ตอนที่แล้วบทที่ 58 กระแสน้ำเชี่ยว (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 60 กระแสน้ำเชี่ยว (5)

บทที่ 59 กระแสน้ำเชี่ยว (4)


[เย็นลงถึง 65 ครับ]

บทที่ 59 กระแสน้ำเชี่ยว (4)

PD ยุนบยองซอนผู้คร่ำหวอดในวงการบันเทิงไม่เพียงแต่มีทักษะการวางแผนที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถพิเศษในการอ่านคนและรู้ถึงคุณภาพของคน ๆ นั้น เขามีความสามารถในการเห็นสิ่งที่คนมองข้ามหรือไม่สนใจ

ด้วยเหตุนี้ จึงมีดาราดาวเด่นหลายคนผ่านมือของเขา

ด้วยประสบการณ์กว่าทศวรรษในวงการบันเทิงและสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร PD ยุนบยองซอนจึงมีทีมอยู่หลายทีม ทั้งที่มีตัวคนเดียว เขาเปิดช่อง YouTube ‘สปอร์ตเดย์‘ โดยมีผู้ติดตามมากกว่า 3 ล้านคนและช่องเคเบิลทีวี HTBS

เขาได้ผลิตรายการวาไรตี้มากกว่าร้อยรายการ ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่

ปัจจุบันเขากำลังดำเนินรายการวาไรตี้โชว์สามรายการในช่อง ‘สปอร์ตเดย์’ และกำลังวางแผนสร้างรายการวาไรตี้ใหม่สำหรับสถานีเคเบิลทีวี

“คุณต้องการที่จะรวมนักแสดงคังวูจินมาด้วยงั้นเหรอครับ?”

“ใช่ ฉันรู้สึกว่าศักยภาพของผู้ชายคนนี้แหละกำลังจะระเบิดออกมา”

ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกสนใจคังวูจิน

"คุณรู้สึกว่าเขามีอะไรนอกจากหน้าตาและฝีมือการแสดงอันแสนสุดยอดด้วยงั้นเหรอครับ"

นักเขียนดูสับสนเล็กน้อย

“…นี่คุณเห็นอะไรในตัวเขากันแน่ครับ?”

“ถามจริงเถอะ ด้วยทักษะการแสดงและรูปลักษณ์ของเขาแล้ว ยังมีอะไรเราต้องรออีก?”

มันเป็นเรื่องพื้นฐานอยู่แล้วที่จะคว้าตัวคนดังให้มาอยู่ในรายการวาไรตี้ แต่ประเด็นคือพวกเขาแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับคังวูจิน โดยปกติแล้ว พวกเขามักจไม่เอาคนที่ไม่มีข้อมูลหรือมีข้อมูลเพียงน้อยนิด

ทว่า PD ยุนบยองซอนเป็นประเภทที่จะจัดลำดับความสำคัญของความรู้สึกมากกว่าเรื่องอื่น

“ดูดวงตาของเขาคู่นั้นสิ คุณไม่สงสัยเหรอว่าตอนแสดง กับสีหน้าและน้ำเสียงของเขาในชีวิตประจำวันมันจะเป็นยังไง?”

“แบบนั้นเองเหรอครับ?”

“ดูก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คนโรคจิตในชีวิตจริงแน่ แต่ถ้าเขาเกิดตรงข้ามกันทุกอย่างกับที่แสดงออกมา ภาพคงน่าชมพอดู ยกตัวอย่างนะ ถ้าเกิดในชีวิตจริงตอนไม่แสดงเขาเป็นคนที่มีแรงล้นเหลือและมีชีวิตชีวาล่ะ”

“มันคงจะน่ารักน่าดูเชียวแหละ”

PD ยุนบยองซอนที่เกือบจะตัดสินใจได้แล้วจึงยิ้มออกมา

“ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม ถ้าเราเอาเขามา เราจะดึงเสน่ห์ออกมาได้แน่”

รอยยิ้มที่ชั่วร้ายปรากฏขึ้น เหมือนดั่งนิสัยของ PD รายการวาไรตี้ทุกคนไม่มีผิด

ในเวลาอาหารกลางวันของวันเดียวกัน ที่อพาร์ทเมนท์สตูดิโอของคังวูจิน

ทั้งประเทศกำลังโกลาหลกับ ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล‘ แต่คังวูจินกำลังอยู่ที่สตูดิโออพาร์ทเมนท์ของเขาเสียอย่างนั้น

สภาพคือสวมเสื้อยืดและกางเกงขาจั๊มพ์ที่ชำรุดทรุดโทรมเล็กน้อยที่มักจะสวมมันอยู่ในบ้านตลอดเวลา เขามองโน๊ตบุ๊คของเขาอย่างตั้งใจพร้อมกับยกคางขึ้น เมื่อมองแวบเดียว เขากดูเหมือนคนที่ไม่มีงานทำไม่กี่เดือนก่อนเป๊ะ ๆ เลย

"หึ้ม-"

ชเวชองกุนได้แจ้งให้เขาทราบว่าอีกฝ่ายจะมารับเขาในตอนบ่าย ทว่าคังวูจินไม่ได้รีบร้อนที่จะเตรียมตัวเลย เพราะตั้งแต่การออกอากาศครั้งแรกของ ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’ บีดับเบิลยูเอนเตอร์เทนเมนต์ก็เต็มไปด้วยคำถามเกี่ยวกับคังวูจิน

ผลตอบรับนั้นคนละอย่างกับ ‘สำนักงานนักสืบ’ เลย

แต่เหตุผลที่คังวูจินไม่ได้รีบร้อนนั้นมีเหตุผลรองรับอยู่ นั่นคือการคาดการณ์ของชเวชองกุน

‘สื่อและสถานีมากมายต่างต้องการให้เขาออกรายการ ให้มาสัมภาษณ์ ทว่าการจะเปิดฉากออกม่านกั้นครั้งแรกย่อมต้องมีความสำคัญอย่างถึงที่สุด ดังนั้นหากจะสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ มีแต่ต้องเผยตัวเพียงนิดเดียวที่นี่ ที่นั่นไปมา สำหรับตอนนี้ นายพักหายใจและเลือกงานต่อไปตามสบายเถอะ’

ซึ่งก็หมายความว่า พวกเขาจะตัดรายการวาไรตี้ขนาดเล็กหรือการสัมภาษณ์ทั้งหมดออกไป พวกเขาตั้งใจที่จะรีดค่าโฆษณาทั้งหมดที่พวกเขาได้มาจากละคร จากนั้นให้สื่อและความคิดเห็นของสาธารณชนจัดการส่วนที่เหลือเอง ถือเป็นการตัดสินใจที่ดีพอควร

มันผ่านมาหนึ่งวันแล้ว นับตั้งแต่ระเบิดนิวเคลียร์ได้ลงจอดสู่พื้นดิน

ดังนั้นตั้งแต่เช้านี้ คังวูจินที่ว่างจึงติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนสนิทของเขา ปฏิกิริยาของพ่อแม่คังวูจินนั้นดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษ คำชมแล้วคำชมเล่าหลุดออกมาจากปากของพวกเขา ในทางกลับกัน คังฮยอนอาผู้เป็นน้องสาวของเขายังคงเหมือนไม่อยากยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น

'พี่!! พี่แสดงละครตั้งแต่เมื่อไหร่กัน??! พี่จะอยู่ในตอนที่เท่าไหร่บ้าง?? การถ่ายทำทั้งหมดเสร็จแล้วเหรอ??! แล้วได้ยังไงกันเนี่ย? ได้ไง? ทำไมพี่ถึงแสดงเก่งจัง??'

เพื่อนสนิทของเขานั้นไม่ได้หนักขนาดนั้น ถึงตอนนี้พวกเขาจะดูอ้อนเท้ามากในกลุ่มแชทก็เถอะ... ส่วนคนที่ติดต่อเขามาคนอื่น วูจินไม่สนใจสักนิดเดียว

“ฮ่า ๆ มันเป็นความรู้สึกแบบนี้เองสินะ ชักรู้สึกเสพติดแล้วสิ”

ตอนนี้คังวูจินเหนื่อยมาก เขาได้นอนหลับเพียงประมาณ 3 ชั่วโมงเพราะเขานอนทั้งคืนเพื่ออ่านความคิดเห็นและความรู้สึกมากมายจากคนดู การได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก มันถือได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก

โดยเฉพาะ...

@Wooji_n

โพสต์ 7

ผู้ติดตาม 47k

กำลังติดตาม 0

SNS ของเขามีแฟน ๆ แห่ไปดูเกือบ 50,000 คนแล้ว มันเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจและเกิดขึ้นได้ยากยิ่ง

คังวูจินรู้สึกทั้งพอใจและกังวลไปพร้อมกัน

แต่ตอนนี้ เขารู้สึกดีมาก

“ไม่รู้สิ ตอนนี้ขอให้สนุกก่อนก็พอแล้ว”

เขาปิดโน๊ตบุ๊คและหันไปทางขวา มีบทภาพยนตร์และบทละครซ้อนทับมากมายกัน พวกมันถูกส่งมาจากต้นสังกัดของเขา เพียงปรายตามอง ก็รู้ว่ามันมีมากกว่าหนึ่งโหล ในที่สุดเขาก็มีเวลาพักแล้ว เขาจึงอยากตรวจสอบพวกมันทั้งหมด

เขาจะได้รู้ว่าต้องเลือกทำอะไรต่อ

แน่นอนว่าการตรวจสอบถือเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างง่ายมากสำหรับคังวูจินผู้นี้ นักแสดงคนอื่น ๆ ต้องนั่งอ่านบทพวกนี้เป็นเวลาหลายวัน แต่กับวูจินเพียงแค่ต้อง...

-จิ้ม!

ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือแตะสี่เหลี่ยมสีดำที่ติดอยู่ข้างบทภาพยนตร์หรือละครด้วยนิ้วของเขา จากนั้นก็เข้าและออกจากมิติว่างเปล่าซ้ำ ๆ ไว้เขาค่อยอ่านงานหลังจากตรวจสอบระดับมัน นั่นแหละคือสิ่งที่คังวูจินกำลังทำ

“ฮึ ระดับ E งั้นเหรอ? ขอผ่าน”

เขาตรวจสอบงานที่ซ้อนกันอย่างรวดเร็ว

“ระดับ D? อืม ฉันขอผ่านเรื่องนี้ไปก่อนแล้วกัน”

มันเป็นภาพที่นักแสดงคนอื่นคงอิจฉาอและอยากกระทืบเขาแน่ถ้าเห็น แต่ใครสนกันล่ะ? คังวูจินไปมาระหว่างมิติว่างเปล่าและโลกความเป็นจริง เขามีเกณฑ์อยู่

“ตัดทุกอย่างที่ต่ำกว่าระดับ C”

เป็นผลให้บทเกือบทั้งหมดถูกกรองออกไป ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์หรือละคร ระทึกขวัญ แอ็กชัน รอมคอมหรือละครเมโลดรามา มันแทบจะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย จากนั้นวูจินก็รู้ตัวอีกครั้ง

“ระดับ A หรือระดับ S นั้นหายากมากจริง ๆ แฮะ”

‘สำนักงานนักสืบ‘ และ ’ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล‘ ถือเป็นผลงานที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง หลังจากกระบวนการดังกล่าวได้ผ่านพ้นไป ก็เหลือเพียงบทเดียวเท่านั้น

- [4/บทภาพยนตร์ (ชื่อเรื่อง: พ่อค้ายาเสพติด) ระดับ B +]

“ระดับ B+ แต่บทให้มาเป็นคามิโองั้นเหรอ? นั่นคือส่วนที่ฉันจะต้องเล่นสินะ?”

ผลงานภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อว่า ‘พ่อค้ายาเสพติด’ ตามคำอธิบายของชเวชองกุน อีกฝ่ายเห็นวูจินในงาน เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซง’ จึงรู้สึกสนใจ บทบาทของเขาคือคามิโอ มันคล้ายกับตัวประกอบพิเศษที่มาโผล่ในเรื่อง แต่คามิโอจะมีผลกับเนื้อเรื่องภาพยนตร์มากกว่า

“แม้ว่าตอนนี้จะเป็นระดับ B+ แต่มันก็อาจจะเพิ่มขึ้นได้ใช่ไหมนะ?”

จากนั้นคังวูจินก็เปิดบทภาพยนตร์ ‘พ่อค้ายาเสพติด' มาอ่าน จากหน้าแรก กลิ่นของอาชญากรรมระทึกขวัญก็กำลังไหลออกมา ชื่อเรื่องคือ ‘พ่อค้ายาเสพติด’ ก็ตรงตามชื่อเลยว่าไหม? ก่อนที่เขาจะรู้ตัว วูจินก็เริ่มอ่านบทภาพยนตร์ด้วยสมาธิ

หลังจากนั้นประมาณสิบหน้าผ่านไป

"โอ้ งานนี้น่าสนใจแฮะ"

มันดีมากเลย บทไม่เพียงแค่ดำเนินเรื่องได้อย่างลื่นไหลเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยความตื่นเต้า เร้าใจและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของภาพยนตร์อาชญากรรมอีกด้วย แน่นอนว่าในฐานะผู้อ่าน สิ่งที่วูจินคิดตอนนั้นคือ ‘มันน่าสนใจ’

หลังจากนั้น

- ตืดด ตืดด

โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ใกล้ ๆ ได้สั่นสะเทือนเป็นเวลานาน มีสายเขา และผู้ที่โทรมาคือชเวชองกุน เขากำลังมาแล้วเหรอ? วูจินคิดในขณะที่เขากระแอมไอ เพราะเขาจะไม่พลาดเนื่องจากความประมาทเด็ดขาด

"ครับ คุณซีอีโอ"

ขณะที่วูจินแสร้งทำเป็นเคร่งขรึม ชเวชองกุนก็ได้ยินเสียงที่ดังขึ้นเล็กน้อยทางโทรศัพท์

“วูจิน ฉันจะไปรับนายประมาณบ่าย 3 โมง เราเริ่มจากร้านเสริมสวยกันก่อนแล้วกันนะ”

"บ่ายสามโมง.. เข้าใจแล้วครับ”

“ว่าแต่นายได้ดูบทแล้วหรือยัง? มันเยอะไปหน่อยใช่ไหมล่ะ? ตรวจสอบคร่าว ๆ ก็พอ”

“ผมดูหมดแล้วครับ”

"หมดนั่นเลยเหรอ? นายได้อ่านบททั้งหมดแล้วเนี่ยนะ ?”

“ไม่ครับ ผมไม่ได้อ่านทั้งหมด ผมแค่ดูคร่าว ๆ เท่านั้นเอง บทพวกนี้อยู่ในระดับปานกลาง มีเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่ดี ชื่อเรื่อง ‘พ่อค้ายาเสพติด' น่ะครับ”

“อ๊ะ ที่รับบทเป็นคามิโอเหรอ?”

"ใช่ครับ"

“โอ้ ดีเลย ถ้าเป็นสัญชาตญาณของนาย ฉันก็เชื่อเช่นนั้น”

ฮ่าฮ่า ชเวชองกุนหัวเราะจากอีกด้านของโทรศัพท์ วูจินคิดว่าเขากำลังเข้าใจผิดมากขึ้นไปอีก แต่ก็ตัดสินใจที่จะไม่ได้แก้ความเข้าใจผิดนี้

“งั้นเหรอครับ?”

“ใช่ จะว่าไปแล้ว ผู้กำกับของ ‘พ่อค้ายาเสพติด' ดูเหมือนจะเร่งรีบพอสมควร ให้เรานัดพวกเขาโดยเร็วที่สุดเลยไหมถ้านายไม่ติดอะไร?”

“ได้เลยครับ ช่วยจัดการให้ด้วยครับ”

จากนั้นชเวชองกุนก็เปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว

“คือว่าฉับได้รับโทรศัพท์จาก PD ด้วย นายรู้จัก PD ยุนบยองซอนใช่ไหม? แน่นอนว่านายคงรู้อยู่แล้วล่ะ เขาเป็นพี่เบิ้มในรายการวาไรตี้เลย”

แน่นอนว่าคังวูจินก็รู้เช่นกัน PD ยุนบยองซอนเป็นเหมือนคนดังมากกว่า PD ด้วยซ้ำ เป็น PD ที่ผู้ชมทั่วไปต่างคุ้นเคยเป็นอย่างดี วูจินเคยสนุกกับการดูรายการวาไรตี้ของเขาสองสามรายการเลยทีเดียว แต่ทำไมจู่ ๆ อีกฝ่ายถึงพูดถึง PD คนนี้กัน?

“ครับ ผมรู้จัก PD ยุนบยองซอนอยู่บ้าง”

“นักแสดงหลักของ ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’ จะเริ่มตารางการโปรโมตของพวกเขาตั้งแต่สัปดาห์นี้ แน่นอนว่าฮเยยอนก็เหมือนกัน คือว่ามันมีช่อง YouTube ที่ชื่อว่า ‘สปอร์ตเดอย์’ และมีกำหนดการในวันพฤหัสบดี รายการนั่นดำเนินโดยPD ยุนบยองซอน”

“ผมเข้าใจแล้วครับ”

“มันเป็นรายการที่ผสมผสานระหว่างรายการวาไรตี้และทอล์คโชว์ นายอยากทำไหม? นายจะไม่ได้ไปคนเดียวนะ มีนักแสดงคนอื่นด้วย เป็นการร่วมรายการแบบสั้น ๆ รูปแบบเรียบง่าย พูดคุยและเล่นเกมเท่านั้น”

รายการวาไรตี้เหรอ? คังวูจินประหลาดใจมาก เขาลังเลอยู่พักใหญ่ จู่ ๆ ก็มีรายการวาไรตี้เนี่ยนะ? มันจะไม่เป็นไรใช่ไหม?

‘มันไม่เสี่ยงหรอกเหรอที่จะไปร่วมรายการวาไรตี้? จะเกิดอะไรขึ้นกันเล่าถ้าพวกเขารู้ตัวจริงของฉัน?'

แถมเขาก็ยังไม่แน่ใจด้วยว่ามันจะเกิดปัญหาหรือเปล่าถ้าเขาทำเป็นเย็นชาออกไป

แต่เมื่อคิดอีกที...มันก็ดูไม่เลวนัก ถ้าได้เป็นนักแสดง อย่างน้อยมันก็ต้องเข้าร่วมรายการวาไรตี้ใช่ไหมล่ะ? ถ้างั้นมันจะไม่ดีกว่าเหรอที่จะทำความคุ้นเคยกับมันตั้งแต่เริ่มต้นเลย? นอกจากนี้ มันยังเป็นโอกาสที่จะปรากฏตัวในรายการวาไรตี้ของ PD ยุนบยองซอนอีก เป็นรายการที่เขาเคยเห็นเพียงบน YouTube หรือทีวีในทุกวัน

บางครั้งสิ่งที่คังวูจินเคยจินตนาการในอดีตก็เกิดขึ้นจริงแล้วตอนนี้...

'เวร ฉันไม่รู้แล้ว ถ้ามันดี เดี๋ยวมันก็จะดีไปเอง’

เขาเลือกที่จะพุ่งตรงไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล

“ผมคิดว่าน่าจะดีครับ ผมขอเข้าร่วมรายการด้วย”

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ที่สถานีโทรทัศน์ KBC

มีหลายคนนั่งอยู่ในห้องประชุมขนาดกลางที่แผนกละครของ KBC ชายสามคนอยู่ที่ด้านข้างหน้าต่างของโต๊ะรูปทรงㅁ และมีหญิงวัยกลางคนอยู่อีกด้านหนึ่ง ชายสามคนเป็นผู้บริหารระดับ CP (หัวหน้าโปรดิวเซอร์) ของแผนกละคร ยามนี้พวกเขากำลังประจบประแจงผู้หญิงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

“ฮ่าฮ่าฮ่า คุณนักเขียน! จะว่าไปแล้ว ก็นานแล้วนะครับที่เราไม่ได้เจอกันเลย”

“นี่คุณดูเด็กขึ้นหรือเปล่าครับ? อย่างกับคุณจะอายุ 30 เองนะครับ”

ในทางกลับกัน หญิงสูงวัยกลางคนที่มีน้ำหนักพอสมควรก็ตอบกลับอย่างเย็นชา

“หยุดเยินยอได้แล้ว ฉันดูเหมือนอายุ 30 ตรงไหนกัน? ใคร ๆ ก็เห็นว่าฉันอายุ 50 แล้ว”

“อา คุณนักเขียน มันไม่ใช่การเยินยอเลยครับ มันมาจากใจจริง แบบใจจริงเลย!”

ผู้บริหารเองก็ประจบสอพลอเช่นกัน เหตุผลมันก็เรียบง่ายยิ่ง หญิงวัยกลางคนผู้นี้คือ นักเขียนลีวอลซอน เธอเป็นนักเขียนชื่อดังเหมือนนักเขียนพัคอึนมีเช่นกัน ดังนั้นผู้บริหารระดับ CP จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องประจบเธอ

ทว่า...

“ขอบคุณนักเขียนที่มาอยู่กับเราในครั้งนี้นะครับ มาก้าวข้ามนักเขียนพัคอึนมีด้วยการสร้างละครสุดโด่งดังกันเถอะครับ!”

หนึ่งใน CP ตะโกนเต็มเสียง ทางลีวอลซอนก็กอดอกเหมือนคล้ายอยากจะบอกว่า ‘เราจะทำได้ด้วยหรือไง?’

“นักเขียนพัคทำตรงกับรสนิยมของคนดูเป็นอย่างมาก แต่เราจะสามารถทำให้เรตติ้งผู้ชมเกิน 20% ในตอนแรกได้ด้วยเหรอ? มันยากนะรู้ไหม? เฮ้อ ฉันว่าเราควรปล่อยใจให้สบายดีกว่า”

“ทำไมจะไม่ได้กันล่ะครับ? มันเป็นไปได้อยู่แล้ว! ตอนผมอ่านบทตอนแรก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นรอมคอม แต่มันก็มีความระทึกขวัญปนอยู่ มันสนุกมากจริง ๆ นะครับ!”

“อืม ฉันดีใจที่ได้ยินแบบนั้น”

“เอาล่ะ งั้นเรามาคุยเรื่องก่อนการถ่ายทำกันเลยดีไหมครับ? เรารวมทีมงานและคณะบอร์ดนักเขียนมากแล้ว เรื่องนี้ไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ ว่าแต่คุณมีนักแสดงในใจก่อนที่จะเขียนบทบ้างไหมครับ? ถ้าเราติดต่อพวกเขาก่อนการผลิตล่วงหน้า จะได้ไม่มีเรื่องติดขัดอะไร”

ทางด้านนักเขียนลีวอลซอนก็ตอบคำถามด้วยการกอดอก หยิบแท็บเล็ตบนโต๊ะที่แผนกละครเตรียมไว้ เธอเปิด YouTube และค้นหาวิดีโอ

- [พิเศษ] คนขโมยซีนตัวจริง! รวมฉากสุดบ้าโดยรองหัวหน้าพัค! |ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล

มันเป็นวิดีโอรวมฉากของรองหัวหน้าพัค ในไม่ช้านักเขียนลีวอลซอนก็ชี้ไปที่นักแสดงในวิดีโอ

"เอาคนนี้"

CP จึงตอบตกลงทันที

“อา คังวูจินเหรอครับ? ช่วงนี้มีข่าวเขาเยอะแยะเต็มไปหมดเลย”

"ใช่ไหมล่ะ? จากที่ผมได้ยินมา เขาถูกขนานนามว่าเป็นทั้งบลูชิฟแห่งชุงมูโร และดาวเด่นดวงใหม่”

“การตอบสนองของสาธารณชนก็ดีเหมือนกันนะใช่ไหม?”

นักเขียนลีวอลซอนตัดบททันที

“ฉันต้องการชายคนนี้ นักเขียนแบบฉันมีไม่มากนักหรอก แต่ฉันน่ะสนใจเขามาก ฉันได้ยินจากทีมงานที่รู้จักฝั่งทีมผู้เชี่ยวชาญนิติจิตวิทยา พวกเขาบอกว่าคังวูจินเป็นคนที่สุภาพและสงวนท่าทีมาก เขาไม่แสดงอาการเหนื่อยล้าตลอดการถ่ายทำเลย ทว่าสิ่งที่ฉันสนใจมากที่สุดคือเรื่องที่เขาเรียนต่างประเทศ”

“…เรียนต่อต่างประเทศงั้นเหรอ? ที่คุณพูดมาหมายความว่ายังไงครับ?”

“ไม่รู้สิ ฉันได้ยินข่าวลือมาว่าเขามาจากต่างประเทศ นั่นแหละมั้งอาจเป็นเหตุผลที่เขาดูแตกต่างจากนักแสดงทั่วไป? เหมือนมีออร่าที่แตกต่างจากคนอื่น แถมฉันยังชอบน้ำเสียง และการแสดงของเขาด้วย เขาเป็นหน้าใหม่ แต่กลับดูไม่ประหม่าเลย โดยรวมแล้ว ฉันน่ะรู้สึกสนใจเขามาก เป็นไปได้ไหมที่จะเอาเขาเข้ามาแสดงด้วย?”

พอได้ยินคำถามของเธอ CP ก็หัวเราะอย่างมั่นใจ

"ย่อมได้อยู่แล้วครับ! ถ้านักเขียนลีวอลซอนเลือกเขา ทำไมจะไม่ได้กันล่ะครับ?”

“มือใหม่แบบเขามีทางเลือกอะไรอีกนอกจากต้องยอมรับข้อเสนอนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า! ถ้าคุณนักเขียนต้องการ เราต้องเอาเขามาให้ได้ครับ!”

นักเขียนลีวอลซอนก็ยิ้มออกมาบาง ๆ

“อย่าลืมบอกคังวูจินนะว่าฉันต้องการเขาจริง ๆ”

ในขณะเดียวกัน ที่พื้นที่ทำงานของนักเขียนพัคอึนมี

พัคอึนมีผู้สวมที่คาดผมกำลังพิมพ์อย่างบ้าคลั่งบนโน๊ตบุ๊คของเธอ เธอแทบไม่มีเวลาที่จะเฉลิมฉลองผลงานเรตติ้ง 20% ในตอนแรกด้วยซ้ำ

“...อืม ไม่ได้ นี่มันจืดไปหน่อย”

ตอนนี้เธอกำลังเขียนตอนสุดท้ายของ ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’ แต่เธอไม่มีสมาธิเลย เมื่อใดก็ตามที่เธอมีโอกาส เธอจะตรวจสอบอินเทอร์เน็ตหรือ YouTube เพื่อดูปฏิกิริยาของผู้ชม แม้ว่าเธอจะเป็นนักเขียนดาวรุ่งระดับสูง แต่เธอก็ยังเป็นมนุษย์ปถุชนทั่วไป

จากนั้นเอง

"....เย่!"

“ฉันทำได้แล้ว...!”

มีเสียงตะโกนค่อนข้างดังจากนอกห้อง คนที่อยู่ที่นี่มีเพียงผู้ช่วยนักเขียนเท่านั้น ดังนั้นนักเขียนพัคอึนมีจึงถอนหายใจเบา ๆ พลางลุกขึ้นและเปิดประตู เมื่อเธอมองไปยังห้องนั่งเล่น ผู้ช่วยนักเขียนประมาณหกคนดูกำลังวุ่นวายกันอยู่

เมื่อเห็นพวกเขา นักเขียนพัคอึนมีก็ถอนหายใจอีกครั้ง

“เฮ้อ พวกเธอ หัวฉันแทบจะถูกเสียงพวกเธอกลบหมดแล้ว ว่าแต่ทำไมถึงดูวุ่นวายกันจัง?”

ผู้ช่วยนักเขียนร่างผอมบางสวมแว่นตายกมือขึ้นอย่างอาย ๆ

“…คุณนักเขียนค่ะ…ฉันทำได้แล้ว”

"หือ? นานะ เธอก็เป็นถึงนักเขียนเลยนะ ทำไมถึงพูดไม่เป็นประโยคล่ะเนี่ย?”

“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ คือฉันได้รับเลือกในการประกวดของ Netflix แล้วค่ะ”

ทันใดนั้น ดวงตาของนักเขียนพัคอึนมีก็เบิกกว้าง

"โอ้ตายจริง! จริงเหรอเนี่ย? การประกวดที่พวกเธอทุกคนเข้าร่วมใช่ไหม?”

“ใช่ค่ะ ใช่ มันเป็นการประกวดละครหนึ่งตอน”

นักเขียนพัคอึนมีได้ถอดที่คาดผมของเธอออกทันที โยนมันลงไปพร้อมคว้ามือของผู้ช่วยนักเขียนที่สวมแว่นตา

"ทำดีมากเลย! เก่งมากเลยจริง ๆ นานะ แต่มีแค่นานะเท่านั้นเหรอที่เข้ารอบ? คนอื่นล่ะ? พวกเธอทั้งหมดส่งไปด้วยกันใช่ไหม?”

“······”

“······”

“อืม พวกเธอเป็นถึงผู้ช่วยนักเขียนของทีมพัคอึนมีเชียวนะ แต่กลับมีแค่นานะที่รักษาหน้าให้ฉันเนี่ยนะ”

"ขอบคุณ...ขอบคุณนะคะ แต่ฉันยังรู้สึกว่ามันเหมือนฝันอยู่เลย”

"ตั้งสติไว้หน่อยสิ! ว่าแต่เธอได้อะไรเหรอ? รางวัลแดซังเลยไหม?”

“ไม่ ไม่ใช่ที่หนึ่งค่ะ แต่เป็นรางวัลชนะเลิศ”

“งั้นก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ? ต่อให้จะเป็นรางวัลแดซังหรือรางวัลชนะเลิศก็ดีแล้ว ฉันได้ยินมาว่า Netflix จะให้ผลงานทั้งหมดที่ชนะการประกวดได้กลายเป็นซีรีส์ละครใช่ไหมล่ะ?”

"ใช่ค่ะ ฉันได้ยินมาว่ามันเป็นโปรเจกต์ละครหนึ่งตอน”

นักเขียนพัคอึนมีสวมกอดผู้ช่วยนักเขียนอีกครั้ง

“ถือเป็นงานใหญ่สำหรับงานเดบิวต์เชียวนะ แค่ทำให้ดีที่สุดก็พอแล้ว”

“ขอบคุณค่ะ…คุณนักเขียน”

พัคอึนมิที่เห็นน้ำตาของผู้ช่วยนักเขียนเริ่มปริ่ม จึงได้ถามไปว่า

“ถ้าเป็น Netflix พวกเขาอาจจะให้เธอได้เลือกนักแสดงที่เธอต้องการเอง เธอมีนักแสดงในใจบ้างไหม?”

ผู้ช่วยนักเขียนลังเล ก่อนจะพึมพำตอบไปว่า

“คัง…วูจินค่ะ ฉันตกหลุมรักการแสดงของเขา”

“······”

พัคอึนมีเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเกาหัวพลางถอนหายใจออกมาเสียงเบา

“ฮะ วูจินเหรอ? ฮึ่มมม เขาก็ดูดีเลยล่ะ ถึงวูจินเป็นหน้าใหม่…แต่เขาก็ค่อนข้างแตกต่างจากหน้าใหม่ทั่วไปเลย ไม่สิ จริง ๆ แล้วเขาแตกต่างมากเลย ในแง่ของประสบการณ์การแสดง รวมถึงการเรียนรู้ด้วยตนเอง เขาเหมือนนักแสดงมืออาชีพเลย เพราะงั้นมันเลยมีอุปสรรคสูงแหละนะ”

“หนักขนาดนั้นเลยเหรอคะ?? การจะเอาเขามาเป็นนักแสดงนำชายมันยากมขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”

“ช่วงเวลาที่ฉันเหนื่อยที่สุดก็ตอนพาตัววูจินมาเข้าร่วมนี้แหละ”

“ถึงขั้นนั้นเลยเหรอคะ?”

"ใช่แล้วล่ะ แถมตอนนี้อาจยากกว่าเดิมด้วย เพราะวูจินน่าจะได้รับบทภาพยนตร์และละครมากมาย ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เขาจะต้องทำละครตอนเดียว”

"ก็...จริงค่ะ"

พัคอึนมีตบไหล่ผู้ช่วยนักเขียนที่กำลังท้อแท้และพูดปลอบไปว่า

“ฉันเองก็อยากจะถามวูจินให้ด้วยตัวเองว่าจะมาแสดงไหม แต่นั่นไม่ถูกต้องใช่ไหมล่ะ? แต่เดี๋ยวฉันจะคุยกับ Netflix และส่งบทให้เอง มันไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลยสักหน่อย เธอไม่มีทางรู้ได้หรอกว่าเขาจะรับหรือไม่รับ วูจินน่ะเป็นคนที่ค่อนข้างแปลก”

แต่จากนั้นใบหน้าของเธอก็แข็งค้างไปในทันที

“แต่อย่าตั้งความหวังไว้สูงเกินไปล่ะ”

*****

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

5 1 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด