ตอนที่ 72 : [ ลำไส้อักเสบ ] โดนแบน ?
ตอนที่ 72 : [ ลำไส้อักเสบ ] โดนแบน ?
ปัง !
ก่อนที่จะพุ่งมาถึงตรงหน้าหลินลั่ว อยู่ ๆ หยางเสี่ยวเหยาก็ขาอ่อนร่วงลงไปกับพื้นพร้อมมือที่กุมท้อง ที่ก้นยังมีอึไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
ลำไส้อักเสบ
นี่ไม่ใช่ท้องเสียธรรมดา
ในกรณีร้ายแรง มันจะทำให้เกิดอาการปวดท้อง, มีไข้, ท้องเสีย, เวียนหัว, น้ำในหัวไม่สมดุลจนนำไปสู่ภาวะขาดน้ำ ร้ายแรงจริง ๆ อาจจะทำให้ช็อกได้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหยางเสี่ยวเหยาในตอนนี้อยู่ในสภาพแบบนั้น
“อึก....” กรรมการยกมือขึ้นปิดจมูกและเดินไปตรวจสอบอาการหยางเสี่ยวเหยา จากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็ประกาศออกมา “หยางเสี่ยวเหยาหมดสติ ผู้ชนะหลินลั่ว !”
“เร็วเข้า ! รีบเอาตัวเขาออกไป !”
“อี๋...” ไม่นานเจ้าหน้าที่และหมอก็พากันวิ่งขึ้นมาหามตัวหยางเสี่ยวเหยาออกจากที่นั่น
เจ้าหน้าที่หลายคนต้องขึ้นมาทำความสะอาดสิ่งปฏิกูลบนเวทีประลองเพราะแทบไม่มีที่สะอาดเหลืออยู่บนเวทีประลองแล้ว
เมื่อหลินลั่วเดินลงมาจากเวที เหล่าผู้ปลุกพลังที่ดูอยู่ต่างก็คลั่งขึ้นมา
“บ้าเอ้ย ! สกิลแบบเดิมอีกแล้ว เราจะรับมือไหวได้ยังไง ?”
“....”
“ฉันรู้แล้วว่าไอ้บ้านี่ไปถึงชั้น 30 ได้ยังไง ถึงจะเป็นมอนสเตอร์ แต่ถ้าอึราดก็สู้ไม่ไหวหรอก...”
“สกิลโคตรเจ๋งเลย ! ถ้าไม่พอใจใครก็ใช้สกิลนี้ใส่....”
“น่ารังเกียจชะมัด นายมีสกิลแบบนั้นบ้างรึเปล่า ?”
“บางทีนายอาจจะซ่อนสกิลไว้ก็ได้...”
“เขาน่าจะเป็นอาชีพลับแน่ ๆ ...”
“สมกับเป็นแชมป์จริง ๆ ...”
เหล่าผู้ปลุกพลังต่างก็แสดงความเห็นกันออกมา บางคนโกรธ บางคนหัวเราะ ทว่ามีหลายคนที่แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา
สกิลแบบนี้ไม่ได้ทำอันตรายเพียงแค่พวกเขาโดยตรง ทว่ามันทำให้พวกเขาเสียเกียรติ !
ไม่มีใครอยากอึราดไปด้วยสู้ไปด้วยหรอกนะ
บนเวที สีหน้าของเหล่าคนระดับสูงหลายคนดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
“สกิลนี้มันน่ากลัวจริง ๆ ในรอบหลายร้อยปีนี้ฉันเพิ่งจะเคยเห็น”
“ฉันก็ด้วย ไม่รู้ว่าไอ้หนูนี่เพิ่มเลเวลสกิลนี้ไปเท่าไหร่แล้ว ขีดจำกัดมันอยู่ที่ไหนรึใช้กับใครไม่ได้ผลบ้าง”
เมื่อได้ยินคนพูดแบบนั้น หลายคนก็ได้สติ
ถ้าสกิลนี้ใช้ได้ผลตลอด และส่งผลกับมอนสเตอร์ งั้นมันก็ถือว่าเป็นสกิลดีบัฟ !
สกิลควบคุมจิตใจ, สับสน, ทำให้สลบ, แช่แข็ง, เผาไหม้ และพิษ ก็ยังไม่ดีเท่ากับสกิลนี้เลย !
สีหน้าของกั้วโฉวยี่ดูแปลกไป ทว่าสายตาเขาดูพอใจอย่างมาก
เด็กนี่แปลกจริง ๆ สกิลควบคุมอย่างไวรัสโรคห่าที่ใช้ในหอฝึกฝน แล้วยังสกิลแปลก ๆ นี่อีก ?
มันเป็นอาชีพใหม่ที่ควบคุมอาการท้องเสียรึไง ?
ตอนนั้นก็มีคนวิ่งเข้ามากระซิบบางอย่างกับกั้วโฉวยี่
ตอนแรกสีหน้าเขาเปลี่ยนไป เขาดูโกรธ ทว่าวินาทีต่อมาเขาก็กลับมาเยือกเย็นดังเดิมและลองคิดทบทวนดูดี ๆ
“ตระกูลตงฟางห้ามไม่ให้หลินลั่วใช้สกิลนี้ต่อ....”
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้”
“.....”
หลังจากคนที่มาแจ้งข่าวกลับไป กั้วโฉวยี่ก็มองไปที่หลินลั่ว
“หลินลั่ว ? ฉันอยากเห็นเหมือนกันว่านายจะมีสกิลอะไรอีก”
“นายคู่ควรกับ....การลงทุนของผู้พิทักษ์รึเปล่า”
ผ่านไปกว่า 2 ชม. การประลองรอบสองก็ได้สิ้นสุดลง ตอนนี้เหลือผู้เข้าแข่งขันแค่ 25 คน
พวกเขาเป็นผู้ปลุกพลังชั้นนำในหมู่ผู้ปลุกพลังหน้าใหม่ของเมืองปิ้นไห่ในปีนี้ อาชีพของพวกเขาอยู่ระดับ A เป็นอย่างน้อย
แต่มันมีหลุดมาคนหนึ่ง หลินลั่วนักบวชระดับ D !
“[ ลำไส้อักเสบ ] ถูกแบนไม่ให้ใช้ ?” หลินลั่วแปลกใจเล็กน้อยแต่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
มันก็มีเหตุผลล่ะนะ
เขามองไปทางตงฟางเหอ สายตาของอีกฝ่ายดูเย่อหยิ่งอย่างมาก
เขาราวกับกำลังจะบอกว่า ‘ฉันแบนสกิลแกแล้ว ฉันอยากเห็นว่าแกจะทำอะไรได้อีก’
หลินลั่วยิ้มออกมา นี่คิดจริง ๆ เหรอว่าแค่แบน [ ลำไส้อักเสบ ] ของเขาแล้วเขาจะไม่มีทางเลือกอื่น ?
ไม่นานข่าวนี้ก็กระจายไปถึงหูคนอื่น ๆ
“ได้ยินมั้ย สกิลของหลินลั่วที่ทำให้คนท้องเสียน่ะถูกแบนแล้ว !”
“จริงเหรอ ? ใครมีอำนาจขนาดนั้นวะ ?”
“แบนก็ดีแล้ว ! นี่ก็เป็นการประลองแบบเดี่ยว ลานประลองมีแต่อึแต่เยี่ยว ผู้คนในเมืองอื่น ๆ รู้เข้าจะคิดยังไงกับเมืองเรา ?”
“ฉันเองก็คิดแบบนั้น ! หลินลั่วน่ะพึ่งสกิลนี้ทำให้คนอื่นยอมแพ้โดยไม่ต้องสู้ ถือว่าโกงชัด ๆ !”
“โกงอะไร นั่นคือความสามารถของเขา ถ้านายมีความสามารถก็ไปหาเรียนสกิลนี้ดูสิ !”
“หุบปากไป ปากเหม็นว่ะ !”
“แกว่าใครปากเหม็น !”
“ฮ่าฮ่า หลินลั่วโดนแบนไม่ให้ใช้สกิลที่ทำให้คนท้องเสีย ฉันไม่คิดว่าเขาจะเหลือสกิลอื่นให้ใช้แล้ว !”
“อัตราเดิมพันหลินลั่วเพิ่มขึ้น ! อยากแทงกันมั้ย ?”
ผู้คนพากันออกความเห็นกันออกมา แต่หลินลั่วไม่ได้สนใจและมองดูผลการจับฉลากต่อ
ไม่นานก็มีชื่ออีกคนโผล่มาด้านหลังชื่อเขา
“หือ....น่าสนใจ เขานี่เอง !”
บนจอนั้นมีชื่อหลินลั่วกับชื่อของหยางห้าวหรานที่ต้องสู้กัน !
“เยี่ยม ! ฉันได้สู้กับมันแล้ว !”
ห่างไปไม่ไกลนัก หยางห้าวหรานกำหมัดแน่นมองไปที่หลินลั่วด้วยสีหน้าแค้นเคือง
“หยางห้าวหราน จำได้มั้ยว่าฉันบอกอะไรนายไป ?” ตงฟางเหอกัดฟันพูดขึ้น
“รู้แล้ว !” หยางห้าวหรานพูดขึ้น “ทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะเขา ตัดแขนกับขาเขาซะ แย่ที่สุดคือทำให้เขาหมดแรง !”
“ไม่ต้องห่วง พี่เหอ ด้วยยากับอุปกรณ์ป้องกันที่ให้มา ผมต้องเอาชนะมันได้แน่ !”
“นอกจากนี้สกิลน่าขยะแขยงนั่นก็โดนแบนไปแล้ว ผมอยากเห็นเหมือนกันว่ามันจะทำอะไรได้อีก !”
“ดี !” ตงฟางเหอพูดขึ้นด้วยท่าทีเฉยเมย “ใช้พลังทั้งหมดฆ่ามันซะ ! ถึงจะฆ่ามันไม่ได้ แต่ก็ต้องให้มันใช้สกิลออกมาให้หมด !”
“นี่....” สายตาของหยางห้าวหรานสั่นไหว “พี่เหอจะเอาแบบนั้นจริง ๆ เหรอ ?”
“หึหึหึ...” ตงฟางเหอฮึดฮัดออกมา “ปกติดาบก็ไม่มีตาอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ มันอาจจะทำให้ใครบาดเจ็บรึตายก็ได้นิ ?”
“ถ้านายฆ่าเขาได้ ฉันรับรองได้ว่าจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นกับนายแน่ ! ฉันจะดึงนายเข้าร่วมตระกูลตงฟางด้วย !”
หยางห้าวหรานกัดฟันแน่นและพูดขึ้น “ได้ พี่เหอ !”
ไม่นานการแข่งขันก็เริ่มต้นขึ้น หลินลั่วกับหยางห้าวหรานขึ้นไปบนเวที
ฟางหยวนที่อยู่ด้านหลังตงฟางเหอโน้มตัวมากระซิบ “คุณชาย หยางห้าวหรานจะฆ่าหลินลั่วได้จริง ๆ เหรอ ?”
“ฆ่า ?” ตงฟางเหอส่ายหน้าและพูดขึ้น “เลเวลของหลินลั่วอย่างน้อยก็ 30 ขึ้นไปแล้ว ! หยางห้าวหรานจะฆ่าเขาได้ยังไง ที่ฉันบอกให้ทำแบบนี้ไปก็เพื่อที่จะเค้นสกิลของหลินลั่วออกมาต่างหาก !”
“เข้าใจแล้ว...”
“ไปได้แล้ว ! ฉันขอตัวก่อน การแข่งของฉันกำลังจะเริ่ม แล้วเจอกัน...”
“เจิ้งหยางฟ่านจากโรงเรียนที่ 5 ! ฉันจำเขาได้ ผู้ปลุกพลังนักเวทย์พายุระดับ A เด่นเรื่องเวทย์ลม !”
ตงฟางเหอชายตามองและเห็นชายตัวสูงในชุดสีฟ้ามองมาที่เขาด้วยสายตาท้าทาย
“แค่นักเวทย์พายุระดับ A ไม่มีสิทธิ์ให้ฉันใช้มังกรยมทูตด้วยซ้ำ !”
พูดจบตงฟางเหอก็ขึ้นเวทีประลองที่ 2 ไป !
ในอีกด้านเจิ้งหยางฟ่านก็กำคทาในมือไว้แน่น เขากำลังจะขึ้นเวทีแต่ก็ถูกคนคนหนึ่งรั้งเอาไว้ก่อน
หยางเฉินหลี่พูดขึ้นมา “หยางฟ่าน ตงฟางเหอน่ะแปลก ๆ เขาแผ่จิตสังหารออกมา รอดูไปก่อน ถ้ามันมีอะไรผิดปกติ ให้ยอมแพ้ทันที !”
เจิ้งหยางฟ่านพูดขึ้น “ไม่ต้องกังวล เฉินหลี่ ฉันเองก็เลเวลพอ ๆ กับเขา นอกจากนี้ฉันก็เป็นนักเวทย์พายุ ถึงจะเอาชนะเขาไม่ได้ แต่เขาก็เอาชนะฉันไม่ได้ง่าย ๆ หรอก !”
เขาถีบตัวและทะยานขึ้นไปบนเวทีประลองจนทำให้ผู้คนฮือฮา
หยางเฉินหลี่คิ้วขมวด “ตงฟาง...”
