270 (ฟรี)
270 (ฟรี)
เช้าวันรุ่งขึ้น หลินเป่ยฝานมาทำงาน ก็พบว่าโทรศัพท์มือถือของเขายังคงดังไม่หยุด
มีสายสำคัญหลายสายที่เขาต้องรับ
เพราะเป็นคู่ค้าทางธุรกิจยังไงก็ต้องเจอหน้ากัน
สายแรกคือโพนี่ หม่า ประธานบริษัทเทนเซ็นต์
*ประธานเทนเซ็นต์คือโพนี่หม่านะครับ ไม่ใช่แจ็คหม่า ก่อนหน้านี้ผมเข้าใจผิดไป
หลินเป่ยฝานรับสาย “ฮัลโหลคุณหม่า มีธุระอะไรครับถึงโทรมาแต่เช้าเลย?”
โพนี่ หม่าทำเสียงดุ “เรียกคุณหม่าได้ยังไงเรียกอาสิ!”
หลินเป่ยฝานหัวเราะ “ไม่ใช่คุณบอกว่าผมไม่ใช่หลานคุณหรอกเหรอ? ตอนนั้นยังยืนยันเสียงแข็งเลยว่าไม่มีหลานแบบผม!”
โพนี่ หม่าพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “นั่น ...ก็แค่ล้อเล่นน่ะ! อากับหลานล้อเล่นกันมันผิดตรงไหน? อย่าโกรธเลยตอนนายยังเด็ก อาเคยอุ้มนายด้วยซ้ำ!”
หลินเป่ยฝานนอนเอนหลังอย่างสบายใจ “ก็ได้ครับอา มีธุระอะไรครับถึงโทรมา?”
โพนี่ หม่า “เมื่อคืนนายเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่ใช่ไหม? อาว่ามันน่าสนใจมากเลย อาอยากจะลงทุนด้วย! เอ่อ ...หลินน้อยให้โอกาสอาหน่อยสิ?”
หลินเป่ยฝานเบ้ปาก “ไม่ต้องให้อาบอกผมก็รู้ว่ารถยนต์ของผมมันน่าสนใจ!”
โพนี่ หม่า: ......
“ไม่งั้นอาคงไม่โทรมาหาผมหลายรอบแบบนี้หรอก! โหตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้โทรมา 8 สายแล้ว! อานี่ชอบของดีจริงๆเลยนะ บอกเลยว่าหุ้นของบริษัทผมมันมีค่ามาก ใครๆก็อยากได้ คิดว่าผมจะขายให้อาเหรอ?” หลินเป่ยฝานพูดอย่างไม่พอใจ
โพนี่ หม่า “หลินน้อยอย่าใจร้ายกับอาแบบนี้สิ อาเคยโดนนายหลอกมาแล้วรอบนึง! พออาซื้อหุ้นบริษัทเกมของนายไม่นานรัฐบาลก็ออกนโยบายควบคุมวงการเกม ราคาหุ้นร่วงไม่เป็นท่า บริษัทเกมที่อาซื้อจากนายก็ขาดทุนย่อยยับ! อายังไม่เคยโกรธนายเลย นายต้องให้โอกาสอาบ้างสิ”
หลินเป่ยฝานเบ้ปาก “จะโทษผมได้ยังไง?ใครจะไปรู้ล่ะว่านโยบายมันจะเปลี่ยนเร็วขนาดนั้น นั่นเรียกว่าอาดวงไม่ดีเอง! อาจจะเป็นเพราะอาไปหลอกเอาเงินเด็กมาเยอะเลยโดนกรรมตามสนองไง!”
โพนี่ หม่า: ......
“เอาเป็นว่าผมบอกแบบนี้แล้วกัน อยากได้หุ้นบริษัทผมเหรอ? ไม่มีทาง! แต่หุ้นบริษัทอื่น อาจะเอาไปเท่าไหร่ก็ได้ผมไม่ว่าหรอก! จริงๆแล้วผมก็อยากจะเป็นญาติกับอานะ” หลินเป่ยฝานพูดด้วยรอยยิ้ม
โพนี่ หม่า “ก็ได้ กำลังรอคำนี้ของนายอยู่พอดี!”
โพนี่ หม่าวางสายไปแจ็คหม่าก็โทรเข้ามา
แจ็คหม่า “โห! โทรศัพท์นายนี่ฮอตจริงๆ ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ฉันโทรไป 5 สายแล้วเพิ่งจะติด”
หลินเป่ยฝานพูดอย่างเหนื่อยใจ “ก็ผมมันคนดังนี่ครับ”
แจ็คหม่าทำท่าครุ่นคิด “เข้าใจเลย! ตอนที่อาลีบาบาของฉันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฉันก็ยุ่งแบบนี้แหละ ยุ่งยิ่งกว่าประธานาธิบดีอีก! แต่ช่วงเวลาที่ฉันคิดถึงที่สุดก็คือตอนที่ฉันเป็นครูเงินเดือนแค่ 91 หยวน! ตอนนั้นฉันไม่มีอะไรเลยแต่กลับมีความสุขมาก! สิ่งที่ฉันเสียใจที่สุดก็คือ......”
“พอแล้ว พอแล้ว เลิกเล่นละครได้แล้ว!” หลินเป่ยฝานพูดอย่างรำคาญ “มีธุระอะไรก็รีบพูดมาเถอะ”
แจ็คหม่า “......”
แจ็คหม่า “คือแบบนี้! ท่านประธานหลิน นายเพิ่งจะเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่ใช่ไหม? ฉันว่ามันน่าสนใจมากเลย มีอนาคตไกลแน่ๆ! นายให้โอกาสฉันหน่อยสิ......วางใจได้เลยผลประโยชน์มากมายมหาศาล!”
หลินเป่ยฝานเบ้ปาก “เข้าเรื่องเลยเถอะ ก็แค่อยากได้หุ้นบริษัทต้าเฟิงไม่ใช่เหรอ?เมื่อกี้โพนี่ หม่าก็โทรมาแบบนี้แหละ!”
แจ็คหม่าตกใจ “อะไรนะ? ไอ้หมอนั่นโทรมาแล้วเหรอ? นายตกลงหรือเปล่า?”
หลินเป่ยฝานทำหน้าบึ้ง “ไอ้หมอนั่นได้ยังไงเขาเป็นอาผมนะ!”
แจ็คหม่ารีบขอโทษ “ขอโทษทีๆ เมื่อกี้ฉันปากพล่อยไปหน่อย! ฉันตื่นเต้นไปหน่อยเลยพูดไม่คิด”
หลินเป่ยฝานยิ้ม “ไม่เป็นไร ผมเข้าใจว่าพวกคุณรักกันดี”
แจ็คหม่า “เอาล่ะ ท่านประธานหลิน ฉันมีเรื่องอยากจะบอกนายอย่างหนึ่ง”
หลินเป่ยฝาน “เรื่องอะไรเหรอครับ?”
แจ็คหม่าพูดด้วยแววตาจริงใจ “หลินน้อยจริงๆแล้วฉันก็เป็นอานายนะ ตอนนายยังเด็ก ฉันเคยอุ้มนายด้วยซ้ำ”
หลินเป่ยฝาน “......”
โอ้โห มีอาเพิ่มมาอีกคนแล้ว!
หลินเป่ยฝานทำหน้าบึ้ง “คุณหม่าเลิกอ้างเป็นญาติกับผมได้แล้ว! หน้าตาคุณแบบนี้มันดูถูกบรรพบุรุษของผมชัดๆ”
แจ็คหม่า “......”
หลินเป่ยฝานพูดอย่างไม่พอใจ “ยังจะบอกอีกว่าเคยอุ้มผม? เลิกพูดเลยถ้าคุณเคยอุ้มผม ผมคงช็อคตายไปนานแล้ว จะมีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้เหรอ?”
แจ็คหม่า:......
แจ็คหม่าพูดอย่างหมดหวัง “แบบนี้แสดงว่าฉันไม่มีโอกาสแล้วสินะ?”
“ก็ไม่เชิง!” หลินเป่ยฝานยิ้มเจ้าเล่ห์ “หุ้นบริษัทผมไม่มีทางขายให้คุณหรอก! แต่หุ้นบริษัทอื่นคุณจะเอาไปเท่าไหร่ก็ได้! จะเอาได้มากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณแล้วล่ะ! ผมอยากจะร่วมงานกับคุณหม่านะ”
แจ็คหม่า “โอเค ฉันรู้แล้วว่าต้องทำยังไง”
แจ็คหม่าวางสายไปก็มีสายอื่นโทรเข้ามาอีก
ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นมหาเศรษฐี เจ้าเล่ห์แสนกล ทุกคนต่างก็อยากได้หุ้นบริษัทของเขา ทุกคนต่างก็อยากจะได้ผลประโยชน์จากเขา แต่ละคนรับมือไม่ง่ายเลย
หลินเป่ยฝานคุยโทรศัพท์มานานกว่าชั่วโมงจนคอแห้ง
ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออกอย่างแรง
หลี่รั่วเฟิงเดินเข้ามา
“ฉันรู้ว่านายยุ่งเลยไม่โทรหา มาหาเลยดีกว่า!” เขาเห็นหลินเป่ยฝานกำลังคุยโทรศัพท์อยู่จึงไม่รบกวน เขาหันไปตบมือเรียกลูกน้อง “เอาเข้ามา!”
บอดี้การ์ดทั้ง 4 คนหามลังไวน์เข้ามาเต็มไปหมด
หลินเป่ยฝานคุยโทรศัพท์เสร็จพอดี
หลี่รั่วเฟิงพูดอย่างภาคภูมิใจ “นี่คือไวน์ชั้นดีที่ฉันสะสมเอาไว้ ฉันไปหามาจากทั่วโลก ปกติฉันยังไม่ค่อยจะยอมดื่มเลย แต่วันนี้ฉันยกให้นายหมดเลย! เป็นไงใจปล้ำไหมล่ะ?”
“ใจปล้ำมาก! เปิดให้ฉันดื่มสักขวดสิ คอแห้งจะตายแล้ว!” หลินเป่ยฝานพูด
“ได้เลย!” หลี่รั่วเฟิงเปิดไวน์ให้เขา
ทั้งสองชนแก้วและดื่มจนหมด
หลังจากดื่มไวน์เสร็จ หลี่รั่วเฟิงก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี “นายนี่เซอร์ไพรส์ฉันจริงๆ! ฉันเพิ่งจะซื้อหุ้นบริษัทต้าเฟิงไปไม่นาน นายก็เปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่! นี่มันรถยนต์ที่ล้ำสมัยมาก ด้วยรถยนต์รุ่นนี้ บริษัทของนายต้องมีมูลค่าทะลุล้านล้านหยวนแน่ๆ ตอนนั้นฉันซื้อหุ้นไปแค่พันกว่าล้านหยวนเอง ตอนนี้ราคาพุ่งไปเป็นร้อยเท่ากำไรมหาศาล! ฮ่าๆๆ!”