ตอนที่ 75 : แสงศักดิ์สิทธิ์ ! ความทะเยอทะยานของมู่หรงเสวี่ยเหิน !
ตอนที่ 75 : แสงศักดิ์สิทธิ์ ! ความทะเยอทะยานของมู่หรงเสวี่ยเหิน !
เมื่อมองไปที่มู่หรงเสวี่ยเหินในเกราะทองที่อยู่ตรงหน้า หลี่เหมยก็ได้แต่จับคทาในมือไว้แน่น
“มู่หรงเสวี่ยเหิน การแข่งแบบเดี่ยวครั้งนี้ เธอต้องการอะไรกันแน่ ?”
“ฉันต้องการอะไรงั้นเหรอ ?” มู่หรงเสวี่ยเหินส่ายหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็มาตัดสินกันให้รู้ดำรู้แดงกันดีกว่า !”
หลี่เหมยกัดฟันแน่น “มู่หรงเสวี่ยเหิน ! เธอรู้มั้ยว่าฉันเกลียดเธอมากแค่ไหน ? ท่าทีที่สูงส่งและเหมือนดูถูกทุกอย่าง !”
“ในสายตาของเธอ เราแต่ละคนเป็นแค่สิ่งของ แม้แต่ฉือเหล่ยกับฉันก็เป็นแค่เครื่องมือในสายตาเธอ !”
มู่หรงเสวี่ยเหินพูดขึ้นมา “นี่เป็นเหตุผลที่เธอต้องหักหลังฉันงั้นเหรอ ?”
“ใช่ !” หลี่เหมยยืดอกกัดฟันพูดขึ้น “ฉันหลี่เหมยไม่ใช่คนชั่วร้ายที่ตั้งใจจะหักหลังใคร ทว่าพี่เหอคือคนที่จริงใจกับฉัน !”
“ตราบใดที่ฉันช่วยพี่เหอเอาชนะเธอได้ ฉันก็จะกลายเป็นคนของพี่เหอ ! มู่หรงเสวี่ยเหิน ในการต่อสู้นี้ ฉันจะไม่ให้เธอเอาชนะได้ง่ายๆ !”
“จริงเหรอ ?” มู่หรงเสวี่ยเหินมองไปที่หลี่เหมยตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าเฉยเมย “เห็นแก่ความเป็นเพื่อนของเรา ฉันจะไม่ใช้สกิลโจมตีระยะใกล้ ฉันจะสู้กับเธอด้วยเวทย์แทน”
หลี่เหมยตะโกนออกมา คทาสีแดงในมือถูกฟาดลงมา [ลูกไฟ] !
ตูม...
ตรงหน้าลูกไฟที่ขนาดไม่ต่างอะไรจากลูกบาสก่อตัวขึ้นก่อนจะพุ่งเข้าหามู่หรงเสวี่ยเหิน
ด้านหลังลูกไฟนี้ มันมีลูกไฟอีก 3 ลูกปรากฏขึ้นมา มันแทบจะเปลี่ยนเป็นลำแสงไฟสีแดง
ตูม !
ลูกไฟทั้งสามลูกระเบิดกลืนกินมู่หรงเสวี่ยเหินหายไปกับเปลวไฟ
“บัดซบ ! ยัยคนนี้นี่อารมณ์ร้อนแรงจริงๆ !”
รอบๆ เวทีประลองที่ 5 เพราะการต่อสู้ระหว่างสาวสวยทั้งสอง มันจึงทำให้ผู้คนสนใจการต่อสู้ครั้งนี้อย่างมาก
“ฉันรู้จักสองคนนี้ มู่หรงเสวี่ยเหินกับหลี่เหมยอยู่โรงเรียนที่ 2 ด้วยกัน !”
“มู่หรงเสวี่ยเหินปลุกพลังอาชีพลับระดับ S เทวทูตขึ้นมาได้ หลี่เหมยปลุกพลังอาชีพลับระดับ A นักเวทย์ไฟขึ้นมาได้ ไม่รู้เลยว่าใครจะชนะ ?”
“ไม่ต้องคิดมากก็รู้ ต้องเป็นเทวทูตอยู่แล้ว !”
“อาจจะไมใช่แบบนั้น ! สกิลโจมตีของนักเวทย์ไฟน่ะรุนแรง อาชีพเทวทูตเหมือนจะไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน ฉันสงสัยว่าเธอจะมีสกิลอะไรบ้าง ? ”
“ใช่ มู่หรงเสวี่ยเหินเหมือนจะออกมาจากหอฝึกฝนชั้น 25 แม้แต่เฉินผิงอันก็ยังเทียบไม่ได้ !”
“งั้นจะบอกว่าหลี่เหมยจะชนะงั้นเหรอ ?”
“มีผู้อาวุโสในกิลด์ผู้ปลุกพลังที่เป็นนักเวทย์ไฟ ตอนนี้เขาเป็นผู้ปลุกพลังระดับทองไปแล้ว เขาอยู่ห่างจากระดับอีปิคแค่ก้าวเดียว !”
“ฉันว่าอาชีพลับระดับ S น่ะเหนือกว่า ! ยังไงซะก็เป็นถึงอาชีพลับระดับ S เลยนะ !”
“ดูนั่น ! มู่หรงเสวี่ยเหินลงมือแล้ว !”
ตอนที่ลูกไฟระเบิดออกมานั้น แสงศักดิ์สิทธิ์ก็ก่อตัวเหนือหัวมู่หรงเสวี่ยเหิน ระเบิดจากลูกไฟนั้นไม่ได้สร้างความเสียหายแก่มู่หรงเสวี่ยเหินเลยสักนิด !
เธอยกมือขึ้นพร้อมแสงศักดิ์สิทธิ์ที่รวมตัวกันเปลี่ยนเป็นดาบแสง
[แสงศักดิ์สิทธิ์ตัดสิน] !
ตูม !
ดาบแสงเหล่านี้ประกอบขึ้นจากแสงศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ มันได้ฟันเข้าใส่หลี่เหมย
หลี่เหมยพึมพำบางอย่างเพื่อร่ายสกิล
[ระเบิดไฟ] !
“...”
ลูกไฟอีกลูกก่อตัวขึ้นในอากาศ มันส่องแสงสีส้มจางๆ สีมันเข้มกว่าลูกไฟสามลูกก่อนหน้านี้
ทันทีที่ลูกไฟลูกนี้ก่อตัวขึ้นมา มันก็ได้ปะทะกับดาบแสง
ตูม !
ความร้อนกระจายไปโดยรอบกินพื้นที่กว่าครึ่งของเวทีประลอง
[อสรพิษไฟ] !
เสียงของหลี่เหมยดังขึ้นมา งูไฟ 7-8 ตัวพุ่งเข้าใส่มู่หรงเสวี่ยเหิน
[ไฟแห่งแสง] !
เสียงอันเย็นชาของมู่หรงเสวี่ยเหินดังขึ้น ไฟศักดิ์สิทธิ์แผ่กระจายออกมารอบตัวเธอกลืนกินงูไฟเหล่านั้น
ตูม !
[โล่ไฟ] !
[หนามแสง] !
[กำแพงไฟ] !
[บทเพลงแห่งแสง] !
ตูม !
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แทบทั้งเวทีประลองที่ 5 ถูกเปลวไฟปกคลุมเอาไว้ แสงศักดิ์สิทธิ์กระจายออกมารากวับเมฆดำครอบคลุมพื้นที่กว่าครึ่งของเวทีประลอง
“บัดซบ...โคตรโหดเลย !”
“ดุเดือดสุดๆ ! ปกติผู้หญิงนี่โหดขนาดนี้เลยเหรอ ?”
“พลังโจมตีของนักเวทย์ไฟก็โคตรสูง ! ไปหามาว่าหลี่เหมยเป็นใคร ดึงเธอเข้ากลุ่มเราให้ได้ !”
“ได้ครับบอส ! มู่หรงเสวี่ยเหินนี่....”
“โง่รึเปล่า ? มู่หรงเสวี่ยเหินน่ะเป็นคุณหนูของตระกูลมู่หรง เราต้องใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะดึงเธอมาได้ ?”
“หลี่เหมยกำลังจะแพ้ ! เทวทูตสมเป็นอาชีพลับระดับ S ไม่ใช่แค่เก่งเรื่องการโจมตีระยะใกล้ ทว่าเวทย์แสงก็ยังทรงพลังด้วย !”
“เวทย์แสง ? อัศวินแสงอาชีพระดับ A แต่โชคร้ายที่เก่งแค่เรื่องการใช้เวทย์แสงเพื่อฟื้นฟูและป้องกัน ไม่คิดเลยว่าเวทย์แสงจะโจมตีได้รุนแรงแบบนี้ !”
“แข็งแกร่งจริงๆ สมกับเป็นอาชีพลับระดับ S !”
“ถึงเวลาตัดสินผู้ชนะแล้ว !”
[แสงแห่งการตัดสิน] !
ตูม !
เสาแสงพุ่งลงจากท้องฟ้าเข้าใส่ทะเลเพลิง ไฟที่ลุกไหม้อยู่นั้นเริ่มดับลงภายใต้เสาแสงนี้ สุดท้ายเปลวไฟก็ดับลงสนิท
เมื่อควันจางลง มันก็เผยให้เห็นร่างของหลี่เหมย ตอนนั้นเธอนอนกองที่พื้นพร้อมเลือดที่โชกไปทั้งตัว ทว่าสายตาของเธอยังจับจ้องไปที่มู่หรงเสวี่ยเหิน สายตาเธอไม่เหมือนคนที่จะยอมแพ้
“มู่หรงเสวี่ยเหิน ถึงเธอจะชนะฉันได้ ทว่าอย่าคิดว่าฉัน....จะยอมแพ้ แค่ก แค่ก....”
“งั้นเหรอ ?” สายตาของมู่หรงเสวี่ยเหินดูเฉยเมยยิ่งกว่าเก่า เธอสะบัดคทาเล็กๆในมือพร้อมพลังจิตที่ปะทุออกมา
[แสงมนต์สะกด] !
ในพริบตามันก็เหมือนมีเสียงบทสวดดังขึ้นพร้อมดอกไม้แสงที่ร่วงโรยลงมา แสงสีขาวทองตกไปที่ร่างของหลี่เหมย
หลี่เหมยที่เครียดแค้นกลับแสดงท่าทีลังเลออกมา
แสงศักดิ์สิทธิ์บนตัวเธอกระพริบ สีหน้าแค้นเคืองของเธอค่อยๆหายไปแทนที่ด้วยความเยือกเย็นและเชื่อฟังแทน!
หลี่เหมยที่ตัวโชกเลือดได้ยกมือขึ้นไขว้ที่หน้าอกและคุกเข่าลงต่อหน้ามู่หรงเสวี่ยเหิน !
ริมฝีปากเธอกระตุก เธอกลับค่อยๆท่องตามเสียงบทสวดที่ดังขึ้นมา
เมื่อเห็นแบบนั้นกรรมการก็รีบเดินเข้ามาประกาศ “หลี่เหมยยอมรับความพ่ายแพ้ ผู้ชนะ มู่หรงเสวี่ยเหิน !”
เมื่อเห็นหลี่เหมยเดินลงจากลานประลองไป มู่หรงเสวี่ยเหินก็สายตาสั่นไหว เธอพึมพำออกมาเบาๆ “เวลาของ [แสงมนต์สะกด] ขึ้นอยู่กับความต่างด้านความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่าย ตอนนี้อย่างมากฉันคงคุมเธอได้ 72 ชม.”
“ใน 72 ชม.นี้ หลี่เหมยจะกลายเป็นสาวกที่ภักดีของฉัน !”
“ให้หลี่เหมยไปถามข้อมูลเกี่ยวกับตงฟางเหอ...”
“น่าเสียดายที่มันเป็นสกิลชั่วคราว เวลาคูลดาวน์ก็นาน ไม่งั้นแล้ว...”