ตอนที่แล้วตอนที่ 66 : เบื้องหลัง ! ตระกูลเหลียน ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 68 : การกระทำอันต่ำทราม !

ตอนที่ 67 : ต้นกำเนิดของหมอกดำ !


ตอนที่ 67 : ต้นกำเนิดของหมอกดำ !

“เฮ้ ! พี่ลั่ว รสชาติจูบของเทพธิดาเหลียนเป็นยังไงบ้าง ?”

“ไม่คิดเลยว่าเทพธิดาเหลียนจะใจกล้าแบบนี้ !”

ตกดึก หลินลั่วและถังเฉิงก็พากันกลับบ้านด้วยกันสองคน

การแข่งแบบทีมของการสอบเข้ามหา’ลัยสิ้นสุดแล้ว ทีมของหลินลั่ว, เหลียนอี้หนิง และถังเฉิงได้อันดับ 1 ไปครอง ! ตอนที่รองนายกเทศมนตรีกั้วโฉวยี่ประกาศข่าวนี้ ผู้ปลุกพลังและผู้ชมหลายหมื่นคนก็พากันฮือฮากันทันที

คนส่วนมากรับไม่ได้กับผลลัพธ์นี้

โชคร้ายที่สุดท้ายนี่ก็เป็นความจริงที่ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้

นอกจากนี้แล้วรองนายกกั้วโฉวยี่ก็ยังได้ประกาศกฎสำหรับการแข่งขันแบบเดี่ยวในวันพรุ่งนี้ด้วย

ตั้งแต่ชั้น 25 ถึงชั้น 30 ผู้ปลุกพลัง 100 อันดับแรกตัดสินตามตัวเลขของชั้น, เวลาในการอยู่หอฝึกฝน และอาการบาดเจ็บ พวกเขาถึงจะมีสิทธิ์ที่จะต่อสู้แบบเดี่ยว

และจะทำการสุ่มผู้ปลุกพลังมาต่อสู้กันจนกระทั่งเหลือ 10 คนสุดท้ายเพื่อหาผู้ชนะต่อไป !

หลังจากที่ได้แชมป์มา เราจะกลายเป็นแชมป์จริง ๆ ในการสอบเข้ามหา’ลัยของเมืองปิ่นไห่ !

นอกจากนี้แล้วยังได้รับรางวัลพิเศษจากกิลด์ผู้ปลุกพลังและเมืองอีกต่างหาก สำหรับว่ารางวัลอะไรนั้น หลินลั่วรู้มาจากปากเหลียนอี้หนิงแล้ว

มันคือโลกวิเศษ !

หลินลั่วส่ายหน้าและพูดขึ้นมา “หนิงเอ๋อ ทำแบบนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ฉันมีปัญหา...”

ตอนนั้นเองเขาถึงรู้ว่าเหลียนอี้หนิงเป็นสมาชิกของตระกูลเหลียน ฐานะของเธอไม่ธรรมดา

ในหอฝึกฝน เขาใช้หมอกพิษเพื่อไล่ผู้ปลุกพลังออกมาอย่างน้อยหลายพันคน เขาน่ะโดนคนมากมายโกรธแค้น จากเลเวลและสกิลที่เขามีแล้ว แม้สุดท้ายเขาจะได้โลกวิเศษมาครอง ทว่าผู้ปลุกพลังและตระกูลต่าง ๆ คงหาทางแย่งชิงมันไปจากเขาแน่

เหลียนอี้หนิงทำแบบนี้ก็เพื่อสร้างโล่ป้องกันให้กับเขา !

เบื้องหลังเขามีตระกูลเหลียนคอยสนับสนุนอยู่ !

ถังเฉิงเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา “ฮี่ฮี่ บอส นายเรียกเธอด้วยชื่อต้นแล้ว เธอกับนายพัฒนาไปถึงไหนแล้วล่ะ ?”

“อีกอย่างแล้วฉันคิดว่านายเหมือนจะให้ของแทนความรักไว้กับเธอแล้วนะ ?”

“มันก็แค่อุปกรณ์สวมใส่” หลินลั่วพูดขึ้น “เธอถึงกับยอมปกป้องฉัน ทำไมฉัน....”

ตอนที่พูดนั้น อยู่ ๆ หลินลั่วก็หยุดเท้าและมองไปข้างหน้า

ถังเฉิงสีหน้าเปลี่ยนไป เขารีบไปยืนขวางหน้าหลินลั่วไว้ทันที “นั่นใคร ?”

ชายในสูทดำเดินออกมาและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “ฉันมาจากตระกูลเหลียน !”

“เจ้านายบอกให้ฉันมาบอกกับนาย คางคกอย่าคิดกินเนื้อหงส์”

“นายเป็นแค่ผู้ปลุกพลังหน้าใหม่ที่ได้อาชีพระดับ D มา ถึงนายจะได้แชมป์ในการสอบแบบทีมเพราะวิธีการพิเศษที่นายมี ทว่านายก็ไม่คู่ควรกับคุณหนู !”

หลินลั่วคิ้วขมวดและพูดขึ้น “เรื่องระหว่างฉันกับหนิงเอ๋อ ฉันไม่จำเป็นให้ใครต้องมาชี้นิ้วสั่ง...”

เขาหยุดและมองไปรอบ ๆ

“นายถือว่าคุณหนูเป็นเพื่อนก็ได้ แค่นี้....ก็ดีสำหรับนายแค่ไหนแล้ว”

“หุบปาก !” หลินลั่วยื่นมือออกมากำมือพร้อมคทาสีแดงปรากฏขึ้นมาในมือ

“ฮี๋อี่ คิดจะลงมือกับฉันเหรอ ? ฉันเป็นคนคุ้มกันของตระกูลเหลียน ฉันเป็นผู้ปลุกพลังระดับทอง ฉันนี่แหละที่จะสั่งสอนบทเรียนนายเอง...”

“...”

เสียงหึ่งแปลก ๆ ดังขึ้น หมอกดำปะทุขึ้นมาโดยรอบเปลี่ยนเป็นปากแปลก ๆ ที่พุ่งกลืนทั้งสามคนเข้าไป  หลินลั่วยื่นมือออกมาและสะบัดมือ โล่น้ำแข็ง 9 อันปรากฏขึ้นรอบตัวคอยปกป้องเขากับถังเฉิงเอาไว้

ผู้ปลุกพลังระดับทองของตระกูลเหลียนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “นี่มันสกิลของจ้าวแห่งหมอกทมิฬ ไอ้เด็กบัดซบนี่...”

“....”  หมอกดำปะทุออกมาพร้อมร่างของทั้งสามคนที่หายไปเหลือไว้แต่เพียงแสงสีดำ

ในพริบตาก็มีคนสามคนก็ปรากฏตัวขึ้นมาที่นั่น สีหน้าพวกเขาต่างก็บิดเบี้ยว

“หัวหน้า ! ทำยังไงดี ! จ้าวแห่งหมอกทมิฬลงมือ ! แค่ผู้ปลุกพลังอาชีพระดับ D เพียงพอให้เขาลงมือด้วยเหรอ ?”

“ไม่ ไม่ใช่ฝีมือจ้าวแห่งหมอกทมิฬ !” จ้าวฉือเฉิง หัวหน้าผู้พิทักษ์คิ้วขมวดและพูดขึ้นมา “มันน่าจะเป็นไอเท็มพิเศษที่มีความสามารถคล้ายกับสกิลของจ้าวแห่งหมอกทมิฬ มันแยกมิติได้ชั่วคราว”

“แล้วเราจะทำยังไงดี ? รองนายกสั่งให้เราคอยปกป้องเด็กนี่...”

“จะรีบร้อนไปไหน?” จ้าวฉือเฉิงเปิดปากพูด “ตะกี้เป็นแค่ผู้ปลุกพลังระดับทองไม่ใช่เหรอ ? ถึงเขาจะฝีมือแย่แค่ไหน ทว่าเขาก็เป็นถึงผู้ปลุกพลังระดับทอง เขาน่าจะทนได้สัก 3-5 นาที”

“รอไปก่อน คอยฟังคำสั่งฉัน เราสามคนจะโจมตีหมอกดำนี่และพยายามทำลายมิตินี่ซะ”

“ได้ หัวหน้า !”

ภายในหมอกดำ

ภายในมิติสีเทา มีโล่โผล่มาในมือถังเฉิง เขามองไปรอบ ๆ ด้วยสีหน้ากังวล “พี่ลั่ว ที่นี่มันที่ไหนกัน ?”

แม้แต่คนคุ้มกันของตระกูลเหลียนก็เริ่มระวังตัวขึ้นมา เขายื่นมือออกมาพร้อมขวานเล่มใหญ่ปรากฏขึ้นมาในมือ เขากัดฟันพูดขึ้น “ไอ้ห่านี่ ! นั่นมิติหมอกดำ ! พลังของจ้าวแห่งหมอกทมิฬของพวกนอกรีต มันไม่น่าใช่ตัวจ้าวแห่งหมอกทมิฬเอง....”

“พวกนอกรีต ? จ้าวแห่งหมอกทมิฬ !” ถังเฉิงอุทานออกมา “ฉันรู้จัก ! มันมีบันทึกไว้ในสารานุกรมผู้ปลุกพลังว่าชายคนนี้โด่งดังเมื่อ 200 ปีก่อน เขาคือพวกนอกรีตที่แกร่งที่สุด เขาเป็นผู้ปลุกพลังระดับอีปิคเมื่อ 100 ปีก่อน !”

คนคุ้มกันตระกูลเหลียนกัดฟันแน่นและพูดขึ้น “เพื่อไว้หน้าคุณหนู ฉันจะจัดการแกทีหลัง ! ฝาก....ฝากไว้ก่อนเถอะ !”

“หึหึหึ...” เสียงหัวเราะอันเย็นชาดังขึ้นมาจากความมืดมิดไกลออกไป มันมีร่างที่เอนไปมาค่อย ๆ ปราฏตัวขึ้นตรงหน้าทั้งสามคน

“คิดจะออกไปเหรอ ? อย่าฝันไปหน่อยเลย !”

“เมื่อเราถึงกับใช้ต้นกำเนิดหมอกดำที่ทำขึ้นโดยจ้าวแห่งหมอกทมิฬ แน่นอนว่าเราไม่มีทางปล่อยพวกแกไปง่าย ๆ” หัวหน้าของพวกเขาเป็นผู้หญิงสวมผ้าคลุมสีดำบาง ๆ มีรูปร่างที่เย้ายวน

“พวกนอกรีต !” คนคุ้มกันตระกูลเหลียนกัดฟันแน่น สายตาเขาดูระวังขึ้นมา

แสงสีเงินส่องประกายออกมาจากตัวก่อตัวเป็นเกราะรอบตัวเขา

“จิตวิญญาณนักสู้ ? นักสู้ระดับทอง ?”  ผู้หญิงคนนั้นพึมพำออกมาเบา ๆ “หมาป่า-13 ฉันให้นายจัดการ !”

“ได้ หัวหน้า !” ชายร่างสูงตอบกลับและพุ่งออกมาในทันที เขาเปลี่ยนร่างเป็นแวร์วูฟที่สูงกว่า 3 ม.พุ่งเข้าใส่คนคุ้มกันตระกูลเหลียน

คนคุ้มกันตระกูลเหลียนก็พุ่งเข้าใส่เช่นกัน

“นักสู้เก่งระยะประชิดงั้นเหรอ ? ฮ่าฮ่า ฉันก็ชอบพวกสู้ระยะประชิดที่สุด ! ฉันจะได้ฉีกร่างแกได้สะดวก !”

“ระวังตัวด้วย !” ถึงปากจะด่าออกมาแต่คนคุ้มกันตระกูลเหลียนก็ยังใช้ขวานฟันออกไป

“เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ !”

“หึหึหึ...” ผู้หญิงในชุดดำเดินไปหาหลินลั่วและถังเฉิงช้า ๆ เธอพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “น้องชาย พี่สาวชื่อเสี่ยวม่าน นายคือหลินลั่วใช่รึเปล่า ?”

หลินลั่วพยักหน้าและพูดขึ้น “ไม่ผิดคน”

เสี่ยวม่านยิ้มและพูดขึ้น “น้องชาย นายสนใจเข้าร่วมกลุ่มผู้พิทักษ์รัตติกาลของเรารึเปล่า ?”

“ผู้พิทักษ์รัตติกาล ? องค์กรที่ใหญ่ที่สุดของพวกนอกรีตน่ะเหรอ ?”

“หึหึ พี่สาวไม่ใช่พวกนอกรีต” เสี่ยวม่านหัวเราะคิกคักออกมาและพูดขึ้น “เราคือผู้กอบกู้ที่แท้จริง โลกนี้กำลังจะตาย ยามค่ำคืนกำลังมาเยือน เทพปิศาจจะมา เราแค่มีศรัทธา ด้วยการบูชาและอ้อมกอดเทพปิศาจที่จะทำให้เราใช้ชีวิตต่อไปในโลกใบนี้และมีอนาคตต่อไปได้...”

“พวกนอกรีต !” ถังเฉิงออกปากด่า

“หึหึหึ.....คนหนุ่มสาวนี่ขี้ใจร้อน พี่สาวจะดับไฟร้อนให้เอง คิคิคิ...” เสี่ยวม่านยิ้มออกมาและพูดขึ้น “น้องชาย นายควบคุมหมอกพิษได้ เรามีผู้เฒ่าพิษ 1 ใน 13 ยักษ์ใหญ่ของกลุ่มเรา เขาอยากจะรับนายเป็นลูกศิษย์ นายว่ายังไง ?”

“ผู้เฒ่าพิษ ?”

ห่างไปไม่ไกลนัก คนคุ้มกันตระกูลเหลียนที่กำลังสู้กับแวร์วูฟอยู่ก็ต้องสีหน้าเปลี่ยนไป

ในองค์กรของพวกนอกรีต มันมีผู้เฒ่าพิษที่อยู่ระดับเดี่ยวกับจ้าวแห่งหมอกทมิฬ เขาเองก็เป็นผู้ปลุกพลังระดับอีปิคเช่นกัน !

เขามองไปที่หลินลั่ว ถ้าเด็กนี่ตกลง ถึงเขาจะต้องทิ้งชีวิตตัวเอง แต่เขาก็ต้องฆ่าหลินลั่วให้ได้ !

“แกมองไปทางไหนกัน ?” แวร์วูฟกรีดร้องออกมาและใช้กงเล็บตะบบสร้างแผลใหญ่ที่อกของคนคุ้มกันตระกูลเหลียนพร้อมเลือดจำนวนมากที่พุ่งออกมา

คนคุ้มกันตระกูลเหลียนได้สติกลับมาและต้องเพ่งสมาธิไปกับการรับมือแวร์วูฟตรงหน้า

หลินลั่วพูดขึ้นด้วยท่าทีเฉยเมย “ถ้าฉันปฏิเสธล่ะ ?”

เขาไม่ได้สนใจพวกนอกรีตจริง ๆ เขาไม่สนจะเข้าร่วมกลุ่มกับพวกนี้ด้วย

“หึหึ....” เสี่ยวม่านยิ้มออกมา “ไม่ตกลงเหรอ ? มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับนายจะตัดสินเรื่องนี้ !”

“ถ้าลากนายกลับไปที่องค์กรของเราได้ ผู้เฒ่าพิษก็มีทางที่จะทำให้นายคุกเข่าและรับเขาเป็นอาจารย์ !”

“ผี-27 จับตัวเขา !”

“ได้เลย !” ด้านหลังนั้นมีร่างหนึ่งยื่นมือออกมาและพึมพำบางอย่าง

อยู่ ๆ ก็มีผีปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า ทหารผีหลายตัวพร้อมอาวุธครบมือปรากฏตัวขึ้นมา

“ทุกคน จับตัวเขา....”

ทว่าก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็เห็นหลินลั่วยกคทาในมือขึ้นชี้มาที่เขา

[ อัลไซเมอร์ ] !

“....” วินาทีต่อมา ผี-27กลับต้องชะงัก

สกิลที่เขาต้องร่ายต่อกลับหยุดชะงักไป เขาได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อยู่กับที่

“เรียกผีนรก คาถาส่วนต่อไปคือ... ”

ในหัวเขามีรูนแปลก ๆ ที่แทนถึงสกิลโลกนรกที่ระเบิดออกภายใต้พลังที่เขาไม่เข้าใจ !

ปัง !

เสียงระเบิดแปลก ๆ ดังขึ้นในอากาศ ผีนรกที่ก่อตัวขึ้นมานั้นกลับเสียการควบคุมเพราะสกิลที่ใช้ไม่สมบูรณ์

ผีพวกนี้กลับเปลี่ยนเป็นพายุใบมีดพุ่งเข้าใส่ผี-27และเสี่ยวม่าน !

“อ๊า...” ภายใต้ใบมีดลมที่กระจายออกมา เสี่ยวม่านก็ได้แต่ตะโกนออกมา “ผี-27 แกทำอะไรของแก ?”

“ท่องสกิลไม่เสร็จ ? ไอ้ห่านี่ !”

เธอมองไปที่หลินลั่วด้วยสายตาแค้นเคืองพร้อมเลือดที่ไหลออกมาจากปาก

“ไอ้ห่านี่เชื่อถือไม่ได้เลย สุดท้ายฉันก็ต้องลงมือเอง !” เธอยื่นมือออกมาแล้วกำมือ ดินที่พื้นค่อย ๆ แตกออกพร้อมเถาวัลย์สีม่วงดำพุ่งออกม มันมีของเหลวพร้อมกับปากขนาดใหญ่โผล่ออกมาด้วย

ดอกไม้กินคน

“ไป !” ดอกไม้กินคนและถาวัลย์ได้พุ่งเข้าใส่หลินลั่วและถังเฉิง

แสงสีเหลืองส่องออกมาจากตัวถังเฉิงสร้างโล่ขึ้นกันตรงหน้าหลินลั่วเอาไว้

“พี่ลั่ว หนีไป !”

ต่อหน้าการโจมตีนี้ หลินลั่วไม่ได้หลบ เขาแค่เหวี่ยงคทาในมือออกไปอีกรอบ

[ จิตสับสน ] !

“....”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด