บทที่ 51 บิ๊กโฟร์  

หลูมู่หยานเห็นว่าเวลาการแข่งขันใกล้จบลงแล้ว ตอนนี้หัวใจของนางเริ่มเต้นแรงขึ้น ก่อนที่แสงของหยวนหลี่ที่โอบล้อมตัวนางอยู่จะค่อย ๆ หายไป

อี้นู๋รู้สึกเจ็บปวด แต่จู่ ๆ นางก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มพูดได้ ก่อนที่นางจะสำลัก และร้องขอความเมตตา “ขะ ขะ ข้า ข้ายอม ข้ายอมแพ้”

เมื่อผู้ตัดสินได้ยินเสียงยอมแพ้ติด ๆ ขัด ๆ จากอี้นู๋ก็รู้สึกโล่งใจ ทว่าในขณะที่เขากำลังจะตัดสินแพ้ชนะ เขาก็เหลือบไปเห็นหลูมู่หยานสะบัดแขนเสื้อเบา ๆ ก่อนที่เปลวเพลิงหยุนหลี่จะลุกท่วมอี้นู๋พร้อมกับโยนนางให้พ้นเวทีการต่อสู้จนร่างกระทบกับพื้นอย่างแรง

“ท่านผู้ตัดสินยังไม่ตัดสินใช่หรือไม่?” หลูมู่หยานเงยหน้ามองไปยังอาจารย์ผู้ตัดสินประจำเวที

ผู้ตัดสินประจำเวทีการแข่งขันที่ยี่สิบหกตกใจกับสิ่งที่เห็น ก่อนจะรีบประกาศออกไปทันที “หลูมู่หยานชนะนัดสุดท้าย!”

เขาไม่พอใจกับการกระทำของหลูมู่หยานในก่อนหน้านี้ แต่เขาค่อย ๆ สงบลงหลังจากได้ยินว่านางเกือบถูกฆ่าตายมาก่อน และใครก็ตามที่ถูกใส่ร้ายจะต้องไม่สงบและถูกแก้แค้น

ตอนนี้ดูเหมือนว่าหลูมู่หยานไม่ได้ทำร้ายชีวิตของอี้นู๋ และนางไม่ได้ทำผิดกติกาในการแข่งขัน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องผิดที่จะประกาศให้นางเป็นผู้ชนะ

โลกที่เคารพผู้แข็งแกร่ง ตราบใดที่เจ้ายังมีพละกำลัง เจ้าก็จะได้รับความเคารพนับถือ เช่นเดียวกับหลูมู่หยานที่เอาชนะอี้นู๋ไปได้ พร้อมกับได้รับคุณสมบัติธาตุไฟ … นี่คือความแข็งแกร่ง

แม้ว่าครั้งหนึ่งนางเคยเป็นขยะไร้ค่าชื่อเสียงเลื่องลือ ทว่าหลังจากวันนี้ ชื่อถังขยะไร้ราคาของนางจะถูกลบทั้งหมด

โว้ววววว!!

หลังจากผู้ตัดสินประกาศผล นักเรียนที่ฟังก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นตระหนก และความโกลาหลก็เริ่มเกิด พวกเขาเห็นว่าหลูมู่หยานสามารถใช้ไหหยวนเพื่อเอาชนะอี้นู๋ได้

การแข่งขันในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับการชมการแสดงที่สวยงาม ทั้งกลีบดอกสีน้ำเงิน และดอกบัวสีเพลิงรวมไปถึงเสียงกรีดร้องที่น่าสมเพช มันช่างกระตุ้นประสาทของพวกเขาดีจริง ๆ

“ข้าดูไม่ผิดใช่ไหม คน ๆ นั้นคือหลูมู่หยานจริง ๆ เหรอ?” เพื่อนร่วมชั้นที่ได้ชมการต่อสูู้ที่เพิ่งเกิดขึ้น ไม่สามารถหยุดสะกิดคนที่อยู่ข้าง ๆ เขา … เขายังคงไม่เชื่อในสิ่งที่เขาเพิ่งได้เห็น

คนที่อยู่ข้าง ๆ ก็ขยี้ตาพร้อมกับพยักหน้าด้วยความอย่างว่างเปล่า “นั่นคือหลูมู่หยานจริง ๆ ข้าไม่คิดว่านางจะมีพลังมากขนาดนี้ หลังจากที่นางกำจัดร่างกายเดิมจนหมดสิ้น”

“หลูมู่หยาน ขยะไร้ค่านี้ที่สามารถเอาชนะอี้นู๋ได้ ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ”

“เจ้าก็เป็นขยะ หากตอนนี้หลูมู่หยานเป็นขยะ พวกเราก็เหมือนกับขยะที่ไม่ได้ดีด้วยซ้ำ?”

“ไม่น่าแปลกใจที่นางกล้าต่อสู้กับกู่ยันรัน ความแข็งแกร่งนี้มีคุณสมบัติมากพอที่จะแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งสุดท้ายในชั้นพื้นดิน เจ้าคิดว่าใครจะชนะ”

“ข้ายังคงสนับสนุนกู่ยันรัน”

“ตอนนี้ข้ามองหลูมู่หยานดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ข้าชอบวิธีการที่รุนแรงนี้ของนาง”

“ผู้หญิงควรอ่อนโยนเหมือนน้ำแบบกู่ยันรัน ใครจะกล้าขอผู้หญิงอย่างหลูมู่หยานกันล่ะ”

“เฮ้อ อ่อนโยนเหมือนน้ำมีประโยชน์อะไร เป็นพวกดุร้ายดีกว่าอีก”

“...”

การถกเถียงของเหล่าบรรดานักเรียนท่วมท้นระลอกแล้วระลอกเล่า แม้ว่ามันจะดูไม่น่าเชื่อ แต่การได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตาก็คงต้องเชื่อ พวกเขาทั้งหมดเห็นความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหลูมู่หยานแล้ว และนางสมควรได้รับความสนใจจากพวกเขา

ส่วนบางคนที่ชื่นชมกู่ยันรัน ในระหว่างการประชุมสองคนอดไม่ได้ที่แก้ต่างให้นางสมดุลกับหลูมู่หยาน

ฉีอี้ซวนจ้องไปที่สตรีสวมชุดสีม่วงที่งดงามบนเวทีศิลปะการต่อสู้อย่างไม่วางตา จากใจที่สงบเงียบดุจแอ่งน้ำลึก ตอนนี้กลับกำลังระส่ำราวกับแอ่งน้ำที่มีก้อนหินร่วงหล่นลงมา และหินก้อนนั้นก็คือสตรีผู้ที่เขาไม่เคยแม้แต่จะชายตามอง

“ฮ่าฮ่า ขอแสดงความยินดีด้วยท่านจอมพล สาวน้อยของท่านซ่อนพรสวรรค์ไว้ลึกมาก” หยุนเทียนเฉิน ปรับอารมณ์ที่เกิดขึ้นในหัว ก่อนจะหันศีรษะและยิ้มแสดงความยินดีกับหลูซานเทียน

“ขอบคุณฝ่าบาทสำหรับคำชม หยานเอ๋อร์ของข้าเป็นคนเก่งแบบนี้แหละ” หลูซานเทียนที่กำลังอารมณ์ดี ตอนนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขายินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นหลานสาวของเขาเติบโตไปอีกขั้น

ขณะเดียวกันกู่หยวนไคที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เหยียดยิ้มออกมาด้วยความไม่เต็มใจ หลูมู่หยานที่ได้เห็นช่างเป็นผู้ที่เกินความคาดหมาย และดูเหมือนเขาจะนิ่งเฉยต่อไปไม่ได้

ใบหน้าของหยุนเทียนซ่งเริ่มมืดลงราวกับน้ำหมึก เขาและกู่หยวนไคต่างก็มองท่าทางที่คลุมเคลือของกันและกัน นอกจากหลูมู่ไป๋ที่ทำให้พวกเขาต้องกุมศีรษะ ตอนนี้กลับมีหลูมู่หยานปรากฏขึ้นอีกคน หลุมฝังศพของพวกตระกูลหลูถูกปกคลุมไปด้วยความเขียวขจีเสียจริง

“ข้าไม่ได้คาดหวัง! ข้าไม่ได้คาดหวัง!” เสี่ยวเซียงเหยียดมือออก พร้อมกับบีบแขนของตัวเอง ก่อนปล่อยมือออกทันทีด้วยความเจ็บปวด ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาเห็นตอนนี้จะไม่ใช่ภาพลวงตา

“มู่ถิง น้องสาวของเจ้าซ่อนตัวตนลึกพอแล้ว! นางฝึกฝนตั้งแต่กำจัดร่างกายจูไมออกแค่เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ จนถึงตอนนี้ แต่นางสามารถรวบรวมพลังธาตุไฟได้ มันผิดปกติจริง ๆ !” เสี่ยวเซียงเอ่ย หลังจากที่เป็นกังวลกับหลูมู่หยาน หยูกวงในตอนนี้ที่เหลือบมองไปยังหลูมู่ไป๋ที่นั่งอยู่ … เมื่อมีพี่ก็ต้องมีน้อง

“พรสวรรค์ของน้องสาวข้ายอดเยี่ยมมาก แม้แต่ข้าก็ยังอาย เจ้าไม่ต้องอิจฉา” หลูมู่ถิงยกยิ้ม เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าน้องสาวของเขาจะทรงพลังมากในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้

สายตาของหยุนหลันมองไปยังหลูมู่หยานที่สงบนิ่งบนแท่นต่อสู้ จู่ ๆ ในใจของเขาก็มีความสุขจนไม่สามารถบรรยายได้

ความกังวลในดวงตาของยุนจินถูกแทนที่ด้วยความประหลาดใจ เขารู้ว่าหญิงสาวผู้นี้จะไม่พ่ายแพ้ง่าย ๆ ด้วยอารมณ์ที่มั่นใจในตัวเอง และความไม่แยแสของหลูมู่หยานดึงดูดความสนใจของเขามากขึ้น และมันก็เริ่มน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

ดวงตาสีดำอันแสนเย็นชาของหลูมู่ไป๋ถูกย้อมด้วยชั้นสีสว่าง และริมฝีปากของเขาก็โค้งเล็กน้อย น้องสาวตัวน้อยของเขาทำได้ แล้วก็ยังทำได้ดีที่สุด

หลูหม่าอวี้คลายมือกำแน่น ความตั้งใจของลูกสาวตัวน้อยก้าวไปสู่ความแข็งแกร่ง และผ่านอุปสรรคทั้งหมดได้

“ข้าจำได้ว่าบุตรสาวของทั้งตระกูลหลู และตระกูลกู่มีนัดกันก่อนการแข่งขัน ข้าไม่รู้ว่าใครจะได้ที่หนึ่งในชั้นเรียนของจังหวัด” ท่านเสนาบดีหันศีรษะและมองไปที่หลูซานเทียน และกู่หยวนไค พร้อมกับทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องตลก

กู่หยวนไคยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะตอบอย่างถ่อมตน “แม้ว่ายันรันจะมีพรสวรรค์ที่ดี แต่ก็ยากที่จะคาดเดาผลลัพธ์ของแม่นางหลูคนปัจจุบัน” ในใจของเขาเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าลูกสาวของเขาสามารถชนะได้ ท้ายที่สุด … เขามอบไม้ตายไม้สุดท้ายให้นาง

หลูซานเทียนเลิกคิ้วด้วยท่าทางภาคภูมิใจ ก่อนจะเอ่ยว่า “โดยธรรมชาติแล้วหยานเอ๋อร์ของข้าสามารถชิงที่นั่งสุดท้ายได้”

หลานสาวของเขาดีที่สุด จะเอากู่ยันรันมาเทียบกับมู่หยานได้อย่างไร? 

เมื่อได้ยินคำพูดของหลูซานเทียน ท่านเสนาบดีก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปาก ชายชราคนนี้ไม่ได้อ่อนน้อมถ่อมตน หากหลูมู่หยานพ่ายแพ้ให้กับกู่ยันรันเขาเองก็อยากรู้ว่าหลูซานเทียนจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

ความขุ่นเคืองในสายตาของกู่หยานไคถูกกดให้หายไปอย่างรวดเร็ว หากหลูมู่หยานสามารถเอาชนะอี้นู๋ได้ต่อหน้าบุตรสาวของเขา เขาทำได้แค่เป็นศัสตราวุธ เขาจะรอดูหลูซานเทียนที่จะต้องตบตีกับตัวเอง

หลูมู่หยาน และกู่ยันรันยังคงดำเนินการแข่งขันต่อไป และหลังจากสี่เกม ทั้งคู่เอาชนะคู่ต่อสู้และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ

ครั้งนี้ แม้ว่าจะไม่มีการพบกันระหว่างสองคนที่อยู่ในการต่อสู้เดียวกัน แต่พวกนางจะพบกันอย่างแน่นอนเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันรอบสุดท้าย การแข่งขันเพื่อชิงสถานที่ทดลองแห่งเดียวในชั้นพื้นดิน

หลังจากพักไปเกือบครึ่งชั่วโมง การแข่งขันของเทียนบันก็สิ้นสุดลง ฉีอี้ซวนทำได้ตามความคาดหวัง เขาสามารถคว้ารางวัลที่หนึ่งไปครองได้

เนื่องจากมีคนจำนวนมากในระดับจังหวัด เมื่อหลูมู่หยานและกู่ยันรัน กำลังจะเริ่มการแข่งขันรอบสุดท้าย ทำให้การแข่งขันบนเวทีศิลปะการต่อสู้โดยรอบจึงสิ้นสุดลง

ผู้เข้าร่วมทั้งหมดไม่ได้ออกจากสถานที่แข่งขันเสียทีเดียวหลังจากจบเกม พวกเขาทั้งหมดต่างพากันรอรับชมการแสดงดี ๆ ของหญิงสาวสองคนนั้นอย่างใจจดใจจ่อ

พวกเขาต้องการเห็นหลูมู่หยานอดีตขยะไร้ค่าในสถาบัน และกู่ยันรันผู้ซึ่งได้รับการจัดอันดับอย่างลับ ๆ ให้เป็นคนแรกในชั้นเรียนระดับจังหวัดน้องใหม่ และมีอำนาจมากกว่า

… สิทธิพิเศษสำหรับการทดลองขั้นสุดท้ายจะตกเป็นของใครกัน หลูมู่หยาน หรือกู่ยันรัน?