ตอนที่แล้วตอนที่ 70 : 7 จักรพรรดิแห่งทะเลลึก ! เริ่มการแข่งแบบเดี่ยว !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 72 : [ ลำไส้อักเสบ ] โดนแบน ?

ตอนที่ 71 : เริ่มประลอง ! สนามแข่งที่อากาศถ่ายเท !


ตอนที่ 71 : เริ่มประลอง ! สนามแข่งที่อากาศถ่ายเท !

“ไม่เอา !” หลินลั่วปฏิเสธข้อเสนอของเหลียนอี้หนิงทันที

แค่การกระทำของคนคุ้มกันตระกูลเหลียนเมื่อคืนนี้ก็เพียงพอที่จะแสดงจุดยืนของตระกูลเหลียนได้แล้ว การที่เหลียนอี้หนิงได้เข้าแข่งขันแบบเดี่ยว ก็ทำให้หลินลั่วแปลกใจมาก

นอกจากนี้ด้วยนิสัยของเขาแล้ว เขาไม่ยอมก้มหัวให้กับใคร

ก็แค่พวกตระกูลตงเหอ

“เฮ้อ ก็ได้..” เมื่อเห็นว่าหลินลั่วตัดสินใจ เหลียนอี้หนิงก็นึกถึงสิ่งที่พ่อของเธอกับน้าสาวเถียงกันเมื่อคืนนี้

“5 ปีก่อน พี่บังคับให้ฉันต้องแยกจากเขา เขาเดินทางไปที่เมืองหลวงเพราะความโกรธ !”

“4 ปีก่อน เขาปลุกพลังอาชีพลับระดับ S ขึ้นมาได้ เขาเข้าร่วมการสอบเข้ามหา’ลัย ก่อนจะได้แชมป์แบบทีมและแบบเดี่ยวในปีนั้น เขาขึ้นไปถึงหอฝึกฝนชั้น 2,500 ตอนที่เรียนจบ”

“ตอนนี้เขากลายเป็นผู้ปลุกพลังระดับทองที่เด็กที่สุด เขามีสิทธิ์ที่จะก้าวขึ้นไปเป็นผู้ปลุกพลังระดับอีปิค !”

“ในเวลาแค่ 4 ปี มีกี่คนในประวัติศาสตร์ที่ทำแบบนี้ได้ ?”

“ตระกูลของเราได้สร้างศัตรูระดับอีปิคขึ้นมาเพราะความผิดพลาดของพี่ พี่ยังคิดจะสร้างศัตรูแบบนั้นให้กับตระกูลเหลียนอยู่อีกเหรอ ?”

คำพูดของน้าทำให้พ่อของเธอเงียบไป

สุดท้ายเขาก็ได้แต่ต้องยอมให้เหลียนอี้หนิงเข้าร่วมการแข่งแบบเดี่ยว แต่สำหรับเรื่องเหลียนอี้หนิงกับหลินลั่วแล้ว เหลียนเจิ้งยังไม่ยอม

“เมื่อ 5 ปีก่อนเขาเป็นใคร ?”

“เจิ้งเหมิงเซิ่น ?”

“เขาเหมือนจะเป็นผู้ครองสถิติล่าสุดได้  ผู้ปลุกพลังอาชีพลับระดับ S เนโครแมนเซอร์ เขาเพิ่งเรียนจบปีนี้ ฉันได้ยินว่าเขาเป็นผู้ปลุกพลังระดับทองที่เด็กที่สุด !” เหลียนอี้หนิงพึมพำกับตัวเอง

ด้วยการเคลียร์ภารกิจเปลี่ยนอาชีพขั้น 2 ตอนนี้จึงถือว่าหลินลั่วเป็นผู้ปลุกพลังระดับเหล็กแล้ว

