ตอนที่ 17 วันด้าอิจฉา
"อะไรกัน!"
ภายในปราสาทที่เป็นฐานทัพของไฮดร้าในประเทศโซโคเวีย
วันด้าอ่านเนื้อหาในไดอารี่แล้วบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ "ถ้าเจ้าโทนี่ สตาร์ค นั่นตายในทะเลทรายไปได้ก็ดีสิ"
"อย่างนี้ฉันก็จะได้ล้างแค้นให้พ่อแม่แล้ว"
"ทำไมไม่จัดการเจ้าโทนี่ไปซะเลยล่ะ นายเป็นสามีฉันในอนาคตแน่รึเปล่า..."
แค่คิดถึงเรื่องราวหวานแหววระหว่างเธอกับเขาในอนาคต อย่างที่เขียนไว้ในไดอารี่เล่มที่สอง
แม้แต่ตอนหลับก็ยังฝันเห็นเรื่องราวความรักอันแสนหวาน
แต่พอมาถึงไดอารี่เล่มที่สาม เขากลับเรียกศัตรูด้วยสรรพนามที่สนิทสนมซะอย่างนั้น
พอเห็นแบบนี้ วันด้าก็เริ่มโมโหแล้ว
ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้!
"สามีอะไร?"
พอดีกับที่ปีเอโตรเดินเข้ามาพร้อมอาหารเย็น ดูเหมือนว่าเขาจะได้ยินวันด้าพูดอะไรเกี่ยวกับสามีออกมาเบาๆ
ขณะที่เขายื่นอาหารให้ เขาก็ถามด้วยความสงสัยว่า: "เธอกำลังคบกับใครอยู่หรือเปล่า? เป็นคนในแคมป์ฝึกหรือทีมสำรองกันนะ? หรือว่าเป็นพวกที่ถูกขังไว้เพื่อเป็นหนูทดลอง?"
"ว่าไงนะ ใครจะไปชอบพวกนั้นล่ะ!"
วันด้าเงยหน้าขึ้นแล้วมองปีเอโตรอย่างเย็นชาเมื่อได้ยินคำพูดของเขา: "แค่พวกเด็กไม่รู้จักโตเท่านั้นแหละ"
"อย่าลืมสิว่าเราเพิ่งอายุสิบสี่เองนะ!"
ปีเอโตรยื่นอาหารตรงหน้าวันด้าพร้อมรอยยิ้ม "ถ้าเทียบกับคนอื่นๆ ใจของเราโตกว่าก็จริง แต่ร่างกายเรายังโตไม่เต็มที่เลย"
"อย่ามายุ่งน่า!"
วันด้ากำไดอารี่ไว้แน่นแล้วหันหลัง ไม่สนใจปีเอโตรอีกต่อไป
ถึงเธอจะอายุแค่สิบสี่ แต่สาวๆ มักจะโตกว่าหนุ่มๆ ในวัยเดียวกันเสมอ
ยิ่งเป็นวันด้าที่ผ่านเรื่องราวมาเยอะแล้วยิ่งโตเกินวัยไปมาก
"งั้นก็ห้ามงดอาหารเย็นล่ะ ร่างกายของเธอยังต้องเจริญเติบโตนะ แม้แต่การควบคุมน้ำหนักก็ต้องใส่ใจสุขภาพเป็นอันดับแรก"
ปีเอโตรมองวันด้าที่เริ่มทำท่าเพ่งมองอากาศเหมือนกำลังอ่านอะไรบางอย่างจริงจัง แล้วถอนหายใจเบาๆ
เขาเป็นพี่ชายแท้ๆ แต่ต้องคอยมาเอาใจเหมือนเป็นน้อง
ขณะเดียวกัน ในฐานะพี่ชาย เขาก็สามารถใช้สิทธิ์พี่ชายเพื่อดูแลเธอได้
แต่ช่างมันเถอะ
แค่เธอมีความสุข เขาก็ยอมแกล้งเป็นเด็กไร้เดียงสาให้เธอคอยโอ๋ก็ได้
ตราบใดที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเป็นพี่สาวที่ดีที่คอยดูแลน้องชาย
จะเรียกเขาว่าพี่ชาย หรือแกล้งทำเป็นน่าสงสารก็ได้ทั้งนั้น
เขาไม่แคร์หรอก
ท้ายที่สุดแล้ว เธอเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของเขาบนโลกใบนี้
"โอเค ฉันรู้แล้ว นายกินไปก่อนเถอะปีเอโตร ฉันจะกินทีหลัง"
วันด้าหมุนตัวหันมาส่งยิ้มหวานให้ปีเอโตรหลังจากได้ยินเขาพูดแบบนั้น
เรื่องรูปร่างช่างมันเถอะ
ตอนนี้ต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีก่อน แล้วค่อยปกป้องน้องชาย!
หลังจากส่งยิ้มหวานให้ปีเอโตร วันด้าก็หันมาอ่านต่อในสิ่งที่สามีเธอเขียน...เอ้ย มันอาจจะกลายเป็นไดอารี่ที่สามีของเธอเขียนในอนาคตก็ได้!
ในไดอารี่ ไดอารี่เล่มที่สามยังดำเนินต่อไป
[ฉันเห็นเธอ นาตาชา โรมานอฟฟ์ เข้าโดยบังเอิญ]
[ตอนที่ฉันเห็นเธอ ตัวฉันก็สั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ ถ้าไม่พยายามอย่างมากเพื่อกดข่มอารมณ์ไว้ในใจ เกรงว่าฉันคงจะร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นจริงๆ]
[ไม่รู้ว่าเธอมายังที่นี่เพื่อเปลี่ยนตัวตนและซ่อนตัวหรือเปล่า เพื่อที่จะทำภารกิจลับต่อไป หรือว่าภารกิจของชีลด์เสร็จสิ้นแล้ว เธอเลยอยากจะเปลี่ยนตัวตนเพื่อล้างใจและสัมผัสชีวิตอีกแบบหนึ่ง]
[ไม่ว่าจะเป็นกรณีไหน ฉันก็ไม่ควรจะเรียกชื่อเธอ หรือรบกวนเธอ]
[เมื่อเปรียบเทียบกับสมาชิกอเวนเจอร์สคนอื่น เธอช่างโดดเด่นและแตกต่างเสมอ]
[อย่างน้อย...ความรู้สึกที่ฉันมีต่อเธอมันก็ไม่เหมือนกับคนอื่น]
พอวันด้าอ่านมาถึงตรงนี้ เธอก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ทำไมมีผู้หญิงคนอื่นด้วยล่ะ!
เขาหมายความว่ายังไงที่บอกว่าความรู้สึกที่มีต่อเธอมันแตกต่าง?
แล้วฉันล่ะ?
ในไดอารี่เล่มแรกกับเล่มที่สองไม่ใช่ว่าเขาเขียนไว้เหรอ ว่าเธอคือภรรยาในอนาคตของเขา?
แล้วทำไมตอนนี้ถึงบอกว่าความรู้สึกที่มีต่อผู้หญิงที่ชื่อนาตาชา โรมานอฟฟ์ นี่มันแตกต่างล่ะ?
วันด้ารู้สึกหงุดหงิดในใจโดยไม่รู้ตัว แต่เธอไม่ได้แสดงสีหน้าออกมากลับเลือกที่จะอ่านต่อ
เธออยากรู้เหลือเกินว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน ถึงขั้นทำให้ว่าที่แฟนหนุ่มและสามีในอนาคตมีใจให้เป็นพิเศษแบบนี้
[จริงๆ แล้ว ในบรรดาสมาชิกอเวนเจอร์สยุคก่อตั้ง คนแรกที่ฉันเจอคือ นาตาชา โรมานอฟฟ์]
[ครั้งแรกที่พบกัน เธอเป็นบาร์เทนเดอร์ ครั้งที่สองที่ได้เจอ เธอกลายเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร]
[ฉันเคยเห็นเธอในบริษัทที่เคยทำงานด้วย และยังเคยเห็นเธอในอุทยานเยลโลว์สโตนอีก]
[เธอมีตัวตนมากมาย ทั้งบาร์เทนเดอร์ ดีเจสาว พนักงานเสิร์ฟ ไกด์นำเที่ยว...]
[ต่อมา หลังจากเข้าร่วมเป็นสมาชิกอเวนเจอร์สรุ่นแรก ฉันเคยถามเธอว่าทำไมชอบเปลี่ยนตัวตนเยอะจัง]
[เธอตอบฉันพร้อมรอยยิ้มว่า มันเป็นวิธีที่เธอใช้ระบายความเครียดและสัมผัสชีวิตที่แตกต่างกับตัวตนที่หลากหลาย มันช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดในตัวเธอ]
[บอกตามตรง ฉันเข้าใจสิ่งที่เธอชอบนะ เพราะเมื่อก่อนฉันไม่มีทางเลือก ชีวิตช่วงแรกน่ะมันโหดร้ายเกินไป
[บางครั้งมันคงจะดีนะถ้าได้ลองใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดาบ้าง
[อาจเป็นเพราะฉันเองนั่นแหละที่ไม่มีโอกาสใช้ชีวิตแบบนั้น ก็เลยยิ่งโหยหาและใฝ่ฝันถึงมันมาก
[คนเรามักจะโหยหาในสิ่งที่ไม่เคยมีอยู่เสมอ!]
[บอกตามตรง ตอนนี้ฉันยังรู้สึกสะเทือนใจนิดๆ เพราะเธอคือเหตุผลสำคัญที่สุดที่ฉันตัดสินใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกอเวนเจอร์สรุ่นแรก]
----
ที่กลุ่มจบแล้วนะครับ เข้าเหมารวดเดียวมีโปรให้ด้วย