บทที่ 60 กระแสน้ำเชี่ยว (5)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 60 กระแสน้ำเชี่ยว (5)
หลังจากนั้น
ความโกลาหลของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' เมื่อวันจันทร์ที่สะเทือนไปทั้งโลกได้ผ่านพ้นไปแล้ว แน่นอนว่าความนิยมของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ยังคงมีอยู่ อันที่จริงมันยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นทั้งในสื่อ ทั้งความคิดเห็นของคนดู
แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกไม่กี่วันก่อนที่ตอนที่ 3 จะออกอากาศ แต่เรตติ้งผู้ชม 23% ที่น่าประหลาดใจก็ได้ทำให้เกิดพาดข่าวอย่างแน่นอน เกิดการพูดคุยถึงเรื่องนี้กันหลายครั้ง ใน SNS คำว่า 'ผู้เชี่ยวชาญนิติจิตวิทยา' ก็ปรากฏบ่อยครั้ง โพสต์ยอดนิยมในบล็อกและคาเฟ่ออนไลน์ต่าง ๆ ก็เกี่ยวกับเรื่องผู้เชี่ยวชาญนิติจิตวิทยาทั้งนั้น
YouTube เองก็เต็มไปด้วยเนื้อหาเหล่านี้เช่นกัน
-!วิเคราะห์เจาะลึก 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ตอนที่ 1! คุณเจอคำใบ้เหล่านี้ไหม??!!||ดราม่าแมนTV
YouTuber จำนวนมากต่างก็วิจารณ์และวิเคราะห์ละครเรื่อง 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล'
นั่นแหละคือเทรนด์ตอนนี้
เมื่อละครดังโด่งดัง ทุกสิ่งทุกอย่างก็ค่อย ๆ ถูกกระแสพัดพาไป ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นหรือการถ่ายทอดสด สาระสำคัญยังคงเหมือนเดิม มีเพียงเนื้อหาเท่านั้นที่แตกต่างกัน คนดูน่ะมักปรารถนาสิ่งที่สดใหม่อยู่เสมอ
ส่วนครั้งนี้คือ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' เท่านั้นเอง
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ความนิยมของตัวละครรองหัวหน้าพัคจะพุ่งสูงขึ้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้ชมเริ่มพูดคุยเรื่องเขากันมากขึ้นแล้ว หน้าหล่อเหลาอย่างเดียวคงไม่พอ ทักษะการแสดง บรรยากาศ และเนื้อเรื่องก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ถ้าแค่หน้าตาดี มันก็คงเป็นเหมือนไอซิ่งบนเค้ก
ซึ่งคังวูจินนั้นมีคุณสมบัติเหล่านี้ทั้งหมด
แม้ว่าไอ้สิ่งที่เขามีจะไม่ได้อยู่ในระดับสูงเป็นเลิศ แต่เขาก็มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ทั้งหมด
แถมยิ่งไปกว่านั้น
-พอดูละครทั้งทางทีวีและทาง YouTube แล้ว…ก็ทำให้รู้เลยว่าการแสดงของรองหัวหน้าพัคนั้นน่าประทับใจเป็นอยา่งมาก…..
เมื่อพูดถึงการแสดงแล้ว หน้าใหม่อย่างคังวูจินที่รับบทเป็นรองหัวหน้าพัคมีความโดดเด่นอย่างมาก ทักษะของเขาได้รับเสียงชื่นชมมากมาย กระทั่งจากนักวิจาร์ณก็ยังเอ่ยชมเลย
-ฮ่า ๆ พูดตามตรงนะ ฉันไม่ชอบละครของพัคอึนมีเลยสักนิด แต่รองหัวหน้าพัคสุดยอดมาก ฮ่า ๆ
คนที่มีความสุขกับสถานการณ์เช่นนี้ ช่างน่าประหลาดใจที่กลับไม่ใช่คังวูจิน แต่เป็นคนรอบข้างที่รู้จักเขาต่างหาก ยกตัวอย่างเช่น คิมแดยัง ผู้ซึ่งกำลังจะทำงานอยู่ในบริษัท
“ดูหมอนี้สิ? อะไร? การแสดงของคังวูจินมันดูน่าอึดอัดใจเหรอ? ตาถั่วหรือไง? แกกล้าโพสต์ความคิดเห็นเชิงลบแบบนี้ได้ยังไง? เอาโหวตแย่ไปเลย!”
กิจวัตรประจำวันของคิมแดยังเริ่มต้นด้วยการค้นหา 'คังวูจิน' แน่นอนว่าเพื่อนสนิทของเขาทั้งสามคนก็ทำเช่นเดียวกัน
“แท็บลอยด์พวกนี้เอาอีกแล้ว เผยแพร่แต่ข่าวลือที่ไม่มีมูล อะไร? คังวูจินเป็นลูกครึ่งเกาหลีญี่ปุ่นเหรอ? ไร้สาระ เขาเป็นคนเกาหลีโดยกำเนิดล้วน ๆ ไม่รู้หรือไง คนเกาหลีโว้ย”
ทั้งสามคนสนุกกับมันมากกว่าคังวูจินเสียอีก จากนั้นคิมแดยังก็เข้าไปยังโฮมเพจของบีดับเบิลยูเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของวูจิน เขามาดูว่ามันมีการอัปเดตใหม่หรือเปล่า สาเหตุเพราะพวกเขาอัปเดตไวกว่ารอวูจินมาตอบข้อความ
จากนั้นเอง
"หือ?"
คิมแดยังได้พบบางสิ่งบางอย่าง
“…ประกาศรับสมัครงานงั้นเหรอ?”
มันเป็นประกาศจากบีดับเบิลยูเอนเตอร์เทนเมนต์ที่ต้องการจ้างพนักงานใหม่
ในขณะเดียวกัน ก็มีอีกคนหนึ่งที่พบเจอเรื่องคล้ายกัน น้องสาวของคังวูจิน คังฮยอนอา
"ว้าว! มีเรื่องพี่อยู่ตามเน็ตเต็มไปหมดเลย!”
สิ่งแรกที่เธอทำในตอนเช้าคือท่องเน็ต และแน่นอนว่าเธอกำลังตามหาเรื่องพี่ชายของเธอ
“พี่เริ่มใช้ SNS แล้วด้วยซ้ำ ปกติไม่เคยทำแบบนั้นมาก่อนเลยนิ?”
ซึ่งมันก็สมเหตุสมผลที่เธอมาทำอะไรเช่นนี้ เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน ไม่มีข่าวเกี่ยวกับพี่ชายของเธอเลย แต่ตอนนี้มันกลับเต็มอินเทอร์เน็ตไปหมด หลาย ๆ คนพูดถึงคังวูจินบน YouTube ฟอรั่มชุมชนและแพลตฟอร์มมากมาย อารมณ์ในใจของคังฮยอนอาเริ่มคุกรุ่นในใจ
เธอทั้งตื่นเต้น แต่ก็รู้สึกว่ามันเหมือนฝัน
“อิ๊ว! ภาพนี้มันอะไร? อย่าไปดูแบบจริงจังขนาดนั้นสิ!”
บังเอิญว่าหลังจากดู 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' เพื่อนของคังฮยอนอาก็กลายเป็นแฟนคลับของคังวูจินไปแล้ว ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ฮยอนอาและเพื่อน ๆ ของเธอพบกัน พวกเธอก็เริ่มพูดถึงเรื่องวูจิน
“ฮยอนอา! พี่วูจินเขาอัพเดท SNS ของเขาแล้ว!”
“ฉันรู้น่า ฉันเองก็มีตามองอยู่ อิ๊ว แหยะชะมัด”
"อะไรเล่า? เขาดูดีมากเลยไม่ใช่เหรอ? จะว่าไปพี่วูจินไม่ได้ทำโปรเจคเรื่องใหม่เลยเหรอ? ไม่มีข่าวบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการหรือ SNS เลยนะ”
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาไม่ตอบข้อความของฉันเลย”
ในขณะนั้นเอง เพื่อนคนหนึ่งของเธอก็ปรบมืออย่างตื่นเต้น
"โอ้จริงสิ! กลุ่มแฟนคลับ! ยังไม่มีกลุ่มแฟนคลับอย่างเป็นทางการของพี่วูจินใช่ไหม? เราสร้างมันขึ้นมาเลยดีหรือเปล่า? ฮยอนอา เธอควรเป็นตัวแทนนะ”
คังฮยอนอาเว้นระยะห่างครู่หนึ่ง จากนั้นด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอจึงคล้ายครุ่นคิดบางอย่างขณะเท้าคางของเธอ
“แบบนั้นก็ฟังดูดีมั้ง?”
ในเวลาเดียวกัน บนโลกของอินเทอร์เน็ต
-พูดอะไรกัน? ฮ่า ๆ ฉันประหลาดใจจริง ๆ นะ! คังวูจินแสดงเนี่ยนะ? ตอนเราอยู่มัธยมปลาย เขาไม่ได้สนใจการแสดงด้วยซ้ำ ฮ่า ๆ
เพื่อนที่ถูกคังวูจินลืมเริ่มปรากฏตัวขึ้นทีละคน
สองวันต่อมาคือ วันพุธที่ 20
ในช่วงเวลาอาหารกลางวัน คังวูจินอยู่ในร้านอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิมระดับไฮเอนด์ใกล้กับสถานีซินซา มีคนจำนวนไม่น้อยเลยนั่งอยู่ตรงข้ามเขาที่โต๊ะยาวพร้อมแว่นตา คังวูจินสวมชุดขนแกะสีดำอยู่กับชเวชองกุน และอยู่ตรงข้ามพวกเขา
“ขอบคุณที่สละเวลามานะคะ คุณวูจิน คุณคงยุ่งมากเลย”
กลุ่มที่อยู่ตรงข้ามกับวูจินมีสี่คน หนึ่งในนั้นคือผู้หญิงร่างอวบอ้วน เธอเป็นผู้กำกับชื่อ คิมโดฮี ผมของเธอดูหยิก และเธอก็ดูมีท่าทางแข็งกระด้างด้วย เธอน่าจะอยู่ช่วง 40 กลาง ๆ ใช่ไหมนะ? และอีกสามคนมาจากบริษัทผู้ผลิตที่สร้างภาพยนตร์เรื่อง 'พ่อค้ายาเสพติด'
การประชุมครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง 'พ่อค้ายาเสพติด'
“สวัสดีครับคุณผู้กำกับ ยินดีที่ได้รู้จัก”
คิมโดฮี ผู้กำกับที่อยู่โต๊ะตรงข้าม รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับคำทักทายที่ไร้อารมณ์ของวูจิน
“ฉันเห็นคุณวูจินเยอะเลยใน 'เทศกาลภาพยนตร์สั้น' แน่นอนว่าคงมีแค่ทางฝั่งฉันอยากได้ตัวคุณ แต่คุณดูสงบกว่าที่ฉันคิดไว้มากเลยนะคะ”
“ผมก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วล่ะครับ”
“เสียงของคุณค่อนข้างนุ้มลึกมากเลย ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะแนวของภาพยนตร์เสียอีก แต่คุณดูจะเงียบกว่านั้นซะอีกนะคะ”
ด้วยเหตุนี้ ชเวชองกุนจึงเตรียมรอยยิ้มทางธุรกิจประดับบนใบหน้า
“วูจินของเราเป็นคนที่นิ่ง ๆ เงียบ ๆ แบบนี้อยู่แล้วแหละครับ แต่เมื่อเขาแสดง เขาจะเปลี่ยนตัวเองไปโดยสิ้นเชิงเลย”
“ฉันรู้ค่ะซีอีโอชเว ฉันก็ดูเรื่อง 'สำนักงานนักสืบ' อยู่ การได้พบกับวูจินต่อหน้ามันเลยทำให้ฉันประหลาดใจมาก คิมรยูจินเป็นตัวละครที่มีนิสัยค่อนข้างเลินเล่อและอวดดี ส่วนรองหัวหน้าพัคก็เป็นคนโรคจิตและต่อต้านสังคม ตัวละครคุณคังวูจินเล่นนั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก แต่ก็สใจริงทุกตัว เป็นเรื่องยากมากเลยนะคะที่จะเห็นนักแสดงสามารถทำอะไรแบบนี้ได้”
"ฮ่า ๆ คิดเหมือนกันเลยใช่ไหมครับ? เขาน่ะดูดีทุกชุดที่ใส่เลย การแสดงของเขาก็ไม่ต่างกันสักนิด”
“······”
ผู้กำกับคิมโดฮีพยักหน้าช้า ๆ และจ้องมองไปยังใบหน้าของคังวูจินอย่างเขม็ง
‘ยิ่งมองใกล้เท่าไหร่ มันก็ยิ่งรู้สึกเหมือนถลำลึกลงไปเท่านั้น นี่คงจะเป็นเสน่ห์ตามธรรมชาติของเขาสินะ'
ส่วนทางด้านคังวูจินก็ยิ้มด้วยใบหน้าที่ไม่แยแสอะไร
'ทำไมเธอถึงจ้องมองเขม็งแบบนี้เล่า? มันไม่ใช่การแข่งขันจ้องตานะเฮ้ย…'
เมื่อเห็นวูจินเป็นแบบนี้ ผู้กำกับคิมโดฮีที่มั่นใจก็ถอนหายใจออกมา
“ฮู๊ พอได้มาเห็นคุณตัวเป็น ๆ ก็ดูว่าจะเข้ากันได้ดีมากเลยนะคะ ฉันยิ่งโลภอยากได้คุณมากขึ้นไปอีก คุณวูจิน”
จากนั้นคำถามก็ได้ออกมาจากปากคังวูจิน
“ที่ว่าเข้ากันได้ดีหมายถึงอะไรกันครับ?”
“······ให้ฉันพูดอย่างตรงไปตรงมาเลยนะคะ ถึงสถานการณ์ในภาพยนตร์เรื่อง 'พ่อค้ายาเสพติด' ของเรา อย่างที่ทราบกันดีว่าเรากำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำ แน่นอนว่าบทบาททั้งหมดได้ผ่านการคัดเลือกแล้ว และไม่มีปัญหาใหญ่เลยจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ เป็นเรื่องของโอจุนอูนะคะ”
“อุบัติเหตุทางรถยนต์สินะครับ?”
เมื่อมาถึงจุดนี้เอง ชเวชองกุนก็พูดออกมา
“ผมคิดว่าผมเคยเจอข่าวนี้อยู่ เป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ของคุณโอจุนอู”
ผู้กำกับคิมโดฮีพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า
"ใช่แล้วค่ะ แขนขวาของเขาหักเนื่องจากอุบัติเหตุครั้งนั้น มันทำให้ฉันแทบบ้าเลยเมื่อคิดถึงเรื่องนี้”
“เนื่องจากอุบัติเหตุของคุณโอจุนอู เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกกองไป ที่จริงคุณจุนอูควรจะแสดงบทรับเชิญนั้นค่ะ”
“ถึงมันอาจจะถูกเรียกได้ว่าเป็นนักแสดงรับเชิญ แต่มันก็เป็นบทบาทที่สำคัญมาก จริง ๆ แล้วทั้งบริษัทผู้ผลิตและฉันต่างก็ตกใจมาก แต่จากนั้นฉันได้บังเอิญไป 'เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซง' และได้พบกับคุณวูจินเข้า อีกอย่างคือ ฉันเห็นคุณวูจินพูดภาษาญี่ปุ่นได้คล่อง มันน่าทึ่งมากเลยนะคะ”
เมื่อได้ยินชื่อของเขา คังวูจินก็ตอบด้วยเสียงต่ำ
“แต่ว่าบทรับเชิญส่วนใหญ่มีการพูดภาษาญี่ปุ่นน้อยมากเลยนะคะ”
ผู้อำนวยคิมโดฮียิ้มอย่างขมขื่น
“คุณอ่านบทไปแล้วใช่ไหมคะ? ต้องขอบคุณเลยนะคะ บทบาทรับเชิญนี้เป็นตัวละครที่มีความสัมพันธ์ทั้งในเกาหลีและญี่ปุ่น เขาจึงต้องพูดภาษาเกาหลีและญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ คังวูจินก็เริ่มเข้าใจสถานการณ์
“ผมพอเข้าใจสถานการณ์แล้วครับ”
“โอ้ ที่จริงไม่ใช่แค่ภาษาญี่ปุ่นของคุณเท่านั้นนะคะที่ทำให้เราประทับใจ การแสดงของคุณก็ยอดเยี่ยมมาก ไม่สิ มันถึงขั้นสุดยอดไปเลย ความยากในการแสดงสำหรับบทบาทรับเชิญนี้ค่อนข้างสูง ทั้งต้องแสดงอาการติดยาและความเสน่ห์ของเจ้าคนนายคน ถ้าดูตัวประวัติเนื้อเรื่องตัวละคร มีหลายจุดให้ต้องฝึกเยอะเลยล่ะค่ะ”
“……”
“พอฉันเติมแต่งตัวละครเข้าไปอีก มันจึงแทบเป็นการยากที่จะมีคนมารับบทนี้ได้ นอกจากความยากในเรื่องภาษาญี่ปุ่นแล้ว บทบาทนี้ยังต้องอาศัยความคุ้นชินแสดงนอกบทด้วย ซึ่งเรากำลังจะหมดเวลาแล้ว”
“คุณวางแผนจะถ่ายฉากรับเชิญนี้เมื่อไหร่เหรอครับ?”
“…หากเราดันไปจนถึงคัตสุดท้าย มันคงจะใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือนค่ะ แต่มีตัวละครค่อนข้างน้อยที่เกี่ยวข้อง เพราะงั้นเราสามารถเริ่มถ่ายทำภายใน 3 สัปดาห์”
ทันทีที่เขาได้ยินคำตอบ ชเวชองกุนก็ส่ายหัวเล็กน้อยราวกับว่ามันเป็นไปไม่ได้
"สามสัปดาห์เหรอครับ? นั่นอาจจะยากไปหน่อยนะ โดยเฉพาะการถูกโยนเข้ากองถ่ายกะทันหันแบบนี้”
รอยยิ้มอันขมขื่นของผู้กำกับคิมโดฮีปรากฏลึกยิ่งขึ้น ราวกับว่าเธอเองก็ไม่เชื่อด้วยซ้ำว่ามันเป็นไปได้
"ใช่ค่ะ ดังนั้นเราจึงพยายามตัดส่วนภาษาญี่ปุ่นหรือเปลี่ยนประวัติของตัวละคร ๆ ออกไป แต่นั่นเหมือนฆ่าส่วนของตัวละครรับเชิญเลย ซึ่งมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น โอกาสที่จะได้คุณวูจินที่กำลังดาวรุ่งพุงแรงมาแสดงยิ่งยากเข้าไปอีก”
ในไม่ช้า ผู้จัดการฝ่ายผลิตที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอก็ถอนหายใจยาว
“คุณผู้กำกับ ผมคิดว่าคุณควรตัดบทบาทนั้นออกไปนะครับ”
"ค่ะ ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เราต้องหยุดการถ่ายทำและแก้ไขตัวบทกันก่อน”
"คุณผู้กำกับ"
ในขณะนั้นเอง เสียงที่หนักแน่นของคังวูจินก็ดังก้อง
“ผมคิดว่าผมทำได้ครับ”
ทุกสายตาเบิกกว้าง ยกเว้นวูจิน แต่สำหรับวูจิน ความคิดในหัวเขาคือ...
'3 สัปดาห์เหรอ? นานชะมัด ให้เวลาฉันแค่ 3 วันก็เหลือเฟือแล้ว'
สามสัปดาห์ถือว่าเกินพอมากแล้ว หากถูกขอ เขาสามารถเริ่มตั้งแต่วันนี้เลยยังได้ เพราะเขามีมิติว่างเปล่า แล้วต้องแสดงเฉพาะหน้างั้นเหรอ? มีอะไรต้องกลัว? นักแสดงส่วนใหญ่อาจจะวิตกกังวลเรื่งนี้กัน แต่คังวูจินผู้ซึ่งรับภาระหนักหนาในบริษัทออกแบบไม่มีสิ่งใดให้ต้องกลัว
'ให้แสดงรับบทด้นสดเองแล้วไง? เมื่อฉันแสดง เวทีก็เป็นของฉัน'
แล้วนี่จะตัดประวัติตัวละครหรือส่วนของตัวละครออกอีกเนี่ยนะ? วูจินคิดว่าการไม่รับบทบาท 'พ่อค้ายาเสพติด' นี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่โง่ คะแนนระดับ B+ และภาษาญี่ปุ่นถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะกับเขานัก สำหรับนักแสดงรับเชิญ ระยะเวลาในการถ่ายทำสั้นไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลย
'ก็ในเมื่อระดับ A หรือ S มันไม่ีมให้แล้ว ก็ต้องเอาไอ้นี้แหละ'
บางทีมันอาจจะเพิ่มจากระดับ B+ ได้ด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้ คังวูจินจึงกล่าวออกไปว่า
“ผมจะรับหน้าที่เป็นตัวละครรับเชิญเองครับ ผู้กำกับ”
เขาตัดสินใจรับบทบาทในเรื่อง 'พ่อค้ายาเสพติด' ด้วยเหตุนี้ ผู้กำกับคิมโดฮีและทีมงานฝ่ายผลิตถึงกับตกตะลึง ส่วนทางด้านชเวชองกุน ผู้คุ้นเคยกับพฤติกรรมประหลาด ๆ ของวูจิน กลับคิดว่า...
'วูจินคงจะสัมผัสอะไรบางอย่างจากเรื่อง 'พ่อค้ายาเสพติด' นี้ได้สินะ สัญชาตญาณอันบ้าคลั่งของเขามันโผล่มาอีกแล้ว'
เขายิ้มอย่างซุกซนและถามผู้กำกับคิมโดฮีโดยตรงทันที
“คุณผู้กำกับ คุณคิดที่จะจ่ายเงินให้วูจินสำหรับบทบาทนี้เท่าไรเหรอครับ? แถมอย่าลืมนะครับว่าเขาต้องเข้าร่วมภายใต้สถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้อีก?”
การเจรจาเรื่องค่าจ้างได้เริ่มขึ้นแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่บีดับเบิลยูเอนเตอร์เทนเมนต์
ในวันที่ 21 หนึ่งวันก่อนการถ่ายทำรายการวาไรตี้ 'สปอร์ตเดย์' บน YouTube เพื่อใช้โปรโมต 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' เมื่อพนักงานทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับการทำงาน ทางทีมชเวชองกุนและคังวูจินก็เข้ามาในสำนักงาน หลังจากนั้น จางซูฮวานและฮันเยจุงก็เข้าไปหาสมาชิกในทีมประชาสัมพันธ์ ทางด้านชเวชองกุนที่ดูเหนื่อยล้าจึงกล่าวไปว่า
“เฮ้อ เหนื่อยชะมัดยาก”
เขาเดินมุ่งตรงไปยังห้องทำงานของซีอีโอ ที่นี่ไม่มีวูจินอยู่ บางทีเขาอาจจะเข้าห้องน้ำ ขณะที่ชเวชองกุนเปิดประตูสู่ห้องทำงานของซีอีโอนั้นเอง
"คุณซีอีโอ!"
หัวหน้าทีมถ่ายทำพุ่งเข้าไปหาชเวชองกุนอย่างเร่งรีบ
“เรามีปัญหาแล้วครับ ถึงผมจะส่งรายงานขึ้นไปแล้ว แต่มีเรื่องเร่งด่วนที่คุณต้องทราบตอนนี้เลย เริ่มต้นด้วยเรื่องการจ้างพนักงานใหม่ครับ”
“เอ่อ อา พูดมาได้เลย”
“มีผู้สมัครเข้ามาจำนวนมาก เราควรกำหนดเวลาการสัมภาษณ์ตอนไหนดีครับ?”
“อืม ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากจะเข้าร่วมด้วยแฮะ งั้นเราจะปิดประกาศรับสมัครงานในสัปดาห์หน้าแล้วค่อยจัดการสัมภาษณ์ขึ้น ฉันจะบอกให้นายทราบถึงกำหนดการที่แน่นอน หลังจากตรวจสอบตารางของวูจินแล้วกันนะ”
"ครับ ครับ แล้วก็เราได้รับคำขอให้ต่ออายุสัญญาการเป็นนางแบบแบรนด์เสื้อผ้าของฮเยยอนด้วยครับ”
“เธอบอกว่าเธอโอเคกับมัน ขยายเวลาออกไปได้เลย แต่ขอให้รักษาเงื่อนไขเดิมไว้และขอโบนัสการเซ็นสัญญาที่สูงขึ้นด้วย”
"รับทราบครับ!"
หัวหน้าทีมตอบอย่างรวดเร็วและชี้ไปยังปึกกระดาษบนโต๊ะสำนักงาน
“ของพวกนี้ส่งมาให้คุณวูจินครับ เราได้รับพวกบทเพิ่มมาเยอะเลยตั้งแต่วันก่อน มีเว็บซีรีส์และละครเพลงอยู่ด้วยนะครับ”
“อืม ก็ดีนะ”
"แต่ว่า..."
ทันใดนั้น หัวหน้าทีมก็ยกบทสองตัวขึ้นมาจากกองคล้ายต้องการบอกอะไรบางอย่าง
“สองเรื่องนี้ค่อนข้างใหญ่เลยครับ”
"ใหญ่เหรอ? เรื่องไหน? ขอดูหน่อยซิว่าใครเป็นคนเขียน?”
“หนึ่งในนั้นคือบทโดยนักเขียนลีวอลซอนครับ”
ชเวชองกุนผู้ซึ่งกำลังจะเปิดกองกระดาษ ถึงตกตะลึงและเบิกตากว้าง
“ลีวอลซอน? เธอส่งบทมาให้เหรอ?”
"ครับ ใช่ครับ สถานีที่ออกอากาศคือ KBC คุณรู้ใช่ไหมครับ CP ซออยู่ที่นั่น”
“CP ซอ? อ๋อ ผู้ชายที่มีหน้าดูเหมือนแรคคูนสินะ”
"ใช่เลยครับ CP ซอโทรมา เขาดูตื่นเต้นมากเลย เขาบอกว่าพวกเขาสามารถจับตัวลีวอลซอนมาเขียนเรื่องให้สถานีเขาได้”
“·····ลีวอลซอนอยากได้ตัววูจินสินะ นี่เป็นข่าวใหญ่แล้วสิ ถ้าเราเปลี่ยนจากพัคอึนมีมาเป็นลีวอลซอน มันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างล่ะเนี่ย?”
“สื่อคงจะคลั่งแน่ครับ แถมตอนนี้คุณวูจินกำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในฐานะรองหัวหน้าพัคอีก”
รอยยิ้มของชเวชองกุนบาดลึกซึ้งยิ่งขึ้น เขาลูบคางของตนพลางครุ่นคิด
'ก็สมเหตุสมผลแล้วที่ลีวอลซอนคนขี้อิจฉาจะสนใจวูจิน เธอคงนึกอิจฉาพัคอึนมี แต่ว่าเรื่องนี้ก็น่าประหลาดใจมาก ลีวอลซอนมีชื่อเสียงที่ไม่ชอบใช้หน้าใหม่ เว้นแต่จะจำเป็นจริง ๆ '
ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม มันก็ถือเป็นข่าวดีสำหรับพวกเขา ข่าวดีจนอาจควรค่าให้เริ่มฉลองได้เลย ดังนั้นหลังจากแยกบทของลีวอลซอนออกไปแล้ว ชเวชองกุนก็ชี้ไปยังกระดาษอีกกองหนึ่ง
"แล้วอีกอันล่ะ?"
“อา เป็นบทที่ด้อยกว่าของนักเขียนลีวอลซอนอยู่หน่อยครับ มันมาจากผู้ช่วยนักเขียนของคุณนักเขียนพัคอึนมี”
“โอ้ ค่อนข้างยุ่งยากแล้วสิ”
“ใช่เลยครับ เพราะเราเคยร่วมงานกันแล้ว หากเมินไปคงรู้สึกผิดแย่ ยิ่งกว่านั้น มันเป็นละครตอนเดียวด้วยครับ”
“เอ๊ ละครตอนเดียวเหรอ? ชิ ถ้าเป็นละครตอนเดียวจากผู้ช่วยนักเขียน ก็ถือว่าเป็นบทที่อาจดูไม่แน่นอนสำหรับวูจินเลย แต่ถ้ามีนักเขียนพัคอึนมีเข้ามาเกี่ยวข้อง มันก็จะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากแล้วสิ”
“แต่สิ่งที่ดีของตัวบทเรื่องนี้ก็คือ บทนี้มาจากทีมสร้างสรรค์ของ Netflix ครับ”
“Netflix เหรอ? ทำไมถึงกระโดดข้ามขั้นไปตรงนั้นได้กันล่ะ?”
“พวกเขาชนะการแข่งขันมาครับ”
“หา จริงเหรอ? อ๊า ฉันจำได้ว่าเคยได้ยินเเรื่องแบบนี้อยู่แฮะ Netflix กำลังทำโปรเจคละครตอนเดียวใช่ไหม?”
"ใช่เลยครับ"
ชเวชองกุนที่กำลังรวบผมอยู่ได้ถอนหายใจเล็กน้อย
“ฮึ่ม แต่ละครตอนเดียวมันดูเล็กไปหน่อยแฮะ……ยิ่งดูตารางงานของวูจินแล้ว เราต้องปฏิเสธทั้งสองเรื่องหรือไปได้แค่เรื่องเดียวแน่… ว่าแต่ทั้งสองเรื่องมาแนวเดียวกันเลยเหรอ? แนวความรัก-ตลกสินะ ไหงมาประเภทเดียวกันล่ะเนี่ย?”
“ในความคิดของผมนะครับ ผลงานของคุณลีวอลซอนนั้นเหนือกว่าอย่างชัดเจน ทั้งในแง่ของละครและอนาคตของวูจิน”
"ก็คงงั้น"
แต่ตอนนัน้เอง
-ฟึบ
คังวูจินที่เพิ่งไปห้องน้ำก็กลับเข้ามาในห้องสำนักงาน เขาสวมหมวกแก๊ปและเสื้อฮู้ดแบบมีซิป ทันทีที่วูจินเข้ามา หัวหน้าทีมก็ออกจากออฟฟิศไป ส่วนชเวชองกุนก็ยื่นบทสองบทให้วูจินผู้ซึ่งนั่งอยู่หน้าโต๊ะ
“วูจิน นี่อาจจะกระทันหันไปหน่อย แต่ฉันต้องการให้นายดูบทพวกนี้ เราเพิ่งได้รับบทแนวความรัก-ตลกมาสองบท”
“ครับ สองบทนี้เหรอ?”
"ใช่แล้วล่ะ สำหรับตอนนี้ 'พ่อค้ายาเสพติด' ได้รับการยืนยันแล้ว เพราะงั้นช่วยดูสองบทนี้ที"
-ฟึบ
วูจินจึงเปิดบทของลีวอลซอนทันทีด้วยสีหน้าไม่แยแส ในเวลาเดียวกัน ชเวชองกุนก็เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดที่เขาได้ยินจากหัวหน้าทีมทุกคำพูด ทั้งคำอธิบายและสถานการณ์ของผู้เขียนบททั้งสอง คังวูจินหยุดชะงักเล็กน้อยขณะฟัง แต่ดูเหมือนเขาจะฟังอย่างเดียวมากกว่า
จากนั้นชเวชองกุนก็กล่าวต่อมาว่า
“อืม มีเรื่องที่เหมือนกันอยู่หนึ่ง คือทั้งสองบทเป็นแนวความรัก-ตลก ใคร ๆ ก็เห็นว่าเราควรไปทางลีวอลซอน แต่มันก็ยุ่งยากหากเราปัดของทางนักเขียนพัคอึนมีไป”
“ไม่นะครับ มันไม่ได้เลือกยากขนาดนั้นเสียหน่อย”
"······หมายความว่ายังไงเหรอ?"
คังวูจินชี้ไปที่หนึ่งในสองบทด้วยนิ้วชี้อย่างไม่ได้ใส่ใจ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ผมจะทำอันนี้ครับ”
เป็นบทละครตอนเดียว โดยผู้ช่วยนักเขียนของพัคอึนมี
*****