกันว่าจะติดต่อต้นสังกัดให้ไปกดดันสมาคมกลางให้จ่ายค่าเสียเวลาให้
ในตอนที่ทุกคนเดินออกไปก็มีร่างของชายหนุ่มผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ดันเจี้ยนแห่งนี้ถูกเคลียร์ลงโดยที่ไม่มีใครทราบเดินออกไปด้วยเช่นกัน