ตอนที่แล้วตอนที่ 27 เทพแห่งไฟในโลกอนาคต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 29 สุนัขกลายพันธุ์มาเยือน

ตอนที่ 28 แสงสว่างท่ามกลางความมืด 


ตอนที่ 28 แสงสว่างท่ามกลางความมืด 

ทั้งสี่วิ่งหนีออกจากหมู่บ้านท่าทาง ‘สนุกสนาน’ แต่จะสนุกขนาดไหนนั้นคงต้องไปถามพวกเขาเอง

ซ่งเจิงหันกลับไปมองด้านหลังเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีซอมบี้ตัวไหนตามมาแล้ว

พวกเขามาถึงถนนที่เต็มไปด้วยดินโคลนในสภาพเหนื่อยอ่อน เจ้าลิงผอมและพี่ใหญ่กุ้ยดูไม่เป็นผู้เป็นคนอีกต่อไป ทั้งสองอ้าปากพะงาบๆเหมือนปลาขาดน้ำ ร่างใหญ่โตของพี่ใหญ่กุ้ยลงไปนอนแนบพื้นราวกับกำลังนมัสการพระแม่ธรณี ส่วนลิงผอมนั้นล้มตัวลงข้างๆและอ้าปากกอบโกยอากาศเข้าไป

ฉู่อี้ยืนกอดอกเชิดหน้า ขณะที่ซ่งเจิงหันกลับไปสบตาอีกฝ่ายอย่างท้าทาย สีหน้าของฉู่อี้เปลี่ยนไปมาอยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายเขาก็ล้มตัวลงกับพื้นอย่างไม่เต็มใจและปล่อยให้เหงื่อบนร่างกายไหลลงดิน

ซ่งเจิงออกแรงเตะพี่ใหญ่กุ้ยเมื่อลมหายใจของพวกเขากลับมาเป็นปกติ “ตอนนี้กี่โมงแล้ว?” พี่ใหญ่กุ้ยยกศีรษะขึ้นมองนกกาที่กำลังบินกลับบ้านท่ามกลางแสงสีทองยามพระอาทิตย์ตกดิน ก่อนจะลูบท้องและตอบกลับไปอย่างมั่นใจว่า “ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว!”

“จ๊อก… จ๊อก… จ๊อก…”

เสียงท้องร้องประสานกันระงมทำให้พวกเขาพร้อมใจยกมือขึ้นกุมท้องโดยไม่ได้นัดหมาย ท่าทางพร้อมเพรียงดูพิลึกจนน่าขัน คนทั้งสี่เงียบไปครู่หนึ่งก็หัวเราะออกมา

ซ่งเจิงหัวเราะจนหายใจไม่ทัน “ฮ่าๆๆ! เฮ้อ! ฮ่าๆๆ… หัวเราะอะไรไอ้น้อง? ฮ่าๆๆ!”

ฉู่อี้หัวเราะน้ำหูน้ำตาไหล “ไม่รู้เหมือนกัน... ฉันแค่อยากหัวเราะเฉยๆ”

ลิงผอมหัวเราะสุดเสียง “รู้สึกกันไหม ว่าพวกเราเหมือนคนบ้าเลยว่ะ…”

พี่ใหญ่กุ้ยหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดของลิงผอม เขามองไปยังขนมเปี๊ยะสีแดงทางทิศตะวันตกพร้อมกับแลบลิ้นเลียริมฝีปาก “จะได้กินข้าวแล้ว มีความสุขจังเลยโว้ย!”

ฉู่อี้ปาดน้ำตาที่ไหลออกมา “ใช่เลย! กินข้าวกัน! ดีใจชะมัด!”

ซ่งเจิงถีบก้นของพี่ใหญ่กุ้ยพร้อมเอ็ดลั่น “ไอ้ตะกละ!”

พี่ใหญ่กุ้ยมองดูขนมเปี๊ยะทางทิศตะวันตกอีกครั้ง เขาไม่สนใจคำด่าของซ่งเจิงในเวลาที่ท้องร้องดังลั่นเหมือนมีกลองศึกอยู่ข้างในแบบนี้หรอก

ลิงผอมลุกขึ้นกวาดสายตาไปรอบๆพลางใช้มือปัดฝุ่นที่ก้นของตัวเอง ก่อนชี้ไปทางทิศใต้ “ไปทางนั้นกันเถอะพวกเรา”

ซ่งเจิงลุกขึ้นปัดฝุ่นออกจากมือ และดึงพี่ใหญ่กุ้ยให้ลุกขึ้นตาม “ได้ ไปทางนั้นกัน”

พี่ใหญ่กุ้ยมองขนมเปี๊ยะที่ลับขอบฟ้าไปแล้วครึ่งหนึ่งด้วยสายตาละห้อยพลางกลืนน้ำลายลงคอ

ส่วนฉู่อี้จ้องมองภาพแสงสุดท้ายของวัน ที่ย้อมหมู่เมฆให้เป็นสีแดงเพลิงตาไม่กะพริบ “สวยจริง ๆ ไม่รู้ว่าต่อไปจะมีโอกาสเห็นมันอีกหรือเปล่า”

ซ่งเจิงยื่นมือให้ “มีสิ ต้องมีโอกาสอีกแน่นอน” ฉู่อี้มองมือสกปรกของซ่งเจิงก่อนจะยิ้มแฉ่งอวดฟันขาวสะอาดจนอีกฝ่ายตาพร่า เขาจับมือซ่งเจิงลุกขึ้นยืนด้วยแววตาเปล่งประกายราวกับทองยี่สิบสี่กะรัต

ทั้งสี่เดินต่อไปไม่ไกลจนถึงสถานที่นัดพบ ลิงผอมมียศเป็นนายพลส่วนซ่งเจิงและพี่ใหญ่กุ้ยเป็นเพียงนายทหารธรรมดา พวกเขาเริ่มตั้งค่ายกันอย่างเรียบง่าย ฉู่อี้ที่เฝ้ามองอยู่นั้นอยากร่วมวงด้วยใจแทบขาด ลิงผอมที่เหลือบไปเห็นจึงพยักหน้าอนุญาตด้วยความขบขัน

ยังไม่ทันที่ลิงผอมจะได้พักหายใจ ซ่งเจิงและฉู่อี้ก็เริ่มส่งเสียงโหวกเหวกทันที เมื่อเขาหันไปมองกลับต้องโมโหยิ่งกว่าเดิม ซ่งเจิงเป็นตัวป่วน ฉู่อี้ก็เป็นตัวป่วน และเมื่อป่วนกับป่วนมาเจอกันย่อมทำให้ความวุ่นวายทวีคูณยิ่งขึ้น!

กระโจมชั้นดีกลายสภาพเป็นก้อนกลมจนลิงผอมต้องตะโกนด่าออกมา “พวกนาย! ไปเก็บผักเก็บปลาเลยไป!”

ซ่งเจิงและฉู่อี้ย่นคอลงพลางถอนหายใจอย่างปลงตก “เหมือนโลกนี้กำลังหัวเราะเยาะเย้ยฉันอยู่เลย”

ทั้งสองหันมามองหน้ากันด้วยความประหลาดใจก่อนโผเข้ากอดกันทันที “เพื่อนรู้ใจ!”

ลิงผอมได้แต่หัวเราะอย่างเอือมระอา “เหอะๆ …”

เด็กไร้ประโยชน์ทั้งสองคน วิ่งไปยังป่าใกล้เคียงเพื่อหาผลไม้

ซ่งเจิงมองดูผืนป่าตรงหน้าพลางเกาหัวไปมา “นายรู้เหรอ ว่าอะไรกินได้กินไม่ได้?”

ฉู่อี้พยักหน้าและยกมือลูบคางอย่างใช้ความคิด “ฉันไม่รู้…”

ซ่งเจิงเงยหน้ามองท้องฟ้า เขาไขว้มือไว้ด้านหลังก่อนพึมพำออกมา “เฮ้อ… เมื่อก่อนฉันก็พอรู้อยู่หรอก แต่โลกนี้มันเปลี่ยนไปมากแล้ว จนตอนนี้ฉันไม่รู้อะไรเลย”

ฉู่อี้ยกมือขึ้นกอดอก “บางที นี่อาจเป็นโอกาสให้เราได้ทำความรู้จักกับโลกใบนี้ใหม่อีกครั้ง…”

แววตาของซ่งเจิงเปล่งประกายขึ้นมาทันที “สุดยอด นายพูดได้ดีนี่! พูดดีจริงๆ!”

ฉู่อี้โบกมือไปมาอย่างเขินอาย “ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า…”

ลิงผอมกัดฟันแน่น “นี่คือสาเหตุที่พวกนายกลับมามือเปล่างั้นเหรอ?”

ซ่งเจิงส่ายหน้า “ลมพัดน้ำตาของฉันไปหมดแล้ว นายเลยไม่เห็นว่าฉันซาบซึ้งกับคำพูดนั้นแค่ไหน”

ฉู่อี้ช่วยเสริม “ใช่! ถ้อยคำเพราะๆแบบนี้ก็มีไว้สำหรับคนประเสริฐเท่านั้นแหละ ชาวโลกธรรมดาไม่เข้าใจหรอก!”

ลิงผอมรู้สึกเลี่ยนจนแทบอาเจียนกับคำพูดไร้สาระของทั้งสองคน ออกไปด้วยกันไม่ทันไร กลับมาก็เป็นบ้าไปแล้ว! ไม่อยากเชื่อว่าเด็กพิลึกสองคนมารวมตัวกันจะเป็นเอามากขนาดนี้!

ซ่งเจิงและฉู่อี้เห็นท่าทางคลื่นไส้ของลิงผอมจึงรีบนำเห็ดที่เก็บได้ออกมาแย่งกันอวดทันที “นายดูนี่สิ! ดูนี่! เห็ดของฉันดูดีกว่าของเขาอีก!” ลิงผอมส่ายหัวทันทีที่เห็นเห็ดเหล่านั้นก่อนจะดึงกริชออกมา...

ซ่งเจิงกำลังทำอาหารจากผักผลไม้ป่าที่พี่ใหญ่กุ้ยเก็บมาได้พลางบ่นพึมพำ ใบหน้าของเขาเป็นสีเขียวคล้ำและบวมตุ่ยเพราะรอยฟกช้ำ “ฉันก็แค่ล้อเล่นเอง…”

ฉู่อี้ที่อยู่อีกด้านกำลังดิ้นรนแก้เชือกที่มัดมือทั้งสองข้างเอาไว้ “ฮึบ… ฮึบ… ฮึบ…” เขาพยายามคายเห็ดพิษหลากสีที่ถูกจับยัดใส่ปากออกมา ลิงผอมแสยะยิ้มพลางหยิบกริชขึ้นมาวางไว้ข้างตัว

เมื่อซ่งเจิงเห็นท่าทางของฉู่อี้ที่กำลังถูกวางยาพิษอย่างน่าอนาถ ก็รีบผัดข้าวต่อด้วยความหวาดกลัว

ซ่งเจิงนอนลงข้างฉู่อี้หลังกินอิ่มจนพุงกาง เขาทอดสายตามองดวงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับบนท้องฟ้าอย่างสบายใจ ฉู่อี้ที่กำลังแคะฟันอยู่เอ่ยชมขึ้น “พี่ซ่งผัดข้าวได้อร่อยมาก!”

ซ่งเจิงลูบท้องตัวเองอย่างพึงพอใจ “งั้นเหรอ? ฉันเคย…” จู่ๆเขาก็หยุดพูดและหันไปจ้องมองท้องฟ้าที่พร่างพราวไปด้วยหมู่ดาว “สวยจริงๆ …”

ฉู่อี้ไม่ได้สนใจคำตอบไม่ชัดเจนของซ่งเจิงก่อนหน้านี้ เขาใช้มือหนุนหัวตัวเองนอนดูดาวเช่นกัน “ใช่ สวยมาก… ฉันเคยได้ยินมาว่า ถ้าเราอธิษฐานกับดวงดาวเหล่านี้อย่างตั้งใจ พวกเขาจะได้ยินคำขอของเรานะ…”

ซ่งเจิงยิ้ม “งั้นเรามาลองกันเถอะ…”

ฉู่อี้ลุกขึ้น เขามองไปยังซ่งเจิงก่อนหันไปมองดวงดาวที่ลอยเต็มฟ้า “ได้เลย!”

เมื่อพูดจบเด็กหนุ่มก็หลับตาลงพร้อมกุมมือทั้งสองข้างไว้ที่อก

ซ่งเจิงเองก็หลับตาลงพลางอธิษฐานเงียบๆในใจ เขาอยากกลับไปพบหลี่ว่านหลู อยากเป็นหัวหน้าในค่ายแห่งนี้ และที่สำคัญที่สุด… ขอให้พวกเขาจัดการสุนัขกลายพันธุ์ได้สำเร็จ ขอให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข นับจากวันนี้ไปอย่าได้พบเจอความหวาดกลัว และขอให้มีอาหารกินอิ่มท้อง

เมื่อซ่งเจิงลืมตาขึ้นอีกครั้งจึงเห็นว่าฉู่อี้กำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า ซ่งเจิงลูบหน้าตัวเองก่อนถามออกไปด้วยความสงสัย “ทำไม? หน้าฉันมีอะไรติดอยู่รึไง?”

ฉู่อี้ตั้งสติ แววตาของเขาทอประกายวูบไหว “พี่ซ่ง… ดวงดาวช่างสวยเหลือเกิน ดวงจันทร์ก็ด้วย”

ซ่งเจิงหลุดยิ้ม “เด็กโง่ มันก็สวยไปหมดนั่นแหละ…”

ฉู่อี้ได้แต่เกาหัว และส่งยิ้มยิงฟันสดใสมาให้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด