ตอนที่แล้วบทที่ 37 กองไฟ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 39 รนหาที่ตาย

บทที่ 38 สังหารหมู่


“นายน้อยเทียน เจ้าออกมาข้างนอกทำไมหรือ?” เย่วเฟ่ยถามด้วยเสียงที่น่ารักของนาง

“ท่านควรพูดให้บ่อยกว่านี้ เสียงของท่านมันไพเราะมาก” หลงเฉินกล่าวชมขณะมองไปที่นาง

“ข้านอนไม่หลับ ข้าเลยออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก อย่างไรก็ตาม เหตุใดองค์หญิงเฟ่ยถึงอยู่ที่นี่?” หลงเฉินตัดสินพูดต่อเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าแก้มของเย่วเฟ่ยกลายเป็นสีแดงหลังจากที่ได้รับคำชมของเขา จากนั้นเขาก็เริ่มเดินไปหานาง

“ข้าเองก็นอนไม่หลับเช่นกัน ข้าเลยออกมาข้างนอกเพื่อดูท้องฟ้าที่สวยงามนี้ และมันก็ทำให้ข้าละสายตาไปจากมันไม่ได้เลย” เย่วเฟ่ยกล่าวขณะที่นางสังเกตเห็นว่าหลงเฉินกำลังเดินเข้ามาหานาง

หลงเฉินหยุดอยู่ข้างหน้านางประมาณ 5 เมตร จากนั้นเขาก็นั่งลงตรงนั้น

“ใช่แล้ว ท้องฟ้าคืนนี้ช่างงดงามยิ่งนัก เช่นเดียวกับองค์หญิงเฟ่ยไม่มีผิด แม้แต่ข้าเองก็ละสายตาไม่ได้เลย” หลงเฉินกล่าวขณะที่เขามองเข้าไปในดวงตาของเย่วเฟ่ย

แก้มของเย่วเฟ่ยแดงก่ำยิ่งกว่าเดิมและเบี่ยงหน้าหนี แต่หลงเฉินก็ยังคงจ้องมองไปที่นางไม่หยุด

“องค์หญิงเฟ่ย องค์ชายรองกล่าวว่าท่านเป็นคนขอให้เขาพาท่านมาที่นี่ด้วย ทำไมท่านถึงทำเช่นนั้น?” หลงเฉินตัดสินใจที่จะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“ข้าแค่อยากจะเห็นโลกภายนอกให้มากขึ้น เพราะข้าใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่แต่ในพระราชวัง แม้ข้าจะได้ออกไปข้างนอก แต่ก็ไปได้แค่ร้านค้าและสถานที่ใกล้เมืองหลวงเท่านั้น”

“ท่านพ่อของข้าไม่เคยอนุญาตให้ข้าไปที่อื่น แต่เมื่อพี่ใหญ่พูดว่าเขาจะมาที่ป่าแห่งนี้เพื่อฝึกฝน ข้าเลยใช้โอกาสนี้มากับเขาด้วย” เย่วเฟ่ยกล่าวขณะที่นางยังคงมองดูท้องฟ้า

“ข้าไม่คิดเลยว่าองค์หญิงเฟ่ยจะมีด้านแบบนั้นกับเขาด้วย” หลงเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“อา...นี่มันก็ดึกมากแล้ว ข้าควรรีบเข้านอน ไม่งั้นพี่ใหญ่ดุข้าแน่ ถ้าข้าตื่นเสีย ราตรีสวัสดิ์ นายน้อยเทียน”

“ราตรีสวัสดิ์องค์หญิงเฟ่ย ข้าหวังว่าท่านจะฝันดี” หลงเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มและลุกขึ้นยืนเช่นกัน และรอให้เย่วเฟ่ยเข้าไปในกระโจมของนาง จากนั้นเขาก็กลับไปที่กระโจมของตัวเอง

เช้าวันต่อวัน เมื่อเย่วหลวนและเย่วเฟ่ยตี่นขึ้นมา พวกเขาก็สังเกตเห็นว่ากระโจมของหลงเฉินหายไปแล้ว และตัวเขาเองก็ไม่อยู่ที่นี่เช่นกัน

“เจ้าเด็กนั่นไปแล้ว ทำไมเขาถึงต้องรีบร้อนขนาดนั้น? ข้าไม่ได้เหมือนเจ้าที่จะจับเขากินสักหน่อย” เย่วหลวนกล่าวขณะมองไปทางเย่วเฟ่ย

“ท่านชอบพูดหยอกล้อข้าตลอดเลย พี่ใหญ่” เย่วเฟ่ยตบไหล่ของเย่วหลวนราวกับเด็ก ขณะที่นางพูดบ่น

หลงเฉินยังคงเดินหน้าต่อ และสังหารสัตว์อสูรทุกตัวที่ขวางทาง

หลังจากที่เขาเดินหน้าไม่หยุดพัก ในที่สุดเขาก็เจอคน 3 คนซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ที่อยู่ข้างหน้าเขาประมาณ 150 เมตร

‘หืม สามคนที่ซ่อนตัวอยู่ตรงนั้น? มีร่องรอยของเลือดอยู่บนพื้น แต่ข้ากลับไม่เห็นซากศพของใครเลยแม้แต่คนเดียว น่าสนใจดี’ หลงเฉินคิดในใจ

“ข้าควรเล่นกับพวกมันดีไหม? ข้ายังไม่เคยต่อสู้กับคนที่อยู่ในระดับก่อจิตวิญญาณเลย และสามคนนั้นก็ถือเป็นคู่ต่อสู้ที่ดี หนึ่งในนั้นมีคนหนึ่งอยู่ในระดับก่อจิตวิญญาณขั้น 7 ส่วนอีกสองคนอยู่ในระดับที่ 6 ถ้าข้าไม่สามารถเอาชนะพวกมันได้ แล้วข้าจะสังหารหลงชูได้อย่างไร?” หลงเฉินพูดพึมพำกับตัวเอง

หลงเฉินเก็บเสื้อคลุมสีทองเข้าไปในแหวนมิติ เนื่องจากมันมีตราสัญลักษณ์ของตระกูลหลง จากนั้นเขาก็เดินหน้าต่อ เขารู้ว่าถ้าเขาสวมเสื้อคลุมตัวนั้น โจรพวกนี้จะไม่กล้าลงมือ และถ้าพวกมันไม่กล้าลงมือ พวกมันก็จะไม่เผยตัวตนที่แท้จริงออกมา และเขาก็จะไม่มีเหตุผลที่จะสามารถสังหารพวกมันได้

เมื่อหลงเฉินเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น ในที่สุดพวกมันทั้งสามคนก็สังเกตเห็นเขา

“หัวหน้ากวน มีเด็กคนหนึ่งกำลังเดินมา เสื้อผ้าของมันค่อนข้างมีราคาทีเดียว มันจะต้องมาจากตระกูลที่ร่ำรวยแน่ๆ” ชายที่มีหนวดเคราสั้นพูดกับชายหัวล้านที่ยืนอยู่ข้างหน้า

“เจ้าพูดถูกอู๋หยา เด็กนั่นน่าจะมีอายุประมาณ 12-13 ปีที่ไร้เดียงสาที่คิดว่าสามารถมีชีวิตรอดจากที่นี่ได้ ข้าคิดว่าพวกเราควรสั่งสอนเจ้าเด็กนี่สักหน่อยแทนพ่อแม่ของมัน” หัวหน้ากวนกล่าวพร้อมกับหัวเราะ

‘พวกมันกำลังเตรียมพร้อมที่จะโจมตีข้า ข้าว่าแล้วลางสังหรณ์ของข้านั้นถูกต้อง’ หลงเฉินยิ้มและยังคงเดินไปข้างหน้า

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเด็กน้อย ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าจะเข้ามาเดินเล่น” อู๋หยาเดินออกมาจากทางซ้ายพร้อมเสียงหัวเราะ และมีชายร่างกำยำอีกคนเดินออกมาจากทางขวา

“ใช่แล้ว สหายตัวน้อย โลกภายนอกนั้นไม่ได้งดงามอย่างที่เจ้าคิด อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะในสถานที่ที่อันตรายแบบนี้ เจ้าอาจถูกฆ่าโดยไม่มีใครรู้” ชายหัวล้านที่ยืนอยู่ข้างหน้าพูด และมีรอยยิ้มที่ชั่วร้ายปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา

“โอ้? พวกเจ้ามาที่นี่เพื่อสอนข้าเกี่ยวกับโลกใบนี้อย่างนั้นหรือ?” หลงเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม ขณะมองตรงไปที่ชายหัวล้าน

“ใช่แล้ว พวกข้าใจดีพอที่จะทำเช่นนั้น” อู๋หยาหยิบมีดของมันออกมา และพุ่งเข้าหาหลงเฉิน

‘เจ้าเด็กนี่ยังเด็กเกินไป และมันคงจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถูกฆ่าตายยังไง’ อู๋หยาคิดขณะที่โจมตี แต่ทันทีที่ใกล้จะเข้าถึงตัวอีกฝ่าย เขาก็พบว่าวิสัยทัศน์ของตัวเองเปลี่ยนไปและร่างที่ไม่มีหัวก็วิ่งไปหาหลงเฉิน

ก่อนที่อู๋หยาจะคิดอะไรได้ สายตาของเขาก็มืดสนิท และร่างของเขาก็ล้มลงอยู่ข้างหน้าห่างจากหัวของเขาเล็กน้อย

หัวหน้ากวนที่ยิ้มอย่างชั่วร้ายอยู่ตลอดเวลา ขณะที่เขาสังเกตเห็นอู๋หยาโจมตีหลงเฉิน เขาก็คิดว่าหลงเฉินได้ตายไปแล้ว แต่ทันทีที่เขาเห็นร่างของอู๋หยาล้มลงกับพื้น เขาก็เพิ่งรู้ว่าเขาได้หาเรื่องผิดคน เด็กที่อยู่ตรงหน้าเขา มันไม่ปกติ

“บัดซบ เจ้าเด็กนี่แข็งแกร่งมาก ถีฉวน โจมตีมันพร้อมกับข้า” หัวหน้ากวนกรีดร้องขณะหันมองไปที่ชายร่างกำยำ แต่ทันทีที่เขาหันหน้าไปมองชายร่างกำยำ เขาก็พบว่าถีฉวนนอนตายอยู่บนพื้นแล้ว

หัวหน้ากวนหันหน้ากลับไปมองที่ที่หลงเฉินยืนอยู่ แต่ก็ไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้น

“และเจ้า ข้าคิดว่าพวกเจ้าสามารถทำให้ข้าเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อสู้ของข้าได้ แต่ข้าไม่คิดเลยว่าพวกเจ้าจะอ่อนแอกว่าสัตว์อสูรระดับจิตวิญญาณขั้น 5 ด้วยซ้ำ พวกเจ้าทำให้ข้าเสียเวลายิ่งนัก” หัวหน้ากวนได้ยินเสียงของหลงเฉินที่เต็มไปด้วยคำดูถูกจากด้านหลัง แต่ก่อนที่เขาจะขยับตัว ก็มีปลายดาบที่แหลมคมแทงทะลุผ่านหัวใจของเขาจากด้านหลัง

หัวหน้ากวนตกตายไปด้วยความเสียใจที่ไปยั่วยุผิดคนและทำให้เกิดภัยพิบัติครั้งนี้

หลงเฉินนำเสื้อคลุมสีทองของเขาออกมาสวมใส่ จากนั้นเขาก็เดินหน้าต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ครึ่งวันต่อมาก็มีคนสองคนปรากฏอยู่ในจุดที่หลงเฉินทำการสังหารหมู่ พวกเขาคือเย่วหลวนกับเย่วเฟ่ย

“โหดเหี้ยมยิ่งนัก! บาดแผลพวกนั้นเกิดจากดาบ มันจะต้องเป็นฝีมือของมนุษย์ไม่ผิดแน่” เย่วหลวนแสดงความคิดเห็นจากบาดแผลของทั้งสามคน ขณะที่เย่วเฟ่ยเบี่ยงเบนสายตาหนีและช่วยไม่ได้ที่นางจะหลับตาลงเมื่อเห็นร่างที่ไม่มีหัว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด