บทที่ 56 ความศรัทธาที่ยืดหยุ่น
บทที่ 56 ความศรัทธาที่ยืดหยุ่น
ยังไม่ทันได้ออกแรง อสูรทะเลก็ล้มตายซะแล้ว
ลู่เหยาพอใจมาก
เขาหวังให้การต่อสู้ทุกครั้งเป็นแบบรถบดบุกเข้าโจมตี กวาดทุกอย่างไปเรียบแบบนี้ จะไปเสียแรงใช้กลยุทธ์ซับซ้อนอะไรกัน
ตอนเรียนหนังสือ อาจารย์สอนคณิตเคยบอกไว้ว่า ความเรียบง่ายคือความงาม
ถึงแม้ลู่เหยาจะไม่ถนัดคณิตศาสตร์ แต่เขาก็จำคำนี้ได้ดี และเห็นด้วยอย่างยิ่ง
ลู่เหยาสังเกตสถานการณ์รอบๆ
คนตัวเล็กๆ บนเกาะถูกอัศวินเลือดที่เขาควบคุมอยู่ข่มขวัญจนแทบขยับไม่ได้ ไร้ซึ่งความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้ ยอมแพ้โดยสิ้นเชิงแล้ว
เล่นบทร้ายจบแล้ว ถึงเวลาที่ฮีโร่จะเข้าฉากแล้ว
เขาคำนวณระยะทาง ด้วยปริมาณเลือดที่อัศวินเลือดมี ถึงแม้จะเดินจากใต้ทะเลไปตลอดทาง โดนหักเลือดทุกวินาที ก็ยังเดินกลับไปปราสาทได้นานกว่า 40 นาที เพียงพอจะกลับไปถึง
พูดก็พูดเถอะ ตัวอัครสาวกเดินใต้ทะเลได้ ไม่ต้องกินไม่ต้องดื่ม เหมือนเรือดำน้ำร่างคน ไม่เหมือนเรือใบพายที่ต้องจอดพักเติมเสบียงระหว่างทาง หลบหลีกคลื่นลมด้วย เสียเวลาไปมาก
หากพูดถึงประสิทธิภาพการเดินทาง การให้อัศวินเลือดเดินใต้ทะเลแบบนี้ ยังเร็วกว่ากันอีก
ตอนที่ลู่เหยากำลังจะถอนกำลัง ส่งอิซาเบลมาช่วยชาวเกาะและเผยแพร่ความรักและสันติภาพของเทพเหยา ทว่าชาวตระกูลทะเลตะวันออกกลับมาขวางทางอัศวินเลือด
ผู้นำคือผู้หญิงที่ชื่อไห่หมี่ลา อายุ 25 ปี เป็น【หัวหน้าเผ่า】
"โปรดรอก่อน ท่านเป็นอัครสาวกของเทพใช่ไหม?"
ไห่หมี่ลาพูดว่า "ตอนนี้เทพอีฉีทอดทิ้งตระกูลทะเลตะวันออกไปแล้ว ท่านอยากจะจัดการพวกเราอย่างไรหรือ?"
ลู่เหยาขมวดคิ้ว
เหตุการณ์กำลังพัฒนาไปในทางที่ผิดแปลกนะ
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ตัดสินใจถอนตัว
บทบาทของอัศวินเลือดคือซามูไรหนุ่ม เห็นคนก็ฟัน แม้แต่กระต่ายที่วิ่งผ่านมาก็ไม่ละเว้น เป็นปีศาจฆ่าคน
ให้อิซาเบลผู้เป็นคนดีมารับตระกูลทะเลตะวันออก นี่คือบทที่ลู่เหยาเขียนไว้
"เทพที่ท่านติดตามนั้นทรงพลานุภาพสูงส่ง ตระกูลทะเลตะวันออกหวังจะได้เดินตามรอยท่าน ศรัทธาในเทพองค์ใหม่ อุทิศความจงรักภักดีและศรัทธา พระประสงค์ของท่านและเทพ คือภารกิจของตระกูลทะเลตะวันออก"
ไห่หมี่ลาแสดงความจงรักภักดีอย่างตรงไปตรงมา
ลู่เหยาตกใจ
ไม่ใช่ ไม่ใช่
เมื่อกี้ไม่ใช่ท่าทีของสาวกที่คลั่งไคล้เหรอ?
เมื่อครู่ยังต่อสู้ดุเดือดกันในทะเล ตระกูลทะเลตะวันออกไม่กลัวตาย ทำลายเรือ ใช้ชีวิตหน่วงเหนี่ยวอัศวินเลือด ยังติดตาอยู่เลย
พวกเธอยังร้องไห้คร่ำครวญเมื่อเห็นโทเท็มเทพอีฉีล่มสลาย ตกใจจนตัวสั่น
เมื่ออสูรทะเลคราเคนถูกสังหาร คนตัวเล็กๆ ทั้งหลายก็ไม่อยากจะเชื่อ ศรัทธาพังทลาย
แต่สองสามนาทีให้หลัง 【หัวหน้าเผ่า】ไห่หมี่ลาก็ใจเย็นมากที่จะบอกว่า ตระกูลทะเลตะวันออกพร้อมจะรับใช้เทพใหม่ อุทิศความจงรักภักดีและศรัทธา
การเปลี่ยนแปลงนี้เร็วเกินไป
เหมือนไห่หมี่ลาจะรู้อยู่แล้วว่าการทำแบบนี้จะถูกสงสัย เธอจึงเล่าสาเหตุอย่างจริงใจ
"ท่านอัครสาวก เดิมทีตระกูลทะเลตะวันออกอาศัยอยู่ในผืนป่าบนแผ่นดิน ในยุคก่อน บรรพบุรุษของเราเคยเป็นสาวกของเทพแห่งป่ามาตลอด"
"หลังเทพแห่งป่าล่มสลาย บรรพบุรุษของเราหนีภัยมาอยู่บนทะเล เพื่อหลบหนีการไล่ล่าของฝูงอสูรเปลือกคน"
"เทพอีฉีปรากฏกายขึ้นในตอนนั้น และรับเราเข้ามา พวกเราจึงซาบซึ้งในพระคุณของเทพอีฉีตลอดมา"
"ไม่ว่าเทพอีฉีต้องการให้พวกเราทำอะไร เราก็จะทำตามพระประสงค์ของพระองค์อย่างจงรักภักดี"
"เทพอีฉีสั่งให้เราสมสู่กับอสูรทะเลคราเคน ให้กำเนิดอสูรทะเล ผู้หญิงในตระกูลของเราก็ทำแบบนี้กันมาทุกรุ่น"
"ตระกูลทะเลตะวันออกเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตบนทะเลมานานแสนนาน พวกเราคลอดอสูรทะเลเพื่อเทพอีฉีไม่ขาด ใช้อสูรทะเลเหล่านี้เป็นเครื่องสังเวย ถวายเทพผ่านโทเท็ม"
"เพราะการให้กำเนิดคือสิ่งที่เทพต้องการให้เราทำ ตระกูลเราจึงต้องการผู้หญิงมากขึ้น ไม่ต้องการผู้ชาย จนกระทั่งอสูรทะเลหลับใหล เราก็เริ่มจับผู้ชายจากภายนอกมาแทน..."
จากคำบรรยายของไห่หมี่ลา ลู่เหยาเพิ่งเข้าใจที่มาของตระกูลทะเลตะวันออก
ที่พวกเธอให้กำเนิดอสูรทะเลได้ ก็เพราะเทพอีฉีสั่งให้พวกเธอผสมพันธุ์กับอสูรทะเลคราเคน ทารกที่เกิดมา เพศหญิงจะรักษาลักษณะมนุษย์ไว้ ส่วนเพศชายจะกลายเป็นอสูรทะเล นี่คือจุดกำเนิด
อสูรทะเลคือสายพันธุ์ลูกผสมระหว่างมนุษย์กับอสูรทะเล
หลังจากผสมเลือดนับรุ่น ตระกูลทะเลตะวันออกก็มีเชื้อสายของอสูรทะเลอยู่บางส่วน
ส่วนสาขาเผ่าแม่น้ำตะวันออก เพราะสายเลือดเจือจางลงเรื่อยๆ การให้กำเนิดอสูรทะเลจึงยากขึ้นทุกที
และเส้นทางที่ส่งอสูรทะเลให้เทพอีฉีก็คือโทเท็มที่เพิ่งถูกผมระเบิดทิ้งไป
"ก่อนหน้านี้ พวกเราพร้อมจะสู้เพื่อเทพอีฉีจนถึงคนสุดท้าย"
ไห่หมี่ลาพูดต่อ "แต่เทพไม่ตอบรับพวกเรามาหลายปีแล้ว อสูรทะเลคราเคนผู้ยิ่งใหญ่ก็ถูกเทพทอดทิ้ง นั่นหมายความว่าท่านอีฉีผู้ยิ่งใหญ่ได้ขับไล่ตระกูลทะเลตะวันออกของเราไปเสียแล้ว"
"ในฐานะชนเผ่าตระกูลทะเลตะวันออก ข้ารู้สึกเจ็บปวดและหมดหวังเป็นอย่างยิ่ง แต่ในฐานะผู้นำที่นี่ ข้าต้องแบกรับหน้าที่ทำให้ทุกคนรอดชีวิต"
"ท่านอัครสาวก ข้าขอร้องท่านอย่างสุภาพและจริงใจอีกครั้ง ท่านจะยอมรับประชากร 1,678 คนตระกูลทะเลตะวันออกของพวกเราได้ไหม? พวกเราพร้อมจะถวายทุกอย่างให้ท่านและเทพ เพื่อแลกกับการคุ้มครองและการนำทางจากท่านเทพผู้ยิ่งใหญ่"
หัวหน้าเผ่าไห่หมี่ลาคุกเข่ากับพื้น ท่าทีต่ำต้อยเป็นอย่างยิ่ง
คนของตระกูลทะเลตะวันออกรอบๆ เห็นดังนั้น ก็พากันคุกเข่าคารวะตาม
อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ทำลายบทบาทอำมหิตของอัศวินเลือด
ลู่เหยาจึงควบคุมอัศวินเลือดให้หันหลังจากไป
อีกด้านหนึ่ง เขาเหลือบมอง อิซาเบลได้รับคำสั่งแล้ว กำลังรีบกลับมาจากในป่า นั่งเรือใบพายมุ่งหน้ามาอย่างเร็ว
ไม่นานนัก อิซาเบลก็มาถึงเกาะ เริ่มการรับชนเผ่าตระกูลทะเลตะวันออกเข้ามา
...
หัวหน้าเผ่าไห่หมี่ลาคุกเข่าสาบานในทันที "นับแต่นี้ไป ตระกูลทะเลตะวันออกจะต่อสู้เพื่อศรัทธาในเทพเหยา!"
ลู่เหยามองเห็นที่มุมขวาบนของหน้าจอ ค่าประชากรและความศรัทธาเพิ่มขึ้นกว่า 1,600 หน่วย
ประชากร: 15,073 ความศรัทธา: 5,588
การพิชิตในยุคเผ่าพันธุ์นั้นค่อนข้างซื่อตรงมาก
ถ้าเจ้าแข็งแกร่ง ความเชื่อของเจ้าก็ถูกต้อง พวกเราจะติดตามเจ้า
หากเจ้าทอดทิ้งพวกเรา เราก็ต้องหันไปพึ่งพาอย่างอื่น มองหาเทพใหม่เพื่อคุ้มครอง
ตอนนี้หัวหน้าเผ่าไห่หมี่ลาพูดอีกว่า "ท่านอัครสาวก เทพอีฉีซ่อนสมบัติลับไว้บนเกาะนี้ มันคือกุญแจดอกหนึ่ง ซ่อนอยู่ใต้โทเท็ม ถูกอสูรทะเลคราเคนเฝ้าอยู่"
"ตอนนี้ พวกเราพร้อมจะไปค้นหากุญแจดอกนั้นมา ถวายแด่เทพเหยา"
พูดจบ เธอก็สั่งให้อสูรทะเลดำดิ่งลงใต้น้ำ ไม่นานอสูรทะเลก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง คายใบไม้สีทองวางไว้บนพื้น
อิซาเบลหยิบใบไม้สีทองนี้ขึ้นมา สังเกตอย่างละเอียดครู่หนึ่ง
เธอมองไปนอกจอ "ท่านเทพเจ้า นี่คือกุญแจประตูมิติ สามารถเปิดประตูไปยังอีกมิติหนึ่งได้ มันมีพลังอันน่าอัศจรรย์แฝงอยู่"
ลู่เหยาได้ยินเช่นนั้นก็รีบเรียกอัศวินเลือดที่ยืนทำเป็นเทพนักรบมาประจำการ
เพื่อความปลอดภัย เขาให้อิซาเบลไล่คนของตระกูลทะเลตะวันออกแถวนั้นออกไปก่อน
จากนั้น ลู่เหยาจึงคลิกที่กุญแจ กุญแจดอกนี้ลอยขึ้นไปทันทีที่มุมซ้ายบน กลายเป็นไอคอนรูปกุญแจสีทอง
ข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
【ผู้เดินทางผู้มาทีหลัง เจ้าอยากจะก้าวเข้ามาที่นี่หรือไม่?】
【ที่นี่คือราก【ต้นซิลวานุส】 มันเก็บรักษามรดกอันล้ำค่าและความเสียดายของข้าเอาไว้...】
【หากเจ้ามีความกล้าหาญและปัญญามากพอ ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเข้ามาเถิด มาครอบครองพลังอันลึกลับที่สุดของข้ากัน】
【ใช่】【ไม่】
ลู่เหยางงงัน
อีกแล้ว ของของเทพแห่งป่าอีกแล้ว
ก่อนหน้านี้คือ【ทุ่งหญ้าทอง】 อย่าบอกนะว่าเทพแห่งป่ามีพื้นที่หลักของเทพหลายที่?
ลู่เหยาคิดไปมา สุดท้ายก็กด【ใช่】
ใบไม้สีทองกางออกเป็นประตูแสงสีทอง
ลู่เหยาใช้กุญแจที่มุมซ้ายบนแตะประตูแสง เปิดช่องแยกสีดำออก
จากนั้นลู่เหยาก็เลือกอัศวินเลือด ส่งเขาเข้าไปสำรวจก่อน
ทันทีที่อัศวินเลือดก้าวเข้าไป ช่องแยกสีดำก็หายวับไป ประตูแสงปิดลง
ลู่เหยาคลิกที่ประตูแสง จอภาพเปลี่ยนไปทันใด
ในใบไม้สีทองเป็นโลกสีหม่นหมอง ดูเหมือนเนินเขารกร้าง ที่ไหนๆ ก็มีแต่ต้นไม้ตายที่บิดเบี้ยว พื้นเต็มไปด้วยหลุมศพหินที่ไม่มีป้ายสุสาน
ข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอช้าๆ
【มิติมืดชั้น 1】
จู่ๆ ดินตรงหลุมศพก็สั่นไหว สัตว์ประหลาดสีเทาคล้ายมนุษย์โผล่ขึ้นมาจากข้างใน
เหนือหัวของมันแสดงข้อความ: 【ปีศาจกินศพ LV40】
ต่อมา ปีศาจกินศพอีกมากมายก็โผล่ขึ้นมาจากพื้น ราวกับได้กลิ่นอะไรบางอย่าง พวกมันพุ่งเข้าใส่อัศวินเลือดเนวิดจากทุกทิศทุกทาง
ตาของลู่เหยาเป็นประกาย
ที่แท้นี่เป็นจุดเก็บเลเวลชั้นสูง!
ไม่แปลกใจเลยที่เทพแห่งป่าบอกว่า ที่นี่ซ่อนพลังของเขาเอาไว้... บางทีมอนสเตอร์ที่นี่อาจจะดรอปไอเทมด้วยซ้ำ
ลู่เหยาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา สั่งข้าวผัดพริกเขียวหน่อไม้หมูสับอย่างรวดเร็ว ตั้งใจจะกินข้าวไปด้วยดูอัศวินเลือดฆ่ามอนสเตอร์ไปด้วย