ตอนที่แล้วตอนที่ 22 เปิดฉากโจมตี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 24 ฉันไม่ได้ร้องไห้

ตอนที่ 23 ไล่ล่า


ตอนที่ 23 ไล่ล่า

“ฉันอยากถามว่า… พวกเราจะหนีทำไมกัน?” ซ่งเจิงหอบหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อยพลางหันไปถามทั้งสอง ลิงผอมกลอกตาใส่ “เจ้างั่ง มีซอมบี้กำลังไล่ตามพวกเราอยู่เป็นฝูง เชิญนายสู้ไปคนเดียวเถอะ!” พี่ใหญ่กุ้ยกัดก้นบุหรี่เล่นเบาๆ “หนีอะไรกัน เขาเรียกว่ายุทธการสู้แล้วถอยโว้ย!”

ซ่งเจิงนึกดูถูกพวกเขาในใจ ฝีเท้าของชายหนุ่มไม่ช้าไปกว่าอีกสองคนเท่าไหร่นัก ด้านหลังมีฝูงซอมบี้นับสิบตัวรวมถึงสุนัขและแมวกลายพันธุ์กำลังไล่ตามมาติดๆ

ลิงผอมผู้ตอบสนองว่องไวพาทุกคนเข้าไปในทางแคบๆ โชคร้ายที่ทั้งสามออกจากบริเวณเมืองก้อนหินน้อยมาแล้ว ในพื้นที่โล่งกว้างนี้ไม่มีอะไรพอใช้เป็นที่กำบังได้เลย มีเพียงกอวัชพืชที่ดูเหมือนกำลังหัวเราะเยาะพวกเขา ทั้งสามจึงเปลี่ยนเส้นทางไปยังหุบเขาแห่งหนึ่ง

ทันใดนั้นแววตาของพวกเขากลับเปล่งประกายเมื่อเห็นรูปปั้นสิงโตหินสองตัวตั้งอยู่เบื้องหน้าไม่ไกลนัก ด้านหลังรูปปั้นทั้งสองเป็นตึกเล็กๆสองชั้นที่ตกแต่งสไตล์ตะวันตกและมีกำแพงล้อมรอบ แม้มีจำนวนห้องไม่มากแต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ข้างหลังเป็นฟาร์มปศุสัตว์ที่มีทางม้าเดินอยู่โดยรอบ

ทั้งสามมองหน้ากันก่อนเร่งฝีเท้าไปยังตึกหลังนั้น ฝูงสัตว์กลายพันธุ์เร่งความเร็วขึ้นเมื่อเห็นว่าเหยื่อกำลังจะหนีรอดไปได้ ดวงตาของพวกมันเป็นสีแดงฉานพลางร้องคำรามออกมาพร้อมกัน

พวกเขาร้องเสียงหลง ในใจนึกอยากมีขางอกออกมาอีกสองข้างจะได้วิ่งเร็วกว่านี้สักนิด!

ซ่งเจิงตะโกน “ให้ตายเถอะ! พ่อฉันไปติดหนี้อาหารกระป๋องพวกแกมาหรือไง?!”

พี่ใหญ่กุ้ยร้อง “โบราณว่าเจอสัตว์อย่าหนีเข้าป่า นายจะเข้าไปในนั้นไม่ได้นะ!”

ลิงผอมโวยวาย “ถ้าไม่อยากเข้า ก็เชิญไปรวมญาติกับพวกข้างหลังเถอะ ญาติเยอะเชียว!”

ซ่งเจิงว่า “ใครจะทำอะไรก็ทำเถอะ ฉันเตรียมตัวปีนกำแพงแล้ว!”

ลิงผอมกัดฟันพุ่งเข้าไปใต้กำแพงและประสานมือเข้าหากันให้ซ่งเจิงเหยียบขึ้นไป ชายหนุ่มตีลังกาข้ามกำแพงจนหน้าทิ่มลงกับพื้นอีกฝั่ง

พี่ใหญ่กุ้ยร้องลั่นขณะพุ่งไปหาลิงผอมเหมือนรถถังยักษ์... เท้าใหญ่โตและหนักของเขาทำให้ลิงผอมขาอ่อนแรงจนแทบล้มกลิ้ง

“ไปซะไอ้หมูอืด!” ลิงผอมกลั้นใจยกพี่ใหญ่กุ้ยขึ้นหน้าดำหน้าแดง จากนั้นพี่ใหญ่กุ้ยจึงดึงมือของเขาตามขึ้นไป ลิงผอมหันกลับไปมองฝูงซอมบี้ที่อยู่ห่างออกไปสิบเมตรพลางถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะพลิกตัวข้ามกำแพงไป

กลิ่นลมหายใจเหม็นเน่าลอยปะทะจมูกทันทีที่ซ่งเจิงเงยหน้าขึ้นจากพื้นดิน สุนัขกลายพันธุ์กำลังแยกเขี้ยวใส่เขาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ ซ่งเจิงได้แต่ยิ้มยิงฟันให้มัน

ทันใดนั้นเกิดเสียงของหนักลอยหวือผ่านอากาศมาทางเขา “โครม!” ร่างของชายหนุ่มกลับไปจมอยู่ในดินอีกครั้ง… ไม่อ่อนโยนเอาซะเลย...

พี่ใหญ่กุ้ยทิ้งตัวข้ามกำแพงตามแรงโน้มถ่วงพลางถอนหายใจด้วยความโล่งอก ‘เอ๊ะ … ทำไมพื้นนุ่มจัง’ สีหน้าของเขาฉายแววสงสัยขณะตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืน

ภาพที่เห็นคือซ่งเจิงและสุนัขกลายพันธุ์แทบจะ ‘กอดรัดฟัดเหวี่ยง’ กัน เนื้อเน่าเหม็นของมันแนบชิดกับใบหน้าขาวใสของซ่งเจิงที่ค่อยๆพยุงร่างขึ้นมาอีกครั้ง ขณะพยายามข่มความรู้สึกคลื่นไส้ในท้อง

“โครม!” ลิงผอมหล่นลงมาเป็นรายสุดท้าย ซ่งเจิงน้ำตาแทบไหลเมื่อเขาลงไปรวมร่างเป็นหนึ่งเดียวกับสุนัขกลายพันธุ์และพื้นดินอีกครั้ง

ลิงผอมรู้สึกเหมือนกำลังเหยียบบนร่างของใครสักคนจึงขยับฝ่าเท้า เมื่อเห็นซ่งเจิงแทบจะ ‘จูบ’ กับสุนัขกลายพันธุ์หน้าตาน่ารังเกียจก็รีบใช้ดาบแทงทะลุลูกตาของมันโดยไม่หันไปมอง เขาทนดูสภาพน่าเวทนาของซ่งเจิงไม่ได้

ซ่งเจิงผู้น่าสงสาร… เหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นบาดแผลในใจของเขาไปอีกนานแค่ไหนกันนะ?

ภายในห้อง ทั้งสองมองดูซ่งเจิงที่กำลังอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุงและพยายามกลั้นหัวเราะจนใบหน้าบิดเบี้ยว ซ่งเจิงเช็ดปากก่อนหันมามองพวกคนที่มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น “อยากหัวเราะก็หัวเราะไปเถอะ… ผมไม่ได้ห้ามซะหน่อย…”

พี่ใหญ่กุ้ยระเบิดหัวเราะสุดเสียงทันที ซ่งเจิงกัดฟันกรอดและฝากความหวังไว้ที่ลิงผอม ใบหน้าของลิงผอมเป็นสีแดงก่ำขณะพยายามกลั้นขำเมื่อเห็นแววตาน่าสงสารของซ่งเจิง

เขายกนิ้วโป้งให้ซ่งเจิง ทำให้อีกฝ่ายมีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย

“ฮ่า ๆ ๆ ! ซ่งเจิงนี่สมกับเป็นลูกผู้ชายตัวจริงชะมัด! ฮ่า ๆ ๆ ! ไม่ไหว… ไม่ไหวแล้ว…” แต่แล้วเขาก็ไม่ต่างจากพี่ใหญ่กุ้ยเลยสักนิด!

ซ่งเจิงมองพวกคนนิสัยเสียด้วยสีหน้าขุ่นมัว เขายกกระทะเหล็กขึ้นพลางคิดว่าควรเริ่มจากใครก่อนดี

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ลิงผอมพยายามกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นซ่งเจิงยกกระทะเหล็กขึ้นเตรียมพร้อม “เอาล่ะๆ มาตกลงกันเถอะว่าจะเอายังไงต่อ… พรืด… ซ่งเจิงอย่าทำให้ฉันหัวเราะอีกสิ… ฮ่าๆๆ … ฉันอดไม่ได้จริงๆว่ะ”

ซ่งเจิงได้แต่หัวเราะแห้งๆตอบไป “ฮะ ๆ”

ลิงผอมชี้แผนที่ก่อนบุ้ยใบ้ไปทางด้านนอก “พวกเราอยู่ห่างจากหมู่บ้านที่เคยมาคราวแล้วประมาณครึ่งวัน ตอนนี้ก็สิบโมงกว่าแล้ว ฉันว่าเรามาพักผ่อนกันเสียหน่อยแล้วค่อยออกเดินทางต่อดีกว่า”

ทั้งสองพยักหน้าเห็นด้วยก่อนซ่งเจิงจะขัดขึ้น “แล้วพวกที่อยู่นอกประตูล่ะ? ใครจะเป็นคนไปจัดการ?”

พี่ใหญ่กุ้ยและลิงผอมมองหน้ากันไปมา ก่อนจะหันไปมองซ่งเจิงพร้อมกัน ซ่งเจิงอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “ฮะ? ผมเหรอ?!”

พี่ใหญ่กุ้ยยิ้มกริ่ม ส่วนลิงผอมตบบ่าเขาพลางมองดูกระทะเหล็กด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “คราวนี้ไม่ต้องใช้ความสามารถของนายหรอก ใช้พลังของมนุษย์พันธุ์ใหม่จัดการมันซะ!”

ซ่งเจิงอ้าปากค้าง แต่ทั้งสองพยักหน้ายืนกรานหนักแน่น

แววตาเชื่อมั่นและให้กำลังใจของพวกเขา ทำให้ซ่งเจิงพยักหน้าตอบรับอย่างเสียไม่ได้...

เมื่อเดินมาถึงประตูที่มีฝูงซอมบี้เพ่นพ่านอยู่ ซ่งเจิงกลืนน้ำลาย ก่อนหันกลับไปมองสองคนข้างหลังที่ไม่รู้ว่าวางแผนอะไรอยู่กันแน่ ‘เอาน่า! สู้สิวะ!’

“ครืด…”   ซ่งเจิงเปิดประตูออกตัวสั่นงันงก เสียงฝืดบ่งบอกว่าไม่มีใครดูแลหยอดน้ำมันมาหลายปีแล้ว ฝูงซอมบี้ที่เดินวนเวียนอยู่ใต้เงาพากันหันขวับทันทีที่ได้ยิน ดวงตาว่างเปล่าสีแดงเลือดจับจ้องมาที่ซ่งเจิง

‘ซ้ายห้าตัว ขวาสามตัว ขวาก่อนแล้วกัน!’

ซ่งเจิงเปลี่ยนทิศไปทางขวา ฝูงซอมบี้ส่งเสียงร้องอย่างหิวกระหายเมื่อได้กลิ่นเขาชัดเจนขึ้นทุกขณะ ชายหนุ่มเขวี้ยงซอมบี้แถวหน้าด้วยก้อนอิฐที่หยิบติดมือมาจนมันล้มหงายหลัง

เมื่อเข้าใกล้ระยะห้าเมตร ซ่งเจิงยกกระทะขึ้น... ระยะสามเมตร เขากลั้นหายใจ...

ระยะหนึ่งเมตร… ซอมบี้ตัวหนึ่งถูกทุบเข้าที่หัวอย่างจัง! อีกตัวพุ่งเข้าใส่ซ่งเจิงที่เบิกตากว้างด้วยความตกใจกลัว “ตุบ!” ชายหนุ่มเขวี้ยงอิฐอีกก้อนเข้ากลางหัวของมันตามสัญชาตญาณก่อนใช้กระทะฟาดซ้ำอีกครั้งให้ตายสนิท

วินาทีต่อมาซ่งเจิงรีบหมุนตัววิ่งหน้าตั้งกลับไปทันที ‘บ้าไปแล้ว! นี่ไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปก็ทำได้นะ ไม่อยากให้ฉันมีชีวิตอยู่แล้วรึไง? ฉันทำไม่ไหวแน่!’

ซ่งเจิงที่วิ่งกลับมาอย่างตื่นตระหนกเห็นพี่ใหญ่กุ้ยและลิงผอมกำลังเขวี้ยงอาวุธด้วยท่าทางโหดเหี้ยมก่อนพุ่งตรงมาทางเขา ชายหนุ่มกลิ้งตัวหลบตามสัญชาติญาณและรอดพ้นจากการโจมตีมาได้หวุดหวิด

“ทำอะไรของพวกนายน่ะ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด