ตอนที่ 19 ทิเบตันแมสทิฟฟ์กลายพันธุ์
ตอนที่ 19 ทิเบตันแมสทิฟฟ์กลายพันธุ์
หลังจากที่จัดการกับสุนัขกลายพันธุ์ได้แล้ว ซ่งเจิงก็ร้องตะโกนออกมาว่า "ผมสามารถหยุดพวกมันได้แค่สิบวินาทีเท่านั้น รีบจัดการเร็วเข้า!"
พูดจบเขาก็ใช้เส้นใยพลังจิตหยุดยั้งบรรดาสุนัขกลายพันธุ์เอาไว้ ทำให้ผู้คนเหล่านั้นต่างอยู่ในอาการตกตะลึง เมื่อสายตาของพวกเขามองไปยังเหล่าสุนัขกลายพันธุ์ที่หยุดอยู่กลางอากาศ มันกำลังจ้องมองพวกเขาราวกับต้องการจะกินเลือดกินเนื้อ
พวกเขารีบยกอาวุธที่อยู่ในมือฟันไปยังสุนัขกลายพันธุ์พวกนั้นทันที! แต่ซ่งเจิงไม่สามารถจะหยุดการเคลื่อนไหวของพวกมันได้นานกว่านี้แล้ว เนื่องจากการใช้พลังในการหยุดยั้งพวกมันครั้งเดียวหลายสิบตัวเป็นภาระที่หนักหนาเกินไป
และในขณะที่คนอื่นกำลังจัดการกับสุนัขกลายพันธุ์อยู่นั้น พลังจิตของซ่งเจิงก็สลายไปพร้อมเกิดอาการเวียนหัวขึ้นมาทันที ซึ่งมันเป็นผลจากการใช้เส้นใยพลังจิต!
ก่อนที่จะมีอาการปวดหัวมากไปมากกว่านี้ ซ่งเจิงรีบหยิบกระทะขึ้นมาแล้วฟาดไปที่สุนัขกลายพันธุ์เพื่อที่จะดูดซับน้ำยาวิวัฒนาการ เพราะมันเป็นความหวังในการมีชีวิตอยู่ของทุกคน!
"โฮก" เสียงร้องที่ดังขึ้นทำให้ทุกคนถึงกับหน้าถอดสี!
"นี่มันสัตว์กลายพันธุ์อะไรกัน? หรือว่าจะเป็นสัตว์กลายพันธุ์ขั้นสอง? พวกเรารีบถอยกันก่อน… อยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว พวกเรารับมือไม่ไหวแน่!" พูดจบเหล่าทีมสำรวจทุกคนก็รีบร้อนออกจากหมู่บ้านทันที
เมื่อออกจากหมู่บ้านมาได้ไม่นาน ในตอนที่พวกเขามองกลับไปข้างหลังก็พบว่ามีสัตว์หน้าตาน่าเกลียดตัวหนึ่งปรากฏขึ้น… มันเป็นสุนัขสายพันธุ์ทิเบตันแมสทิฟฟ์ที่เกิดกลายพันธุ์แล้ว ความสูงราวหนึ่งเมตรพร้อมดวงตากระหายเลือดกำลังจ้องมองไปยังซ่งเจิงกับเหล่าทีมสำรวจอย่างดุร้าย!
จากนั้นเมื่อซ่งเจิงและคนอื่นๆออกมาจากหมู่บ้านแล้ว พวกเขาต่างพูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น!
"รองหัวหน้าซ่งเจิง! การออกไปกับคุณครั้งนี้ถือว่าตัดสินใจได้ถูกต้องจริงๆ… วันนี้พวกเรามีเป้าหมายใหม่ในการฆ่าซอมบี้แล้ว! ยอดเยี่ยมไปเลย!"
ในขณะเดียวกันซ่งเจิงก็พูดขึ้นว่า
“พวกคุณได้ยินเสียงร้องนั่นไหม? สงสัยว่าจะเป็นสุนัขกลายพันธุ์ขั้นสูง!
"อะไรนะ? แล้วจะทำอย่างไรกันดีล่ะรองหัวหน้าซ่งเจิง?"