ในหมู่ผู้ปลุกพลัง ถือว่าเป็นระดับที่ต่ำ

หลังจากที่ผ่านเลเวล 50 ไป มันจะมีภารกิจอาชีพขั้น 3 อยู่อีก การเปลี่ยนอาชีพขั้น 3 นั้นไม่จำเป็นต้องใช้ใบเปลี่ยนอาชีพ

ตราบใดที่เลเวลสูงพอ งั้นก็สามารถรับภารกิจมาทำได้เลย  เมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น งั้นก็จะก้าวขึ้นไประดับทองแดง

ต่อไปก็ระดับเงินเลเวล 80 ระดับทองเลเวล 100

สำหรับระดับอีปิคแล้วต้องเลเวลอย่างน้อย 500  !

“นักเรียนทุกคน ! การจับฉลากเสร็จสิ้นแล้ว !”  บนเวที เสียงของกั้วโฉวยี่ดังขึ้นมาอีกครั้ง

“ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกคนจะไปรอที่สนามของตัวเอง !”

บนจอภาพนั้นมีชื่อของคู่แข่งกว่า 50 คู่ปรากฏขึ้นมา

“พี่ลั่ว คู่แรกนายนิ !”

หลินลั่วมองไปรอบ ๆ และพบกับชื่อตัวเอง

“จางฉือ ? ใครกัน ?”

“ดูเหมือนว่า....จะมาจากโรงเรียนที่ 3” ถังเฉิงคิดสักพักก่อนที่ตาจะเป็นประเกาย “แม้แต่เทพธิดาเหลียนก็ยังต้องสู้เหลียงฟ่านคังจากโรงเรียนที่ 1 เขาเป็นผู้ปลุกพลังระดับ B ดูเหมือนว่าเธอจะชนะได้แน่ !”

“ดูฉันสิ ฉันต้องสู้กับหยางเสี่ยวเหยาในคู่ที่ 11 เขาเป็นผู้ปลุกพลังอาชีพระดับ B เหมือนกัน !”

หลยคนพากันถกเถียงกัน ทว่าพวกเขาไม่รู้เลยว่าที่มุมหนึ่งนั้นมีคนตะโกนออกมาด้วยความแปลกใจ

“ฮ่าฮ่า ! ฉันได้คู่แรกเว้ย ได้สู้กับหลินลั่ว !” เด็กหนุ่มหน้าตาธรรมดากัดฟันพูดขึ้น “ฉันไปถึงชั้น 24 แล้วแท้ ๆ แต่เพราะเขาที่ทำให้ฉันต้องออกมา !”

“รอขึ้นเวทีประลองเมื่อไหร่ ฉันะสั่งสอนเขาเอง !”

เพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ ก็ให้กำลังใจ “เอาเลยพวก !”

“ไอ้บ้านั่นเก่งแค่ใช้หมอกพิษนี่แหละ เราเตรียมยาแก้พิษกันมาหมดแล้ว ที่นี่เป็นพื้นที่เปิดด้วย หมอกพิษใช้ไม่ได้ผลหรอก !”

“เอาเลย !”

ไม่กี่นาทีต่อมา สนามแข่งทั้ง 10 แห่งก็เต็มไปด้วยผู้คน โดยเฉพาะสนามแข่งที่ 1, 5 และ 7

เหตุผลก็ง่าย ๆ

สนามแข่งที่ 1 นั้นคือที่แข่งสำหรับแชมป์เมื่อวานนี้ หลินลั่ว

สนามแข่งที่ 2 นั้นเป็นสนามแข่งของตงฟางเหอ

สำหรับสนามแข่งที่ 5 และ 7 แล้ว มันเป็นสนามแข่งของเทพธิดาทั้งสองคน เหลียนอี้หนิงและมู่หรงเสวี่ยเหิน

หลินลั่วกับจางฉือยืนอยู่บนเวทีประลอง กรรมการมองไปยังทั้งสองคนก่อนจะยกมือขึ้น

“ไอ้หนู ! แกบังคับให้ฉันต้องออกมาจากชั้น 24 ฉันจะสั่งสอนแก !”

