บทที่ 52 ผลจากปลาดุก
บทที่ 52 ผลจากปลาดุก
ด้วยคำปราศรัยและการสนับสนุนของหมอผีเซินเจี้ยน ประมุขหยูโจวก็ฝืนความเห็นของคนส่วนใหญ่ ฉีกคัมภีร์เทพเป็นแผ่นๆ แล้วให้หยูเหลียนนำไปศึกษาและทดลอง
ไอคอนหนังสือเล็กๆ สีเขียวในช่อง 【ของประทาน】 หายวับไปทันที
ลู่เหยาได้ผลจากการทดลอง สิ่งที่คนตัวเล็กในโลกพิกเซลไม่เข้าใจ พวกเขาไม่สามารถรับรู้ผ่านศาสนสถานได้โดยตรง เขาเข้าใจ【ของประทาน】บนพื้นฐานความรู้ที่มีอยู่เดิมเท่านั้น
อีกไม่นาน มีข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
【หยูเหลียนประดิษฐ์กระดาษขึ้นมาแล้ว】
【เผ่ากระเทียมเรียนรู้การทำและใช้กระดาษ ความศรัทธาเพิ่มขึ้น】
【เผ่ากระเทียมเรียนรู้การทำและใช้หนังสือ สติปัญญาของทุกคนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย】
ด้วยการประดิษฐ์และใช้กระดาษกับหนังสือ เผ่ากระเทียมนำความศรัทธา 400 หน่วยมาให้ลู่เหยา
หลังจากกระดาษถือกำเนิดขึ้นไม่นาน ประมุขหยูโจวก็จากโลกนี้ไป
ชายหนุ่มผู้เคยกล่าวว่า "เทพเจ้าทรงรักปลาลื่นๆ" วีรบุรุษที่ครั้งหนึ่งเกือบตายในสงครามเพราะมั่นใจตัวเองมากเกินไป ผู้นำที่แบกรับความรับผิดชอบตอนแก่ตัว ได้จบสิ้นชีวิตลงแล้ว
บนอนุสาวรีย์จารึกไว้ว่า
"หยูโจว หนึ่งในวีรบุรุษสองคนแรกของเผ่า เขาเคยต่อกรกับผู้ศรัทธาปีศาจอย่างกล้าหาญเพื่อปกป้องเผ่าและสัตว์ถ้ำ เขาผลักดันการต่อเรือเป็นอย่างมาก ทำให้รอยเท้าของเผ่ากระเทียมปรากฏทั่วท้องน้ำ ผสานเผ่าแม่น้ำตะวันออกเข้ากับสัตว์ถ้ำ ช่วยหยูเหลียนสร้างกระดาษ พวกเราจะจดจำเขาไว้ตลอดไป"
วิญญาณของหยูโจวถูกสก็อตต์นำไปที่ซานิโรทางใต้ เริ่มต้นการเดินทางในชีวิตใหม่
ยุคสมัยที่หยูโจวเป็นผู้นำรุ่นแรกและวีรบุรุษของเผ่ากระเทียมได้จบสิ้นลงอย่างสมบูรณ์
หลังจากการจากไปของหยูโจว เซินเจี้ยนผู้เป็นหมอผีสัตว์ถ้ำก็มาสานต่อตำแหน่งของเขา หยูเหลียนก็ได้รับการแนะนำจากเซินเจี้ยน กลายเป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของเผ่า
ชนชั้นผู้นำรุ่นที่สองของเผ่ากระเทียมก่อตัวขึ้น
เซินเจี้ยนผู้เป็นหมอผีสัตว์ถ้ำ เป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องสำคัญของเผ่า
ซาฮานผู้เป็นหมอดูดวงดาว ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในศาสนสถาน รับใช้เทพเจ้า และยังรับผิดชอบในการเขียนตำราและจดบันทึกของเผ่า
หยูเหลียนเป็นหัวหอกของหมู่ผู้นำ เขาเริ่มเสนอแผนการปฏิรูปชุดหนึ่ง เพื่อผลักดันเผ่าให้ก้าวหน้า
เขาพูดว่า "เรือใบพายของเราไปถึงซานิโรมาแล้ว ที่นั่นก็เป็นดินแดนศรัทธาของท่านเทพเหยาเช่นกัน"
"ท่านอัครสาวกเคยกล่าวไว้ว่า ซานิโรเป็นเมืองแห่งวิญญาณ มีวิญญาณมากมายที่ตาเราไม่เห็น คนในเผ่าที่ตายไป หลายคนก็ถูกรับไปที่นั่น"
"ข้าเคยนั่งเรือไปซานิโร เป็นเมืองที่ยอดเยี่ยม มีถนนและบ้านเรือนที่สะอาด มีทางเดินที่ไม่กลัวฝนตกและโคลน มีถนนตรงเรียบ มีกำแพงเมืองที่สูงและมั่นคง"
"เผ่ากระเทียมเราก็ควรสร้างเมืองแบบนี้"
"เมืองจะทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายยิ่งขึ้น ไม่ป่วยง่าย ทำให้ความศรัทธาและความเชื่อมั่นของเราแน่นแฟ้นมากขึ้น"
