ตอนที่ 16: แหวนมายาเร้นลับ
ตอนที่ 16: แหวนมายาเร้นลับ
สามคน! รวมทั้งสิ้นสามคน!
หากเรื่องที่ทหารโครงกระดูกสังหาร “มังกรหัวล้าน” ภายในไม่กี่วินาทีได้ในรอบแรกว่าคาดไม่ถึงแล้ว เช่นนั้นการที่ทั้งสามคนถูกสังหารภายในไม่กี่วินาทีได้ในรอบที่สองย่อมเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่า
ถึงอย่างไรสถานการณ์สองต่อหนึ่งเมื่อครู่เป็นองค์ประกอบของพวกมากกลั่นแกล้งพวกน้อย
ตอนนี้ชัยชนะแท้จริงกลับตกเป็นของพวกน้อยแทนที่จะเป็นพวกมาก
โดยเฉพาะกระบี่ทั้งสองของเสี่ยวไป๋ซึ่งสังหารวอริเออร์ทั้งสองได้ในพริบตา ทำเอาทุกคนหวาดกลัวอย่างแท้จริง
วอริเออร์คือหนึ่งในสองอาชีพที่ทนทานมากที่สุด อาชีพของผู้เล่นที่ V ส่วนใหญ่สามารถถูกสังหารได้ในทันที มีเพียงวอริเออร์กับอัศวินเท่านั้นที่ไม่เป็นเช่นนั้น
ในตอนนี้ทุกคนเฝ้าดูอย่างจนใจขณะวอริเออร์สองคนถูกพรากชีวิตด้วยหนึ่งคนหนึ่งกระบี่ ช่างเป็นภาพที่ชวนให้ตื่นตานัก
พลังโจมตีอันบ้าคลั่งนี่คืออะไรกัน?
เพียงแค่สองรอบเท่านั้น แถมไม่ถึงสิบวินาทีอีก
สมาชิกในทีมแปดคนลดลงไปครึ่งหนึ่ง แถมไม่เหลืออาชีพแนวหน้าหรือนักเวทที่เป็นแนวหลังแล้ว
คนที่เหลือตกตะลึงจนน่าซีด
“เวรเอ๊ย! วิ่งเร็ว!”
หลังจากกรีดร้องก็พากันวิ่งหนี
นักธนูสองคนออกวิ่งเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ก้าวขาออกวิ่งสักสองสามก้าว แสงสีเขียวเข้มสองสายกลับปกคลุมนักธนูทั้งสองเอาไว้
ความเร็วของนักธนูลดลงทันที
คำสาป!
หวังยวนถือแท่งไม้หักในมือแล้วเย้ยหยัน “หาเรื่องฉันเสร็จแล้วคิดหนีงั้นเหรอ? คิดง่ายเกินไปหน่อยไหม”
“พี่หนิว ทำได้ดีมาก!”
เมื่อเห็นหวังยวนควบคุมนักธนูได้ทันท่วงที ต้าไป๋จึงเอ่ยคำชมขณะโบกไม้เท้าอย่างต่อเนื่อง
"ปัง! ปัง!"
ลูกไฟสองลูกลอยเข้ามาก่อนจะทำให้นักธนูทั้งสองกลายเป็นผุยผง เหลือเพียงนักบวชคนเดียวที่สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว “อย่าฆ่าฉัน ฉันมาจากสมาคมมังกรดำนะ! คุณไม่รู้เหรอว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามาหาเรื่องสมาคมมังกรดำ?”
“แล้วสมาคมมังกรดำไม่รู้เหรอว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามาหาเรื่องฉัน?” หวังยวนโบกมือ
เสี่ยวไป๋สะบั้นศีรษะของนักบวชด้วยกระบี่ แล้วนักบวชก็ถูกสับจนตาย
“ถุย!”
หวังยวนถ่มน้ำลายใส่ศพของนักบวชอย่างไม่ไยดี
งี่เง่า คิดว่ากำลังหาเรื่องกับใครอยู่ไม่ทราบ?
จะสมาคมมังกรดำหรือสมาคมมังกรขาวก็เหลวไหลทั้งนั้น ทำไมต้องกลัวตายเวลาเล่นเกมด้วย?
ต่อให้เกมจะหลอมรวมกับความเป็นจริงในอนาคต แต่ทางนี้มีตัวเอกอยู่กับตัวถึงสองคน คิดว่าฉันซึ่งเป็นตัวเอกเหนือตัวเอกจะถูกพวกคุณรังแกได้อีกเหรอ?
หากยึดครองจุดฝังศพเพื่อกีดกันเนโครแมนเซอร์คนอื่นยังพอทน แต่การมาสร้างปัญหาเพียงเพราะเงินจำนวนน้อยนิดย่อมไม่มีค่าให้เอ่ยถึง คราวนี้กลับจะมาปล้นชิงเราและยังอยากมาทำให้เรากลัวอีก ทำอะไรก็หัดละอายใจบ้าง
“เวร! คนตั้งมากขนาดนี้แต่กลับไม่ดรอปอุปกรณ์สวมใส่แม้แต่ชิ้นเดียวเลยหรือไง?” เมื่อเห็นพื้นที่ว่างเปล่า โครงกระดูกทั้งสองกลับไม่พอใจ
อุปกรณ์สวมใส่ของคนเหล่านี้นับว่าดี ทั้งที่ตัวเองคิดว่าจะดรอปของดังกล่าวหากฆ่าได้สำเร็จ แต่กลายเป็นว่าคนกลุ่มนี้ค่อนข้างโชคดีจนไม่ดรอปอุปกรณ์เลยแม้แต่ชิ้นเดียว
“อย่างน้อยก็ดีกว่ายุคของพวกเราที่สามารถถอดอุปกรณ์สวมใส่ออกจากศพได้ทันที” เสี่ยวไป๋เริ่มนึกถึงอดีต
หวังยวน "... "
ยอดเยี่ยมมาก นึกไม่ถึงเลยว่าทหารโครงกระดูกทั้งสองจะเป็นทั้งฆาตกรและโจร
“พรวด!”
ขณะหวังยวนกำลังบ่นโครงกระดูกทั้งสอง ในใจก็พลันรู้สึกเย็นยะเยือก
42
ค่าความเสียหายเล็กน้อยลอยออกมาจากศีรษะของหวังยวน
“?”
หวังยวนหันศีรษะก่อนจะพบว่าอากาศด้านหลังเกิดการบิดเบี้ยว
นักฆ่าร่างเตี้ยค่อยปรากฏจากด้านหลังหวังยวน สายตาของนักฆ่าหมองหม่นขณะเผยสีหน้าสับสน
เห็นได้ชัดว่าไม่อาจทำความเข้าใจได้ว่าเหตุใดนักเวทผู้สวมชุดมือใหม่และถือไม้เท้ามือใหม่ถึงเสียค่าพลังชีวิตเพียงสี่สิบหน่วยหลังจากถูกโจมตีเข้าไป
คนผู้นี้ไม่ทราบเลยว่าหวังยวนมีแต้มโบนัสโดยเฉลี่ยกับสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างหนังสือประวัติศาสตร์วีรชนอยู่ในมือ ทำให้ค่าเกราะของหวังยวนในตอนนี้เกิน 60+
นักฆ่ามีแต้มโบนัสเป็นความคล่องตัว ดังนั้นค่าพลังโจมตีจึงอยู่ที่ราวหกสิบถึงเจ็ดสิบหน่วยเท่านั้น
การใช้สกิลเพื่อลอบโจมตีจากด้านหลังจนเกิดความเสียหาย 40+ ได้ก็นับว่าดีแค่ไหนแล้ว
นักฆ่าตอบสนองอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นการโจมตีทะลวงการป้องกันเข้าแล้วจึงหันหลังแล้วออกวิ่ง
แต่หวังยวนคว้าคอเสื้อของนักฆ่าเอาไว้
“ถึงกับยังมีอีกคน!! อย่าคิดหนี!”
ความแข็งแรงของหวังยวนอยู่ที่ 53 ซึ่งไม่ได้ด้อยไปกว่านักฆ่า หลังจากคว้าคอเสื้อของนักฆ่าแล้วก็สามารถตรึงให้อยู่กับที่เอาไว้ได้ ในเวลาเดียวกัน ทหารโครงกระดูกที่อยู่ข้างกายก็สะบั้นเข้าที่ศีรษะของนักฆ่าด้วยกระบี่
แม้ทหารโครงกระดูกจะไม่มี AI เหมือนอย่างต้าไป๋กับเสี่ยวไป๋
แต่ก็นับว่าเป็นวิญญาณอันเดดที่ได้รับพรจากหนังสือประวัติศาสตร์วีรชนเช่นกัน
นอกจากอุปกรณ์สวมใส่แล้ว หน้าต่างระบบคุณสมบัติยังสูงกว่าของเสี่ยวไป๋อีกด้วย ด้วยเพียงหนึ่งกระบี่ก็สามารถล้มนักฆ่าได้
ในตอนนี้ เสี่ยวไป๋จึงรีบวิ่งไปข้างหน้าแล้วเหยียบบนหลังของนักฆ่า จากนั้นจึงแทงทะลุแผ่นหลังด้วยกระบี่
"กรุ้งกริ้ง!"
เมื่อนักฆ่ากลายเป็นศพ แหวนวงหนึ่งจึงตกออกจากร่าง
“ดรอปอุปกรณ์สวมใส่! ในที่สุดก็ดรอปอุปกรณ์สวมใส่!”
เสี่ยวไป๋บังเกิดความยินดี ในฐานะที่ทั้งคู่เป็นอาชีพสายประชิด นักฆ่าจึงมีอุปกรณ์สวมใส่จำนวนมากที่วอริเออร์สามารถใช้ได้
“อุปกรณ์สวมใส่นักเวท อุปกรณ์สวมใส่นักเวท!” ต้าไป๋ยังคงพึมพำไปมา ไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดนักเวทผู้มีเหตุผลเช่นเขาถึงเพ้อฝันว่านักฆ่าจะดรอปอุปกรณ์สวมใส่ของนักเวท
หวังยวนหยิบแหวนขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ
แหวนมายาเร้นลับ
คุณภาพ: ทองแดง
โจมตี: 17
เวทมนตร์: 10
ความคล่องตัว +6
ความแข็งแรง +5
สกิลติดตัว: ภาพมายา เสริมการลอบเร้น +15
อาชีพที่ต้องการ: นักฆ่า
เลเวลที่ต้องการ: 15
แนะนำไอเทม: แหวนเวทมนตร์ลี้ลับที่สามารถทำให้ตำแหน่งของผู้สวมใส่ไม่อาจคาดเดาได้
“พระเจ้า! ของดี!”
“บัดซบเอ๊ย! ทำไมต้องเป็นอุปกรณ์สวมใส่ของนักฆ่าด้วย!”
“ทำไมไม่ใช่อุปกรณ์สวมใส่ของนักเวท!”
เมื่อเห็นคุณสมบัติของแหวน หวังยวนกับโครงกระดูกทั้งสองต่างอุทานออกมาพร้อมกัน
ทหารโครงกระดูกไป๋ซานเอ๋อร์ผู้อยู่ข้างกายมีสีหน้าหมองหม่นราวกับตัดขาดจากโลกใบนี้
มันเหมือนกับ “อัญเชิญโครงกระดูก” ของเนโครแมนเซอร์ “ลอบเร้น” คือสกิลหลักของนักฆ่า อีกทั้งยังสำคัญยิ่งกว่าอัญเชิญโครงกระดูกของเนโครแมนเซอร์ด้วยซ้ำ
ถึงอย่างไรเนโครแมนเซอร์ยังมีสาย “เนครอนซ์” ที่ใช้เวทคำสาปและไม่ต้องพึ่งกองทัพอันเดด ส่วนนักฆ่า ไม่ว่าจะผู้ลอบเร้นหรือมือสังหาร “ลอบเร้น” ก็นับว่าเป็นหัวใจหลักอยู่ดี
นักฆ่าที่ไม่อยู่ในสถานะลอบเร้นจะสูญเสียพลังต่อสู้ 80 หน่วย
ดังนั้นอุปกรณ์สวมใส่ที่เสริมการลอบเร้นจึงเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่แพงที่สุดสำหรับนักฆ่า มันแพงยิ่งกว่าอาวุธเสียด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ เนื่องจากเป็นการลอบเร้น บัญชีอาชีพนักฆ่าจึงมีสัดส่วนสูงที่สุดใน <<ดอว์นเบรกกิ้ง>> ตอนนี้หนึ่งในสามของผู้เล่นเป็นนักฆ่า ดังนั้นอุปกรณ์สวมใส่ของนักฆ่าจึงมีราคาสูงกว่าของอาชีพอื่นเป็นเท่าตัว
สำหรับแหวนนักฆ่าที่เสริมการลอบเร้น มูลค่าของมันในโรงประมูลย่อมสูงกว่าไม้เท้าในมือของต้าไป๋
เปิดรายชื่อเพื่อน! เปิดกล่องโต้ตอบของสุ่ยหลิงหลง ถ่ายภาพหน้าจอ กดส่ง!
ครบจบในครั้งเดียว
“ห้าสิบเหรียญทอง!”
สามวินาทีต่อมา สุ่ยหลิงหลงส่งข้อความตอบกลับมา "นายอยู่ไหน? เดี๋ยวฉันไปเทรดกับนายเอง อย่าเพิ่งเอาไปขายใคร"
“ห้าสิบเหรียญทอง...”
มือของหวังยวนสั่นสะท้านเมื่อเห็นข้อความของสุ่ยหลิงหลง
นั่นคือห้าหมื่นหยวนเชียวนะ!!
หากเป็นเมื่อก่อน ตนเองต้องอดมื้อกินมื้อถึงหนึ่งปีกว่าจะได้สักห้าหมื่นถึงหกหมื่นหยวน แต่ตอนนี้แหวนในเกมกลับสามารถขายได้ถึงห้าหมื่นหยวน
โลกเฮงซวยแบบนี้สมควรถูกทำลาย
“ป่าอสนี!”
หวังยวนส่งพิกัดอย่างไม่ใส่ใจ "รีบมาเข้าล่ะ ฉันยังมีภารกิจที่ต้องทำ"
"ใกล้ถึงแล้ว!"
หลังจากสุ่ยหลิงหลงส่งข้อความ วินาทีต่อมา หวังยวนจึงเห็นแสงวาบขึ้นตรงหน้า แล้วร่างโค้งมนของสุ่ยหลิงหลงจึงปรากฏตรงหน้าตนเอง
คัมภีร์เทเลพอร์ตที่มีมูลค่าหนึ่งร้อยเหรียญทอง... เวรเอ๊ย โลกของคนรวยช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย
"เอามาเร็ว!" สุ่ยหลิงหลงรับแหวนแล้วยัดถุงเหรียญเงินห้าสิบเหรียญทองให้หวังยวน
หวังยวนรับถุงเหรียญมาแล้วนับเหรียญทองอย่างละเอียดประหนึ่งคนขี้เหนียว
“เจ้าคนบ้านนอก ฉันจะจ่ายนายขาดได้ยังไง?” สุ่ยหลิงหลงมองด้วยสายตาเหยียดหยัน “ภารกิจของนายคืออะไร? อยากให้ฉันช่วยนายหรือเปล่า?”
“ภารกิจเปลี่ยนอาชีพ… ฉันทำเอง…”
หวังยวนกังกำลังจะปฏิเสธ
สุ่ยหลิงหลงเอ่ยคำอีกครั้ง “ไม่ต้องห่วง ฉันไม่คิดเงิน!”
"เยี่ยมไปเลย!" หวังยวนเปลี่ยนน้ำเสียงอย่างรวดเร็ว
…
เมืองพายุฟ้าคะนอง ภายในจุดคืนชีพ
กลุ่มมังกรหัวล้านมองหน้ากันไปมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ทำไมพวกคุณถึงตายเหมือนกันล่ะ?”
“เหลวไหล คุณตายได้ แต่พวกฉันห้ามตายหรือไง?” ทุกคนต่างรู้สึกไม่พอใจหลังจากถูกเก็บยกตี้ ทำให้ตอนนี้ไม่สนใจเกี่ยวกับตัวตนของผู้นำมังกรหัวล้านก่อนจะเริ่มโต้คารมกลับ
“ไม่มีอุปกรณ์ของใครถูกดรอปใช่ไหม?”
“อุปกรณ์สวมใส่เหรอ? เวรแล้ว!”
ทุกคนรีบตรวจสอบอุปกรณ์สวมใส่ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก "ไม่โดนไม่โดน โชคดีที่ไม่โดน"
คราวนี้แสงสีขาวปรากฏที่จุดคืนชีพ แล้วนักฆ่าจึงปรากฏตรงหน้าทุกคน
“คุณก็หนีไม่รอดเหรอ?”
“บัดซบเอ๊ย สหายคนนี้ร้ายกาจเกินไปแล้ว ขนาดฉันแทงข้างหลังแล้วยังฆ่าเขาไม่ได้เลย!” นักฆ่าสบถออกมา “แล้วพวกคุณทำอะไรน่ะ?”
“ตรวจสอบอุปกรณ์สวมใส่! อุปกรณ์สวมใส่ของคุณถูกดรอปหรือเปล่า?”
"อะ..." นักฆ่ารีบมองแถบอุปกรณ์สวมใส่ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ แล้วสีหน้าก็มืดมนทันที