บทที่ 21 คะแนนที่ได้มาอย่างยากลำบาก
บทที่ 21 คะแนนที่ได้มาอย่างยากลำบาก
โซล ถอยหลังไป 2 ก้าวเพราะความหวาดกลัว เท้าของเขาเหยียบไปบนก้อนอิฐ ส่งเสียงดังกึกกั่ก
ศพที่ถูกผูกเอาไว้บนสายพานลืมตาตื่นขึ้น หัวของเขาไม่ได้ขยับ แต่ดวงตาของเขาเหลือบไปทางซ้ายอย่างสิ้นหวัง
หลังจากที่ได้เห็น โซล และ อาจาร์ยแคซ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น ตัวสั่นสะท้านราวกับเขาได้เห็นบางอย่างที่น่าตื่นเต้น
"เขายังมีชีวิตอยู่งั้นหรือ?" โซล อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
"เป็นไปได้ยังไง?" อาจาร์ยแคซเดินข้างหน้าด้วยสีหน้าที่สงบ เปิดภาพสีดำที่คลุมร่างของศพตรงหน้าโซล
ข้างใต้หน้าอกที่ถูกตัดออก ซี่โครงถูกแหวกออกเหมือนปีก ภายในนั้นว่างเปล่า
ขาที่เหลืออยู่ด้านล่างผสานเป็นเนื้อเดียวกับดิน
ช่างเป็นการตัดที่เรียบเนียนจริงๆ
แต่ดวงตาของศพนั้นยังเคลื่อนไหวอยู่ ดวงตาของเขาขยับขึ้นลง ขณะที่อาจาร์ยแคซเคลื่อนไหว ริมฝีปากของเขาเปิดออกเผยให้เห็นฟันสีขาวด้านใน
โซลรู้สึกมวนท้อง
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้เห็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวมากมายในหอคอยพ่อมด ซึ่งทำให้เขาควบคุมตัวเองจากความรู้สึกอย่างอาเจียนได้
ตอนนี้ การทดสอบของเขาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
เขาบังคับตัวเองไม่ให้มองไปทางอื่น
ความรู้สึกคลื่นไส้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา แต่โซลบอกกับตัวเองว่า นี้เป็นเพียงแต่ศพมันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ มันคงไม่ลุกขึ้นและมากัดเขาหรอก
ความกลัวลดลงเล็กน้อย
"สมองของเขาตายไปนานแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงจิตวิญญาณของเขา เขาจะไม่อาละวาดในสถานการณ์ปกติ" อาจาร์ยแคซคลุมร่างของเขาด้วยผ้าสีดำ และหันกลับมาหาโซล "เจ้ากลัวหรือไม่?"
โซล สูดหายใจเข้าลึกๆ
"ข้ากลัวขอรับ"
"หือ?" อาจาร์ยแคซขมวดคิ้ว
"แต่ข้าสามารถทำมันได้"
"ฮึ่มม!" อาจาร์ยแคซ สถบออกมา "งานนี้ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถทำได้แม้ว่าเจ้าจะต้องการ ศพที่อยู่ตรงหน้าเจ้าได้ผ่านการตรวจสอบมาแล้ว 2 ครั้ง การจัดการกับชิ้นส่วนอันตรายกับ ชิ้นส่วนร่างกาย ต้องถูกแยกและได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ไม่เช่นนั้นพวกมันจะหลบหนีออกไปและเปลี่ยนหอคอยพ่อมดให้กลายเป็นอาณาจักรแห่งความตาย"
"ขอรับ"
"เจ้าต้องใช้ความรู้และจิตสัมผัสของเจ้า เพื่อค้นหาว่า ชิ้นส่วนไหนมีคุณสมบัติพิเศษและแยกมันออกมา ผีไม่มีอยู่จริง เจ้าต้องแบ่งมันใส่ลงไปในกล่องต่างๆ ปิดฝาและนำไปจัดเก็บ ส่วนที่เหลือใส่ลงไปในกล่องใหญ่ด้านล่าง หลังจากที่เจ้าออกไปตอนกลางคืน คนจากภายนอกจากเข้ามานำกล่องเหล่านั้นออกไป แทนที่ด้วยกล่องใหญ่"
"ข้าจะตรวจสอบจากจำนวนผลงานของเจ้า ชิ้นส่วนที่มีคุณสมบัติพิเศษ และให้คะแนน ตราบใดที่เจ้าจัดการได้มากกว่า 5 ศพ เจ้าจึงจะถือว่ามีคุณสมบัติที่เหมาะสม หากมากกว่า 10 ศพ เจ้าจะได้รับคะแนนเพิ่มขึ้น 1 แต้ม"
อาจาร์ยแคซเงยหน้าขึ้นและชี้ไปยังศพ "ทีนี้ บอกข้า เจ้าคิดว่าส่วนไหนเป็นชิ้นส่วนที่มีประโยชน์"
โซลเดินไปยังสายพานลำเลียง ดวงตาที่สั่นเทาของเขาเต็มไปด้วยความกล้าหาญ
"สิ่งนี้มีประโยชน์หรือไม่?"
"มันไร้ค่า" อาจาร์ยแคซพูดอย่างไม่ใส่ใจ
ดูเหมือนว่า ชิ้นส่วนที่ดูเหมือนจะใช้ได้อาจจะไม่มีประโยชน์ก็ได้
อาจเป็นเพราะมันปนเปื้อนไปด้วยพลังที่แปลกประหลาดบางอย่างจึงทำให้ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ดังนั้นมันจึงไร้ค่าสำหรับเหล่าพ่อมด
มันไม่ง่ายเลยที่จะได้รับคะแนน
พ่อมดธาตุมืดต้องจัดการกับศพและวิญญาณตลอดเลยงั้นหรือ?
โซลสูดหายใจเข้าลึกๆ
ตอนนี้เขาปรับตัวเข้ากับกลิ่นของที่นี่ได้แล้ว แม้จะยังรู้สึกคาวแต่มันก็ไม่ถึงกับทำให้เขาอยากอ้วก
เขาเปิดผ้าสีดำขึ้น
ด้วยพลังจิตที่พัฒนาขึ้นหลังจากที่เขากลายมาเป็นพ่อมดฝึกหัดแล้ว โซลยังก็รู้สึกไม่สบาย ตอนนี้เขาสามารถมองไปยังกองเลือดที่อยู่สายพานลำเลียงโดยไม่รู้สึกหวาดกลัวหรือคลื่นไส้
ซากศพนี้ไม่ว่าส่วนไหนก็แทบจะไม่ต่างกัน โซล ไม่แน่ใจว่าจะมีชิ้นส่วนใดที่พ่อมดสามารถใช้ได้
จากหางตาของ โซล เขาสังเกตเห็นว่ามือซ้ายของ อาจาร์ยแคซกำลังแตะไปที่แขนขวาของเขา นั้นหมายความว่าความอดทนของเขากำลังจะหมดลง
"ด้วยความรู้และจิตสัมผัสของข้าในตอนนี้ ความรู้ของข้ายังไม่เพียงพอที่จะสามารถช่วยให้แยกแยะได้ ถ้าอย่างนั้นคงต้องพึ่งจิตสัมผัส แล้วจิตสัมผัสคืออะไร มันก็คือพลังจิตนั้นเอง!"
โซลมองอย่างระมัดระวัง ไปที่ไหล่ซ้ายของเขา น่าเสียดายที่สมุดปกแข็งมีหน้าที่เพียงแค่ช่วยชีวิตเขาเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อหาเงิน ขณะนี้มันจึงนิ่งเงียบ
มีเพียงวิธีเดียวในตอนนี้ที่โซล จะสามารถลองได้
เขายืนตรงหน้าศพ และเริ่มทำสมาธิ นึกถึงภาพ การเดินของมนุษย์และสัตว์ประหลาด
มันเป็นเรื่องยากที่จะทำสมาธิโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากลูกแก้วคริสตัล แต่จากประสบการณ์ที่เขาได้เผชิญในห้องทดลองเมื่อคืนนี้ ทำให้โซลสามารถ สามารถทำสมาธิที่ไม่สมบูรณ์ได้โดยไม่ต้องพึ่งลูกแก้วคริสตัล
ในสถานะนี้ เขาสามารถมองเห็นพลังธาตุ และบางสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า
ในตอนนั้นเอง ภายในดวงตาของโซล ลูกตาที่ขยับได้ของศพเลื่อยออกมาจากในหน้าของมันราวกับหอยทาก มองไปรอบๆ ด้วยความสงสัย
ริมผีปากของศพ ถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งสีดำ
ฟันภายในปากเปล่งประกายออกมาเล็กน้อย
โซล จากมองไปยังแสงที่เปล่งประกาย เขารู้สึกว่าแสงนั้นค่อนข้างคุ้นเคย
มันเหมือนกับตอนที่เขาเล่นเกมและมีข้อความไอเทมดรอป
"ดูแล้วข้าคงจะเสียเวลาเปล่า"
"เจ้ายังหามันไม่เจองั้นเหรอ ข้าขอเตือนเจ้าว่ามันมีชิ้นส่วนร่างกายอย่างน้อย 2 แห่งที่ยังมีประโยชน์ ตราบใดที่เจ้าหาได้ 1 แห่ง เจ้าก็จะผ่าน"
อาจาร์ยแคซพูดอย่างหมดความอดทน ขัดจังหวะการทำสมาธิของโซล
โซล ไม่มีเวลาตัดสินใจว่าสิ่งที่เขาสัมผัสได้นั้นเชื่อถือได้หรือไม่ เขายกนิ้วและชี้ไปที่ปากของศพ
อาจาร์ยแคซขมวดคิ้ว "เจ้าหมายถึงปากของศพงั้นหรือ?"
"ไม่ขอรับ มันเป็นฟันของศพ"
ความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอาจาร์ยแคซ
เขาก้าวออกไปหยิบไม้สีดำ ขึ้นมาจากโต๊ะยาวด้านหลังเพื่อเปิดปากของศพออก
"อะแฮ่ม.." เขาหันกลับไปมองที่โซลสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย "ใช่ ตรงนี้แหละ"
สำเร็จ!
โซล ระงับความตื่นเต้นในใจ ส่งจิตสัมผัสไปยังส่วนอื่นๆ ของศพ ด้วยการทำสมาธิที่ไม่สมบูรณ์
จากนั้นเขาก็แสงเปล่งประกายออกมา 2 ดวง
โซลไปยัง 1 ในนั้นด้วยท่าทางที่ไม่มั่นใจ
อาจาร์ยแคซพยักหน้าและถามว่าเขา พบชิ้นส่วนใดอีกหรือไม่?
โซล ส่งจิตสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง ตั้งแต่บนลงล่าง โดยไม่สนใจแสงที่เปล่งประกายแห่งสุดท้าย และพูดกับอาจาร์ยแคซ "ข้าไม่พอชิ้นส่วนอื่นแล้วขอรับ"
"ไม่เลว" อาจาร์ยแคซ เห็นได้ชัดว่าโซลสังเกตเห็นมันแต่ไม่ได้พูดออกมา อาจาร์ยแคซจึงพูดอย่างใจเย็น "มีอีกชิ้นอยู่ตรงนี้"
ต่อมา อาจาร์ยแคซสั่งให้เขาใช้อุปกรณ์บนโต๊ะทดลองด้านหลังแยกชิ้นส่วนศพ จากนั้นนำมันไปใส่ในกล่องเล็กๆ 3 กล่อง บนโต๊ะปิดฝา และลงสลักเอาไว้
ส่วนที่เหลือของศพจะถูกพันด้วยผ้าสีดำ และนำมาไว้ในกล่องใบใหญ่
มีวงแหวนคาถา สลักอยู่ในกล่องใบใหญ่ ซึ่งสามารถผนึกภูติผีปิศาจเอาไว้ได้
หลงเหลือเพียงรอยเลือดขนาดใหญ่บนสายพานลำเลียง
อาจาร์ยแคซเงยหน้าขึ้น ส่งสัญญาณให้โซล ดึงคันโยกอีกครั้ง
ด้วยเสียงของเครื่องที่หมุน สายพานค่อยๆ หมุนไปยังด้านล่างของเครื่อง มีศพอีกศพหนึ่งโผล่ออกมาจากด้านหลังพู่สีดำ
โซล หรี่ตาลงทันที เมื่อเขาเห็นหัวของศพที่โผล่ออกมา
ศพนี้ เขาก็รู้จักเช่นกัน
นางคือคนที่พยายามอ่อยโซลเมื่อตอนมาส่งหนังสือในวันแรก และปรากฏตัวขึ้นในฝันร้ายของโซล
สาวใช้คนนั้น
เหตุใดนางถึงได้ตายกัน?
มันเป็นอุบัติเหตุหรือว่าฝีมือมนุษย์
"เจ้ารู้จักนางงั้นหรือ?" เมื่อเห็นสีหน้าของโซล อาจาร์ยแคซก็ถามด้วยเสียงที่เงียบสงบ
"ครั้งหนึ่งนางเคยมาส่งหนังสือเรียนให้ข้าขอรับ"
"ภายในหอคอยพ่อมดแห่ง ความตายถือเป็นเรื่องปกติ"
"หากพวกเขายังตายอยู่แบบนี้ ท่านจะทำอย่างไรหากทุกคนตายกันหมด"
"พวกเราก็จะไปที่เมืองใกล้ๆเพื่อรับสมัคร พวกเขาล้วนยินดีที่จะเข้ามา"
หลังจากการสนทนา อาจาร์ยแคซ ชี้ไปที่สาวใช้ "นางมี ชิ้นส่วนที่มีประโยชน์ 1 แห่ง ถ้าเจ้าสามารถหาได้ ข้าจะมอบงานนี้ให้กับเจ้า"
โซล ที่จิตใจฮึกเหิม ไม่ได้รู้สึกผิดต่อสาวใช้แม้แต่น้อย เขาเปิดหน้าคลุมสีดำขึ้นมา
ร่างของสาวใช้ที่เปลือยเปล่า และบาดแผลยาวบนหน้าอกพิสูจน์ได้ว่านางถูกผ่ามาแล้ว ด้วยการที่นางเป็นคนธรรมดา แม้ว่าจะตายด้วยวิธีที่แปลกประหลาด แต่มันก็จุดสังเกตไม่มากนักบนร่างกาย
ต่างจากพ่อมดฝึกหัดหน้าใหม่ก่อนหน้านี้ เมื่อเขานำศพที่เหลือใส่ไว้กล่องใหญ่มันก็กลายเป็นเพียงงานๆ หนึ่ง