ข้อเสนอนี้ถูกเซินเจี้ยนคัดค้านกลับไป เหตุผลคือตอนนี้เผ่ามีแรงงานไม่เพียงพอ รองรับโปรเจกต์ใหญ่ที่ใช้เวลานานขนาดนี้ไม่ไหว
ในภาษาชาวบ้านก็คือ ก้าวขายาวเกินไปจนโป้งแตก
แต่เซินเจี้ยนก็เห็นด้วยกับความเห็นบางส่วนของหยูเหลียน
หมอผีเห็นว่า การสร้างถนนเป็นภารกิจสำคัญเร่งด่วนของเผ่า ต้องเชื่อมทางระหว่างชุมชนบ่อเกลือกับฐานหลักของเผ่ากระเทียม เพื่อให้สินค้าทั้งสองแห่งไหลเวียนได้รวดเร็วขึ้น
เมื่อมีถนนแล้ว หากเกิดอันตรายขึ้น ทั้งสองแห่งก็สามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ทันเวลา
แต่การสร้างถนนยากกว่าที่พวกเขาคาดไว้
แค่จะเปิดถนนในภูเขาสักสาย ก็ใช้แรงงานของสัตว์ถ้ำไปทั้งหมดแล้ว
สัตว์ถ้ำขุดเจาะภูเขาหินทั้งวันทั้งคืน พวกมันมีประสบการณ์ในการขุดรูอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้น พวกมันก็เจอเหตุภูเขาถล่มและฝนตกหนักหลายครั้ง ทำให้สัตว์ถ้ำตายไปหลายตัว
ลู่เหยาก็ได้ช่วยเหลือไปด้วย เขาใช้【แดดจัด】ไล่ฝนตกหนัก ทำให้การสร้างถนนในภูเขาดำเนินต่อไปได้
หลังเส้นทางทั้งสองเชื่อมถึงกัน ความเร็วในการไหลเวียนสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก อูฐบรรทุกของไปมาระหว่างทั้งสองที่ยิ่งมากขึ้น
กลุ่มพ่อค้าคึกคักขึ้นทันที พวกเขาตาดีเห็นกำไรในการค้าขายระหว่างสองแห่ง เริ่มส่งขายขนนก เกลือและกระเทียมไปมาอย่างถี่ กอบโกยผลประโยชน์มากมาย
แต่ปัญหาก็ตามมาอย่างรวดเร็ว
การขนส่งสินค้าต้องใช้อูฐบรรทุก หรือแรงงานคนหาบ ในการค้าขายระหว่างสองแห่ง การแลกเปลี่ยนแบบสินค้าแลกสินค้านั้นประสิทธิภาพต่ำและสูญเสียมาก พ่อค้าทั้งหลายเดือดร้อนกันมานาน
ไม่นาน ลู่เหยาก็เห็นข้อความโผล่ขึ้นบนจอ
【ชางลี่ประดิษฐ์เงินตรา "หอยทะเล" ขึ้น】
【เผ่ากระเทียมเรียนรู้การทำและใช้เงินตรา ความศรัทธาเพิ่มขึ้น สติปัญญาของทุกคนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย】
---เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ มีผู้ศรัทธาคนหนึ่งกระทำวีรกรรมเกินกว่าคนทั่วไปไปมาก เทพประสงค์จะแปลงเขาเป็นวีรบุรุษหรือไม่?
【ใช่】【ไม่】
ลู่เหยาคลิกที่ศาสนสถาน
ชางลี่ยืนอยู่ในศาสนสถาน
เขาอายุแค่ 18 ปี แม้แต่หยูเหลียนปัจจุบันยังแก่กว่า
ลู่เหยาเปลี่ยนเขาเป็นวีรบุรุษ
ในหน้าข้อมูลรายละเอียด ชางลี่เป็นหนุ่มหน้าคมผมมัดสั้น
เขาสวมเสื้อผ้าผ้าลินิน เท้าสวมรองเท้าหนังแกะ ชางลี่จูงอูฐเดินบนทางเล็กๆ บนหลังอูฐมีผ้าห่อสินค้าผูกอยู่
ใต้ภาพคาแร็กเตอร์ มีคำคมส่วนตัวของเขา
---อยากให้ทุกอย่างเป็นสินค้า มีป้ายบอกราคาชัดเจน พอจ่ายเงินแล้วก็เป็นของตัวเอง ไม่ต้องกลัวสูญเสียอีกต่อไป
...
【วีรบุรุษ Lv1】ชางลี่
โจมตี 0 ป้องกัน 0 ความรู้2 พลังเวท 1 โชค 2 ขวัญกำลังใจ 0
【ความสามารถ】
ปัญญา Lv1: ปัญญาเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้อัครสาวกได้ยินพระประสงค์ของเทพ ยิ่งมีระดับปัญญาสูง ยิ่งพัฒนาและเข้าใจความสามารถต่างๆ ได้ง่าย
การค้าขาย Lv1: ชำนาญการค้าขาย มีความสามารถทางธุรกิจดีเยี่ยม มีโอกาสประดิษฐ์สิ่งใหม่ทางการค้าในระดับหนึ่ง
...
ชางลี่ปรากฏตัวมาเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างคาดไม่ถึง
ลู่เหยาเคยคิดว่า ความก้าวหน้าระดับสถาบันของอารยธรรมเผ่า อาจต้องรอจนมีการผลิตเหล็กหรือสาขาวิศวกรรมอะไรทำนองนั้นก่อน
คิดไม่ถึงว่าพวกพ่อค้าจะออกโรงซะก่อน
พวกเขากระหายที่จะได้รับกำไรจากการค้ามากขึ้น ความต้องการหากำไรทำให้พวกเขากลายเป็นกลุ่มที่กระตือรือร้นที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลง ชางลี่คือภาพจำลองของพลังพ่อค้าที่ผลักดันอารยธรรมเผ่าให้พัฒนา
หอยทะเลที่ชางลี่ประดิษฐ์ขึ้น ภายใต้การอนุญาตของหมอผีเซินเจี้ยนและคนอื่นๆ ก็แพร่หลายไปในเผ่าอย่างรวดเร็ว
เงินตราทำให้การค้าขายมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและชัดเจนขึ้น การแลกเปลี่ยนแบบสินค้าต่อสินค้ากลายเป็นเรื่องในอดีต
คนในเผ่าเรียนรู้การตั้งแผงขายของเร่ขายด้วย
แต่ข้อเสียก็เกิดขึ้นตามมา
"เนื้อแกะ 40 หอยต่อชิ้น"
"เนื้อแกะ 39 หอยต่อชิ้น"
สองคนขายเนื้อแกะเริ่มสงครามราคากัน
"ทำไมเจ้าถึงอยากขายต่ำกว่าข้าด้วยล่ะ?"
"โง่จริง ก็เพราะอย่างนี้ถึงขายได้ไงล่ะ เจ้าก็ขายราคาต่ำได้นี่"
"เนื้อแกะ 38 หอยต่อชิ้น!"
"เนื้อแกะ 35 หอยต่อชิ้น!"
สองคนทะเลาะกันจนเกือบตีกัน สุดท้ายต้องให้หยูเหลียนออกหน้าไกล่เกลี่ย จึงยุติเรื่องราวได้
นอกจากนี้ การค้าขายด้วยเงินตรายังก่อให้เกิดปัญหาลดตุ้มลดตวงอันเป็นปัญหาตลอดกาล
"เนื้อที่เจ้าขายน้อยกว่าคนอื่น!"
"ใส่ร้าย ก็เท่ากันนั่นแหละ"
"ก็น้อยกว่านี่!"
"ไม่อยากซื้อก็อย่าซื้อสิ"
"เอาหอยทะเลคืนมา! ข้าจะไปซื้อที่อื่น!"
"ซื้อแล้วก็ซื้อแล้ว เนื้อที่เจ้าทำเสียแล้ว จะให้ข้ารับคืนได้ยังไง"
"น่าโมโหจริงๆ เจ้านี่!"
"การค้าขายก็เป็นแบบนี้แหละ ดูให้ดีๆ สิ"
ลู่เหยาก็ยังส่ายหน้า
เขาอยากจะฟาดฟ้าผ่าสักทีใส่พ่อค้าโกงพวกนี้ให้ตายไปเลย ผลงานที่ชาวบ้านทำงานเหนื่อยยากมา ดันถูกพวกมันหลอกเอาไปใส่กระเป๋า ช่างน่าโมโหเสียจริง
แต่ถึงจะปราบพ่อค้าโกงพวกนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์
ล้มพ่อค้าโกงไปหนึ่ง ก็ยังมีพ่อค้าโกงอีกนับล้าน
ลู่เหยายังสงสัยอยู่ ไม่รู้ว่าเผ่ากระเทียมจะมีวิธีจัดการหรือไม่
อีกไม่นาน เผ่าก็ให้คำตอบ
【หยูเหลียนประดิษฐ์หน่วยวัดน้ำหนัก: จิ่น/เหลียง ขึ้น】
【เผ่ากระเทียมทำให้มาตรวัดน้ำหนักเป็นมาตรฐานเดียวกัน】
【เผ่ากระเทียมเรียนรู้การกำหนดและใช้หน่วยวัด สติปัญญาของทุกคนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย】
ลู่เหยาคิดในใจว่า อย่างนี้ถึงจะถูก
พ่อค้าทั้งหลายแปลงร่างเป็นฝูงปลาดุกแย่งกันกิน ทำให้บ่อน้ำนิ่งๆ แห่งนี้ปั่นป่วน แต่ก็นำแรงกดดันและความท้าทายมาให้ผู้นำเผ่าด้วย
เฟืองของยุคใหม่ ค่อยๆ หมุนไปภายใต้แรงผลักดันของผู้คนมากมาย