ตอนที่แล้วตอนที่ 66 ความทุกข์ใจนี้ นอกจากเย่เฉินแล้วจะมีสักกี่คนที่สามารถสัมผัสได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 68 อัปเกรด

ตอนที่ 67 ไม่อยากเชื่อ


[ภารกิจท้าทาย : มีบริษัทเอเจนซี่พยายามแย่งชิงตัว ไป๋ ฮันเยียน แม้เธอปฏิเสธแต่พวกเขายังคงตามตื๊อไม่เลิก เพื่อปกป้องพนักงานของตัวเอง และปกป้องเงิน 15,000 ล้านของตัวเอง]

[รางวัลภารกิจ : อาคารที่อยู่อาศัยในระดับชั้นนำ หนึ่งหลัง]

[คะแนนค่าประสบการณ์ +9]

[คะแนนร้านค้า +3]

เมื่อเห็นภารกิจความท้าทายนี้ เย่เฉิน รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาในทันที

มีบริษัทที่พยายามจะแย่งชิงตัวพนักงานของเขา แถมยังเป็น ไป๋ ฮันเยียน

เรื่องนี้.. เขายอมไม่ได้!

เนื่องจากสิ่งนี้มันเกี่ยวข้องกับภารกิจท้าทายระยะยาวของตัวเองซึ่งมีมูลค่าถึง 15,000 ล้าน

“หืม?”

หลังจากดูภารกิจความท้าทายนี้เสร็จ เย่เฉิน ก็เพิ่งสังเกตเห็นรางวัลของความท้าทายนี้

อาคารที่อยู่อาศัยอาจจะไม่มีอะไรมาก มูลค่าของมันอาจจะเพียงไม่กี่ร้อยล้านเท่านั้น

เย่เฉิน ไม่ได้สนใจมากนัก สิ่งที่ เย่เฉิน สนใจจริงๆ คือรางวัลอื่นๆ จากภารกิจความท้าทายนี้

ค่าประสบการณ์ 9 คะแนน และคะแนนร้านค้า 3 คะแนน!!!

ด้วย 9 คะแนนค่าประสบการณ์นี้ เย่เฉิน จะสามารถอัปเกรดระดับผู้เล่นจาก Lv1 เป็น Lv2 ได้

และ 3 คะแนนร้านค้านี้ ร้านค้าของ เย่เฉิน ก็จะอัปเกรดเป็นร้านค้าระดับสองดาวได้ด้วยเช่นกัน

มูลค่าของสินค้าในร้านค้าจะเพิ่มขึ้นเกือบสิบเท่า

เมื่อเปรียบเทียบกับอาคารที่อยู่อาศัย สิ่งนี้สำคัญกว่ามาก

“พรุ่งนี้ดูเหมือนว่าต้องถาม ไป๋ ฮันเยียน ให้ดีๆ..”

เย่เฉิน พึมพำเบาๆ

พรุ่งนี้ ไป๋ ฮันเยียน นัดเขาออกไปดื่มกาแฟ และพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์ล่าสุด เย่เฉิน สามารถใช้เวลานี้เพื่อสอบถามโดยละเอียดได้

จริงๆ แล้วแม้ว่าจะไม่มีรางวัล 15,000 ล้าน ถ้าบริษัทอื่นเกิดต้องการมาแย่งชิงตัว ไป๋ ฮันเยียน จริงๆ และเธอปฏิเสธ แต่พวกเขายังคงตามตื๊อไม่เลิก เย่เฉิน เอง ..ย่อมไม่ปล่อยผ่าน

เพราะ ไป๋ ฮันเยียน เป็นพนักงานที่เขาต้องการสนับสนุน

เนื่องด้วยจากเหตุการณ์ของ หลิง ซีเอ๋อร์ ในคราวก่อน เย่เฉิน รู้สึกว่า ไป๋ ฮันเยียน เป็นคนใจดี และมีความยุติธรรม พนักงานเช่นนี้ควรค่าแล้วแก่การสนับสนุน

