เจ้าหน้าที่หมายเลข 54 [ฟรี]
ตอนที่ 54
การมีเพื่อนเป็นนักวิทยาศาสตร์มันก็ดีแบบนี้ล่ะ!
"เริ่มการทดลองครั้งที่ 36 ทดสอบประสิทธิปืนยิงยาอัมพาตสารพิษเดนไตรติก!"
ทันใดนั้นมันก็มีเสียงปืนเบา ๆ ดังขึ้นในห้องทดลองที่ปิดสนิท
จี๊ด!
หนูที่ถูกใส่อยู่ในกล่องใสเมื่อถูกฉีดยาก็เริ่มดิ้นเล็กน้อยก่อนที่จะแน่นิ่งไปในที่สุด
ในขณะเดียวกันฟิทซ์ที่สวมเสื้อกาวน์สีขาวและแว่นตาป้องกันอยู่ด้านข้างเมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นว่า "เยี่ยมมาก! ในที่สุดก็สำเร็จสักที!!"
ฟิทซ์ถอนแว่นตาป้องกันและวางปืนแปลก ๆ ในมือลงในกล่องด้านข้างและใช้นิ้วแตะไปที่ตัวหนูเบา ๆ
หลังจากลองสะกิดอยู่สองสามครั้งแต่หนูก็ยังไม่ตอบสนอง
"หืม?!" ทันใดนั้นดูเหมือนว่าฟิทซ์จะค้นพบอะไรบางอย่างผิดปกและรีบนำหนูที่หมดสติภายในกล่องออกมาตรวจสอบโดยละเอียดอย่างรวดเร็ว
สิบนาทีต่อมาเมื่อเห็นว่าหนูที่หมดสติไปในตอนแรกเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ฟิทซ์ก็รีบหยิบสมุดบันทึกของเขาขึ้นมาจดรายละเอียดเอาไว้ "ผลของยาค่อนข้างรุนแรงและใช้เวลานานเกินไปก่อนที่เป้าหมายจะหมดสติ คำแนะนำ : ควรลดขนาดยาให้เหมาะสม!"
ในขณะที่กำลังจะเตรียมการทดลองครั้งต่อไปทันใดนั้นโทรศัพท์ที่วางอยู่เงียบ ๆ บนโต๊ะก็เริ่มส่งเสียงดังขึ้นมา!
กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง! . . .
ฟิทซ์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายและแนบหู "สวัสดี? ลีโอ ฟิทซ์พูดสาย"
"ฟิทซ์ นี่ฉันเอง"
เมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นเคยดังมาจากปลายสายโทรศัพท์ฟิทซ์ก็ประหลาดใจและมีความสุขเล็กน้อย "ไงลีออน! เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรอ? นายต้องการให้ฉันช่วยอะไรหรือเปล่า?"
"ขอโทษที่โทรมารบกวนเวลานะฟิทซ์ ตอนนี้นายทำการทดลองอยู่หรือเปล่า? พอดีตอนนี้ฉันพบปัญหาบางอย่างและต้องการความช่วยเหลือจากนาย . . . "
หลังจากได้รับข้อมูลเกี่ยวกับฆาตกรลีออนและนาตาชาที่มีทักษะการต่อสู้ทุกรูปแบบตอนนี้ก็ยังไม่สามารถจับตัวฆาตกรได้
เพราะตอนนี้เบาะแสที่พวกเขาใช้สำหรับการสืบสวนมันได้มาถึงทางตันเรียบร้อยแล้ว!
แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่สามารถตำหนิพวกเขาทั้งสองคนได้
คนหนึ่งมีความเชี่ยวชาญในการต่อสู้
ส่วนอีกคนก็เชี่ยวชาญในการขโมยข้อมูล และการลอบสังหาร
ส่วนเรื่องการสอบสวน?
มันไม่ใช่ทางถนัดของพวกเขาเลย!
และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้รับภารกิจให้มาสืบสวนคดีฆาตกรรมที่แปลกประหลาดแบบนี้ ทำให้พวกเขาทั้งสองคนที่คุ้นเคยกับการแก้ปัญหาด้วยกำปั้นมาตลอดถึงกับไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามลีออนไม่ใช่คนที่ถือทิฐิหรือศักดิ์ศรีของตัวเองขนาดนั้นจนไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากคนอื่นและยืนกรานที่จะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าจะตามหาร่องรอยของฆาตกรได้อย่างไร แต่คนอื่นอาจจะรู้ก็ได้ . . .
ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้ติดต่อไปหาฟิทซ์ที่อยู่วอชิงตัวภายในห้องทดลองของ SHIELD เพื่อขอความช่วยเหลือ
คนสองคนด้วยวัยที่ใกล้เคียงกันทำให้พวกเขาได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกันอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ยินคำพูดของลีออนฟิทซ์ที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อยู่ตลอดเวลาก็ตอบตกลงช่วยเหลือลีออนอย่างง่ายดาย
ท้ายที่สุดแล้วมันคงไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนไหนเมื่อได้ยินคำว่า ‘พลังวิเศษ’ หรือ ‘อาวุธไฮเทค’ แล้วจะไม่ตื่นเต้นอย่างแน่นอน
นอกจากนี้คนที่มาขอความช่วยเหลือยังเป็นเพื่อนสนิทของเขา . . .
"ถ้าหากเป็นอย่างที่นายพูดฉันก็พอจะมีวิธีในการค้นหาตำแหน่งของฆาตกรคร่าว ๆ ได้"
"จริงเหรอ! ทำยังไง?" ลีออนถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
"ถ้าหากฆาตกรใช้อาวุธที่สามารถสร้างความร้อนได้สูงถึง 1,000 องศา ซึ่งสามารถทำให้ร่างกายละลายได้ เราก็สามารถใช้ระบบตรวจสอบอุณหภูมิของเมืองเพื่อค้นหาจุดที่มีอุณหภูมิสูงที่สุด และค้นหาว่ามีที่ไหนบ้างที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 1,000 ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา"
"ด้วยวิธีนี้เราจะสามารถตามหาตัวฆาตกรได้ง่ายดายยิ่งขึ้น!"
เมื่อได้ยินคำพูดของฟิทซ์ ลีออนที่เหมือนจะรู้แจ้งบางอย่างสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นสดชื่นทันทีและพูดขึ้นมาว่า "นายหมายความว่าถ้าหากฉันสามารถเข้าสู่ระบบเครือข่ายของเมืองอิสตันบลูและใช้ระบบตรวจสอบอุณหภูมิของเมืองเพื่อทำการคัดกรองตำแหน่งที่เป็นไปได้ทั้งหมดเสร็จ ฉันก็จะสามารถคาดเดาได้ว่าฆาตกรจะปรากฎตัวขึ้นที่ไหนใช่ไหม!"
"ถูกต้อง!" ฟิทซ์พูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นและสนุกเล็กน้อย
"อย่างไรก็ตามนายอย่าเหมารวมพวกโรงงานถลุงเหล็กหรือโรงงานเคมีเข้าไปด้วยล่ะ"
"ทำไมล่ะ?" ลีออนถามขึ้น
ฟิทซ์รีบอธิบายขึ้นมาอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยว่า "โรงงานพวกนี้มันใช้อุณหภูมิสูงกว่า 1,000 องศาในการทำงาน และโรงงานพวกนี้ยังปล่อยความร้อนออกมาตลอดเวลา ดังนั้นนายจึงสามารถตัดสถานที่พวกนี้ไปได้เลย"
หลังจากฟังคำอธิบายจนจบลีออนก็พยักหน้าอย่างครุ่นคิดและพึมพำขึ้นมาเบา ๆ "อย่างนี้นี่เอง . . . "
คำแนะนำจากมืออาชีพอย่างฟิทซ์ทำให้ลีออนเข้าใจในที่สุดว่าทำไมอเวนเจอร์สถึงได้เลือกดร.แบนเนอร์ ซึ่งเป็นพี่ยักษตัวเขียวที่สติไม่อยู่กับร่องกับรอย และโทนี่ สตาร์ค ที่เต็มไปด้วยอีโก้และไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่งเท่าไหร่ให้เข้าร่วมทีมด้วย
เหตุผลแรกอาจจะเป็นต้องการความพลังของฮัลค์และไอรอนแมนเพื่อรับมือกับการรุกรานของมนุษย์ต่างดาว ส่วนเหตุผลข้อที่สองอาจจะเป็นเพราะ . . .
นักวิทยาศาสตร์ที่มีความโดดเด่นยังเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากในการสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการวิเคราะห์ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ!
ดังคำถามที่ว่า ‘อะไรมีค่ามากที่สุดในศตวรรษที่ 21?’
แน่นอนว่ามันคือ ‘พรสวรรค์!’
พรสวรรค์ในการสร้างเทคโนโลยีระดับสูงที่ทุกประเทศและองค์กรทั่วโลกอยากจะครอบครองมันจนแทบจะอดใจไม่ไหว
ทำให้ในทีมอเวนเจอร์สสาเหตุที่โทนี่ สตาร์ค สามารถควบคุมอำนาจส่วนหนึ่งได้ไม่ใช่เพราะว่าเขารวยล้นฟ้า แต่เป็นเพราะการสนับสนุนทางด้านลอจิสติกส์และเทคโนโลยีระดับสูงที่เขามอบให้กับทีมมันไม่ใช่สิ่งที่ใครสามารถเทียบได้!
ถ้าหากไม่มีโทนี่ สตาร์ค ความแข็งแกร่งของอเวนเจอร์สคงลดน้อยลงไปอีกระดับหนึ่ง!
ถึงแม้ว่าลีโอ ฟิทซ์ในตอนนี้จะยังไม่สามารถเทียบได้ถึงระดับของบรูซ แบนเนอร์ โทนี่ สตาร์ค หรือแฮงค์ พิม อัจฉริยะของโลกคนอื่น ๆ อย่างไรก็ตามลีออนรู้สึกว่าตราบใดที่ฟิทซ์ได้รับการสนับสนุนอย่างเพียงพอ อีกไม่นานฟิทซ์คงกลายเป็นหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ SHIELD ในอนาคต
อย่าลืมว่าฟิทซ์เป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะที่อายุน้อยที่สุดและเก่งที่สุดในสถาบันฝึกสอน SHIELD ทั้งหมด . . .
หลังจากวางสายฟิทซ์ลีออนก็ไม่มีความกังวลใจอีกต่อไปและรีบพานาตาชาไปที่สำนักงานอุตินิยมวิทยาของเมืองอิสตันบูล
หลังจากการเจรจาไม่นานลีออนก็สามารถใช้เครือข่ายของเมืองอิสตันบลูและใช้ระบบตรวจสอบอุณหภูมิได้ทั้งเมือง!
ไม่กี่นาทีต่อมาการค้นหาก็สิ้นสุดลง
เมื่อมองไปที่จุดสีแดงสองจุดที่กระพริบอยู่บนหน้าจอขนาดใหญ่ ลีออนก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มว่า "ในที่สุดฉันก็หานายพบแล้ว!!"
ในขณะเดียวกันนาตาชาที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ชี้นิ้วของเธอไปยังสถานที่แห่งหนึ่งบนหน้าจอและพูดขึ้นมาว่า "ฉันจะไปที่นี่ ส่วนนายอีกที่"
ลีออนหันไปสบตากับนาตาชาเล็กน้อย แน่นอนว่าความคิดแรกของเขาคือการเห็นด้วยกับข้อเสนอของเธอในการแยกกันไปคนละที่ แต่เมื่อนึกถึงคู่ต่อสู้ที่จะต้องเผชิญหน้าด้วยในครั้งนี้ลีออนก็เปลี่ยนใจทันทีและพูดขึ้นมาว่า "ผมคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าหากเราช่วยกันระวังหน้าระวังหลังให้กัน"
นาตาชายักไหล่เล็กน้อยและทำตามการตัดสินใจของลีออน
ซึ่งหลังจากนี้ไม่นานลีออนจะตระหนักได้ว่าการตัดสินใจของเขาในครั้งนี้มันฉลาดมากขนาดไหน . . .
โปรดติดตามตอนต่อไป …