บทที่ 255 ผู้อำนวยการโรงพยาบาล? (แถมฟรี)
บทที่ 255 ผู้อำนวยการโรงพยาบาล? (แถมฟรี)
.
เมื่อมาถึงใกล้บันได เสียงก็ดังชัดเจนมาก ไม่เพียงคนพิเศษไม่กี่คนที่ได้ยิน คนอื่นๆก็ได้ยินเสียงกรีดร้องเช่นกัน
ซูฉางซิงพิจารณาว่าเกิดอะไรขึ้น มันควรจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกนักล่า แต่มันเป็นอะไรล่ะ?
ชายชุดแดงกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ฟื้นคืนชีพตอนนี้อยู่ด้วยกัน
ในเวลานี้กลุ่มของซูฉางซิงอยู่ที่ชั้นหกใต้ดิน หลังจากรออยู่ชั่วครู่ก็มีหลายคนก็วิ่งขึ้นบันไดมาจากด้านล่าง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสุข
โจวอันมองดูโทรศัพท์แล้วพูดว่า “ทุกคนที่อยู่ด้านล่างกำลังขึ้นมา เฉียนหรันเหว่ยกับชายชราอยู่ข้างบน เราขึ้นไปก็จะพบกับพวกเขา”
ซูฉางซิงพยักหน้ารับทราบ แล้วนำกลุ่มคนขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว หลังจากผ่านไปได้สองชั้น บันไดก็พังลง
จูเหวินหวู่มองกำแพงทึบตรงหน้า แล้วอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “มีปัญหาแล้ว เราไม่สามารถขึ้นไปจากตรงนี้ได้ ดูเหมือนเราต้องหาทางอื่นขึ้นไป”
โจวอันตั้งใจฟังเสียงกรีดร้องที่เบาลงเรื่อยๆ และพูดอย่างจริงจังว่า “นักล่าพวกนั้นดูเหมือนจะอยู่ที่ชั้นนี้ เราควรระวังตัวให้ดี”
แม้ว่าความสามารถในการรับรู้ของโจวอันจะไม่ดีเท่าจูเหวินหวู่ แต่ในด้านจุดเด่นของพวกเขานั้นแตกต่างกัน ในด้านประสาทสัมผัสทางกายภาพรอบด้าน ในจุดนี้ความสามารถในการสืบสวนของโจวอันนั้นแข็งแกร่งกว่า
“ทุกคนเตรียมพร้อมต่อสู้”
ซูฉางซิงโบกมือ และยังคงเดินหน้าต่อไป ในขณะที่พูดว่า “นักล่าพวกนั้นยังคงรักษาประสิทธิภาพการต่อสู้ไว้ในระดับหนึ่ง และตอนนี้ก็ใกล้ค่ำมากแล้ว ความแข็งแกร่งของพวกมันน่าจะฟื้นตัวแล้ว”
นี่คือชั้นใต้ดินที่สี่
พวกเขาไม่เคยมาที่นี่มาก่อน
เมื่อเดินลึกเข้าไปตามทางเดิน ก็พบประตูลูกกรงเหล็กที่ปิดอยู่ มันปิดกั้นทางเดินทั้งหมด
“ต้องบอกว่าสถานที่นี้ดูเหมือนคุกจริงๆ”
โจวอันส่ายหน้า แล้วย่นคอเหมือนเต่าเดินมาด้านหลังซูฉางซิง และกระซิบว่า:
“กลิ่นเลือดในอากาศแรงมาก ในช่วงเวลาสั้นๆ น่าจะมีผู้คนมากมายตายอยู่ที่นี่ นักล่าพวกนั้นฆ่ากันเองเหรอ?”
ซูฉางซิงคิดอยู่ชั่วครู่แล้วพูดว่า “ก่อนวันสิ้นโลก เวลานี้ควรเป็นช่วงเวลากิจกรรมของเหล่าผู้ป่วยชุดแดง ประตูนี้น่าจะเป็นด่านกั้นแรก”
เขาสังเกตโครงสร้างของประตูเหล็ก และเห็นว่ามันไม่ได้ล็อค เขาเอื้อมมือไปด้านหลังประตูเหล็กเพื่อดันสลักประตูออก
นักล่าไม่ได้คิดจะใช้สิ่งนี้เพื่อหยุดพวกเขา สาเหตุหลักก็เป็นเพราะมันไม่มีประโยชน์ ต่อให้ประตูถูกล็อค ซูฉางซิงก็อาจใช้วิธีที่รุนแรงกว่านี้เพื่อเปิดประตู
“อ๊าก!!”
ทันทีที่ประตูถูกเปิดก็มีเสียงกรีดร้องน่ากลัวดังมาจากทางเดิน พร้อมกับเสียงฝีเท้าเร่งรีบมาจากหลังมุมกำแพง
“ตึก ตึก ตึก~”
มีคนกำลังวิ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก
“ควับ~”
ทุกคนกระชับอาวุธในมือแน่นเตรียมพร้อมต่อสู้
ทันทีหลังจากนั้น ร่างโชกเลือดของนักล่าแขนขาดข้างหนึ่งก็เดินโซเซออกมา เขามีบาดแผลลึกปานกลางมากกว่าสิบแห่งอยู่บนร่างกาย
แม้จะเห็นซูฉางซิงกับคนอื่นๆ อยู่ตรงหน้า แต่เขาก็ยังไม่หยุด ราวกับมีบางสิ่งที่น่ากลัวติดตามมาด้านหลัง จนยอมเผชิญหน้ากับซูฉางซิงกับคนอื่นๆมากกว่า
ซูฉางซิงมองดูนักล่าที่วิ่งเข้ามาหาอย่างไร้สติ แล้วขมวดคิ้วและเตรียมจะยิง
“ปัง~”
แต่จู่ๆ ก็มีเสียงคมชัดดังขึ้น เท้าของนักล่าระเบิดออกเป็นชิ้นเลือดเนื้อนับไม่ถ้วนกระเซ็นไปติดผนังทางเดิน
นักล่าล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง อย่างไรก็ตามเขายังคงมองดูซูฉางซิงกับคนอื่นๆ ราวกับกำลังร้องขอความช่วยเหลือ
“ถอย!”
ซูฉางซิงตะโกนด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก และถอยหลังไปหนึ่งก้าว ในขณะที่มองดูร่างที่กำลังกรีดร้องดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้น ความเจ็บปวดทำให้สีหน้าของนักล่าบิดเบี้ยว น่าแปลกที่นักล่าไม่ได้หมดสติ
เกิดอะไรขึ้นที่นี่?
เขาไม่เห็นสิ่งใดอยู่ใกล้ๆ ราวกับเท้าของนักล่าคนนี้ถูกระเบิดหายไปในอากาศ
จูเหวินหวู่ที่อยู่ข้างๆ มีสีหน้าประหลาดใจอย่างยิ่ง ราวกับเห็นบางสิ่งที่น่ากลัว
ซูฉางซิงหันไปมองจูเหวินหวู่และถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้ม “คุณพบอะไร?”
เม็ดเหงื่อเย็นปรากฏขึ้นบนหน้าผากของจูเหวินหวู่ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และค่อยๆพูดว่า:
“ผม… เพิ่งเห็นหัวที่สวมชุดคลุมสีดำอยู่ข้างหลังนักล่า จากนั้นเท้าของเขาก็ระเบิด”
เป็นคำอธิบายที่เป็นนามธรรมมาก
ซูฉางซิงหรี่ตาลง แล้วถามว่า “หัวนั้นอ้วนใช่ไหม?”
“หะ? ใช่ คุณเห็นมันด้วยเหรอ?”
จูเหวินหวู่พูดพร้อมกับพยักหน้ายืนยัน “ผมคิดว่ามีผมคนเดียวที่เห็นมันซะอีก”
มันคือสิ่งที่อยู่ในกระจกจริงๆ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เสียชีวิตไปแล้ว?
ถ้ามันคือผู้อำนวยการโรงพยาบาล แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?
ซูฉางซิงสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดูเหมือนว่ามีบางอย่างผิดไปจากตรรกะที่สมเหตุสมผล
หัวนั้นควรเป็นของผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เสียชีวิตไปแล้ว และไม่เคยโจมตีซูฉางซิงมาก่อน ซึ่งควรเป็นเพราะเป้าหมายแรกของหัวนี้คือการแก้แค้น
ถ้าเช่นนั้นผู้หญิงคนนั้นคือใคร?
เถายี่?
ซูฉางซิงส่ายศีรษะแล้วพูดว่า “ไม่ ผมไม่เห็นมัน แค่ลองเดาดู ดูเหมือนมันจะเป็นคนฆ่านักล่าพวกนี้ สมควรบอกว่ามันทรมานนักล่าพวกนี้มากกว่า”
จูเหวินหวู่มองไปยังทางเดินที่เต็มไปด้วยเลือดหลังลูกกรง และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ตอนนี้เราควรทำอย่างไร? นี่ดูเหมือนจะเป็นทางออกเดียว แต่ถ้าเราใช้เส้นทางนี้ เราจะต้องถูกเจ้าสิ่งนั้นโจมตีอย่างแน่นอน”
ซูฉางซิงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่แล้วพูดว่า:
“ไม่มีทางเลือก เราได้แต่ต้องกัดฟันเดินหน้าต่อไปเท่านั้น หลังจากนักล่าเหล่านั้นตายหมดแล้ว ผมเกรงว่านั่นจะเป็นคราวของพวกเรา … ผมจะเป็นคนนำ คุณเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของสิ่งนั้น แล้วคอยบอกตำแหน่งของมันให้ผม”
เขาไม่มีความมั่นใจมากนัก และไม่เข้าใจว่าสิ่งนั้นคืออะไร
เขาดันเปิดประตูลูกกรง
ซูฉางซิงเดินไปหานักล่า และเห็นว่ายังไม่ตาย เขายังคงนอนคร่ำครวญอยู่บนพื้น ถ้าเป็นคนธรรมดาได้รับบาดเจ็บขนาดนี้คงจะตายไปแล้ว
ซูฉางซิงมองดูนักล่าแล้วถามว่า “ช่วยบอกได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”
นักล่ามีจมูกกว้างใบหน้าเหลี่ยม ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความซื่อสัตย์ เขาเงยหน้าขึ้นมองซูฉางซิง แล้วพูดขึ้นอย่างอ่อนแรง “มีผี… ผี… มันมาหาเราเพื่อแก้แค้น”
พูดจบ
ซูฉางซิงก็ใช้มีดเหล็กปาดคอนักล่า จบชีวิตของเขาเพื่อยุติความเจ็บปวดให้
พื้นที่บนชั้นนี้ค่อนข้างใหญ่กว่าชั้นอื่น มีความสูงจากพื้นประมาณสี่เมตร ทางเดินก็มีความกว้างมากกว่าเช่นกัน
เมื่อเลี้ยวหัวมุม
พวกเขาก็เห็นทางเดินที่เต็มไปด้วยเลือด และอวัยวะภายในกระจัดกระจาย กลิ่นเลือดคลุ้งอยู่ในอากาศ นักล่าหลายคนเหลือเพียงท่อนบนของร่างกายนอนทุรนทุรายอยู่กับพื้น
ทุกคนตึงเครียด ในใจคิดว่า ชะตากรรมของนักล่าเหล่านี้อาจจะเป็นชะตากรรมของพวกเขา หลายคนมีสีหน้าหวาดกลัวและสิ้นหวัง
ซูฉางซิงเดินเข้าไปฆ่าพวกเขาทีละคน ฉากที่น่าเศร้าและโหดร้ายเช่นนี้ ทำให้ผู้คนไม่สบายใจจริงๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นศัตรูก็ตาม
ซูฉางซิงพูดเงียบๆในใจ “หัว นายเจอเพื่อนแล้ว มันถือว่าเป็นประเภทเดียวกับนายที่เหลือเพียงหัวอย่างเดียวเท่านั้น”
หัวพูดด้วยความโกรธ “ยังมีหน้ามาล้อเล่นอยู่ได้ ฉันคิดว่าเราถูกลิขิตให้มาตายพร้อมที่นี่วันนี้ สิ่งนี้อย่างน้อยก็มีระดับแปดขึ้นไป ฉันสามารถโจมตีมันได้มากที่สุดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอที่จะฆ่ามันได้”