ในเวทีประลองที่ 1 หยางห้าวหรานจ้องหลินลั่วไม่กะพริบตา
“หลินลั่ว เมื่อไม่มีสกิลน่าขยะแขยงนั่น ฉันอยากเห็นเหมือนกันว่าแกจะทำอะไรได้อีก !”
หลินลั่วยิ้มออกมา “ทำอะไรได้ แกก็รอดูเองก็แล้วกัน !”
“มาสิ !”
กรรมการเห็นว่าทั้งสองคนพร้อมแล้วจึงยกมือขึ้น “เริ่มสู้ได้ !”
ทันทีที่กรรมการพูดจบ ร่างของหยางห้าวหรานก็พุ่งเข้าหาหลินลั่ว
[ เฟลมสแลช ] !
ทันที่ที่ดาบเวทย์ฟันลงมา มันก็มีไฟลุกไหม้ขึ้นบนตัวดาบฟันเข้าใส่หลินลั่ว หลินลั่วยังยืนนิ่งอยู่กับที่ เขาพลิกคทาเบา ๆ พร้อมโล่น้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นมาตรงหน้าเขา
ตูม !
ดาบไฟปะทะกับโล่น้ำแข็งทำให้เกิดไอน้ำกระจายไปรอบ ๆ เพื่อจัดการกับหยางห้าวหราน แค่โล่น้ำแข็งก็พอแล้ว
ภายใต้หมอกน้ำแข็ง ร่างของหยางห้าวหรานปรากฏขึ้นในอีกด้าน เขาพลิกดาบเวทย์ในมือ ไอเย็นรอบ ๆ กำลังพุ่งเข้ามาในดาบ !
“ตายซะ !”
เมื่อเห็นแบบนั้น ผู้ชมก็พากันฮือฮาขึ้นมา
“เอาแล้วไง เอาแล้ว ! พลังของนักดาบเวทย์ !”
“เก่งเรื่องสู้ระยะประชิด แถมยังควบคุมพลังธาตุได้ด้วย”
“ไฟกับน้ำแข็ง ! หยางห้าวหรานควบคุมได้ทั้งสองธาตุ !”
“แข็งแกร่งจริง ๆ !”
ในลานประลอง หยางห้าวหรานใช้ไอเย็นที่แผ่ออกมาจากตัวโล่น้ำแข็งมาเพิ่มพลังโจมตีให้กับตัวเอง
“ฮ่าฮ่า ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะมีโล่น้ำแข็ง แต่โล่นี่กลับเป็นประโยชน์กับฉัน !”
ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนนั้นอยู่ใกล้กันมาก แค่ไม่กี่วินาทีหยางห้าวหรานก็อยู่ห่างจากหลินลั่วแค่ 20 ม.
“ตายซะ !” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังดูเฉยเมยดังเดิม สายตาของหยางห้าวหรานก็สะท้อนความอาฆาตออกมา
“ตายห่าไป ! ฉันจะได้เข้าร่วมตระกูลตตงฟาง !”
“หลินลั่ว ตายซะเถอะ !”
เขาคำรามออกมาพร้อมยกดาบเวทย์ในมือขึ้น ตอนนั้นหลินลั่วที่อยู่ไม่ไกลกลับยกคทาขึ้นมา
“นี่คิดจะตอบโต้แล้วเหรอ ? แต่มันสายเกินไปแล้ว !”
คลื่นพลังจิตแผ่มาถึงตัวหยางห้าวหรานแต่เขาไม่ได้รู้สึกอะไร
“มันไม่ใช่สกิล...ท้องเสีย อีกอย่างสกิลของแกก็โดนแบนไปแล้ว ถ้าแกกล้าใช้สกิลเดิม งั้นแกก็จะถูกปรับตกรอบ...”
“....”
อยู่ ๆ หยางห้าวหรานก็รู้สึกคัน ๆ ที่ไอ้จ้อนตัวเอง ความรู้สึกนี้ลามไปทั่วทั้งตัวอย่างรวดเร็ว
เขาถึงกับจาม
แทบจะพร้อมกันเขาก็รู้สึกชาไปทั่วทั้งตัว ก่อนจะรู้สึกเจ็บเป็นช่วง ๆ
“อึก...” เขาทนความเจ็บ ตัวเขาสั่นไปทั้งตัว ดาบเวทย์ในมือถูกลดลง เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างกำลังแทงผิวเขาอยู่ มันแทงแรงขึ้นเรื่อย ๆ
“เหี้ย เหี้ย ! แกทำอะไรลงไปวะ !”