ตอนที่ 20 ขั้นหนึ่งระดับสูงสุด
ตอนที่ 20 ขั้นหนึ่งระดับสูงสุด
ตกกลางคืน ผู้ที่ทำหน้าที่เวรยามทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่
"เอ… เสี่ยวฮวาง นายว่าวันพรุ่งนี้เราจะได้ไปฆ่าซอมบี้ไหม?"
"พี่หยาง ผมว่าพี่อย่าพูดอะไรเรื่อยเปื่อยเลย ตั้งใจเฝ้ายามไปเถอะ ได้ยินว่าซ่งเจิงไปยั่วโมโหสุนัขกลายพันธุ์ตัวหนึ่งเข้า พวกเราอย่าประมาทจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นจะทำให้เจ้าสุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้นเข้ามาในแคมป์ได้!"
"โอเค เสี่ยวฮวางนายไปพักก่อนเถอะ ฉันจะเฝ้ายามให้เอง นายยังเด็กจะให้มานอนดึกแบบผู้ใหญ่คงไม่ได้หรอก"
"อือ! พี่หยาง หากพี่อยากพักผ่อนก็เรียกได้นะ ผมจะได้มาเข้าเวรต่อ"
หลังจากผ่านไปครึ่งคืน คบเพลิงที่จุดอยู่ตามบริเวณนอกแคมป์ก็สั่นไหวไปมา ตอนนั้นเองที่เหล่าหยางลืมตาขึ้นและปลุกเสี่ยวฮวางที่นอนอยู่ด้านข้างให้ตื่น แต่ชายหนุ่มที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวยังคงนอนหลับสบายโดยไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น
เมื่อเกิดอาการขนลุกขึ้นมาและยังไม่ทันที่จะได้คิดอะไร เขาก็เตะเสี่ยวฮวางให้กระเด็นออกไปเพื่อหวังจะให้ชายหนุ่มตื่น เพราะตอนนี้เขามองเห็นเจ้าสุนัขกลายพันธุ์ที่มีความสูงประมาณหนึ่งเมตรกำลังวิ่งมาทางเขาและเสี่ยวฮวางแล้ว!
หลังจากที่เสี่ยงฮวางรู้สึกตัว ชายหนุ่มก็เอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิดที่โดนปลุก
"พี่หยาง พี่ทำอะไรน่ะ?!" แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ เขากลับได้พบว่าเหล่าหยางโดนสุนัขกลายพันธุ์เล่นงาน เสียงร้องตะโกนดังขึ้น
"สุนัขกลายพันธุ์บุกแล้ว!" พูดจบชายหนุ่มก็คว้าแท่งเหล็กที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาตีเข้าไปที่หัวของสุนัขกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว
ช่วงเวลานี้ทุกคนในแคมป์ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน ขณะที่ซ่งเจิงเดินออกมาจากแคมป์พร้อมได้เห็นว่าเหล่าหยางกำลังถูกสุนัขกลายพันธุ์โจมตีอยู่ ส่วนเสี่ยวฮวางก็หยิบแท่งเหล็กขึ้นมาตีที่หัวของมัน แต่การกระทำเหล่านี้เปล่าประโยชน์ เพราะสุนัขกลายพันธุ์ตัวนี้มีพลังในการป้องกันตัวที่แข็งแกร่ง
การตีมันก็ทำได้เพียงสะกิดผิวหนังของมัน ซ่งเจิงหยิบกระทะเหล็กขึ้นมาพร้อมมุ่งตรงไปฟาดใบหน้าของสุนัขกลายพันธุ์อย่างไม่ลังเล!
ทำไมถึงตีเข้าไปที่หน้ามันน่ะเหรอ? นั่นก็เพราะซ่งเจิงเห็นว่าที่หน้าของมันมีบาดแผลอยู่ก่อนแล้ว โดยรอยแผลนั้นลากยาวตั้งแต่หางตามาจนถึงบริเวณปากด้านล่างของสุนัขกลายพันธุ์
เมื่อสุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้นได้รับบาดเจ็บจากการถูกตี มันจึงรีบถอยห่างออกมาพร้อมด้วยท่าทางเจ็บปวด ขณะที่เสี่ยวฮวางรีบลากตัวเหล่าหยางออกมาจากสุนัขกลายพันธุ์ทันที ชีวิตของเขาไร้ผู้ใดสนใจ สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังท่าทางของสุนัขกลายพันธุ์ขนาดมหึมาตัวนั้น
มันคือสุนัขสายพันธุ์ทิเบตันแมสติฟฟ์!
รูปลักษณ์ของมันชวนสะพรึง รอยแผลขนาดใหญ่บนใบหน้า ผู้พบเห็นต่างตื่นตกใจ รอยแผลเหล่านั้นลากยาว ฟันแหลมคมของมันยังปรากฏเศษเนื้อติดอยู่ แทบไม่ต้องคาดเดาเลยว่าเป็นของผู้ใด เพราะมันเพิ่งกัดเหยื่อรายใหม่ไปเพียงไม่นาน
สายตาของมันจับจ้องซ่งเจิง เสียงขู่ดังปรากฏ ราวกับพยายามข่มขู่เป้าหมาย เหล่าหยางที่ถูกลากตัวออกมามีลมหายใจแผ่วเบาลงเรื่อยๆ ดวงตาของเสี่ยวฮวางเปี่ยมน้ำตาพรั่งพรูร้องบอกกับเหล่าหยาง
"พี่จะต้องไม่เป็นอะไรนะ พี่หยาง!"
เหล่าหยางทำได้เพียงยิ้มออกมาเท่านั้น ก่อนจะพูดด้วยเสียงอันแผ่วเบาว่า
"ฉันไม่เป็นไรหรอก… นายยังเด็ก… จะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปนะ นายยังสามารถทำอะไรดีๆให้ทีมได้อีกเยอะ… ฉันอายุครึ่งคนเข้าไปแล้วจะทำอะไรได้อีก อยู่ไปก็ทำให้ทุกคนเหนื่อยมากไปกว่าเดิม เรื่องอาหารการกินของทีมฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก… ฉันไม่สบายใจเลย ไม่สบายใจจริงๆ!" พูดจบเหล่าหยางก็สิ้นลมหายใจไปในทันที
"พี่หยาง" เสี่ยวฮวางร้องตะโกนออกมาพร้อมกับมองไปยังคนที่คอยแบ่งอาหารอันน้อยนิดของตัวเองให้เขากิน
เสี่ยวฮวางลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบแท่งเหล็กที่อยู่บนพื้นขึ้นมา เขาพุ่งเข้าไปหาสุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้นทันที แต่ซ่งเจิงใช้เส้นพลังจิตหยุดยั้งเขาเอาไว้ พร้อมส่งเสียงกราดเกรี้ยว
"นายจะทำอะไร? เหล่าหยางสละชีวิตเพื่อช่วยนาย จะตอบแทนเขาแบบนี้รึไง? ดูแลตัวเองให้ดีก่อน ล่าซอมบี้ให้ได้มากแล้วรีบพัฒนาเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ซะ! ถึงตอนนั้นค่อยกลับมาแก้แค้นมัน!"
พูดจบซ่งเจิงก็กระแทกพลังออกไปเพื่อโจมตีสุนัขทิเบตันกลายพันธุ์ตัวนั้น เขาคิดจะทดสอบความเร็วและพลังของสุนัขกลายพันธุ์ และเมื่อเห็นว่าซ่งเจิงจะโจมตีตัวเอง มันจึงพุ่งตรงเข้ามาหาซ่งเจิงเช่นกัน เสียงกระทะเหล็กปะทะกับเป้าหมายจนเกิดเป็นเสียงแสบหูดังขึ้น!
พลังของสุนัขกลายพันธุ์ตัวนี้ที่กระทะเหล็กสัมผัสได้น่าจะราวสามถึงสี่กิโลกรัมเห็นจะได้ พลังระดับนี้เทียบได้กับพลังของซ่งเจิงเลยทีเดียว ซ่งเจิงถอยกลับมาและมองไปรอบๆด้วยความระมัดระวังก่อนจะหันไปพูดกับทุกคนว่า
"มันมีกำลังค่อนข้างมาก ประมาณสามถึงสี่กิโลกรัม… มันจะต้องเป็นสุนัขกลายพันธุ์ระดับหนึ่งขั้นสูงสุดแน่นอน และฉลาดมากด้วย แต่มันไม่กล้าที่จะเข้ามาในแคมป์ของเราเพราะกลัวว่าพวกเราจะร่วมกันโจมตีมัน!
ทุกคนต้องระมัดระวังตัวเองไว้ วันนี้ใครอยากจะร่วมต่อสู้กับสุนัขกลายพันธุ์ตัวนี้กับผมให้แสดงตัวออกมาเลย!"
เสี่ยวฮวางรีบตอบกลับทันที "ผมไปด้วย"
"ดี! รอโอกาสก่อนแล้วเราจะโจมตีเข้าที่หน้าของมัน เพราะที่หน้าของมันมีบาดแผลอยู่ แต่ถ้าไม่สามารถฆ่ามันได้ในครั้งนี้ คนของเราทั้งหมดก็จะถูกมันฆ่าแทน!"
โฮก!
สุนัขกลายพันธุ์ทิเบตันร้องคำรามออกมา และซ่งเจิงเป็นคนแรกที่เข้าไปโจมตีมันทันที!
ปัง! ปัง!
ไม่นานก็เกิดเสียงปะทะกับกระทะดังขึ้น คนอื่นก็ไม่คิดนิ่งเฉย
แต่หลังจากการปะทะ ทุกคนต่างก็ใช้พลังของตัวเองไปมากกว่าครึ่งของที่มี และหากยังเป็นแบบนี้ต่อไปพวกเขาคงจะต้องตายกันหมดอย่างไม่ต้องสงสัย
ซ่งเจิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกถึงเรื่องเล่าที่ว่า สุนัขที่มีหัวแข็งแรง แต่ช่วงเอวของมันมักจะอ่อนแอมาก แต่กับสุนัขกลายพันธุ์ระดับหนึ่งขั้นสูงสุดแบบนี้จะใช้ได้ผลหรือไม่?
เขาไม่มีทางรู้ได้เลย… แต่ตอนนี้คงจะต้องทดลองเท่านั้น!
เขาสั่งให้ทุกคนพยายามสลับกันโจมตีสุนัขกลายพันธุ์ทิเบตันตรงหน้า และเมื่อสบโอกาสเขาก็ใช้กระทะเหล็กโจมตีมันอย่างสุดแรงเกิด มันกรีดร้องออกมาเสียงดัง
เมื่อเห็นโอกาสที่มันบาดเจ็บ เขาสั่งทุกคนโจมตีที่บริเวณสะโพกของมัน แต่ไม่รู้ว่าเสี่ยวฮวางไปเอาไม้เบสบอลมาจากไหน ตอนนี้มันถูกใช้ฟาดเข้าใส่สุนัขกลายพันธุ์เต็มแรงจนสะโพกและเอวของมันฉีกขาด
บาดแผลเริ่มเปิดกว้าง ฉีกขึ้นมาจนถึงคอของมัน สุดท้ายทุกคนเริ่มถอยเพื่อให้ซ่งเจิงใช้พลังจากกระทะเหล็กจัดการลงมือปิดท้าย!
จากนั้นซ่งเจิงยืนนิ่งเพื่อรอจนกว่าจะได้ยินเสียงตอบรับของกระทะขึ้นในหัว แต่ไม่มีเสียงอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว และสิ่งที่เห็นคือลมหายใจของเจ้าสุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้นค่อยๆแผ่วลง
มันกำลังจะตาย! ร่างกายของมันมีเลือดไหลทะลักออกมาเป็นจำนวนมาก เลือดเหล่านั้นไหลออกมาจากบาดแผลที่สะโพกของมัน ส่วนพลังกระทะเหล็กของชายหนุ่มที่ถืออยู่ดูเหมือนจะทำให้สุนัขตัวนั้นดูดเลือดของมันเองกลับเข้าไปในร่างทันที
และนี่เป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ดูเหมือนบาดแผลของสุนัขกลายที่อยู่ตรงหน้าจะหายไปในทันที
มันส่ายหัวไปมาก่อนจะใช้ปากคาบกระทะเหล็กที่ซ่งเจิงถืออยู่เหวี่ยงทิ้งไป เห็นได้ชัดว่าพลังของมันมหาศาลจนยากจะอธิบาย เพราะร่างของซ่งเจิงถูกโยนออกไปพร้อมกระทะอย่างรุนแรงและกระแทกลงกับพื้นอย่างจัง
เวลานี้ถือว่าเป็นช่วงวิกฤต เมื่อสุนัขกลายพันธุ์สามารถพัฒนาพลังจนเพิ่มขึ้นเป็นขั้นที่สองสำเร็จแล้ว!
ซ่งเจิงยังคงนอนอยู่ที่พื้นนั้นขณะที่เห็นสุนัขกลายพันธุ์ขั้นที่สองกำลังวิ่งเข้ามาหา ความเร็วระดับนี้ช่างน่าสะพรึงกลัว ซ่งเจิงทำได้เพียงยกกระทะเหล็กขึ้นมาป้องกันตนเองไว้
ในขณะที่ทุกคนกำลังแตกตื่น ซ่งเจิงก็ถูกสุนัขกลายพันธุ์ขั้นสองคาบและฟาดลงไปที่พื้น ทำให้ทุกคนเกิดวิตกกังวลขึ้นมาในใจ เนื่องจากชายหนุ่มคนนี้ได้กลายเป็นที่รักของทุกคนไปแล้วเเม้จะอยู่ที่นี่ได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น
ทางด้านสุนัขกลายพันธุ์ ตอนนี้มันหมุนตัวแล้วยกเท้าขึ้นลูบจมูกเพื่อเตรียมตัวที่จะโจมตีครั้งที่สอง!
ดังนั้นทุกคนจึงไม่มีเวลามาเสียใจอีกต่อไปแล้ว พวกเขารีบหาที่กำบังทันที และแม้ว่าทุกคนจะหลบอยู่เป็นเวลานาน แต่กลับไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของสุนัขกลายพันธุ์เลย…
อันที่จริงแล้วตอนที่ซ่งเจิงโดนกระแทกลงไปกับพื้น เขาได้ใช้กระทะเหล็กช่วยเอาไว้ ดังนั้นแม้เขาจะได้รับแรงกระแทกจนภายในบอบช้ำ แต่เขาก็ยังต้องมีชีวิตรอดไปได้ จากนั้นเขาก็ค่อยๆลุกขึ้นมาจากพื้น
แต่ตอนนี้สุนัขกลายพันธุ์ยังไม่รู้ว่าเขาลุกขึ้นมากแล้ว และทุกคนที่ถอยไปหาที่กำบังต่างได้เห็นซ่งเจิงกำลังลุกขึ้นอย่างช้าๆ จากนั้นเมื่อสามารถลุกขึ้นยืนได้แล้ว เขาก็กระโดดลงไปยังท่อระบายน้ำเพื่อที่จะกลบกลิ่นกายของตัวเอง
เมื่อเห็นดังนั้นทุกคนจึงทำตามบ้าง โดยการมองหาท่อน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุดเเละกระโดดลงไปเพื่อกลบกลิ่นกายของตัวเองทันที ซึ่งโชคยังดีที่แม้ว่าในท่อระบายน้ำจะมีหนูซอมบี้ตัวเล็กๆซ่อนตัวอยู่ แต่พวกมันไม่ได้มีพลังอะไรมากมายนัก และเมื่อเจอแสงสว่างพวกมันก็จะหลบหนีไปทันที
เสี่ยวฮวางเป็นคนแรกที่กระโดดลงไปในท่อน้ำก่อนที่จะไปรวมตัวกับซ่งเจิงเพื่อรอเวลา เพราะเจ้าสุนัขกลายพันธุ์ตัวนี้เมื่อได้พัฒนาเป็นขั้นสองแล้ว มันไม่ได้มีแค่พลังและความเร็วที่เพิ่มขึ้นมาเป็นเท่าตัวเท่านั้น
ทว่าความสามารถพิเศษของมันยังถูกพัฒนาขึ้นไปอีกด้วย และต่อไปนี้จะเกิดอะไรขึ้น ทุกคนก็ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ แต่นับว่าเป็นโชคดี เมื่อสุนัขกลายพันธุ์ตัวนี้ไม่สามารถหาเหยื่อของมันได้ มันทำเพียงเดินจากไปทันที!