การตามกลิ่นของสุนัขกลายพันธุ์ค่อนข้างดีมากเสียด้วย!
"ตอนนี้เสื้อผ้าของพวกเรามีเหงื่อและหญ้าติดตามตัวเต็มไปหมด หลังจากถึงแคมป์แล้วคงต้องล้างตัวอีกสองสามครั้งเพื่อล้างมันออกไปให้หมด และแน่นอนว่ากลิ่นพวกนี้ทำให้สุนัขกลายพันธุ์ตามพวกเราไปถึงแคมป์ได้อย่างแน่นอน”
ตอนนี้เขากลัวว่าจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้!
“เอาล่ะ! ทำแบบที่ฉันก็พูดแล้วกัน! แต่ตอนนี้พวกเราไปล่าซอมบี้ที่อื่นก่อน จะได้มีกลิ่นอื่นมาผสมด้วย… เหล่าสุนัขกลายพันธุ์พวกนั้นจะได้สับสน!”
"ตอนนี้พวกเราไปทางซ้ายก่อน… ลองดูสิว่ามีอะไรให้ฆ่าได้บ้าง!"
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงต่อมา เจ้าสุนัขกลายพันธุ์ทิเบตันแมสทิฟฟ์ก็มาถึงตำแหน่งที่พวกของซ่งเจิงหยุดพักอยู่และทำท่าดมกลิ่นไปมาที่บริเวณพื้น เพราะสุนัขกลายพันธุ์สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นของพวกเขาจางๆ
มันต้องดมกลิ่นจนมั่นใจก่อนว่า นี่เป็นกลิ่นของพวกซ่งเจิงจริงๆหรือเปล่า? สมาชิกในทีมทั้งหมดอยู่ทางนี้ แต่มันเดินตรงไปยังทิศทางตรงข้าม! เพราะเส้นทางนั้นมีกลิ่นมนุษย์จางๆ ซึ่งดูเหมือนว่าซ่งเจิงกับพรรคพวกจะประเมินความสามารถในการดมกลิ่นของสุนัขกลายพันธุ์สูงเกินไป
เมื่อซ่งเจิงพบว่าเส้นทางที่ตัวเองมาเป็นแหล่งทะเลสาบขนาดเล็ก กลิ่นของพวกเขาจะต้องมาสุดแค่บริเวณนี้แน่นอน เนื่องจากบริเวณนี้มีปลากลายพันธุ์อยู่เป็นจำนวนมาก!
นอกจากนี้ยังมีกลิ่นกระดูกของคนที่ตายแล้วอยู่บริเวณนี้ด้วย คนส่วนใหญ่ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าใกล้ทะเลสาบแห่งนี้ เนื่องจากกลัวจะโดนปลากลายพันธุ์เหล่านั้นโจมตี เพราะนั่นต้องทำให้พวกเขาระมัดระวังมากขึ้น
เมื่อทุกคนเดินทางมาถึงทะเลสาบทันใดนั้น งูน้ำตัวหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาจากผืนน้ำ และเมื่อเห็นมนุษย์มันก็พุ่งตัวเข้ามาโจมตีซ่งเจิงทันที!
แต่ซ่งเจิงมีปฏิกิริยาที่รวดเร็วเช่นกัน เขายกกระทะเหล็กในมือฟาดไปยังงูน้ำตัวนั้นที่กระโจนขึ้นมา!
ขณะที่ทุกคนมองไปยังงูน้ำที่ถูกฟาดตัวนั้นด้วยสายตาหวาดกลัว
อะไรจะกลายพันธุ์ไปได้ขนาดนี้กัน?!
งูที่ราวกับไร้ผิว เกล็ดปรากฏประปรายทั่วร่าง รวมกับฟันแหลมคมที่สะท้อนแสง! สังเกตจากแรงที่มันใช้กระโดดจนลอยตัวได้ ผู้คนที่เห็นต่างตกใจกลัว!
โดนฟาดไปหนึ่งครั้งก็ยังไม่ตาย เพียงแต่ร่างตกกระทบกับพื้น ซ่งเจิงตอนนี้เป็นแค่มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ขั้นที่หนึ่ง อีกทั้งกระทะเหล็กในมือก็มีน้ำหนักราวห้ากิโลกรัม รวมกับพลังของเขาด้วยแล้ว แรงฟาดเมื่อครู่สมควรจะหนักราวสิบกิโลกรัมได้
งูกลายพันธุ์ที่โดนฟาดเผยเสียงขู่ไม่หยุดยั้ง ทั้งยังชูคอของมันขึ้นมา!
หากรู้จักงูก็จะทราบว่ามันคิดจู่โจมอีกครั้ง... ซ่งเจิงมองงูกลายพันธุ์ตรงหน้า ส่งเส้นใยพลังจิตเข้าไปหยุดยั้งมัน จากนั้นค่อยดึงเข้ามาใกล้ ใช้มือคว้าจับและบีบเข้าที่ตำแหน่งหัวใจของมันอย่างรุนแรง
ในที่สุดมันก็หนีไปไหนไม่รอด เส้นใยพลังจิตเลือนหาย ที่แท้สัตว์กลายพันธุ์พวกนี้ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน…จุดอ่อนของพวกมันก็ยังคงอยู่ที่เดิม
ซ่งเจิงถอนหายใจออกมาก่อนจะใช้กระทะเหล็กฟาด แล้วดูดซับน้ำยาวิวัฒนาการจากหัวของมัน! จากนั้นเขาก็หันกลับมาพูดกับคนในทีมว่า
"งูพวกนี้จุดอ่อนของมันยังคงอยู่ที่เดิม หัวใจยังคงเป็นจุดอ่อนของพวกมัน เพียงแค่บีบให้ตรงตำแหน่งหัวใจ มันก็ไม่ต่างอะไรจากงูทั่วไปแล้ว เอาล่ะ! แยกย้ายกันไปตามแผนเดิมที่ได้บอกไว้! ระวังตัวด้วย… เกรงว่าแถวนี้จะยังมีสุนัขกลายพันธุ์อาศัยอยู่อีก!"
ตามแผนการแล้วซ่งเจิงต้องการให้พวกเขาแยกย้ายกันออกไป เพื่อที่จะกระจายกลิ่นมนุษย์ให้ทั่วทุกทิศทาง หลังจากนั้นจึงค่อยย้อนกลับมายังที่เดิมที่ได้ตกลงกันไว้!
ดังนั้นหากเจ้าสุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้นยังตามมา แผนนี้จะสามารถสร้างความสับสนให้มันได้แน่นอน และเมื่อสมาชิกในทีมทุกคนกลับไปยังจุดเดิมเมื่อไหร่ ซ่งเจิงก็จะนำทีมไปทางขวาอีกครั้ง
สองชั่วโมงผ่านไปสุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้นก็ตามกลิ่นซ่งเจิงมาจนถึงจุดที่เขาได้ฆ่างูกลายพันธุ์ และมันเดินวนไปมาเพื่อดมกลิ่นของซ่งเจิง ดูเหมือนว่าครั้งนี้มันจะไม่รู้ว่าซ่งเจิงไปทางไหน เพราะทุกทิศทางต่างก็มีกลิ่นของมนุษย์อยู่เต็มไปหมด
เวลานี้มันจึงทำได้เพียงใช้สัญชาตญาณของตัวเองเพื่อตัดสินใจ เนื่องจากการดมกลิ่นไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะจมูกของมันได้กลิ่นมนุษย์จากทุกทิศทาง ทำให้ความสามารถในการดมกลิ่นไร้ประโยชน์ไปแล้ว…
แต่เจ้าสุนัขกลายพันธุ์ตัวนี้มีความอาฆาตรุนแรง ตำแหน่งในฝูงของมันจะต้องสูงอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถตามมาแก้แค้นพวกของซ่งเจิงได้!
สุนัขกลายพันธุ์เหล่านี้ก็มีกฎของตัวเองเช่นกัน โดยตัวที่มีพลังแข็งแกร่งกว่าสามารถเป็นจ่าฝูงให้ตัวอื่นๆได้ อีกทั้งหากพวกตำแหน่งสูงเกิดหิวขึ้นมา พวกมันก็สามารถกัดกินตัวที่อ่อนแอกว่าได้!
กฎฝูงของสุนัขกลายพันธุ์มีความโหดเหี้ยมยิ่งกว่าของมนุษย์เสียอีก และมันคือความจริง! ขอเพียงมีพละกำลังก็สามารถเป็นใหญ่ในกลุ่มได้ทันที
ตอนนี้ซ่งเจิงกลับมาถึงแคมป์พร้อมนำเรื่องที่สุนัขกลายพันธุ์ต้องการแก้แค้นพวกเขาในวันนี้มาเล่าให้เฉินเฟิงฟังทั้งหมด หัวหน้าทีมจึงตอบกลับไป
"ไม่ว่าเราจะมีความมั่นใจมากแค่ไหน แต่สองสามวันนี้เราจะต้องมีมาตรการป้องกันแคมป์อย่างเข้มงวด! เรื่องที่สำคัญคือตอนนี้อาหารของพวกเรามีไม่มากพอ และไม่สามารถมีอาหารกินไปจนถึงวันพรุ่งนี้ได้! เดิมทีอาหารของเราก็น้อยอยู่แล้ว และจากการย้ายที่อยู่ในช่วงสองสามวันมานี้จึงทำให้ไม่มีอาหารเพิ่ม”
"หัวหน้าครับ ผมรู้แล้ว! ผมจะเอาน้ำยาวิวัฒนาการที่ได้วันนี้มาทำเป็นอาหารเองครับ! มีสุนัขกลายพันธุ์ทั้งหมดสิบห้าตัวกับงูกลายพันธุ์อีกหนึ่งตัว ซึ่งน้ำยาทั้งหมดรวมกันแล้วก็น่าจะเปลี่ยนเป็นแป้งได้ถึงสิบกิโลกรัม! และแป้งพวกนี้สามารถเลี้ยงคนได้ถึงพรุ่งนี้แน่นอน!
“แต่คราวหน้าผมจะลองใช้เส้นใยพลังจิตในการดูดซับพลังของสัตว์กลายพันธุ์และซอมบี้ดู… เพราะหากเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่รู้เมื่อไหร่ผมจะพัฒนาไปได้ถึงระดับสองสักที!”
หัวหน้าลุกขึ้นเพื่อรับแป้งสิบกิโลกรัมมา จากนั้นค่อยมองยังสมาชิกทุกคนพร้อมกล่าวออก
"แป้งพวกนี้คือสิ่งที่ซ่งเจิงและคนของเขาได้มาจากน้ำยาวิวัฒนาการจากการฆ่าซอมบี้ไปทั้งหมดสิบหกตัว! แม้จะเสี่ยงต่อการล่อให้ซอมบี้มาหาพวกเราถึงแคมป์ก็ตาม แต่ที่พวกเขาเปิดเผยที่อยู่ของเราให้สุนัขกลายพันธุ์รู้ ก็เพื่อนำอาหารมาให้กับพวกเรา! มีใครต้องการกล่าวโทษพวกเขาหรือไม่?”
"ไม่ครับ!" พวกเขาตะโกนออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
เพื่ออาหารของทุกคน พวกเขาจึงต้องออกไปล่าซอมบี้ แม้ว่าจะไม่มากนัก แต่ก็ทำไปเพื่อให้ทุกคนได้อิ่มท้อง ถ้าหากยังกล้าโทษพวกเขาอีก ก็คงไม่เรียกตัวเองว่าคนแล้ว!
หัวหน้าเฉินนำแป้งเหล่านั้นไปให้ครัวแล้วพูดว่า
“หากใครกล้าแอบเอาไปเป็นของส่วนตัวล่ะก็ อย่าให้ฉันรู้เชียว… ไม่อย่างงั้นฉันจะไล่ออกจากกลุ่มทันที ให้มันไปเอาชีวิตรอดกันเอาเอง! พรุ่งนี้เอาแป้งพวกนี้ไปทำขนมเปี๊ยะ ส่วนคนที่มีกำลังแข็งแกร่งในระดับหนึ่งแล้วให้ตามซ่งเจิงออกไปล่าซอมบี้ต่อ”