หลินลั่วไม่ได้สนใจอีกฝ่าย และเลือกที่จะหลับตาอยู่นิ่ง ๆ

“เริ่มสู้ได้ !”

ทันทีที่กรรมการพูดจบ ร่างของจางฉือก็เปลี่ยนเป็นเงาพุ่งเข้าหาหลินลั่ว

“เตรียมตัวตายห่าไปได้เลย...”

‘ฉันเป็นนักฆ่า แกเป็นนักบวช พริบตาเดียวฉันก็เข้าถึงตัวแกได้แล้ว แกคงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะเตรียมหมอกพิษได้ แค่ระวังไว้ก็พอ...’

ก่อนที่จางฉือจะคิดจบ มันก็มีเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นมา

อยู่ ๆ เขาก็ปวดที่ท้องน้อย ราวกับมีบางอย่างจะพุ่งออกมาจากหูรูดก้น เขาถึงกับต้องรีบขมิบก้นเอาไว้

“กรรมการ ! ผมขอเวลานอก ! ผมจะไป....”  สีหน้าของจางฉือเปลี่ยนไป ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็กระโดดลงจากเวทีแล้ววิ่งไปอีกมุมหนึ่ง

ในอากาศมีแต่กลิ่นเหม็นคลุ้ง

“เหี้ย ! เขาทำบ้าอะไรวะ ?”

“ทำไมอยู่ ๆ เขาถึงได้โดดลงจากเวทีประลอง ?”

“ไอ้บ้านี่ยอมแพ้งั้นเหรอ ?”

“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นได้ ?”

“จางฉือมันท้องเสีย...”

“ดูเหมือนว่านั่นจริง ! ดูที่พื้นสิ....”

“เมื่อคืนเขาไปกินอะไรมาวะ...”

ตอนนั้นเองพวกผู้ปลุกพลังหน้าใหม่กับผู้ชมต่างก็พึมพำออกมา ทว่ากรรมการบนเวทีประลองกลับสับสน

มันเป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

หลินลั่วออกปากเตือน “กรรมการ เขากระโดดลงจากเวทีประลองไปแล้ว นี่ถือว่าเขายอมแพ้ใช่รึเปล่าครับ ?”

“โอ้ เอ้อ ใช่....”  ตอนนั้นเองกรรมการถึงได้สติกลับมา เขายกมือและพูดขึ้น “ผู้ชนะ หลินลั่ว !”

การแข่งครั้งนี้กินเวลาไม่ถึง 10 วินาทีก็ได้ผู้ชนะแล้ว !

ในเวทีประลองที่ 2 ตงฟางเหอถือหอกมังกรทอง ในมือมีเปลวไฟสีทองลุกไหม้ เขาเปลี่ยนเป็นเงาและพุ่งออกไป

“ตายซะ ! ตายห่าไป !”

“แกตาย ๆ ไปซะ !”

คู่ต่อสู้ของตงฟางเหอเป็นนักธนู อีกฝ่ายใช้ความเร็วในการเว้นระยะห่างและใช้ธนูยิงใส่ตงฟางเหอ แต่ตงฟางเหอนั้นเหมือนกับสัตว์ร้ายที่ไม่สนใจธนูที่ยิงเข้ามาแม้แต่น้อย

“นายบ้าไปแล้วเหรอ !”

“ตงฟางเหอ !”  นักธนูตะโกนออกมา เขาพยายามที่จะถอยห่าง ทว่าสุดท้ายก็โดนต้อนจนมุม เมื่อเห็นหอกที่แทงเข้ามา เขาก็ได้แต่ตะโกนออกมา “ยอมแพ้ ! ฉันขอยอมแพ้ !”

แสงสีเหลืองพุ่งลงมาจากฟ้าครอบคลุมร่างนักธนูเอาไว้ทันที

ตูม !

หอกทองพุ่งปะทะทำให้โล่แสงนั้นเกิดรอยร้าว

แต่โชคดีที่โล่แสงนี้ยังกันหอกของตงฟางเหอเอาไว้ได้

“เหี้ย...”

“ไอ้ห่านี่...”  นักธนูหอบหายใจและรีบวิ่งลงจากลานประลองไป

“ผู้ชนะ ตงฟางเหอ !”

ในเวลาเดียวกันกรรมการก็ประกาศออกมา ตงฟางเหอหันกลับไปมองที่เวทีประลองที่ 1

“...”

“หือ ? แล้วการแข่งขันล่ะ ?”

เขาเห็นว่าเวทีประลองที่ 1 นั้น หลินลั่วไม่อยู่ที่นั่นแล้ว มันมีผู้ปลุกพลังคู่อื่นกำลังสู้อยู่แทน

“บัดซบ ! เขาชนะไปแล้ว !”

“แต่ก็ดี เขาจะได้มีสิทธิ์เป็นคู่ต่อสู้ของฉัน !”

หลังจากที่ผ่านไปกว่า 10 นาที ผลการประลองทั้ง 10 สนามก็ได้ผลตัดสิน

ผู้ปลุกพลังที่เหลือพากันสลับกันขึ้นเวทีไป

“เฮ้อ พี่ลั่ว ฉันแพ้....” ถังเฉิงยืนอยู่ตรงหน้าหลินลั่วด้วยสีหน้าสลด “เด็กนั่นเป็นอัศวิน ฉันรับมือไม่ไหว....ทั้ง ๆ ที่ยื้อมาได้กว่า 10 นาทีแล้วแท้ ๆ”

“อย่างน้อยนายก็ได้ 100 อันดับแรก...”

“พูดไปแล้ว หึหึหึ...”

“แล้วเทพธิดาเหลียนล่ะ ?”

“เธอก็ชนะ รอผลการจับฉลากรอบสองอยู่...”

“....”

ที่อีกมุม ตงฟางเหอฟังสถานการณ์จากฟางหยวน สายตาเขาดูแน่วแน่อย่างมาก....

“ท้องเสียอีกแล้ว !”

“หลินลั่วนี่แปลกจริง ๆ !”

“เขามีสกิลทำให้คนท้องเสีย.....”

“นายน้อย เราควรทำยังไงดี ?”

หยางห้าวหรานสีหน้าบิดเบี้ยว นี่มันสกิลบ้าอะไร เขาจะต้องรับมือยังไง ?

ทันทีที่โดนสกิล เขาก็จะท้องเสีย เขาจะไปทนไหวได้ยังไง ?

เขาไม่ได้กลัวแพ้ ทว่าเขากลัวจะอึดราดต่อหน้าคนเป็นหมื่น ๆ คน ถ้าเป็นแบบนั้นเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน !

“ไม่ต้องกังวล !” ตงฟางเหอกัดฟันพูดขึ้น “สกิลนี้มันน่ารังเกียจ ฉันเจอคน...”

ไม่นานผลจับฉลากรอบสองก็ออกมา !

หลินลั่วต้องสู้กับคู่ต่อสู้ของถังเฉิง หยางเสี่ยวเหยา !

“พี่ลั่ว แก้แค้นให้ฉันด้วย !”

ทั้งสองพากันขึ้นเวที เมื่อกรรมการประกาศให้เริ่มสู้ หยางเสี่ยวเหยาก็ลงมือทันที

ทันทีที่เงยหน้า เขาก็กินยา 3 เม็ดสีแตกต่างกันเข้าไป มันมีคัมภีร์ 3 อันปรากฏขึ้นในมือ เขาฉีกมันทิ้งเพื่อใช้มันทันที

มีโล่ป้องกัน 3 อันปรากฏขึ้นรอบตัว ส่องแสงสีสันแตกต่างกันออกมา

เขายกค้อนในมือขึ้นพร้อมแสงสีดำที่เปล่งประกายออกมาสร้างโล่ป้องกันอีกชั้นขึ้นมา

จากมุมมองของหลินลั่ว มันคล้ายกับชั้นแบตเตอรี่ที่ส่องแสงออกมา

“หลินลั่ว ! ฉันรู้จักสกิลที่น่ารังเกียจของนาย ฉันกินยาแก้พิษมาแล้วและยังมีโล่พลังเวทย์ด้วย ฉันเป็นนักดาบเวทย์ พลังป้องกันเวทย์ของฉันสูง ฉันอยากเห็นเหมือนกันว่าสกิลของนายจะใช้กับฉันได้รึเปล่า !”

“ฉันไปถึงตั้งชั้น 24 แล้ว มีโอกาสที่ฉันจะไปถึงชั้น 25 ได้ ทว่าเพราะนาย ฉันเลยต้องออกมาตั้งแต่ชั้น 24 !”

“วันนี้ฉันจะเอาชนะนายให้ได้ !”

ทว่าในใจเขารู้ว่ายาและคัมภีร์ที่ตงฟางเหอให้มา เพื่อให้เขาใช้มันรับมือกับหลินลั่ว

เขาเป็นคนโลภมาก เพื่อยา, คัมภีร์เวทย์ และผลประโยชน์อื่น ๆ ที่ตงฟางเหอรับปาก หยางเสี่ยวเหยาก็พร้อมที่จะจัดการกับหลินลั่ว

เขาคำรามออกมาแล้วยกค้อนในมือขึ้นพุ่งออกไป

สายตาของหลินลั่วดูแปลกไป

“ยากับคัมภีร์พวกนี้มีค่าไม่ใช่น้อย ๆ เลย ผู้ปลุกพลังทั่วไปจะมีเงินซื้อของพวกนี้รึไง ?”

“เมื่อซื้อมันมาใช้แล้ว งั้นก็อย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน !”

“[ ลำไส้อักเสบ ] ของฉันน่ะเลเวล 7 แล้ว พวกผู้ปลุกพลังเลเวลต่ำ ๆ ต้านทานไม่ได้หรอก ถึงจะมียาแก้พิษรึคัมภีร์เวทย์มาช่วยก็ตาม”

คทาในมือหลินลั่วส่องแสงพร้อมสกิล [ ลำไส้อักเสบ ] ที่พุ่งเข้าใส่ร่างอีกฝ่าย

“ครืด....”

เสียงแปลก ๆ ดังออกมาจากท้องหยางเสี่ยวเหยา หน้าเขาซีดไปในทันที

“บ้าเอ้ย....มาแล้วไง....มันรู้สึก....”

“ไม่นะ ! ฉันจะมาอึราดตรงนี้ไม่ได้ ! ฉันใช้สกิลป้องกันไปตั้งเยอะ...”

“อ๊าก....”

ต่อหน้าสายตาของทุกคน หยางเสี่ยวเหยาที่ใส่เกราะสีดำถือค้อนใหญ่รายล้อมไปด้วยโล่พลังสีสันต่าง ๆ ทว่าอยู่ ๆ กลับมีของเหลวสีเหลืองดำพุ่งออกมาจากเกราะส่วนล่างของเขา

กลิ่นเหม็นลอยคลุ้งไปทั่วในทันที

“อ๊ากกกกกก !” หยางเสี่ยวเหยาตะโกนออกมาอย่างกับคนบ้า  เขาเหวี่ยงค้อนในมือพร้อมไฟที่ลุกไหม้ขึ้นมา

ตอนนั้นเขาไม่สนใจอึที่ราดออกมา เขายังคงพุ่งเข้าใส่หลินลั่วต่อ

“ไอ้ห่านี่ ลงนรกไปซะ !!!!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด