ตอนที่ 71 : เริ่มประลอง ! สนามแข่งที่อากาศถ่ายเท !
ตอนที่ 71 : เริ่มประลอง ! สนามแข่งที่อากาศถ่ายเท !
“ไม่เอา !” หลินลั่วปฏิเสธข้อเสนอของเหลียนอี้หนิงทันที
แค่การกระทำของคนคุ้มกันตระกูลเหลียนเมื่อคืนนี้ก็เพียงพอที่จะแสดงจุดยืนของตระกูลเหลียนได้แล้ว การที่เหลียนอี้หนิงได้เข้าแข่งขันแบบเดี่ยว ก็ทำให้หลินลั่วแปลกใจมาก
นอกจากนี้ด้วยนิสัยของเขาแล้ว เขาไม่ยอมก้มหัวให้กับใคร
ก็แค่พวกตระกูลตงเหอ
“เฮ้อ ก็ได้..” เมื่อเห็นว่าหลินลั่วตัดสินใจ เหลียนอี้หนิงก็นึกถึงสิ่งที่พ่อของเธอกับน้าสาวเถียงกันเมื่อคืนนี้
“5 ปีก่อน พี่บังคับให้ฉันต้องแยกจากเขา เขาเดินทางไปที่เมืองหลวงเพราะความโกรธ !”
“4 ปีก่อน เขาปลุกพลังอาชีพลับระดับ S ขึ้นมาได้ เขาเข้าร่วมการสอบเข้ามหา’ลัย ก่อนจะได้แชมป์แบบทีมและแบบเดี่ยวในปีนั้น เขาขึ้นไปถึงหอฝึกฝนชั้น 2,500 ตอนที่เรียนจบ”
“ตอนนี้เขากลายเป็นผู้ปลุกพลังระดับทองที่เด็กที่สุด เขามีสิทธิ์ที่จะก้าวขึ้นไปเป็นผู้ปลุกพลังระดับอีปิค !”
“ในเวลาแค่ 4 ปี มีกี่คนในประวัติศาสตร์ที่ทำแบบนี้ได้ ?”
“ตระกูลของเราได้สร้างศัตรูระดับอีปิคขึ้นมาเพราะความผิดพลาดของพี่ พี่ยังคิดจะสร้างศัตรูแบบนั้นให้กับตระกูลเหลียนอยู่อีกเหรอ ?”
คำพูดของน้าทำให้พ่อของเธอเงียบไป
สุดท้ายเขาก็ได้แต่ต้องยอมให้เหลียนอี้หนิงเข้าร่วมการแข่งแบบเดี่ยว แต่สำหรับเรื่องเหลียนอี้หนิงกับหลินลั่วแล้ว เหลียนเจิ้งยังไม่ยอม
“เมื่อ 5 ปีก่อนเขาเป็นใคร ?”
“เจิ้งเหมิงเซิ่น ?”
“เขาเหมือนจะเป็นผู้ครองสถิติล่าสุดได้ ผู้ปลุกพลังอาชีพลับระดับ S เนโครแมนเซอร์ เขาเพิ่งเรียนจบปีนี้ ฉันได้ยินว่าเขาเป็นผู้ปลุกพลังระดับทองที่เด็กที่สุด !” เหลียนอี้หนิงพึมพำกับตัวเอง
ด้วยการเคลียร์ภารกิจเปลี่ยนอาชีพขั้น 2 ตอนนี้จึงถือว่าหลินลั่วเป็นผู้ปลุกพลังระดับเหล็กแล้ว
ในหมู่ผู้ปลุกพลัง ถือว่าเป็นระดับที่ต่ำ
หลังจากที่ผ่านเลเวล 50 ไป มันจะมีภารกิจอาชีพขั้น 3 อยู่อีก การเปลี่ยนอาชีพขั้น 3 นั้นไม่จำเป็นต้องใช้ใบเปลี่ยนอาชีพ
ตราบใดที่เลเวลสูงพอ งั้นก็สามารถรับภารกิจมาทำได้เลย เมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น งั้นก็จะก้าวขึ้นไประดับทองแดง
ต่อไปก็ระดับเงินเลเวล 80 ระดับทองเลเวล 100
สำหรับระดับอีปิคแล้วต้องเลเวลอย่างน้อย 500 !
“นักเรียนทุกคน ! การจับฉลากเสร็จสิ้นแล้ว !” บนเวที เสียงของกั้วโฉวยี่ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกคนจะไปรอที่สนามของตัวเอง !”
บนจอภาพนั้นมีชื่อของคู่แข่งกว่า 50 คู่ปรากฏขึ้นมา
“พี่ลั่ว คู่แรกนายนิ !”
หลินลั่วมองไปรอบ ๆ และพบกับชื่อตัวเอง
“จางฉือ ? ใครกัน ?”
“ดูเหมือนว่า....จะมาจากโรงเรียนที่ 3” ถังเฉิงคิดสักพักก่อนที่ตาจะเป็นประเกาย “แม้แต่เทพธิดาเหลียนก็ยังต้องสู้เหลียงฟ่านคังจากโรงเรียนที่ 1 เขาเป็นผู้ปลุกพลังระดับ B ดูเหมือนว่าเธอจะชนะได้แน่ !”
“ดูฉันสิ ฉันต้องสู้กับหยางเสี่ยวเหยาในคู่ที่ 11 เขาเป็นผู้ปลุกพลังอาชีพระดับ B เหมือนกัน !”
หลยคนพากันถกเถียงกัน ทว่าพวกเขาไม่รู้เลยว่าที่มุมหนึ่งนั้นมีคนตะโกนออกมาด้วยความแปลกใจ
“ฮ่าฮ่า ! ฉันได้คู่แรกเว้ย ได้สู้กับหลินลั่ว !” เด็กหนุ่มหน้าตาธรรมดากัดฟันพูดขึ้น “ฉันไปถึงชั้น 24 แล้วแท้ ๆ แต่เพราะเขาที่ทำให้ฉันต้องออกมา !”
“รอขึ้นเวทีประลองเมื่อไหร่ ฉันะสั่งสอนเขาเอง !”
เพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ ก็ให้กำลังใจ “เอาเลยพวก !”
“ไอ้บ้านั่นเก่งแค่ใช้หมอกพิษนี่แหละ เราเตรียมยาแก้พิษกันมาหมดแล้ว ที่นี่เป็นพื้นที่เปิดด้วย หมอกพิษใช้ไม่ได้ผลหรอก !”
“เอาเลย !”
ไม่กี่นาทีต่อมา สนามแข่งทั้ง 10 แห่งก็เต็มไปด้วยผู้คน โดยเฉพาะสนามแข่งที่ 1, 5 และ 7
เหตุผลก็ง่าย ๆ
สนามแข่งที่ 1 นั้นคือที่แข่งสำหรับแชมป์เมื่อวานนี้ หลินลั่ว
สนามแข่งที่ 2 นั้นเป็นสนามแข่งของตงฟางเหอ
สำหรับสนามแข่งที่ 5 และ 7 แล้ว มันเป็นสนามแข่งของเทพธิดาทั้งสองคน เหลียนอี้หนิงและมู่หรงเสวี่ยเหิน
หลินลั่วกับจางฉือยืนอยู่บนเวทีประลอง กรรมการมองไปยังทั้งสองคนก่อนจะยกมือขึ้น
“ไอ้หนู ! แกบังคับให้ฉันต้องออกมาจากชั้น 24 ฉันจะสั่งสอนแก !”
หลินลั่วไม่ได้สนใจอีกฝ่าย และเลือกที่จะหลับตาอยู่นิ่ง ๆ
“เริ่มสู้ได้ !”
ทันทีที่กรรมการพูดจบ ร่างของจางฉือก็เปลี่ยนเป็นเงาพุ่งเข้าหาหลินลั่ว
“เตรียมตัวตายห่าไปได้เลย...”
‘ฉันเป็นนักฆ่า แกเป็นนักบวช พริบตาเดียวฉันก็เข้าถึงตัวแกได้แล้ว แกคงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะเตรียมหมอกพิษได้ แค่ระวังไว้ก็พอ...’
ก่อนที่จางฉือจะคิดจบ มันก็มีเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นมา
อยู่ ๆ เขาก็ปวดที่ท้องน้อย ราวกับมีบางอย่างจะพุ่งออกมาจากหูรูดก้น เขาถึงกับต้องรีบขมิบก้นเอาไว้
“กรรมการ ! ผมขอเวลานอก ! ผมจะไป....” สีหน้าของจางฉือเปลี่ยนไป ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็กระโดดลงจากเวทีแล้ววิ่งไปอีกมุมหนึ่ง
ในอากาศมีแต่กลิ่นเหม็นคลุ้ง
“เหี้ย ! เขาทำบ้าอะไรวะ ?”
“ทำไมอยู่ ๆ เขาถึงได้โดดลงจากเวทีประลอง ?”
“ไอ้บ้านี่ยอมแพ้งั้นเหรอ ?”
“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นได้ ?”
“จางฉือมันท้องเสีย...”
“ดูเหมือนว่านั่นจริง ! ดูที่พื้นสิ....”
“เมื่อคืนเขาไปกินอะไรมาวะ...”
ตอนนั้นเองพวกผู้ปลุกพลังหน้าใหม่กับผู้ชมต่างก็พึมพำออกมา ทว่ากรรมการบนเวทีประลองกลับสับสน
มันเป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
หลินลั่วออกปากเตือน “กรรมการ เขากระโดดลงจากเวทีประลองไปแล้ว นี่ถือว่าเขายอมแพ้ใช่รึเปล่าครับ ?”
“โอ้ เอ้อ ใช่....” ตอนนั้นเองกรรมการถึงได้สติกลับมา เขายกมือและพูดขึ้น “ผู้ชนะ หลินลั่ว !”
การแข่งครั้งนี้กินเวลาไม่ถึง 10 วินาทีก็ได้ผู้ชนะแล้ว !
ในเวทีประลองที่ 2 ตงฟางเหอถือหอกมังกรทอง ในมือมีเปลวไฟสีทองลุกไหม้ เขาเปลี่ยนเป็นเงาและพุ่งออกไป
“ตายซะ ! ตายห่าไป !”
“แกตาย ๆ ไปซะ !”
คู่ต่อสู้ของตงฟางเหอเป็นนักธนู อีกฝ่ายใช้ความเร็วในการเว้นระยะห่างและใช้ธนูยิงใส่ตงฟางเหอ แต่ตงฟางเหอนั้นเหมือนกับสัตว์ร้ายที่ไม่สนใจธนูที่ยิงเข้ามาแม้แต่น้อย
“นายบ้าไปแล้วเหรอ !”
“ตงฟางเหอ !” นักธนูตะโกนออกมา เขาพยายามที่จะถอยห่าง ทว่าสุดท้ายก็โดนต้อนจนมุม เมื่อเห็นหอกที่แทงเข้ามา เขาก็ได้แต่ตะโกนออกมา “ยอมแพ้ ! ฉันขอยอมแพ้ !”
แสงสีเหลืองพุ่งลงมาจากฟ้าครอบคลุมร่างนักธนูเอาไว้ทันที
ตูม !
หอกทองพุ่งปะทะทำให้โล่แสงนั้นเกิดรอยร้าว
แต่โชคดีที่โล่แสงนี้ยังกันหอกของตงฟางเหอเอาไว้ได้
“เหี้ย...”
“ไอ้ห่านี่...” นักธนูหอบหายใจและรีบวิ่งลงจากลานประลองไป
“ผู้ชนะ ตงฟางเหอ !”
ในเวลาเดียวกันกรรมการก็ประกาศออกมา ตงฟางเหอหันกลับไปมองที่เวทีประลองที่ 1
“...”
“หือ ? แล้วการแข่งขันล่ะ ?”
เขาเห็นว่าเวทีประลองที่ 1 นั้น หลินลั่วไม่อยู่ที่นั่นแล้ว มันมีผู้ปลุกพลังคู่อื่นกำลังสู้อยู่แทน
“บัดซบ ! เขาชนะไปแล้ว !”
“แต่ก็ดี เขาจะได้มีสิทธิ์เป็นคู่ต่อสู้ของฉัน !”
หลังจากที่ผ่านไปกว่า 10 นาที ผลการประลองทั้ง 10 สนามก็ได้ผลตัดสิน
ผู้ปลุกพลังที่เหลือพากันสลับกันขึ้นเวทีไป
“เฮ้อ พี่ลั่ว ฉันแพ้....” ถังเฉิงยืนอยู่ตรงหน้าหลินลั่วด้วยสีหน้าสลด “เด็กนั่นเป็นอัศวิน ฉันรับมือไม่ไหว....ทั้ง ๆ ที่ยื้อมาได้กว่า 10 นาทีแล้วแท้ ๆ”
“อย่างน้อยนายก็ได้ 100 อันดับแรก...”
“พูดไปแล้ว หึหึหึ...”
“แล้วเทพธิดาเหลียนล่ะ ?”
“เธอก็ชนะ รอผลการจับฉลากรอบสองอยู่...”
“....”
ที่อีกมุม ตงฟางเหอฟังสถานการณ์จากฟางหยวน สายตาเขาดูแน่วแน่อย่างมาก....
“ท้องเสียอีกแล้ว !”
“หลินลั่วนี่แปลกจริง ๆ !”
“เขามีสกิลทำให้คนท้องเสีย.....”
“นายน้อย เราควรทำยังไงดี ?”
หยางห้าวหรานสีหน้าบิดเบี้ยว นี่มันสกิลบ้าอะไร เขาจะต้องรับมือยังไง ?
ทันทีที่โดนสกิล เขาก็จะท้องเสีย เขาจะไปทนไหวได้ยังไง ?
เขาไม่ได้กลัวแพ้ ทว่าเขากลัวจะอึดราดต่อหน้าคนเป็นหมื่น ๆ คน ถ้าเป็นแบบนั้นเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน !
“ไม่ต้องกังวล !” ตงฟางเหอกัดฟันพูดขึ้น “สกิลนี้มันน่ารังเกียจ ฉันเจอคน...”
ไม่นานผลจับฉลากรอบสองก็ออกมา !
หลินลั่วต้องสู้กับคู่ต่อสู้ของถังเฉิง หยางเสี่ยวเหยา !
“พี่ลั่ว แก้แค้นให้ฉันด้วย !”
ทั้งสองพากันขึ้นเวที เมื่อกรรมการประกาศให้เริ่มสู้ หยางเสี่ยวเหยาก็ลงมือทันที
ทันทีที่เงยหน้า เขาก็กินยา 3 เม็ดสีแตกต่างกันเข้าไป มันมีคัมภีร์ 3 อันปรากฏขึ้นในมือ เขาฉีกมันทิ้งเพื่อใช้มันทันที
มีโล่ป้องกัน 3 อันปรากฏขึ้นรอบตัว ส่องแสงสีสันแตกต่างกันออกมา
เขายกค้อนในมือขึ้นพร้อมแสงสีดำที่เปล่งประกายออกมาสร้างโล่ป้องกันอีกชั้นขึ้นมา
จากมุมมองของหลินลั่ว มันคล้ายกับชั้นแบตเตอรี่ที่ส่องแสงออกมา
“หลินลั่ว ! ฉันรู้จักสกิลที่น่ารังเกียจของนาย ฉันกินยาแก้พิษมาแล้วและยังมีโล่พลังเวทย์ด้วย ฉันเป็นนักดาบเวทย์ พลังป้องกันเวทย์ของฉันสูง ฉันอยากเห็นเหมือนกันว่าสกิลของนายจะใช้กับฉันได้รึเปล่า !”
“ฉันไปถึงตั้งชั้น 24 แล้ว มีโอกาสที่ฉันจะไปถึงชั้น 25 ได้ ทว่าเพราะนาย ฉันเลยต้องออกมาตั้งแต่ชั้น 24 !”
“วันนี้ฉันจะเอาชนะนายให้ได้ !”
ทว่าในใจเขารู้ว่ายาและคัมภีร์ที่ตงฟางเหอให้มา เพื่อให้เขาใช้มันรับมือกับหลินลั่ว
เขาเป็นคนโลภมาก เพื่อยา, คัมภีร์เวทย์ และผลประโยชน์อื่น ๆ ที่ตงฟางเหอรับปาก หยางเสี่ยวเหยาก็พร้อมที่จะจัดการกับหลินลั่ว
เขาคำรามออกมาแล้วยกค้อนในมือขึ้นพุ่งออกไป
สายตาของหลินลั่วดูแปลกไป
“ยากับคัมภีร์พวกนี้มีค่าไม่ใช่น้อย ๆ เลย ผู้ปลุกพลังทั่วไปจะมีเงินซื้อของพวกนี้รึไง ?”
“เมื่อซื้อมันมาใช้แล้ว งั้นก็อย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน !”
“[ ลำไส้อักเสบ ] ของฉันน่ะเลเวล 7 แล้ว พวกผู้ปลุกพลังเลเวลต่ำ ๆ ต้านทานไม่ได้หรอก ถึงจะมียาแก้พิษรึคัมภีร์เวทย์มาช่วยก็ตาม”
คทาในมือหลินลั่วส่องแสงพร้อมสกิล [ ลำไส้อักเสบ ] ที่พุ่งเข้าใส่ร่างอีกฝ่าย
“ครืด....”
เสียงแปลก ๆ ดังออกมาจากท้องหยางเสี่ยวเหยา หน้าเขาซีดไปในทันที
“บ้าเอ้ย....มาแล้วไง....มันรู้สึก....”
“ไม่นะ ! ฉันจะมาอึราดตรงนี้ไม่ได้ ! ฉันใช้สกิลป้องกันไปตั้งเยอะ...”
“อ๊าก....”
ต่อหน้าสายตาของทุกคน หยางเสี่ยวเหยาที่ใส่เกราะสีดำถือค้อนใหญ่รายล้อมไปด้วยโล่พลังสีสันต่าง ๆ ทว่าอยู่ ๆ กลับมีของเหลวสีเหลืองดำพุ่งออกมาจากเกราะส่วนล่างของเขา
กลิ่นเหม็นลอยคลุ้งไปทั่วในทันที
“อ๊ากกกกกก !” หยางเสี่ยวเหยาตะโกนออกมาอย่างกับคนบ้า เขาเหวี่ยงค้อนในมือพร้อมไฟที่ลุกไหม้ขึ้นมา
ตอนนั้นเขาไม่สนใจอึที่ราดออกมา เขายังคงพุ่งเข้าใส่หลินลั่วต่อ
“ไอ้ห่านี่ ลงนรกไปซะ !!!!”