บทที่ 22 ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ
บทที่ 22 ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ
โซล ประสบความสำเร็จได้รับมอบหมายให้แยกชิ้นส่วนศพ ในห้องเก็บศพ 3
อีกทั้งโซลยังได้รับเสื้อคลุมหนังจากอาจาร์ยแคซ
แม้มันจะอับชื้นนิดหน่อย แต่เขาก็ไม่ต้องกังวลว่าเลือดเนื้อจะกระเด็นใส่อีกต่อไป แถมยังทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย
อาจาร์ยแคซยังได้ขอให้โซลมาที่ห้องเก็บศพนี้ เพื่อทำงานในทุก ตี 3 - 7 โมง ของทุกวัน และที่นี่ไม่สามารถเอาอะไรออกไปได้ รวมถึงชิ้นส่วนศพ
โซล ไม่ต้องไปที่ห้องทดลองอีกต่อไป ซึ่งก็ไม่สามารถทำอะไรได้
หากเขาส่งชิ้นส่วนศพได้มากขึ้น เขาก็จะได้รับรางวัลเพิ่มเติม อาจาร์ยแคซเชื่อว่าด้วยความสามารถโซล เขาจะต้องได้คะแนนเกิน 3 แต้มอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงเพิ่มรางวัลพิเศษเพื่อสนับสนุนให้โซลทุ่มเทกับงาน
นับว่าเป็นผลตอบแทนที่สูงมากสำหรับ พ่อมดฝึกหัดระดับ 1
โดยปกติแล้ว พ่อมดฝึกหัดหน้าใหม่ จะถือว่าเป็นพ่อมดฝึกหัดระดับ 1 อย่างเป็นทางการ หลังจากที่เขาได้เรียนรู้วิชาพื้นฐานทั้งหมดแล้วเท่านั้น
นอกเหนือจากการได้รับคะแนนจากการทดสอบประจำเดือน ส่วนที่เหลือ พ่อมดฝึกหัดต้องได้รับงานมอบหมายงานจากอาจาร์ยจึงจะได้รับคะแนนเพิ่มขึ้น
แม้ว่าหอคอยพ่อมดจะใหญ่ แต่งานภายในที่เหมาะกับพ่อมดฝึกหัดนั้นมีจำกัด
งานที่ปลอดภัยมักได้รับคะแนนเพียง 1-3 แต้มต่อเดือน ในขณะที่งานที่อันตรายอาจได้รับคะแนน 4-7 แต้ม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากได้รับคะแนน 7 แต้ม นั้นหมายความว่าแม้แต่พ่อมดฝึกหัดระดับ 1 ที่อยู่มานานก็อาจตายได้
หากไม่มีวิธีเอาตัวรอด คนปกติที่ไหนจะยอมรับมัน
งานของโซลก็ยังมีความเสี่ยงอยู่บ้าง
ตามที่อาจาร์ยแคซบอก ศพที่ถูกส่งต่อให้โซลได้ผ่านการตรวจสอบมาแล้ว 2 รอบ
ผู้รับผิดชอบคนแรก อันตรายที่สุดก็คือพ่อมดฝึกหัดระดับ 2 ซึ่งต้องพยายามอย่างเต็มที่เพิ่มกำจัดอันตรายออกจากศพ
ผู้รับผิดชอบคนที่ 2 คือพ่อมดฝึกหัดระดับ 1 หน้าเก่า เขาเรียนรู้วิชาพื้นฐานของพ่อมดฝึกหัดและรู้จักเวทมนตร์ระดับ 0 สามารถป้องกันตัวเองและยังสามารถคัดแยกชิ้นส่วนศพที่ประโยชน์ได้อีกด้วย
และโซล ที่ต้องอาศัยจิตสัมผัสของเขาในห้องเก็บศพ ทำการแยกศพรอบสุดท้าย
แม้ว่ารอบที่ 3 จะมีความเสี่ยงน้อยกว่า แต่คะแนนที่ได้รับก็น้อยลงเช่นกัน แต่หากเขาทำถึงเป้าในทุกๆ วัน มันมีความเป็นไปได้ที่เขาจะได้คะแนนถึง 6 แต้ม
สิ่งสำคัญก็คือความเชี่ยวชาญ
อาจาร์ยแคซ ไม่เข้าใจว่าทำไมโซลถึงสัมผัสได้ถึงพลังพิเศษต่อศพ แม้ว่าการรับรู้ธาตุมืดของเขาไม่ได้แข็งแกร่งเลยซักนิด
เขาสามารถบอกได้เลยว่า โซลมีสัมผัสที่ไวต่อวิญญาณเป็นพิเศษ
ธาตุมืดแม้สัมผัสต่อวิญญาณจะต่ำ มันจะเน้นไปทางภูติผีซะมากกว่า
โซล ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาเห็นแสงเหล่านั้นผ่านการทำสมาธิ แต่ไม่สำคัญว่าเขาจะเข้าใจหรือไม่ แต่เขาไม่ได้หยุดใช้มัน
เขาอาจสามารถหาเวลาคุยกับเคลี ว่าความเร็วในการทำสมาธิแตกต่างกันหรือไม่?
ในฐานะที่เป็นพ่อมดฝึกหัดหน้าใหม่ เขาต้องสังเกตทุกสิ่งทุกอย่าง เห็นได้ชัดว่ารุ่นพี่และอาจาร์ย ซึ่งเป็นผู้นำไม่เต็มใจที่จะมอบความรู้ให้ฟรี
ภายใต้การแนะนำของอาจาร์ยแคซ โซล ทำงานวันแรกได้อย่างราบรื่น ทำความคุ้นเคยกับห้องเก็บศพ หมายเลข 3
อาจาร์ยแคซพบว่าเมื่อเขาทำงานได้ จึงให้ความสนใจและให้คำแนะนำแก่โซล
เขาพบว่าพรสวรรค์ด้านพลังจิตของโซลนั้น ยอดเยี่ยมอย่างมาก แถมเขายังเรียนรู้ในการวาดอักษรรูนได้อย่างรวดเร็ว และสามารถทำสมาธิได้อย่างชำนาญ
แม้ว่าโซลจะมีพรสวรรค์ที่ดี ในการเรียนรู้ภาษาโนอาร์
แต่หากเขามีความสามารถเพียงแค่นี้ เขาสามารถเป็นได้เพียงคนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น
เขาก็กลายเป็นเพียงแค่พ่อมดที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ มันเหมือนอาวุธที่ไม่มีคม ไม่สามารถสังหารใครได้ เป็นเพียงของเล่นให้คนอื่นใช้งานเท่านั้น
เว้นแต่เขาจะสามารถออกผจญภัย หรือ ได้รับการเปลี่ยนแปลงร่างกายของพ่อมด
แต่ในการเปลี่ยนแปลงร่างกายของพ่อมด มีอัตราการตายสูงมากแม้แต่พ่อมดฝึกหัดระดับ 2 แล้วพ่อมดฝึกหัดระดับ 1 จะมีโอกาสประสบความสำเร็จเท่าไหร่กัน?
ความหวังแทบจะไม่มีเลย
มันจึงทำให้ความสนใจของอาจาร์ยแคซค่อยๆลดน้อยลง
ผ่านไปไม่นาน เขาก็ทิ้งให้โซล อยู่ในห้องเก็บศพเพียงลำพัง และเตือนเขาว่าอย่าออกมาชั้นที่ 2 ของหอคอยตะวันออกก่อน 8 โมงเช้า ทางที่ดีคืออย่าอยู่ในหอคอยตะวันออก
โซล กล่าวลาอาจาร์ย ปิดประตู ก่อนจะหันหลังกลับไปยังสายพาน
เขาสงบสติอารมณ์อยู่พักหนึ่ง
ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่เพียงคนเดียว จึงต้องใช้ความกล้าในการดึงคันโยกเพื่อนำศพออกมา
โซล จับคันโยกอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะดึงออกมา
สายพานลำเลียงส่งเสียงดังกึกก้อง แต่รออยู่นานก็ไม่มีร่างใหม่ปรากฏขึ้น
โซลรู้สึกแปลกๆ จึงดึงคันโยกอีกครั้ง
แต่ก็ยังไม่มีอะไร
ในตอนนั้น โซลรู้สึกไม่สบายใจ เขาต้องการดึงมันเป็นครั้งที่ 3
เสียงของชายคนหนึ่งก็ดังออกมาจากพู่สีดำ
"หยุดได้แล้ว วันนี้ไม่มีเหลือแล้ว"
"เข้าใจแล้วขอรับ"
"เจ้าต้องดูแสงไฟเทียน ถ้ามันเป็นสีขาวแสดงว่ามีศพอยู่"
เทียนแท่งเล็กๆบน พู่สีดำ รูปลักษณ์ของมันไม่ต่างจากผนัง
แต่ในขณะที่แสงเทียนทั้งหมดกำลังเปลี่ยนเป็นสีขาว แต่เทียนเล่มนี้กับดูสลัวๆ ราวกับจะดับ
อาจาร์ยแคซไม่ได้บอกโซลเกี่ยวกับเรื่องนี้ อาจเป็นเพราะเขาไม่ได้รับผิดชอบงานนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นจึงไม่รู้ขั้นตอนบางอย่าง
เมื่อไม่มีงานทำ โซลก็ไม่อยากอยู่ที่นี้อีกต่อไป เขาจึงรีบจากไป
เมื่อเขาจากไป ชายร่างใหญ่ที่อยู่สุดปลายทางเดินก็ ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นราวกับคนตาย
แต่โซล สังเกตเห็นว่าจมูกของเขากระตุก
น่าจะยังมีชีวิตอยู่
วันที่ 2 ของการเป็นพ่อมดฝึกหัดผ่านไปอย่างราบรื่น เมื่อเทียบกับวันแรก
วันพรุ่งนี้ในชั้นเรียน โซล ได้พบกับ เคลี
"ตอนนี้ข้ามีคริสตัลเวทมนตร์ 10 ชิ้นแล้ว"
"เจ้าจะจ่ายคืนแล้วงั้นหรือ?"
"เจ้าจะเอาคะแนน 1 แต้ม หรือคริสตัลเวทมนตร์ 10 ชิ้น?"
เคลี เบิกตากว้าง "เจ้าได้งานแล้วงั้นหรือ?"
"เมื่อวาน ข้าได้ยินจากท่านอาจาร์ยว่านอกเหนือจากการทดสอบประจำเดือนที่จะได้รับคะแนนแล้ว พ่อมดฝึกหัดยังสามารถทำงานในหอคอยเพื่อให้ได้รับคะแนนเหล่านั้นอีกด้วย" นางจับคาง
"แต่อาจาร์ยของข้าไม่อนุญาตให้ข้าหางานทำ"
"งั้นข้าตกลงแลก ตอนนี้ข้าไม่มีคะแนนอยู่ในมือเลย"
ที่เขาไม่อนุญาตให้เจ้าทำงานก็เพราะเจ้าสามารถผ่านการทดสอบได้อย่างสบายๆโดยไม่ต้องทำงานหน่ะสิ โซลอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขมขื่นในใจ แต่เขาก็รีบเก็บอาการ "เจ้าต้องการคะแนนหรือคริสตัวเวทมนตร์"
"แน่นอน ต้องเป็นคะแนนอยู่แล้ว" เป็นธรรมดาที่มันไม่สามารถแลกเปลี่ยนในชั้นเรียนได้
พวกเขาต้องไปห้องทะเบียนข้างห้องสมุด บนชั้นที่ 9 ของหอคอยตะวันออก เพื่อโอนคะแนนให้กับเคลี
พวกเขาหันมาสนใจชั้นเรียนอีกครั้ง
ในวิชาสมาธิ ครั้งที่ 2 อาจาร์ยโมนิก้า ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น แต่ถูกแทนที่ด้วย แม่มดฝึกหัดระดับ 2
นางได้บอกความรู้ใหม่ๆ จากนั้นก็เริ่มนั่งสมาธิ
พ่อมดฝึกหัด ที่ออกมาข้างหน้าพร้อมกับคริสตัลเวทมนตร์เพื่อถามคำถาม จ้องไปยังนางด้วยสายตาที่เย็นชา
ชั้นเรียนนี้จึงกลายเป็นชั้นเรียนที่ต้องเรียนด้วยตัวเอง
เมื่อไม่มีคนสอน พ่อมดฝึกหัดจึงเริ่มรวมตัวกันพูดคุย
ห้องเรียนค่อยๆ เต็มไปด้วยเสียงพูดคุย
เคลี ยังคงนั่งอยู่ข้างๆ โซล
โซล มองไปยังภาพทำสมาธิมนุษย์และสัตว์ประหลาดในหนังสือของเขา ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็สั่นสะท้าน เขานึกถึงคำถามเมื่อวาน
"เคลี เจ้าใช้ภาพไหนในการทำสมาธิ"
"ข้าใช้ดอกไม้แห่งอาณาจักรลี้ลับ ในหน้าที่ 3"
"แล้วเจ้าสามารถทำสมาธิโดยไม่มี ลูกแก้วคริสตัลได้หรือไม่?"
"ข้าทำไม่ได้ ท่านอาจาร์ยบอกว่า เจ้าจะสามารถทำสมาธิได้อย่างอิสระ ก็ต่อเมื่อพลังจิตของเจ้าไปถึงพ่อมดฝึกหัดระดับ 2 แล้วเท่านั้น" เคลี รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย
"เจ้าทำสมาธิได้อย่างอิสระแล้วงั้นเหรอ?"
โซล ส่ายหัว "ข้าทำได้ แต่มันยังไม่สมบูรณ์ ข้าไม่สามารถดูดซับพลังธาตุได้ ทำได้เพียงรักษาจิตใจให้มั่นคงเท่านั้น"
"น่าทึ่งจริงๆ" เคลี ยกนิ้วให้ "ถ้าข้าทำสมาธิโดยไม่มีลูกแก้ว ตัวข้าจะเห็นเพียงลายเส้นที่ยุ่งเหยิง"
นางโน้มตัวเข้ามา และถามว่า "เจ้าใช้ภาพไหนในการทำสมาธิกัน?" เคลี มองไปที่เขาด้วยความสงสัย พลางพลิกหนังสือดู "เหตุใด หนังสือของเขาจึงแตกต่างกัน ทำไมข้าไม่มีหน้านี้"