ในช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้น เย่เฉิน ขับรถ Koenigsegg มุ่งหน้าไปยังร้านกาแฟที่นัดไว้กับ ไป๋ ฮันเยียน

อีกด้านหนึ่ง ไป๋ ฮันเยียน มาถึงร้านกาแฟแล้ว

เธอไม่มีรถ กลัวว่าจะมาสาย ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจมาให้เร็วขึ้นอีกหน่อย

อย่างไรก็ไม่ควรปล่อยให้ท่านประธานของเธอ ..รอได้

ครั้งนี้ เพื่อแสดงความสำคัญ และขอบคุณต่อ ท่านประธานเย่ ไป๋ ฮันเยียน ได้เลือกร้านกาแฟหรูๆ ที่ปกติเธอไม่กล้าเข้าไปเป็นพิเศษ

ไม่นานหลังจากที่ ไป๋ ฮันเยียน นั่งลง ผู้หญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวดีก็เดินเข้ามา

“คุณไป๋ เราพบกันอีกแล้วนะคะ ช่างบังเอิญจริงๆ”

ผู้หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาทักทายพร้อมกับแสดงท่าทีราวกับว่า ..มันเป็นเรื่องบังเอิญ

เมื่อเห็นผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้ สีหน้าของ ไป๋ ฮันเยียน ก็พลันเปลี่ยนไป

ทำไมถึงเป็นเธออีกแล้ว?

ผู้หญิงคนนี้.. นี่เธอกำลังตามติดฉันอยู่งั้นเหรอ?

ไป๋ ฮันเยียน ไม่เชื่อว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญแน่นอน

ผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้ชื่อว่า จาง เสี่ยวหราน เป็นผู้อํานวยการของบริษัท ปี่อั้น เอเจนซี่

สองสามวันที่ผ่านมา จาง เสี่ยวหราน คนนี้ได้มาหาเธอ โดยบอกว่าบริษัท ปี่อั้น เอเจนซี่แห่งนี้ได้ให้ความสำคัญกับเธอ และต้องการดึงตัวเธอไปทำงานด้วย

เพื่อจุดนี้ จาง เสี่ยวหราน ยังได้เสนอเงื่อนไขที่ดีเยี่ยมแก่เธอด้วย

แม้ว่าเงื่อนไขของ จาง เสี่ยวหราน จะดีเยี่ยม แต่ ไป๋ ฮันเยียน ก็ยังคงปฏิเสธเธอ

ถึงตอนนี้แม้เธอจะถือเป็นหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์รายใหญ่ของ Shark Live และมีแฟนคลับไม่น้อย

แต่เธอรู้ดีว่า ทุกสิ่งที่เธอมีในตอนนี้ได้ทั้งหมดเป็นเพราะ ท่านประธานเย่ ที่มองเห็นความสามารถของเธอ

และถ้าไม่ใช่เพราะ ท่านประธานเย่ เธอคงจะถูกไล่ออกเพราะเรื่องของ หลิง ซีเอ๋อร์ กระทั่งถึงตอนนี้เธอยังคงวิ่งเต้นหางานอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้?

เธอเป็นคนที่รู้คุณ และสำนึกในบุญคุณของ ท่านประธานเย่ จากก้นบึ้งของหัวใจ ท่านประธานเย่ ช่วยเธอมามากแล้ว เช่นนี้เธอจึงยินดีตอบแทนคืนเป็นสิบเท่า

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเสนอเงื่อนไขอะไรมามากมายแค่ไหน เธอจะไม่มีวันตอบรับ

แต่ ไป๋ ฮันเยียน ไม่คาดคิดว่า หลังจากที่เธอปฏิเสธ จาง เสี่ยวหราน ไป จาง เสี่ยวหราน ไม่เพียงแต่ไม่ยอมแพ้ กลับตื๊อเธอมากขึ้น ติดต่อเข้ามาหาเธอทุกวัน

แม้ว่าเธอจะบล็อกหมายเลขของ จาง เสี่ยวหราน, จาง เสี่ยวหราน ก็ยังคงใช้เบอร์ใหม่ติดต่อเธอ

จาง เสี่ยวหราน เหมือนตามติดเธอทุกฝีก้าว ไม่ว่าจะพยายามเลี่ยงยังไงก็เลี่ยงไม่พ้น

“ผู้อำนวยการจาง ฉันได้บอกกับคุณแล้วว่าฉันจะไม่ออกจากบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่”

ไป๋ ฮันเยียน พูดออกไปด้วยความเบื่อหน่ายอีกครั้ง

“คุณไป๋ อย่าเพิ่งปฏิเสธฉัน ฟังเงื่อนไขของฉันก่อนเถอะนะค่ะ”

จาง เสี่ยวหราน นั่งลงตรงข้ามเธอโดยตรง

“อย่างแรก.. เงื่อนไขที่ฉันเสนอไปให้คุณก่อนหน้านี้จะเพิ่มเป็นสองเท่า”

“ตราบใดที่คุณเต็มใจ บริษัท ปี่อั้น เอเจนซี่ของเราจะเสนอสัญญามูลค่า 30 ล้านหยวนให้แก่คุณ และเพียงคุณต้องเซ็นสัญญากับทางเราเป็นเวลาสามปีเท่านั้น”

“ซึ่งนั่นเท่ากับปีละ 10 ล้านหยวน ถือว่าสูงมาก และถ้าคุณได้รับงานโฆษณา เราจะหักเพียง 30% ที่เหลือ 70% จะเป็นของคุณ”

“บริษัท ปี่อั้น เอเจนซี่ของเราจะพัฒนา และฝึกฝนคุณเพื่อเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชั้นนำของ Shark Live อาจถึงขั้นเข้าสู่วงการบันเทิง และกลายเป็นดาราดัง…”

เพื่อให้ ไป๋ ฮันเยียน รู้สึกสนใจ จาง เสี่ยวหราน จึงวาดเค้กชิ้นใหญ่(แผนการ, ภาพฝัน)ที่สวยงามให้กับเธอโดยตรง

“ขอโทษค่ะ ฉันไม่สนใจ”

ไป๋ ฮันเยียน ปฏิเสธทันทีโดยไม่ลังเล

“คุณคงกังวลว่า ถ้าออกจาก บริษัท อี้หลิน คุณจะต้องชดใช้ค่าปรับจำนวนมหาศาลใช่ไหมคะ?”

จาง เสี่ยวหราน พูดขึ้นอีกครั้ง

“ค่าปรับที่ว่านั้น ทางบริษัท ปี่อั้น เอเจนซี่ของเราจะช่วยจ่ายให้กับคุณเองค่ะ”

“และคุณไม่ต้องกังวลว่าบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่จะเอาคืนคุณ เรารู้ว่าท่านประธานเย่ของบริษัท อี้หลิน มีเบื้องหลังไม่ธรรมดา แต่บริษัท ปี่อั้น เอเจนซี่ของเราก็มีผู้สนับสนุนเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่อยู่เช่นกัน”

จาง เสี่ยวหราน พูดด้วยความมั่นใจ

“ผู้อำนวยการจาง ตัวฉันไม่มีความคิดที่จะออกจากบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ เลย”

ไป๋ ฮันเยียน ยังคงปฏิเสธอีกครั้ง

ทันทีที่ ไป๋ ฮันเยียน พูดจบ เย่เฉิน ก็บังเอิญเดินเข้ามา

“ท่านประธานเย่”

หลังจากเห็น เย่เฉิน ไป๋ ฮันเยียน ก็ลุกขึ้น และทักทาย เย่เฉิน ทันที

“อืม”

เย่เฉิน พยักหน้า แล้วสังเกตเห็นผู้หญิงวัยกลางคนที่นั่งตรงข้าม ไป๋ ฮันเยียน เขาจึงถามด้วยความสงสัย

“ท่านนี่คือ?”

ไป๋ ฮันเยียน เดินไปข้างๆ เย่เฉิน และอธิบายเรื่องราวให้ เย่เฉิน ฟังเสียงเบาๆ

หลังจากฟังคำอธิบายของ ไป๋ ฮันเยียน เย่เฉิน ก็เข้าใจแล้ว

ที่แท้.. ผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้คือตัวแทนจากบริษัทอีกแห่งหนึ่งที่พยายามชิงตัว ไป๋ ฮันเยียน ตามที่ในเกมบอก

เมื่อ ไป๋ ฮันเยียน และเย่เฉิน พูดคุยกันจบแล้ว จาง เสี่ยวหราน พลันลุกขึ้นยืนเช่นกัน

“ท่านประธานเย่ ดีใจที่ได้พบคะ”

จาง เสี่ยวหราน ทักทาย เย่เฉิน แต่กลับไม่มีท่าทีหวาดกลัวแต่อย่างใด

ท่านประธานไต้ เจ้าของบริษัทของเธอนั้นคือบุคคลสำคัญในเมืองเจียงโจว โดยมี พาน เทียนเหวิน, คุณพาน เป็นพี่เขยของเขา

แล้ว.. พาน เทียนเหวิน เป็นใคร? เขานั้นคือคนใหญ่คนโตอย่างแท้จริง ที่มีทรัพย์สินเกือบ 8 พันล้านหยวน!

“ท่านประธานเย่ ฉันต้องการดึงตัว ไป๋ ฮันเยียน คะ”

จู่ๆ จาง เสี่ยวหราน ก็พูดขึ้นทันที

“งั้นเหรอ?”

“แล้ว ไป๋ ฮันเยียน คุณคิดอย่างไร?”

“ท่านประธานเย่ ฉันไม่อยากออกจากบริษัท อี้หลิน”

ไป๋ ฮันเยียน พูดทันที

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้า จาง เสี่ยวหราน พลันเปลี่ยนไป

“ท่านประธานเย่ เรื่องนี้เป็นความคิดของท่านประธานไต้ ของเรา”

จาง เสี่ยวหราน กล่าวถึงเจ้านายของเธอ และพาน เทียนเหวิน ที่อยู่เบื้องหลังบริษัทมาเพื่อข่มขู่ เย่เฉิน ให้กลัว

“การที่ ท่านประธานไต้ ของเราทำเช่นนี้ไปเป็นเพราะความคิดของ คุณพาน, พาน เทียนเหวิน เช่นด้วยกัน…”

“น้องเย่?”

คำพูดของ จาง เสี่ยวหราน ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงที่ดูประหลาดใจดังมาจากทานด้านหลัง

ทุกคนจึงหันไปมอง

ข้างหลังพวกเขา เห็นเพียงชายวัยกลางคนค่อนข้างอ้วนยืนอยู่ที่นั่นด้วยรอยยิ้ม

เมื่อเห็นผู้ชายคนนี้ จาง เสี่ยวหราน พลันตกตะลึง!

โอ้ พระเจ้า!

ทำไม บอสใหญ่ ..คนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ได้?

จาง เสี่ยวหราน ปิดปากด้วยความตกใจ และมองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

บอสใหญ่เช่นนี้ อย่าว่าแต่ตัวเธอเลย แม้แต่เจ้านายของเธอเองก็ไม่มีโอกาสได้พบ

แต่ตอนนี้ บอสใหญ่เช่นนี้กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ

จาง เสี่ยวหราน เวลานี้แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

“ฮ่าฮ่า น้องเย่ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน?”

ชายวัยกลางคนที่ค่อนข้างอ้วนเดินตรงเข้ามา ทักทาย เย่เฉิน ด้วยความกระตือรือร้น

ชายวัยกลางคนคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือ ว่าน เซี่ยงหยาง ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของ หลงเถิง กรุ๊ป

เอ๋..น้อง…เย่?!

จาง เสี่ยวหราน ที่เดิมทีตกใจเพราะเห็น ว่าน เซี่ยงหยาง ตอนนี้พอได้ยิน ว่าน เซี่ยงหยาง เรียก เย่เฉิน ว่าอะไรก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก

อะไร?

เธอได้ยินอะไร?

บอสใหญ่ บุคคลสำคัญอย่างยิ่งในเมืองเจียงโจวอย่าง ว่าน เซี่ยงหยาง เรียก เย่เฉิน ว่า ..น้องเย่?

สิ่งนี้เป็นไปได้อย่างไร?!

เดิมที จาง เสี่ยวหราน คิดว่าการที่ ว่าน เซี่ยงหยาง เรียก เย่เฉิน แบบนั้นก็น่าเหลือเชื่อมากแล้ว

แต่ในวินาทีต่อมา คำพูดของ เย่เฉิน ต่อจากนั้น แทบทำให้ จาง เสี่ยวหราน แทบล้มลงไปทั้งยืน

“อ้าว พี่ว่าน นี่เอง”

เย่เฉิน ก็พลันก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว และกล่าวทักทาย ว่าน เซี่ยงหยาง

พ..พี่..ว่าน?

เย่เฉิน คนนี้เรียก ว่าน เซี่ยงหยาง ว่า พี่ว่าน เหรอ?

ยิ่งไปกว่านั้น ว่าน เซี่ยงหยาง ไม่เพียงไม่โกรธเลย แต่กลับยิ้มอย่างมีความสุขขึ้นมาแทน

เย่เฉิน และว่าน เซี่ยงหยาง ทั้งสองคนราวกับเป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันจริงๆ!

จาง เสี่ยวหราน เวลานี้เธอมีสีหน้าตกใจราวกับเห็นผี

ช็อกจนเหลือสุดจะช็อก..

หนึ่งคือ บอสใหญ่ บุคคลสำคัญที่มีทรัพย์สินนับหมื่นล้าน

และอีกหนึ่ง ..คือชายหนุ่มคนหนึ่งอายุประมาณ 20 ปีที่เป็นเจ้าของบริษัทเล็กๆ

บุคคลทั้งสองที่ควรจะมีสถานะแตกต่างกันอย่างใหญ่หลวง ทั้งสองกลับพูดคุยราวกับเป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน?

นี่มัน.. น่ากลัวเกินไปแล้ว

คุณต้องรู้ก่อนว่าแม้แต่ ท่านประธานไต้ และคุณพาน, พาน เทียนเหวิน ที่อยู่เบื้องหลังของบริษัท ปี่อั้น เอเจนซี่ของพวกเขาก็ยังต้องเรียก ‘ท่านว่าน’ ด้วยความเคารพ เมื่อพวกเขาเห็น ว่าน เซี่ยงหยาง

การคบหาเป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกับ ว่าน เซี่ยงหยาง แม้แต่ คุณแพน ก็ยังไม่คู่ควรด้วยซ้ำ

แต่ตอนนี้ เย่เฉิน ทำได้!

ถ้าเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ มันอาจจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเมืองเจียงโจวได้เลยทีเดียว

อึกอึก..

จาง เสี่ยวหราน หวาดกลัวจนตัวสั่นจำต้องกลืนน้ำลายลงไปอยู่หลายครั้ง

การที่เขาสามารถพูดคุยได้อย่างเท่าเทียมกับ ว่าน เซี่ยงหยาง แสดงว่า เย่เฉิน ต้องมีสถานะใกล้เคียงกับ ว่าน เซี่ยงหยาง ใช่หรือไม่?

เมื่อคิดถึงจุดนี้ จาง เสี่ยวหราน เกือบจะหัวใจวายตาย

ชายหนุ่มที่ยังอายุน้อยขนาดนี้กลับมีสถานะใกล้เคียงกับ ว่าน เซี่ยงหยาง เช่นนั้นแล้ว.. ภูมิหลังของ ท่านประธานเย่ คนนี้จะน่ากลัวขนาดไหนกัน?

จาง เสี่ยวหราน ไม่กล้าคิดจินตนาการต่อ..

ซึ่งแค่นี้.. มันก็น่ากลัวเกินพอแล้ว!

ก่อนหน้านี้.. เธอเพิ่งจะไม่แสดงความเคารพต่อบุคคลสำคัญเช่นนี้

จาง เสี่ยวหราน พลันตัวสั่นไม่หยุด เหงื่อเย็นได้ไหลหยดลงจากหน้าผากของเธอ

เดิมทีวันนี้ ว่าน เซี่ยงหยาง มีธุระที่นี่ แต่เมื่อเขาเห็น เย่เฉิน อย่างไม่คาดคิดจึงเข้ามาทักทาย

หลังจากพูดคุยกับ เย่เฉิน ว่าน เซี่ยงหยาง ก็หันไปมองที่ ไป๋ ฮันเยียน และจาง เสี่ยวหราน

“ทั้งสองคนนี้คือ..?”

ว่าน เซี่ยงหยาง ถามด้วยความสงสัย

“นี่คือพนักงานของผม ส่วนคนนี้คือตัวแทนจากบริษัท ปี่อั้น”

เย่เฉิน แนะนำ ว่าน เซี่ยงหยาง

เมื่อรู้ถึงตัวตนของ ไป๋ ฮันเยียน ว่าน เซี่ยงหยาง ก็พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นหันไปมอง จาง เสี่ยวหราน

“อ่า.. จริงสิ ฉันเหมือนได้ยินเหมือนคุณพูดถึง พาน เทียนเหวิน จากไกลๆ แล้ว พาน เทียนเหวิน เป็นยังไงบ้างล่ะ?”

เฮือก..

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หัวใจของ จาง เสี่ยวหราน กระตุกวูบ แทบจะกระดอนขึ้นมาถึงลำคอโดยตรง

“คุณพาน.. นับถือ ท่านประธานเย่ มากคะ และต้องการมาเยี่ยมเยียน ท่านประธานเย่”

จิตใจของ จาง เสี่ยวหราน เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และเธอรีบเปลี่ยนเรื่องทันที

“จริงเหรอ?”

ว่าน เซี่ยงหยาง ไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่

“ฉันไม่สนว่า พาน เทียนเหวิน.. ต้องการทำอะไร หากถ้าเขาต้องการเป็นศัตรูกับ น้องเย่ นั่นก็จะเท่ากับว่าเป็นศัตรูกับฉัน และฉันเองก็พร้อมเล่นด้วยเต็มที่!!!”

ว่าน เซี่ยงหยาง กล่าวเตือน

“ไม่กล้าค่ะ เราไม่กล้า”

จาง เสี่ยวหราน ตกใจกลัวจนแทบจะยืนไม่ไหวแล้ว

ในขณะนี้ในหัวของเธอพลันว่างเปล่า

ความคิดใดๆ ที่จะแย่งชิงตัว ไป๋ ฮันเยียน และกดดันบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ เวลานี้มันถูกโยนทิ้งไปหมดแล้ว

ตอนนี้สิ่งที่เธอคิดได้อย่างเดียวคือ การกลับไปแจ้ง ท่านประธานไต้ และคุณพาน เทียนเหวิน ให้ได้ทราบอย่างรวดเร็ว

ให้ทั้งสองเตรียมตัวไปขอโทษ เย่เฉิน พร้อมกับการคุกเข่าอ้อนวอน

ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะพัง

ถ้า ท่านประธานเย่ คนนี้โกรธ ผลที่ตามมาย่อมร้ายแรงแน่นอน

อีกอย่าง.. ไม่ต้องรอให้ ท่านประธานเย่ คนนี้โกรธเลย เพียงแค่คำพูดเดียวของ ว่าน เซี่ยงหยาง ก็พอแล้วที่จะทำให้พวกเขาต้องลำบาก

“ไปซะ ไปซะ”

ว่าน เซี่ยงหยาง ไม่ต้องการเห็นหน้า จาง เสี่ยวหราน อีก ดังนั้นเขาจึงโบกมือไล่อย่าไม่สนใจ

“ขอบคุณคะ ท่านว่าน”

จาง เสี่ยวหราน พลันรู้สึกโล่งใจ

แต่ก่อนจากไป เธอก็ได้โค้งคำนับขอโทษ เย่เฉิน และไป๋ ฮันเยียน อย่างจริงใจ

“ท่านประธานเย่, คุณไป๋ ขอโทษค่ะ ก่อนหน้านี้ฉันมองไม่เห็นภูเขาสูง(ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง) ขอทั้งสองโปรดให้อภัยด้วยคะ”

“ต่อจากนี้ ฉันจะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าพวกคุณทั้งสองอีก เพื่อไม่ให้รบกวนสายตาของพวกคุณทั้งสอง..”

หลังจากพูดจบ จาง เสี่ยวหราน ก็รีบออกไป

เมื่อเห็น จาง เสี่ยวหราน จากไป ไป๋ ฮันเยียน ก็พลันถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ดูเหมือนว่าเธอไม่ต้องกังวลว่า จาง เสี่ยวหราน จะมารบกวนอีก

ครั้งนี้ต้องขอบคุณ ท่านประธานเย่ มาก

เธอเป็นหนี้ ท่านประธานเย่ มากมาย จนไม่รู้ว่าจะตอบแทนอย่างไรดี?

ไป๋ ฮันเยียน รู้สึกขอบคุณ เย่เฉิน มากยิ่งขึ้น

“อ้อ น้องเย่ ล่าสุดมีใครเพิ่มเพื่อนคุณใน WeChat บ้างไหม?”

ทันใดนั้น ว่าน เซี่ยงหยาง ก็ถามอย่างสงสัย

“เพิ่มเพื่อน WeChat?”

เย่เฉิน คิดครู่หนึ่ง แล้วส่ายศีรษะ

“..อย่างนี้เอง”

ว่าน เซี่ยงหยาง พยักหน้า เขาได้บอกลูกสาวให้เพิ่ม WeChat ของ เย่เฉิน แล้ว

อย่างน้อยๆ ทั้งคู่จะได้รู้จักกัน

ดูเหมือนว่าลูกสาวของเขายังไม่ได้ดำเนินการใดๆ หลังจากกลับไปเขาต้องเร่งเร้าเธอเสียหน่อยแล้ว

ว่าน เซี่ยงหยาง คิดในใจ

“น้องเย่ ฉันมีธุระต่อ ยังไงต้องขอตัวไปก่อนนะ”

ว่าน เซี่ยงหยาง ยังมีธุระบางอย่าง ดังนั้นหลังจากพูดคุยกับ เย่เฉิน ไม่กี่คำก็ต้องขอตัวจากไป

“พี่ว่าน เดินทางดีๆ” (เดินทางปลอดภัย)

เย่เฉิน เองกล่าวลา ว่าน เซี่ยงหยาง อย่างสุภาพ

หลังจาก ว่าน เซี่ยงหยาง จากไป เย่เฉิน ก็นั่งลงอีกครั้ง

ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของ เย่เฉิน พลันดังขึ้น

เย่เฉิน เปิดโทรศัพท์มือถือดู ก็พบว่ามีการแจ้งเตือนจากเกม [ด้วยเงินเดือนแค่สามพัน ฉันก็กลายเป็นมหาเศรษฐีของโลกได้]...

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด